เล็กพริกขี้หนูที่แท้ทรู! “ฝน” ช่างสักตัวเล็กสุดแซ่บที่มาแรงที่สุดในตอนนี้ พร้อมทั้งเปิดใจถึงเส้นทางชีวิตก่อนก้าวเข้าสู่สายน้ำหมึก เธอคือหนึ่งในพริตตี้ตัวท้อปของวงการ แม้ลุคจะดูแรงแต่ก็ขอ “อย่ามองฝนแค่ภายนอก”!
“ฝนมินิ” ฝีเข็มไม่มินิ
ยังไม่ทันจะพ้นหน้าหนาว แต่อุณหภูมิบนโลกโซเชียลฯ ตอนนี้กลับร้อนระอุเสียแล้ว หลังจากที่ชาวเน็ตได้มีการแชร์ภาพจากเฟซบุ๊ก “Naphatsanan Samatha” ที่มีผู้ติดตามกว่า 117,000 คน เผยให้เห็นช่างสักสาวผมสั้นคนหนึ่ง ที่นอกจากฝีไม้ลายมือการสักจะไม่ธรรมดาแล้ว ยังมีหน้าตาน่ารัก ประกอบกับขนาดหน้าอกหน้าใจสุดอลังการ ทำให้ใครต่อใครที่เห็นภาพของเธอ โดยเฉพาะในกลุ่มของผู้หลงใหลในศิลปินบนเรือนร่าง ต่างพากดเลิฟกันแทบไม่ทัน
และสาวสวยสุดแซ่บผู้อยู่ในภาพที่ถูกแชร์ต่อๆ กันไปนั้น คือ “ฝน - นภัสนันท์ สมัตถะ” ช่างสักสาวชาวชัยภูมิ วัย 23 ปี แห่งร้าน 4x4 Tattoo
ภาพที่ทำให้เป็นที่พูดถึง
ไม่รอช้า ทีมข่าวผู้จัดการ Live จึงคว้าตัวช่างฝนมาพูดคุยถึงกระแสความฮอตในขณะนี้ พร้อมกับล้วงลึกเส้นทางชีวิต ก่อนจะมาเลือกเดินในเส้นทางช่างสักอาชีพอย่างที่ทำอยู่ทุกวันนี้อย่างหมดเปลือก
“หลังจากที่รูปถูกแชร์ออกไป ฝนก็ดีใจนะคะที่มีคนสนใจเรา ที่เราเป็นช่างสัก ส่วนมากช่างสักผู้หญิงก็ไม่ค่อยจะมีใช่ไหมคะ เราก็โอเค ดีใจเหมือนกันค่ะ ที่คนก็ให้ความสนใจอยากจะมาสักกับเรา ฟีดแบกก็ไปในทางที่ดีค่ะ (ยิ้ม)”
แต่ความสามารถของเธอไม่ได้มีเพียงแค่การสักเท่านั้น ที่เห็นหน้าตาน่ารัก แถมยังมีทรวดทรงองค์เอวชวนมองขนาดนี้ นั่นก็เพราะสาวฝนมีอีกบทบาทหนึ่ง คือเป็นพริตตี้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นตัวท้อปอีกคนหนึ่ง โดยเธอมีชื่อในวงการพริตตี้ว่า “ฝนมินิ”
“ชื่อ "ฝนมินิ" มาจากที่แต่ก่อนฝนตัวเล็กไง แต่ตอนนี้ไม่เล็กแล้ว(หัวเราะ) ฝนเป็นคนตัวเล็กค่ะ แล้วก็เป็นคนที่ไม่ค่อยสูงมากด้วย ทีนี้พอไปยืนกับเพื่อนๆ พริตตี้ ที่ส่วนมากเขาจะสูง 160 - 170 cm. ขึ้น เราก็จะดูตัวเล็กไปเลย เขาก็จะเรียกเราว่าฝนมินิๆๆ แบบนี้ มันก็เลยติดปากมาเลยค่ะ แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคหรือข้อเปรียบเทียบในการทำงานนะคะ เป็นฉายาของเราไปเลย (หัวเราะ)”
ในตอนนี้ ใครก็ตามที่อยากจะมีลวดลายบนร่างกาย ผ่านฝีมือการสักของช่างฝน คงต้องรีบเช็กคิวกันหน่อย เพราะตอนนี้คิวงานสักและงานพริตตี้ของเธอแน่นมากจริงๆ
“ตอนนี้ฝนทำหลายอย่างเลยค่ะ ทั้งเป็นช่างสัก พริตตี้ ถ่ายงาน ถ่ายแบบฟรีแลนซ์ แล้วก็มีขายเสื้อผ้าในออนไลน์ค่ะ แต่หลักๆ ก็จะมีเป็นพริตตี้กับงานสักนี่แหละค่ะ
