xs
xsm
sm
md
lg

"รับสภาพตัวเองไม่ได้ อยากตาย..." เปิดมรสุมวินาทีชีวิต "หญิงลี"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ยิ่งกว่าแมวเก้าชีวิต! “หญิงลี ศรีจุมพล” ฝ่ามรสุมเฉียดตาย ทั้ง “ไทรอยด์ - กล้ามเนื้ออ่อนแรง - หน้าบวม - ขาลีบเท่าไอโฟน” มิหนำซ้ำยังถูกครหาว่าป่วยเพราะพิษศัลยกรรม กลายเป็นบทเรียนครั้งสำคัญ ที่ชีวิตนี้ไม่อยากทะเยอทะยานแล้ว!

พิษศัลยกรรม เสพติดยาพาราฯ ??

“ภาพขาลีบ ตอนแรกจะถ่ายไว้ดูเอง แต่ทีนี้พอมีคนว่าหญิงไปศัลยกรรมหน้า ไปฉีดซิลิโคนให้หน้าบวม หญิงก็เลยรู้สึกว่าอยากให้ทุกคนรู้ว่าหญิงเจ็บปวดแค่ไหนกับอาการป่วย แต่ต้องมาถูกว่าว่าไปทำหน้า ก็ลองเอาภาพนี้โพสต์ออกไป ก็มี 2 กระแส ส่วนหนึ่งก็สงสารและเห็นใจ บางคนคิดว่าเราไปทำหน้า ไปฉีดนู่นนี่นั่นมา ก็เปลี่ยนความคิด พอเห็นขาเราลีบก็เปลี่ยนความคิดค่ะ”

“หญิงลี ศรีจุมพล” หรือ “ธิดารัตน์ ศรีจุมพล” นักร้องลูกทุ่งสาว เจ้าของเพลงฮิต “ขอใจเธอแลกเบอร์โทร” เปิดใจกับทีมข่าวผู้จัดการ Live ถึงเรื่องราวชีวิตของเธอ ที่กลายเป็นประเด็นให้สังคมพูดถึงขึ้นมาอีกครั้ง เพราะหลังจากที่เธอโพสต์ภาพลงในอินสตาแกรมส่วนตัว ปรากฏภาพร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะใบหน้าที่บวมใหญ่ผิดปกติและขาลีบเล็กเท่าโทรศัพท์มือถือ จนทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า หรือจะเกิดจากการศัลยกรรมที่ผิดพลาด?!


ขาลีบเล็กจนเหลือเท่าไอโฟน

“เพิ่งทราบเลยค่ะ จนกระทั่งไปตรวจขาก็พบว่าหญิงมีอาการปลายประสาทอักเสบทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงค่ะ แล้วก็ตรวจพบไทรอยด์ ความดันสูง ทำงานหนักด้วย มีผลกระทบหมดทุกอย่างเลย พอตัวผอม หญิงก็กินเนื้อให้มีกำลัง แล้วก็หน้าใหญ่เป็นเอฟเฟกต์ เวลาเราอ่อนแอ เราไม่กินข้าว เวลาที่นอนไม่หลับ หลายๆ อย่างมาผสมปนเปกัน รักษาตัวอยู่ 4 - 6 เดือนเต็มๆ ก็พักเลยค่ะ มีบางงานที่ยกเลิกไม่ได้ก็ไป

มีครั้งนึงหญิงไปเล่นคอนเสิร์ต หญิงลุกนั่งๆ จับมือแฟนๆ หน้าเวที ประมาณ 10 - 20 ครั้ง ลุกแล้วก็จับแล้วก็ยืนร้องเพลง นั่งลงไปจับมือแล้วก็ลุกขึ้นมายืน ปวดขามากเลยหลังเสร็จงาน วันรุ่งขึ้นหญิงปวดกล้ามเนื้อขามาก มันอาจจะกล้ามเนื้อยังไม่เต็มที่รึเปล่าไม่รู้นะ แต่ตอนนี้ดีขึ้นค่ะ เต้นได้ โยกได้ วิ่งได้ ขึ้นบันไดได้


ดูดไขมันออกจากใบหน้า

หญิงยังไม่คิดเลยว่าจะกลับคืนมาเป็นหญิงลีอย่างทุกวันนี้ หญิงยังคิดว่าหญิงอาจจะเป็นอย่างอื่นไปแล้ว แม้แต่หน้าตาหญิงยังไม่คิดว่าถ้าทำศัลยกรรมจะได้กลับมาไหม ก็มีหมอโรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่ง ท่านไม่รับ ไม่ทำให้ ท่านบอกว่าให้รอเป็นปี หญิงก็เลยเสียใจ ร้องไห้ หมดหวัง หญิงไม่ไป หญิงไม่มีกะจิตกะใจไป มีแต่นางฟ้าบนเวที มีแต่คนสวยๆ หลายสิบคน แต่หญิงเป็นคนอัปลักษณ์อยู่คนเดียว”

