“แอปฯBlued” (บลูด์) แอปเกย์มาแรงแซงแอปฯเกย์อื่นๆ มียอดจำนวนผู้ใช้ถึง “27 ล้านคน!’’ สะดวกง่ายต่อการนัดไปฟิชเจอร์ริ่งเกย์คิง - เกย์ควีนต่างกรี๊ดมีฟังก์ชั่นเพิ่มใหม่ ง่ายต่อการสอดส่องอาหารตา “พาน้ำเดิน” ไม่ต้องไปซื้อกินให้เสียเงินเสียเวลาแค่โหลดแอปฯก็แฮปปี้ สังคมไทยเปลี่ยนเทคโนโลยีพัฒนาข้ามขั้นชายรักชายพากันถึงจุดสุดยอด
** รูปไม่ตรงปก ตกใจ! แทบหงายเงิบ
จากที่นอนเหงาเศร้าซึมมานานเกย์ควีนร่างใหญ่คิดหารักแท้ก็ได้ลองโหลดแอปฯ “Blued” มาดูว่าจะได้เจอคู่ขาดีๆ กับเขาบ้างไหม ปรากฏแค่ใส่ชื่อใส่รูปได้ยังไม่ทันไร เสียงเด้งแอปฯก็ดังขึ้นรัวๆ อุ๊ยตายว๊ายกรี้ดดังไปสามบ้านแปดบ้าน “หล่ออะไรเบอร์นี้ หุ่นล่ำ ขาวจัวะ น่าเจี้ยะ” จะรอช้าอยู่ไย กดตอบทันทีไม่ให้เสียเวลา ทำความรู้จักคุยไปพอได้รู้ชื่อเสียงเรียงนาม ดุ้นขาวใหญ่ก็ส่งกลับมาทันที โอ้ยชะนีอกอีแป้นจะแตก “ชมพูมากเธอเอ๊ย”
แอปฯ ตัวนี้จึงกลายเป็นแอปฯที่มีชาวสีม่วงหรือเกย์ทุกประเภทให้ความ สนใจเป็นอย่างมากนอกจากจะได้เพื่อนคุยหรือคู่ขากันจริงๆ แล้วยังเป็นแอปฯ ที่ทำให้คนพากันไปฟิชเจอร์ริ่งเปิดซิง เป็นเวที ”อเวจีสีชมพู” เลยก็ว่าได้ หรือแค่ดูผ่านการไลพ์สด ก็พากันน้ำหยดน้ำนองกันเลยทีเดียว แถมยังมีการพัฒนาต่างจากแอปฯเกย์อื่นๆ ไปมาก จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงมียอดผู้ใช้สูงขึ้นเรื่อยๆ
ขั้นตอนการสมัครก็ทั่วไปสามารถเลือกได้ว่าจะใช้อีเมลหรือเบอร์มือถือ หลังจากนั้นระบบจะส่งรหัสมาให้เรากรอกยืนยันตัวตน เมื่อกรอกข้อมูลครบก็สามารถเข้าใช้งานได้ทันที
เมื่อเทียบกันแล้วก็ถือว่ามีความคล้ายกับแอปฯเกย์อื่นๆ ทั่วไปที่ สามารถแสดงตำแหน่งที่ตั้งค้นหาคู่ขาใหม่ๆ ที่อยู่บริเวณใกล้ๆ ได้ระบบจะสแกนหาผู้ใช้แอปฯในบริเวณใกล้เคียงกับเรา เมื่อเจอคนที่ถูกใจก็ ”กดติดตาม” หรือ จะ ”ทักแชท” หาได้เลย
แบ้งกี้-ชญานนท์ ศรีรอด นักศึกษาหนุ่มใจสาววัย 23 ปีเล่าถึงประสบการณ์ที่พบเจอในการใช้แอปฯเกย์ เพื่อนัดดูตัวให้กับทีมข่าวได้ฟัง แบบเอ็กซ์คลูซีพเรียกได้ว่าแทบผงะ เมื่อมีเกย์รูปหล่อมาขอนัดเจอ แต่พอเจอตัวจริงวิ่งหนีแทบไม่ทัน ทำไม “คุณหลอกดาว” ขนาดนี้ แบ้งกี้ว่าพลางหาทางหนีทีไล่ รูปในแอปฯหล่อเท่ดูมีสไตล์มากตัวจริงทำไมถึงผอมแห้งแรงไม่น่าจะมีขนาดนี้