คิวงานสักก็เรื่อยๆ ค่ะ แต่ก็ต้องถามคิวก่อน ถ้าจะมาสักก็ติดต่อได้ที่เฟซบุ๊กของฝนได้เลยค่ะ ชื่อ “Naphatsanan Samatha” ฝนรับอยู่ที่ต่างจังหวัดด้วย แล้วก็รับอยู่ที่นี่ด้วยค่ะ ใครที่อยู่กรุงเทพฯ ก็มาสักที่ 4x4 Tattoo ใครที่อยู่ต่างจังหวัด ฝนก็จะสักอยู่ชัยภูมิ ลูกค้าที่นั่นก็จะนัดคิวแล้วก็ไปสักที่บ้านฝนเอง
ในอนาคตก็คิดว่าจะเปิดร้านเป็นของตัวเอง เพราะเดี๋ยวอีกไม่นานก็จะเปิดร้านที่นู่นเหมือนกันค่ะ แล้วก็อยู่ที่ร้านประจำเลย ก็อยากจะเอาเป็นหลักๆ เลยค่ะ ถ้าเปิดร้านแล้วงานพริตตี้ก็รับอยู่เรื่อยๆ นะคะ แต่อาจจะไม่ได้รับเต็มที่เหมือนเมื่อก่อนค่ะ ก็จะพุ่งมาที่งานสักเลยค่ะ”
จุดเริ่มต้น “ห้องสักสีชมพู”
“ฝนเป็นคนชอบที่เกี่ยวกับงานศิลปะแบบนี้ ชอบงานสัก เริ่มต้นก็นี่เลย(ชี้ไปที่แผ่นหลังของตัวเอง) ตัวเองสักก่อนเลย แล้วแต่ก่อนเด็กๆ ก็ชอบวาดรูป ชอบขีดเขียนค่ะ พอมารู้ตัวอีกทีนึงก็ลองดู ถ้าตัวเองชอบก็น่าจะลองลุยดูสักครั้งนึงค่ะ
ส่วนตัวฝนสักตั้งแต่อายุ 18 เลยค่ะ เพราะชอบอะไรแบบนี้ รู้ตัวอีกทีคือหลงรักมันไปแล้ว บนตัวตอนนี้มีลายเป็นสัญลักษณ์ เลข ๙ อยู่ข้างบนค่ะ ลายผู้หญิง 2 คน แล้วก็มีลายเพชรอยู่ข้างหลัง ตอนนี้ก็มีแพลนว่าจะสักเต็มหลังอยู่ แต่ว่าก็ยังทำใจเจ็บไม่ได้ค่ะก็เลยยังไม่ได้ไปสัก(หัวเราะ)”
ห้องสักสีชมพู จุดเริ่มต้นเส้นทางช่างสัก
ช่างสักคนสวย เปิดใจถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอเบนเข็มมาชิมลางในเส้นทางสายน้ำหมึก ว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะตนเองไม่มีความรู้อะไรเลยเกี่ยวกับการสัก ได้แต่อาศัยความรักในศิลปะล้วนๆ จึงนำตรงนี้มาเป็นแรงบันดาลใจในการสานต่อสิ่งที่รักอย่างจริงจัง
“ฝนสักไม่เป็นเลย ไม่รู้เลยว่าอุปกรณ์มันคืออะไร ทำยังไงมั่ง มันประกอบยังไง สีต้องใช้อะไร มันต้องใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง พอมาที่นี่ ที่ 4x4 เห็นผลงานของร้านนี้ในโลกโซเชียลฯ เขาแชร์กันมา สะดุดตา ก็เลยเข้ามา ห้องสักสีชมพู(หัวเราะ) เขาก็สอนตั้งแต่เบื้องต้น สอนพื้นฐานของการวาดรูปเข้าไปในตัว ไปจนถึงลงผิวสักจริงๆ จนถึงสักเป็นเลยค่ะ
ถ้าใครชอบด้านนี้ก็อยากให้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก แล้วมันจะออกมาดี ถึงตอนนี้ฝนสักมาก็น่าจะปีนิดๆ ได้ ยังไม่ได้นานเท่าไหร่ ส่วนฝีมือตอนนี้ก็ได้เรื่อยๆ ค่ะ แต่ว่าก็ต้องอยู่กับครูก่อนถึงผลงานจะออกมาดีค่ะ แต่หลังจากเรียนจบแล้วได้มาสักจริงๆ พอมีข้อสงสัยอะไรฝนก็จะปรึกษาครูตลอด จริงๆ แล้วไปเรียนที่อื่นเขาอาจจะไม่ให้คำปรึกษาหลังการเรียน แต่นี่ปรึกษาตลอด ถามทุกวัน(หัวเราะ)
