คนเราเลือกเกิดไม่ได้ บางคนเกิดมาโชคดีบ้านรวย อยู่ดี กินดี ทว่าบางคนเกิดมาไม่ได้อยู่บนกองเงินกองทอง ต้องทำมาหากิน เหนื่อยแค่ไหน แต่ก็ยังต้องกัดฟันสู้ ดังเช่นเรื่องราวของ “น้องมด” วัย 14 ที่ไม่เพียงเป็นเด็กกตัญญูและฐานะยากจน แต่ยังมีพ่อที่ป่วยจนทำงานไม่ได้ ภาระหนักจึงตกอยู่กับแม่ เธอจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อช่วยแม่หารายได้ แม้จะไม่พอจุนเจือครอบครัวก็ตาม
น้องมด หรือ ด.ญ.เบญจวรรณ ราชสุด อายุ 14 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.3 โรงเรียนบ้านใหม่พิทยาคม อาศัยอยู่กับพ่อ-แม่และน้องสาววัย 4 ขวบ ที่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ไม่เพียงครอบครัวน้องมดจะฐานะยากจน แต่พ่อซึ่งเคยมีอาชีพรับจ้าง ยังป่วยจนทำงานไม่ได้มากว่า 1 ปีแล้ว
** เมื่อพ่อป่วยจนทำงานหาเงินไม่ได้
“เคยแบกปูนแบกอะไร รับจ้างทั่วไป ...ล้ม ลุกไม่ขึ้น ล้มจากการยก ...หมอบอกกระดูกไขข้อเสื่อม ข้อเข่า ปวดเข่า ปวดแล้วจะบวม...” อ๊อด ราชสุด พ่อน้องมดเล่าอาการป่วยของตนเอง
เมื่อพ่อซึ่งเป็นเสาหลักของบ้านในการหารายได้มาเลี้ยงครอบครัวล้มป่วย ภาระหนักจึงตกอยู่กับแม่ ที่ต้องทำมาหาเลี้ยงครอบครัว ทั้งเรื่องเรียนของลูกและการรักษาอาการป่วยสามี
ทุกวันนี้แม่ของน้องมดจึงกลายมาเป็นหัวหน้าครอบครัวในการหาเงินมาจุนเจือทุกคนในบ้าน ด้วยการเก็บผักไปขายที่ตลาดประทังชีวิตให้ผ่านพ้นไปแต่ละวัน แม้จะขยันหาเงินขนาดไหนแต่รายได้ก็ยังไม่พอใช้
น้องมด เด็กหัวใจแกร่ง เห็นแม่เหนื่อยยากกับการหาเงิน ดังนั้นทุกครั้งที่เธอกลับจาโรงเรียน เธอเป็นต้องรีบมาดูแลพ่อที่ป่วยและช่วยแม่ขายผัก รวมถึงดูแลน้อง นอกจากนี้ น้องมดยังรับจ้างเลี้ยงเด็ก และรับจ้างทำความสะอาดบ้านด้วย
“หนูอยากช่วยลดภาระแม่ เพื่อนคนอื่นเขาไปเล่นกัน หนูก็ไม่เล่น ...หาเวลาว่างมาทำอย่างอื่นดีกว่า ดีกว่าเล่น มันไม่มีประโยชน์อะไร” น้องมดบอกความในใจ
น้องมด บอกว่าทุกวันตื่นเช้ามาหลังล้างหน้าแปรงฟัน จะไปใส่บาตร จากนั้นก็จะมาช่วยพ่อกับแม่ทำงาน น้องมดยังเล่าอีกว่า ก่อนหน้านี้เคยมีคนจ้างให้ไปทำงานบ้านให้ในช่วงวันเสาร์ อาทิตย์ ทั้งกวาดบ้านถูบ้าน ล้างจาน เขาใช้ทำอะไรก็ทำหมด ได้ค่าจ้างมาวันละ 100 บาท หรือบางทีคนที่จ้างก็ให้เป็นสิ่งของตอบแทนมา น้องมดก็จะนำเงินที่ได้มานี้เป็นค่าขนมไปโรงเรียน