“ก็จริงที่คนเราไม่ควรตัดสินคนจากภายนอกแต่เดี๋ยว! แบบนี้มันค่อนข้างหลอกลวงกันเกินไปไหมเอารูปใครมาแอบอ้างคุยกับ ฉันเนี่ย นอกจากจะเจอรูปไม่ตรงปกแล้วยังมีเกย์บางประเภทที่ชอบส่งรูปของลับของ ตัวเองมาเป็นการทักทายเซย์ฮัลโหล ใจจริงก็อยากดูแต่ ควรทักทำความรู้จักกันก่อนไหมล่ะ” แบ้งกี้เล่าด้วยน้ำเสียงโมโห
แบ้งกี้ยอมรับว่า มีบางครั้งเหมือนกันที่นัดเจอจากในแอปฯเพื่อไปฟิชเจอร์ริ่งกันส่วนมากจะเป็นโรงแรมไม่ค่อยพาไปที่บ้าน เพราะไม่ได้ถึงขั้นเปิดตัว หรือดูใจกันนาน “จะออกแนวอารมณ์เหงาๆ ของเราสองมากกว่า”
ปัจจุบันนักศึกษาหนุ่มใจสาวบอกว่ามีแฟนแล้วจึงไม่ค่อยได้เช็คหรืออัพเดทกับคนในแอปฯ เท่าไหร่ ก็มีแอบทักทายบ้างเวลาแฟนไม่อยู่ เจอใครหล่อๆ ถูกใจกำลังไลฟ์อยู่ก็ส่งของขวัญให้พอเป็นพิธี มีแซวบ้างให้ถอดเสื้อถอดกางเกง คนไหนบ้าจี้หน่อยก็จะถอดจริง ก็แฮปปี้ไปถือว่าได้กำไร
** วิวัฒนาการเปลี่ยน “สังคมใหม่ของชายรักชาย”
การมีแอปพลิเคชันคุยกันเฉพาะกลุ่มเป็นเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนในสังคมสมัยใหม่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิด การหาคู่ก็มีมาทุกยุคทุกสมัย แต่ที่ต้องคำนึงก็คงจะเป็นในเรื่องของความที่สะดวกจนเกินไป แอปพลิเคชันที่ช่วย “ หาคนอยู่ใกล้ ” ช่วยคลายเหงาเกย์ที่โดดเดี่ยว ทำให้ได้รับความนิยมใช้แอปฯ มากขึ้นและยิ่งมีคนนิยมการพัฒนาจึงออกมาหลากหลายรูปแบบแอปฯ มีการเจาะจงเฉพาะกลุ่มมากขึ้นเพื่อให้สังคมมีทางเลือกหลากหลาย
จากที่มีวัตถุประสงค์ในการหาเพื่อนคุยปกติธรรมดา ก็กลายเป็นแอปฯ ที่นำมาใช้ในการหาคู่ หาคู่หญิง-ชาย หญิง-หญิง ชาย-ชาย ลามไปยันการ “นัดฟิชเจอร์ริ่ง’’ มีเพศสัมพันธ์กัน ทำให้กลายเป็นเรื่องธรรมดาในสังคมสมัยนี้ไปเสียแล้ว
ทั้งนี้นอกจากแอปฯ “Blued” หาคู่ขาเกย์แล้ว ยังมีอีกหนึ่งแอปฯ ที่มีคนใช้เป็นจำนวนมากทั่วโลกอย่าง “Tinder” ก็ไม่ต่างกัน เทียบกันแล้ว tinder จะได้จำนวนผู้ใช้ทั้งหญิงและชายมากกว่า tinder แตกต่างก็ตรงที่ต้องทำการกดไลท์กันทั้งสองฝ่ายถึงจะสามารถทักทายกันได้
แค่ “ปัด แมตท์ แชท” เจอคนที่สวย-หล่อ โดนใจก็เลื่อนปัดหน้าจอ แล้วกดหัวใจส่งไป หากฝ่ายตรงข้ามก็กดหัวใจให้เราเหมือนกัน ก็ถือเป็นการแมตท์ตรงกัน เท่านี้ก็สามารถนัดไปทำกิจกรรมสนุกหรรษากันได้ เรื่องความสะดวกยากง่าย tinder อาจจะยังไม่เร็วเท่าแอปฯ Blued