ตอนนี้ก็ยังไม่รู้นะคะว่าตัวเองถนัดทางไหน แต่ว่าลูกค้าเข้ามา เขาอยากได้แบบนี้ เราก็สักให้ได้ แต่เราก็ไม่รู้ว่าเราถนัดด้านไหนจริงๆ งานส่วนมากก็จะเป็นงานฟรีสไตล์ ตามใจลูกค้าส่วนใหญ่ ส่วนออกแบบลายเองก็มีบ้างค่ะ แต่ยังไม่มีโอกาสได้ลงผิวคนจริงๆ ก็จะมีลายที่ลูกค้าอยากได้มากกว่าค่ะ”
แม้จะเข้าวงการน้ำหมึกมาได้ไม่นาน แต่ต้องบอกเลยว่า ฝีไม้ลายมือของเธอนั้นไม่ธรรมดา เพราะหลังจากที่ผลงานของเธอถูกส่งต่อออกไปบนโลกโซเชียลฯ ก็ทำให้ใครก็ตามที่ได้เห็น ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ฝีมือดีและมีลายเส้นที่สวยคมไม่แพ้ผู้สักเลย
“ตอนนี้ก็สักไปน่าจะเยอะอยู่ค่ะ ฝนไม่ได้นับ งานที่ภูมิใจก็จะมีหลายงานอยู่นะคะ ส่วนมากจะเป็นงานสี งานสีที่เป็นสีสดๆ เลย เพราะว่าเราอยากทำให้มันดี พอเราทำได้เราก็โอเค เราภูมิใจที่เราทำได้ค่ะ
ตัวอย่างผลงานผ่านปลายเข็มสักของ "ช่างฝนมินิ"
จริงๆ แล้วฝนชอบงานสีค่ะ สีสันแบบงานการ์ตูนนิดนึง สีสันแบบประมาณดิสนีย์นิดนึง(หัวเราะ) ลายแบบนี้ผู้หญิงจะชอบค่ะ สีสดๆ แล้วก็ลายแบบน่ารักๆ เพราะว่าปกติลายทั่วไปมันก็โหดๆ นิดนึงเนอะ แล้วก็แบบ...อาจจะไม่ถูกใจผู้หญิง เขาก็จะหาลายที่น่ารักมา แต่ลายโหดๆ มีเยอะเลยค่ะ(หัวเราะ) ส่วนมากจะเป็นผู้ชายมาสักกับฝนนะคะ เพราะทั่วไปผู้หญิงเขาก็จะกล้าๆ กลัวๆ ที่จะมาสัก
สิ่งที่ยากที่สุดในการสักสำหรับฝนเหรอคะ?(คิดสักพัก) สำหรับฝนคิดว่า “เส้น” ค่ะ ฝนว่ามันคอนโทรลยากกับการลงผิวคน มันไม่ได้เขียนกับกระดาษเนอะ เวลาเราลงมันก็ต้องต้องสมาธิในการลงเส้นให้มันตรงค่ะ กับเรื่องสีค่ะ เราก็อยากให้มันแน่นๆ แต่บางทีเราก็ยังไม่ได้จับจุดจริงๆ ว่าเราทำถูกรึเปล่า อะไรแบบนี้ค่ะ”
“สัก”...ให้อะไรมากกว่าที่คิด
ทุกวันนี้จะเห็นได้ว่า ช่างสักมักจะเป็นช่างสักผู้ชายเสียส่วนใหญ่ แต่สำหรับช่างฝนแล้ว การเป็นช่างสักผู้หญิงไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกว่าเสียเปรียบกว่าเลย เพราะมีเงื่อนไขบางอย่างที่ทำให้ “ได้เปรียบ” กว่าผู้ชายด้วยซ้ำ
“ผู้หญิงที่เป็นช่างสักมีเยอะนะคะ แล้วก็หน้าตาดีกันมากเลย เห็นหลายคน ที่นี่ก็มีเยอะเหมือนกัน มีแต่คนน่ารัก(ลากเสียงยาว) แต่ถ้าความรู้สึกฝนนะ ผู้หญิงน่าจะใจเย็น แล้วก็ละเอียดกว่ารึเปล่ามั้ง(หัวเราะ)