นอกจากรับจ้างทำความสะอาดบ้านแล้ว น้องมดยังทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง คอยดูแลน้องสาววัยซน และรับจ้างเลี้ยงลูกแม่ค้าแถวๆ ตลาดอีกด้วย
“เวลาไปช่วยแม่ขายของที่ตลาด ก็จะรับจ้างเลี้ยงลูกแม่ค้าที่นั่นด้วย ก็ได้วันละ 20 บาท แต่ถ้าไม่ได้รับจ้างเลี้ยงน้อง ก็จะช่วยแม่ขายของ โดยของที่ขายนั้นมีผักกระเฉด ผักบุ้ง ผักขี้เหล็ก เห็ดฟางที่ไปหาเองแถวๆ คลอง หรือถ้าบางครั้งไม่มีก็ใช้วิธีรับมาขาย รายได้จากการขายผักก็พอเป็นค่ากับข้าว ค่าขนมไปโรงเรียน”
** น้องมด…หนูอยากช่วยแม่
“หนูอยากลดภาระแม่ อยากช่วยแม่ทำงาน หาเงิน เวลาที่เห็นเพื่อนไปเล่นกัน หนูไม่อยากไป ทั้งที่บ่อยครั้งเพื่อนๆ มักจะมาชวนหนูไปเล่นด้วยกัน แต่หนูอยากไปช่วยแม่ทำงานมากกว่า อยากหาเวลาว่างไปทำอย่างอื่นดีกว่าไปวิ่งเล่น มันไม่มีประโยชน์ เราทำงานเราก็มีเงินมาใช้ มีเงินไปโรงเรียน”
ลำพังพ่อป่วย ก็ถือเป็นวิกฤตสำหรับครอบครัวแล้ว แต่การที่แม่ไม่มีผักไปขาย ไม่มีงานให้ทำ ก็ทำให้แม่น้องมดเครียดถึงกับอยากฆ่าตัวตาย ขณะที่อนาคตเรื่องการเรียนของน้องมดก็ส่อแววว่าจะไม่ได้ไปต่อ น้องมดไม่รู้จะช่วยครอบครัวและตัวเองอย่างไร จึงตัดสินใจโพสต์เรื่องราวความยากลำบากของครอบครัวลงเฟซบุ๊ก
“หนูไม่มีทางไป คิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรดี ก็ตัดสินใจโพสต์เรื่องราวความลำบากของครอบครัวลงเฟซบุ๊ก เพราะกลัวจะไม่ได้เรียน หนูเลยโพสต์รูปสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัว พร้อมข้อความว่า…บ้านหนูยากจน ...ช่วยให้หนูได้เรียนจบ ม.6 หรือ ม.3 ก็ยังดี ขอแค่นี้ก็พอ”
หลังจากน้องมดโพสต์เรื่องราวความลำบากของครอบครัวลงโลกออนไลน์ ก้ได้รับความช่วยเหลือจากคุณลุงท่านหนึ่งคอยช่วยเหลือตลอด โดยน้องมดเล่าว่าผู้มีพระคุณของเธอคนนี้ทำงานอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ ด้วยการโอนเงินมาให้ใช้จ่ายเดือนละ 1,000 บาท
ความตั้งใจของน้องมดที่อยากเรียนต่อให้จบ เพื่อจะได้มีงานทำมาช่วยจุนเจือครอบครัวนั่นเอง
“น้องมดเป็นคนดี ช่วยแม่ อยากเรียนจบ จะได้ช่วยพ่อแม่ เขาบอกอย่างนี้” เมี้ยน ญาติกระโทก
สมาชิก อบต.บ้านใหม่ การันตีความเป็นคนดีของน้องมด
“น้องมีความรับผิดชอบสูงทั้งต่อตนเองและครอบครัว ดูแลครอบครัว ช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัว เป็นคนที่เป็นแบบอย่างให้เด็กและเยาวชนในสมัยนี้ด้วย” อรินท์มาศ กาแก้ว หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.นครราชสีมา ช่วยการันตีความดีของน้องมดอีกแรง