อีกทั้ง ก่อนหน้านี้เธอยังเคยให้สัมภาษณ์ผ่านรายการหนึ่งไว้ว่า ช่วงที่โหมงานหนัก เมื่อไม่สบายขึ้นมาก็จะกินที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ ยาแก้อักเสบและยาพาราเซตามอล ถึงขนาดที่ว่ากินเป็นขนม เพื่อที่จะได้ขึ้นคอนเสิร์ตได้ โดยที่ไม่ได้รับการตรวจจากแพทย์อย่างจริงจัง หรือนี่อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอมีสภาพร่างกายเช่นนี้

“ตอนที่ป่วยหนัก หญิงหัวใจเต้นเร็วมาก ความดันสูง ก็คืออาจจะหัวใจวายหรือเสียชีวิตได้ค่ะ โดยเฉพาะเวลาที่ตกใจ อย่างเวลารถวิ่งบนถนนแล้วเฉี่ยวกันบ้าง หัวใจก็จะเต้นตุ๊บๆๆ เร็วมากค่ะ แล้วก็หญิงไม่มีแรงที่จะยกขา ยกขาขึ้นบันได้ไม่ได้ ต้องให้คนอื่นพยุงขึ้นไปอีก


ใบหน้าบวมผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด

หญิงหมดค่ารักษาไปหลักล้านอยู่นะคะ มันหลายอย่าง โดยเฉพาะการผ่าตัดใบหน้า เรามาที่คลินิกเอกชน เพราะว่ามันเป็นการผ่าตัดเอาไขมันออก ต้องใช้ความละเอียดอ่อน ต้องเป็นศัลยแพทย์ที่เขาผ่าตัดศัลยกรรมโดยตรง แบบเฉพาะทางเลยค่ะ หมอที่เขาดูแลเกี่ยวกับต่อมไร่ท่อ เขาบอกว่าประมาณปีนึงทุกอย่างจะปกติ แต่ปีนึงหญิงก็รอไม่ได้หรอก ก็รอให้ความดันหญิงคงที่ หญิงก็ขอหมอผ่า

แล้วหลังจากนั้นมา หญิงก็หาข้อมูลอีก ก็ได้ผ่าอย่างรวดเร็ว เพราะว่าทางคลินิกที่ทำศัลยกรรมโดยตรง ผ่าตัดไขมันโดยตรง ก็ตรวจแล้วจับหน้าดู ท่านก็อาสาทำให้ เพราะมันเป็นไขมัน ไม่ใช่ซิลิโคน ถ้าเป็นซิลิโคนเขาจะไม่ทำให้แบบผ่าแบบนี้ มันจะอันตราย เขาจะฉีดให้มันสลายยุบไป แต่ของหญิงมันเป็นการผ่าตัดโดยตรง ต้องผ่าตัดถึง 4 ครั้ง ใต้ติ่งหูแล้วก็ใต้คอ คว้านมาที่คอ คว้านไขมันที่ช่วงเหนียงคอ ช่วงใบหน้าที่ปูดบวม เขาก็ทำให้ รู้สึกดีใจที่ได้ทำ ถึงผลตอบรับมันเป็นยังไงหญิงก็ช่วงมัน เพียงแต่ขอแค่ได้ทำ”



สถานะหัวใจ “คู่รัก - คู่รบ”