จริงๆ แล้วข้อได้เปรียบก็น่าจะเหมือนกันนะคะ ผู้หญิงน่าจะใจเย็น อยู่กับงานได้นาน แล้วลูกค้าที่เป็นผู้หญิงเหมือนกัน บางคนเขาก็อยากสักใต้ร่มผ้าที่มันก็…เขาเขินกับช่างผู้ชายเนอะ เขาก็สนใจสักกับผู้หญิงด้วยกันมากกว่าค่ะ(ยิ้ม)”
สาวๆ มักจะเลือกสักกับช่างสักที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน
สิ่งที่ได้จากงานสัก นอกจากเป็นอาชีพที่รายได้งามแล้ว ยังช่วยในการฝึกสมาธิไปในตัว พร้อมทั้งฝากไปคนที่ยังมีอคติกับผู้มีรอยสัก ว่าอยากให้เปิดใจ ไม่เหมารวมมองคนที่มีลวดลายตามร่างกายเป็นคนไม่ดีไปเสียทั้งหมด
“อาชีพช่างสักรายได้ดีมาก(ลากเสียงยาว) แต่ให้คิดเป็นตัวเงินเลย ฝนก็ไม่เคยนับนะคะ เพราะฝนทำหลายอย่างด้วยไง ก็เลยประมาณไม่ได้
ปกติฝนเป็นคนใจร้อน เป็นคนที่สมาธิสั้น แต่พอมาอยู่กับอะไรพวกนี้ มันทำให้เราอยู่กับงาน แล้วเวลาผ่านไปเร็วมาก มันทำให้เรามีสมาธิมากขึ้น นิ่งขึ้น(ยิ้ม) จริงๆ แล้ว ทำอะไรนิดๆ หน่อยๆ ก็ไม่เอาแล้ว แต่พอมาอยู่กับเรื่องนี้แล้วเราโอเค เราทำแล้วเรามีความสุข
ส่วนคนที่คิดจะสัก ลายสักมันก็ติดตัวเราไปตลอดนะคะ อยากให้ศึกษาดีๆ ว่าลายนี้เราชอบจริงๆ แล้วมันมีความหมายไหม ถ้ามาอยู่บนตัวเรา ให้ศึกษาดีๆ แล้วก็หาช่างที่มีผลงานที่ดี แล้วมันจะได้ติดตัวเราไปตลอดค่ะ
การสักมันอยู่ที่คนมองนะคะ จริงๆ ถ้าเขาเปิดใจกว้างที่จะรับคนอย่างเรา เราชอบศิลปะ มันก็บอกไม่ได้ว่าเราสักแล้วเราต้องเลวนะ อะไรอย่างนี้ คนที่ไม่มีรอยสักบางคนอาจจะเลวกว่าเราก็ได้ ก็อยู่ที่มุมมอง แต่ว่าต้องเปิดใจดูค่ะ”
นอกจากนี้ เธอยังได้ฝากคำแนะนำไปถึงผู้ที่สนใจอยากจะมาเป็นช่างสักเช่นเดียวกัน ว่าไม่จำเป็นต้องวาดรูปเป็นก็ได้ เพียงแค่มีใจรักและพกความตั้งใจมาเรียนรู้ ก็สามารถมีอาชีพสุจริตติดตัวออกไปเลี้ยงตัวเองได้
“วัยรุ่นส่วนมากเขาก็ชอบ ไม่อยากให้เกเร ก็มาเรียนสักก็ได้ เป็นอาชีพติดตัวของตัวเองไป อยากให้ผู้ใหญ่ส่งเสริมด้วย ครูที่สอนฝนก็เล่าให้ฟังว่า มีผู้ใหญ่หลายคนอยากให้ลูกมาเรียน อย่างน้องที่มาพักข้างๆ ร้าน แม่เขาก็พามา บอกว่าอยากให้มา ให้ศึกษาให้มันถูกวิธี
ไม่จำเป็นต้องวาดรูปเป็นมาก่อนก็ได้ค่ะ การสักมันไม่ใช่การวาดโดยตรง มันเป็นแบบว่า ลอกลายค่ะ มันเป็นศิลปะอีกแขนงหนึ่ง ซึ่งเราก็ต้องเรียนรู้ ทุกอย่างเริ่มต้นจากทำอะไรไม่เป็นเลย แต่อยากเป็นช่างสักเพราะชอบ ก็อยากให้ลอง ซึ่งวัยรุ่นหลายคนก็ชอบมากเหมือนกันเรื่องนี้ ถ้าอยากหารายได้ ทำให้ถูกวิธี ทำแล้วมันจะออกมาดี”