“ปัญหาเฉพาะหน้าของครอบครัวนี้ คือเรื่องรายได้ เนื่องจากหัวหน้าครอบครัวก็เจ็บป่วย ต้องมีค่าใช้จ่ายเรื่องรักษาพยาบาล มีภาระอย่างหนึ่งคือ ลูกทั้ง 2 คนอยู่ในวัยศึกษา ...มีค่าใช้จ่ายจากแม่อย่างเดียว ...ทำอย่างไรให้ครอบครัวนี้อยู่ได้” บุญสม แช่มสวัสดิ์ หัวหน้ากลุ่มงานพัฒนาสังคมและสวัสดิการ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.นครราชสีมา พูดถึงปัญหาเร่งด่วนของครอบครัวน้องมด
** กำลังใจ...พ่อแม่ลูก
“หนูเป็นห่วงพ่อ เพราะตอนนี้พ่อไม่ค่อยแข็งแรง หนูคอยช่วยเหลือพ่อทุกอย่าง ทั้งซักเสื้อผ้า หาข้าว หาน้ำ หายาให้กิน หนูรู้ว่าพ่อเป็นห่วงเรื่องของรายได้ครอบครัว หนูก็อยากบอกพ่อว่า พ่อไม่ต้องเป็นห่วงหนูกับแม่จะอดทนและหาเงินมาดูแลครอบครัวเราเอง ในส่วนของแม่ หนูรู้ว่าแม่เป็นคนคิดมาก เครียดมากถึงขนาดเคยคิดที่จะฆ่าตัวตาย เพราะแม่ต้องทำทุกอย่างให้มีเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว หนูเลยบอกกับแม่ว่า ถ้าไม่มีแม่ แล้วหนูจะอยู่อย่างไร”
ทุกครั้งที่ได้ยินแม่พูดว่าอยากตาย น้องมดถึงแม้เธอจะยังเด็ก แต่เธอก็เสียใจทุกครั้งที่ได้ยินคำพูดว่าอยากตายนี้ออกมาจากปากของผู้เป็นแม่
ด้านผู้เป็นแม่ เสริมว่า ลูกเห็นประจำ เห็นเป็นกิจวัตรว่าเราท้อ เราเหนื่อย จนคิดจะฆ่าตัวตาย แต่ก็ยังลุกขึ้นสู้ได้ทุกครั้งจากคำพูดของลูกสาว ว่า ทุกครั้งที่แม่ท้อ แม่เหนื่อย มองไม่เห็นทาง อยากให้แม่คิดถึงคนที่เขาไม่มีมือมีเท้าที่จะทำอะไร เขายังสู้ได้ แต่เรามีทั้งแขนทั้งขา เราจะท้อทำไม เราสามารถทำอะไรได้มากมาย ดังนั้น แม่ห้ามท้อ แม่ต้องเข้มแข็ง
คำพูดเพียงไม่กี่คำจากลูกสาววัย 14 ปี กลับช่วยเพิ่มพลังให้ผู้ที่เป็นทั้งแม่ เป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นเสาหลักบ้าน อย่างคุณแม่น้ำค้าง ได้มีแรงในการสู้ชีวิตต่อไป…
ท่านใดต้องการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของน้องมดและครอบครัว สามารถโอนเงินไปได้ที่ ธนาคารกรุงไทย สาขาครบุรี ชื่อบัญชี นายชีวณวรรธน์ กลางสวัสดิ์ และ น.ส.น้ำค้าง บุญนอก เลขที่บัญชี 985-9-939-99-3
ติดตามรับชมรายการ “ฅนจริง ใจไม่ท้อ” ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-10.00 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1
ชมคลิป>> ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน น้องมด...หนูอยากช่วยแม่