แตกต่างจาก Blued ที่แค่เราชื่นชอบก็สามารถทักไปคุยได้ทันทีโดยไม่ต้อง รอให้อีกฝ่ายมาถูกใจ ถือว่ามีความปลอดภัยน้อยกว่า ช่างสะดวกง่ายเหลือเกินในการจะทักหา หรือนัดไปบรรเลงเพลงรักกัน ทำให้เสี่ยงต่อการถูกมิจฉาชีพหลอกได้อีกด้วยจากการ นัดเจอกันผ่านแอปพลิเคชันหาคู่เกย์ นอกจากจะถูกหลอกได้ง่ายๆแล้วยัง “เสี่ยงต่อการติดโรค HIV” อีกด้วย น่ากลัวจริงๆสำหรับใครที่คิดจะนัดกันไปฟิชเจอร์ริ่งแล้วก็ อย่าลืมศึกษาคู่ขาของตนให้ดี
“ครีเอทีฟรายการดังช่องน้อยสี” ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เจ้า Blued มาแรงแซงทุกแอปฯ เกย์ เจ้าตัวให้ข้อมูลว่าแรกๆ ก็เหมือนกับแอปฯ ที่ขยายสังคมสำหรับเพศทางเลือก ให้ได้เจออีกหนึ่งโลกที่ยอมรับในตัวตนของเขาได้ เพราะสังคมถึงแม้จะมีการ พัฒนาเปิดกว้างมากขึ้น แต่ใช่ว่าจะยอมรับได้ทั้งหมดร้อยเปอร์เซ็นต์
สมัยก่อน ดูค่อนข้างยากว่าใครเป็น หรือ ไม่เป็นเกย์ ปัจจุบันมีสื่อตัวนี้เหมือนเป็น “ตัวกลาง” ให้ได้เปิดเผยตัวตนให้กล้าแสดงออก แต่ก่อนคนจะเล่นเผื่อหา “คู่รัก” แต่เดี๋ยวนี้เหมือนจะเล่นเผื่อหา “คู่นอน” เสียมากกว่า ไม่ใช่ไม่ต้องการความรักแบบคู่รัก แต่ด้วยความที่ “ไม่กล้าจะผูกมัดเลยเลือกจะหาความสุขแค่เพียงข้ามคืน”
ข้อดีของการที่มีสื่อตัวนี้เกิดขึ้นก็คงเป็นในเรื่องของการพบเจอสังคมอีกสังคมหนึ่งได้มีพื้นที่ยืนได้เจอคนแบบเดียวกัน แต่ในส่วนของข้อเสียก็คงเริ่มจากที่ตัวคนที่เล่นด้วยเพราะหลายรูปแบบของการ แสดงออกมีทั้งมาหลอกเอาเงินบ้างหลอกเอาตัวบ้าง เยอะไปหมดในสังคมก็ต้องระวังๆ
หากนัดกันเพื่อไปมี “เซ็กซ์” ก็ยากที่จะรู้เท่าทัน เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าคนที่เราเจอเป็นใคร มีโรคติดต่ออะไรบ้าง แม้แต่การป้องกันตนเอง หลายคนก็ยังมีความเข้าใจน้อยมาก ส่วนใหญ่คิดว่าสวมถุงยางอนามัยอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว จะให้ดีอย่าลืมหมั่นตรวจเช็คผลเลือดกันอยู่เสมอๆ คำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเองให้มาก เพราะแอปฯ เกย์หาคู่นั้นมีมากมายเสรีให้เลือกโหลดใช้ อย่าให้อารมณ์เปลี่ยวเหงาชั่ววูบมาทำให้กลายเป็นฝันร้ายไปตลอดกาล
เรื่องโดย นภัสสร ดุลยธรรมถักดี