ครูการันตีฝีมือ “ช่างกะหล่ำ” ช่างสักมือหนึ่งแห่งร้าน 4x4 Tattoo และครูผู้ถ่ายทอดวิชาการสักให้แก่ฝน ได้เล่าถึงพัฒนาการของลูกศิษย์คนสวยผู้นี้ หลังจากที่ได้ร่ำเรียนวิชาไป ให้กับทีมข่าวฟัง ช่างกะหล่ำเปิดเผยว่า ฝน คือลูกศิษย์ที่น่ารักและเป็นลูกศิษย์อีกคนที่ตนเองภาคภูมิใจที่ได้ถ่ายทอดวิชาให้ “ฝนเรียนรู้เร็วครับ บอกอะไรไปก็สามารถทำได้ตามสเตป ตามที่เราวางแผนไว้ว่าจะทำยังไง เขาก็สามารถทำงานออกมาได้ครับ แล้วก็ทำได้อย่างที่คิด ส่วนที่เหลือ อาชีพนี้มันก็อยู่ที่ประสบการณ์ ถ้าเราได้ทำเยอะๆ ทำบ่อยๆ งานเราก็จะดีขึ้น ดีขึ้นไปเรื่อยๆ ประสบการณ์จะเป็นตัวสอนให้เราเก่งขึ้นเองครับ ส่วนฝีมือก็เป็นเรื่องของการมองงาน อ่านงาน ก็เดี๋ยวได้ทำบ่อยๆ เราก็จะได้คุ้นเคยกับงานมากขึ้น หลักๆ แล้วโอเคทุกอย่าง ฝีมือพัฒนาขึ้นทุกครั้งที่ทำงาน เห็นลุคดูแรงๆ แบบนี้ แต่ถ้าได้รู้จักแล้ว ฝนเป็นคนน่ารัก มุ้งมิ้งมาก ไม่มีฟีลแบบว่า มาวีนมาอะไรเลย ลูกค้าก็บอกว่าช่างฝนมือเบา งานออกมาได้ดั่งใจ แล้วก็ตามที่คิดไว้ครับ ก็โอเค ลูกศิษย์คนนี้ก็ภูมิใจ แล้วก็มีงานเข้ามาเรื่อยๆ ด้วย ก็ดีครับ ดีใจด้วย ลูกศิษย์ทุกคนที่ออกไป เราก็ติดตามตลอด ผลงานออกมาก็ติชมกับตลอดว่าอย่างนี้ๆ ต้องแก้ไขตรงนี้” |
“ฝนมินิ” ตัวจี๊ดวงการพริตตี้
อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้น นอกจากเธอจะยึดงานสักเป็นอาชีพประจำแล้ว ยังมีอีกอาชีพที่คนในวงการผู้ชื่นชอบความเร็วคงจะคุ้นหน้าคุ้นตากับสาวน้อยคนนี้เป็นอย่างดี เพราะเธอถือได้ว่าเป็นพริตตี้คิวทองอีกคนหนึ่ง ที่พกพาสัดส่วน 36 - 24 - 33 และผมสั้นกุดสุดเปรี้ยว ดูแปลกตาในวงการพริตตี้ มาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
“เมื่อก่อนผมสั้นแล้วก็มาผมยาวบ้าง ใส่วิกบ้าง แล้วก็ต่อผมเป็นสีแดง อะไรอย่างนี้ค่ะ ก็เปลี่ยนสไตล์ไปเรื่อยๆ กลัวคนเบื่อ(หัวเราะ) พอมาทำงานอย่างนี้ แล้วลูกค้าเขาก็คงเบื่อที่เราเป็นแบบนี้เหมือนเดิมๆ ถ้าเราเปลี่ยนลุคบ้าง เขาก็อยากที่จะจ้างเราไปทำงานค่ะ
ลุคผมสั้นที่เห็นได้น้อยในวงการพริตตี้
บางครั้งตอนที่ฝนผมสั้นแล้วไปใส่วิก ลูกค้าก็บอกว่า ‘ไม่ต้องใส่ได้ไหม’ กลายเป็นว่าเขาชอบลุคแบบนี้ เพราะว่าคนอื่นเขาไม่ค่อยตัดผมสั้นมากๆ กันไงคะ พวกพริตตี้ ส่วนมากเขาก็ต้องผมยาวสวย อะไรอย่างนี้ เราก็แบบ...แหวกแนวมาตัดผมสั้น”
แต่กว่าที่จะมีชื่อเสียงในวงการพริตตี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เธอเล่าย้อนไปในสมัยที่ยังเป็นเด็กสาวช่างพูดและรักสวยรักงาม จึงอาศัยความชอบตรงนี้ มาต่อยอดจนเป็นงานที่สร้างชื่อเสียง สร้างรายได้ และกลายเป็นที่รู้จักในชื่อ “ฝนมินิ” อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
“ด้วยความที่ฝนเป็นคนชอบพูดชอบคุย ชอบเจอคนเยอะๆ ชอบแต่งตัว เลยได้ทำพริตตี้ตั้งแต่อายุ 17-18 เลยค่ะ นานแล้ว ตั้งแต่อยู่ที่ชัยภูมิเลยค่ะ ก็เริ่มทำตั้งแต่ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม เริ่มต้นเลยฝนเป็นพริตตี้สนามบอลของทีมชัยภูมิเลยค่ะ เขาก็ลองเรียกเราไปดู ลองไปก็ชอบ สนุกกับการได้ทำค่ะ
ผมยาวก็เอาอยู่
ทีนี้ฝนได้รู้จักรุ่นพี่คนใหม่ๆ เพื่อนใหม่ๆ เขาก็ชักชวนเรา ดึงเข้ากรุ๊ปงาน ชวนเราไปทำงาน ก็เลยมีโอกาสได้เข้ามาวงการนี้อย่างเต็มตัว แล้วก็มีโอกาสได้มาอยู่กรุงเทพฯ ค่ะ มาอยู่นี่เฉพาะเลย
แล้วก็ด้วยความทะเยอทะยานของเราด้วยมั้ง ก็แบบ...สู้ของเราเองด้วย ไปแคสท์งานตรงนั้น ไปทำงานตรงนี้ แล้วก็มีลูกค้าติดต่อมาเองค่ะ งานส่วนมากก็เป็นงานรถค่ะ มอเตอร์โชว์ฝนก็ยืนทุกปี มอเตอร์เอ็กซ์โปก็ยืนทุกปี ออโต้ ซาลอนก็ยืนทุกปีค่ะ”
และแน่นอนว่าคนที่ทำอาชีพพริตตี้ ย่อมคู่มากับการศัลยกรรม สำหรับสาวฝน เธอได้เปิดเผยเส้นทางความสวยของเธอให้กับผู้สัมภาษณ์ได้ฟังอยากหมดเปลือก!
“โอ่ย...ทำเยอะเลยค่ะ เยอะเลย...ทั้งหน้าเลยมั้งเนี่ย(หัวเราะ) จมูก ตา คาง แล้วก็หน้าอกค่ะ แต่นอกนั้นก็ไม่ได้ทำ ฝนทำหน้าอกตอนอายุ 19 ค่ะ ตอนทำแม่ยังไปเซ็นให้อยู่เลย อายุยังไม่ถึงเลยค่ะตอนนั้น(หัวเราะ) ต้องอายุ 20 มั้งคะตามที่ฝนจำได้ถึงไม่ต้องให้ผู้ปกครองเซ็นยินยอม
ขนาดหน้าอกของฝนคือ 375 cc เองค่ะ แต่คนอาจจะมองว่าทำไมมันใหญ่จัง เพราะฝนเป็นคนตัวเล็ก ตอนนี้อ้วนขึ้นด้วยแหละ(หัวเราะ) ก็มีคนทักเหมือนกันค่ะว่าใหญ่เกินตัวไปไหม ขนาดแม่ฝนยังทักเลยว่าไปแอบทำมาใหม่รึเปล่าเนี่ย ฝนก็บอกว่าไม่ได้ทำเพิ่ม คนทักเยอะค่ะ แต่เราก็...ทำไงได้ทำมาแล้ว เราตั้งใจที่จะทำออกมาให้คนมอง เราไม่ได้ทำมาเก็บไว้ดูคนเดียว ก็พอใจกับขนาดของตัวเองค่ะ
ฝนว่าขนาดหน้าอกก็มีผลต่องานนะคะ บางทีงานเขาก็แบบ...ต้องการตูมเลย ต้องการไซส์ใหญ่เลย เราก็ตอบโจทย์เขาได้ อะไรอย่างนี้ค่ะ แล้วทุกวันนี้เนอะ วงการพริตตี้มันก็ต้อง เขาเรียกว่าอะไรนะ ต้องดึงดูดใจ แต่ว่ามันก็ บางคนเขาก็ไปทางอนาจารเลยเนอะ แต่คนจะมองยังไงก็อยู่ที่เราด้วยแหละ อยู่ที่คนด้วย”
เคล็ดลับความสวยสไตล์ “ฝนมินิ” “นอกจากงานสักกับพริตตี้แล้ว ฝนก็มีขายของออนไลน์ค่ะ คือไลฟ์สดขายเสื้อผ้า เป็นพวกเสื้อโค้ท เสื้อยืด เสื้อแฟชัน อะไรแบบนี้ค่ะ เวลาเราอยากสนุก อยากขายของ เราก็ขายของดีกว่า วันว่างเอาจริงๆ ฝนไม่ค่อยได้นอน ถ้าว่างก็จะนอนเลยค่ะ เพราะว่าทำงานกลับมาก็ดึก ก็เหนื่อยเหมือนกัน ตื่นเช้า กลับดึก อะไรอย่างนี้ บางทีรับงาน 2-3 งานพร้อมกัน ก็เหนื่อย นอน (หัวเราะ) การดูแลตัวเองเหรอคะ จริงๆ แล้วก็ไม่ค่อยมีเวลา ไม่ค่อยได้ดูแลเลย ฝนว่าการพักผ่อนก็คือการดูแลตัวเองที่ดีที่สุด พอว่างปุ๊บก็เลยนอน(ลากเสียงยาว) เรื่องรูปร่าง ตอนนี้ดูแลไม่ได้แล้วจริงๆ(หัวเราะ) อยากดูแลเหมือนกัน แต่ด้วยการที่เราทำหลายอย่าง ฝนก็คิดอยู่นะว่าเมื่อไหร่จะผอม แต่ก่อนฝนหนักแค่ 40 กิโลเอง ตอนนี้เพิ่มมา 46 แล้ว ลูกค้าถ่ายแบบก็บอกว่า ไปลดให้หน่อยได้ไหม ขี้เกียจโฟโต้ชอป(หัวเราะร่วน) ส่วนเคล็ดลับความสวยของฝน จริงๆ แล้ว การแต่งหน้าคือช่วยได้เยอะเลยค่ะ อย่าคิดว่าตัวเองไม่สวย ลองแต่งหน้าดู มันช่วยได้เยอะ เราไม่ต้องศัลยกรรมเลยก็ได้ แต่ว่าการทำงานของเราก็ต้องพึ่งศัลยกรรมเนอะ ก็เลยต้องศัลย์ฯ(หัวเราะ) แต่กับตัวเองคงต้องพอก่อน เงินหมดแล้วกับเรื่องนี้(หัวเราะ)” |
อย่ามอง “ฝน” แค่ภายนอก
ในสังคมปัจจุบัน แม้จะเปิดกว้างมากขึ้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในสายตาของคนบางคน ยังมองอาชีพพริตตี้ไปในทางลบ ซึ่งตรงนี้พริตตี้คนสวยก็ยอมรับว่าตัวเธอเองก็เคยโดนคำครหาโจมตีเช่นกัน
ด้วยตัวเธอเองมีภาพจำคือความเซกซี่แบบจัดหนักจัดเต็ม แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็มีลิมิตในการรับงาน ซึ่งลักษณะงานที่ “ฝนมินิ” ขอเซย์โนอย่างเด็ดขาด นั้นก็คือการเอนเตอร์เทน หรือเรียกสั้นๆ ว่า “งานทานข้าว”
จัดเต็มความเซกซี
“ฝนเคยถ่ายแบบเต็มที่ก็บิกินี่เลย แต่ว่าเราก็ต้องขออนุญาตผู้ปกครองก่อน(หัวเราะ) งานอื่นๆ ก็มีถ่ายแบบทั่วไปค่ะ ถ่ายลงหนังสือก็หลายเล่มแล้ว แต่ไม่เคยเก็บไว้เลย(หัวเราะ)
ส่วนงานพริตตี้ตอนนี้ก็มีเข้ามาเรื่อยๆ ค่ะ แต่พอเรามารับงานหลายอย่าง เราก็ต้องแคนเซิลตรงนี้ ไปรับตรงนี้ แล้วแต่ความสะดวกของเราว่าเราอยากรับงานไหน ประมาณนี้ค่ะ
แต่งานที่ฝนไม่รับเลยคืองานเอนเตอร์เทนค่ะ เอนเตอร์เทนในที่นี้คืองานที่แบบว่า...เอนเตอร์เทนคนที่เราไม่รู้จัก คือมันจะมีงานประเภทที่...เหมือนจ้างเที่ยว งานเที่ยวกับผู้ชาย จ้างเที่ยวเหมือนเป็นแฟนเขา อะไรแบบนี้ เอนเตอร์เทนผู้ชาย ฝนจะไม่รับ
"แม่ค้าเสื้อผ้าออนไลน์" อีกบทบาทของฝนมินิ
งานพริตตี้มันมีงานแบบนี้เยอะ ทั้งงานกินข้าว โอ่ย...หลายอย่าง จริงๆ แล้ว ฝนก็ไม่อยากพูดถึง เพราะว่าคนที่รับงานแบบนี้ก็เยอะ ฝนเองไม่ได้รับค่ะ เรารับแค่งานที่เป็นงานรถ งานออกบู้ท งานอะไรอย่างนี้ ซึ่งคนมองผิวเผินอาจจะคิดว่าฝนอาจจะเป็นคนที่แบบ...รับงานอย่างนั้นด้วยซ้ำ บางทีมาถามว่าขายตัวก็ยังมีเลย”
สุดท้าย ช่างสักและพริตตี้คนดัง ใช้โอกาสนี้ฝากไปถึงคนที่มีความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับตัวเธอและผู้ทำอาชีพนี้ ที่แม้ภายนอกจะดูแรง แต่ก็ขอให้สังคมอย่าตัดสินเธอเพียงแค่ที่เห็น
“ลุคแรงมันก็แค่เป็นลุคเฉยๆ เพราะเราทำงานด้านนี้ จะให้เรียบร้อยก็ไม่ได้เนอะ เรามาทางเซ็กซี่ เราก็ต้องเซ็กซี่ให้เต็มที่ แต่พื้นฐานฝนไม่ใช่คนที่แบบว่า...แรง ด่าคนนั้น ด่าคนนี้ หรือว่าไม่พอใจใครก็ใส่เลย นิสัยจริงๆ เป็นคนสนุก ตลกๆ อะไรอย่างนี้มากกว่าค่ะ
การที่ฝนมาทำอาชีพพริตตี้ บางทีคนก็แยกแยะไม่ออกนะคะ ว่าพริตตี้กับอีกหลายๆ อาชีพ มันเป็นยังไง จริงๆ แล้ว มันก็ดูถูกกันไม่ได้เนอะ อย่างเราก็คนอาจจะมองว่าชอบโชว์นั่นโชว์นี่อะไรอย่างนี้ มันอาจจะไม่ค่อยดีต่อผู้ใหญ่หน่อย อาจจะมองดูถูกเราบ้าง แต่เรารู้สึกว่า เราไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้ใครค่ะ แล้วก็มีความสุขที่ได้ทำอาชีพนี้
ส่วนผลงานยังไงเดี๋ยวก็จะมีผลงานออกมาเรื่อยๆ ให้มาได้ชมกันนะคะ ทั้งเรื่องถ่ายแบบงานพริตตี้ต่างๆ หรืองานสัก บางทีเขาว่างก็อาจจะไปเจอกันที่นี่ เพราะฝนก็โพสต์ในเฟซบุ๊กตลอด ฝนก็ขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันมานะคะ(ยิ้ม)”
“ครอบครัวสมัตถะ” กำลังใจของฝน “ครอบครัวฝนมีแม่และพี่ชาย 1 คนค่ะ การมาเป็นพริตตี้ที่บ้านส่งเสริมมาก(ลากเสียงยาว) เขาก็ตามใจเรา เขาก็ส่งเสริมเราตลอด เพราะเราไม่ได้ทำอะไรเสียหาย ถือว่าครอบครัวฝนดีมากเลยค่ะ ตั้งแต่เรื่องพริตตี้แล้ว คือใครมองเรายังไง แต่เขาก็ไม่ว่า ไม่สน ลูกเราเป็นอย่างนี้ แล้วพอมาเรียนสัก คนแถวบ้านเขาก็ไม่ได้ยอมรับสักเท่าไหร่เนอะ เรื่องสักเรื่องอะไรแบบนี้ แต่ครอบครัวเขาก็เต็มที่กับเรา ตอนนี้ฝนทำงานก็ส่งเงินให้ที่บ้านด้วย พอต้องมาทำงานอยู่กรุงเทพฯ ที่บ้านก็ห่วงค่ะ แต่เราก็ติดต่อกับเขาตลอด เขาไว้ใจเราให้เรามาใช้ชีวิตเอง จริงๆ แล้วก็เหมือนเขาสอนให้เราสู้ด้วยตัวเองด้วย เหมือนที่บ้านก็สอนเราไปด้วยค่ะ ฝนมีแพลนอยากไปเปิดร้านสักที่บ้านด้วย แต่ตอนนี้เราก็ไปๆ มาๆ ทำงาน 2 ทางค่ะ” |
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ นภัสนันท์ สมัตถะ
ชื่อเล่น ฝน
ชื่อในวงการพริตตี้ ฝนมินิ
น้ำหนัก 46 กิโลกรัม
ส่วนสูง 160 เซนติเมตร
สัดส่วน 36 - 24 - 33
การศึกษา เทคนิคชัยภูมิ
ภูมิลำเนา จ.ชัยภูมิ
อาชีพปัจจุบัน นางแบบ,พริตตี้ และช่างสัก
สัมภาษณ์โดย : ผู้จัดการ Live
ภาพ : วชิร สายจำปา
ขอบคุณภาพ : เฟซบุ๊ก “Naphatsanan Samatha” และ “4x4Tattoo”
ขอบคุณสถานที่ : ร้าน 4x4 Tattoo เจริญกรุง