หนุ่มแต๊งค์ หวานใจของหญิงลี

“เรื่องหัวใจตอนนี้ก็เรื่อยๆ ค่ะ เป็นคู่รบคู่รักค่ะ(หัวเราะร่วน) แฟนหญิงเขาขี่รถมอเตอร์ไซค์ฮาเลย์ แล้วก็ค่อนข้างอินดี้ เป็นตัวของตัวเอง ดิบๆ ห่ามๆ สักหน่อย เรากำลังปรับตัวเข้าหากันให้เราไปให้มันได้ก่อนค่ะ เลยไม่รู้ว่าจะแน่นอนแค่ไหน แต่ทั้ง 2 ฝ่ายก็เหมือนกับ...ยังมีความพยายามที่จะประคับประคองกันอยู่ หญิงก็เลยรู้สึกว่าถ้ามันเริ่มต้นได้ก็เริ่มค่ะ หวังว่าสังคมจะเข้าใจ ว่าบางทีเราจะเลิกกับใครมันไม่ใช่เรื่องง่าย หรือแม้แต่เราจะไปรักคนอื่นมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายค่ะ ก็เลยเรียกแบบตลกๆ ว่าคู่รบคู่รักค่ะ
ส่วนเรื่องแต่งงาน หญิงขอเป็นในอนาคตสัก 2-3 ปีค่ะ ถ้าจะแต่งต้อง 3 ปีขึ้นไป ตอนนี้ยังเฉยๆ อยู่ในช่วงประคับประคองความรู้สึกกันอยู่ เพราะว่าเราทะเลาะกันบ่อย ถ้าเขาแต่งก็แต่งค่ะ(หัวเราะ) แต่ตัวหญิงอยากมีทายาทมากเลยค่ะ หญิงวางแผนจะฝากไข่ไว้เพื่อที่จะต้องมีทายาท”


เพราะป่วย...จึงปลง

นอกเหนือจากกระแสดรามาที่เธอผ่านมันมาได้แล้ว ลูกทุ่งสาวชื่อดัง ยังได้เล่าถึงวินาทีที่เรียกได้ว่า ‘ใกล้ความตาย’ ของตัวเอง ให้ผู้สัมภาษณ์ได้ฟัง ในตอนนั้นเธอเกือบจะถอดใจในการต่อสู้กับโรคร้าย ถึงขนาดบอกกับตัวเองว่า ‘ถ้ามันจะตายก็ปล่อยให้มันตายไปเถอะ’

“คือความรู้สึกเรา มันต้องไม่อยู่ในสภาพนั้น หญิงรับไม่ได้ อยากตาย ไม่อยากอยู่ แต่ว่าไม่คิดสั้นนะ เพียงแต่ว่าบางครั้งมันไม่มีความสุข มันไม่ได้อยากฆ่าตัวตาย เพียงแต่ว่าถ้ามันจะตายก็ปล่อยให้มันตายไปเถอะ คิดง่ายๆ เลย บางทีหัวใจเต้นเร็ว ตอนสงกรานต์ที่ผ่านมา วัดความดันสูงเกือบร้อยกว่า แต่หัวใจ 150 ครั้ง/นาที มันแย่มากเลย หนักมากค่ะ มีครั้งนึงความดันขึ้น 190 ค่ะ หมอไม่ผ่าให้ กลัวตายคาเตียงเขา หมอไม่ให้ดมยาสลบค่ะ ต้องรอจนกว่าความดันจะคงที่”



แต่สุดท้ายแล้ว ด้วยความสามารถของแพทย์ ประกอบกับกำลังใจที่สู้ ทำให้เธอสามารถฝ่าพายุร้ายที่พัดเข้ามาในชีวิตได้สำเร็จ จนตอนนี้สุขภาพของเธอเกือบจะหายเป็นปกติ มีเพียงอาการของไทรอยด์ที่ยังต้องรักษาตามอาการอยู่

“อาการป่วยตอนนี้ดีขึ้นนะคะ ก็คือเกือบจะปกติ เพียงแต่ว่าติดเรื่องกล้ามเนื้อขาที่ยังอ่อนแรงอยู่บ้างเล็กน้อยค่ะ ไปงานคอนเสิร์ตได้ ร้องเพลงได้ เต้นได้ แต่อย่าเพิ่งหักโหมค่ะ อาการไทรอยด์ก็รักษาไปเรื่อยๆ ค่ะ กินยาไปเรื่อยๆ ค่ะ เพราะว่าหญิงต้องประคับประคองร่างกายให้แข็งแรงไปเรื่อยๆ อาการภายนอกก็ดีทุกอย่างค่ะ ขาก็วิ่งได้แล้ว แต่หญิงยังลุกนั่งเหมือนคนปกติไม่เก่ง ถ้าหญิงลุกนั่งเกิน 20 ครั้ง หญิงจะล้ากล้ามเนื้อขามาก ล้ามากๆ”

ส่วนการดูแลตัวเอง ก็มีจ๊อกกิ้งเบาๆ วิ่งบ้าง เดินบ้าง เพราะว่าหญิงทำอะไรไม่ได้เยอะ ไม่มีกล้ามเนื้อ ยกเว้นจะกินเนื้อ หญิงกินเยอะมาก(ลากเสียงยาว) ตื่นมาก็กิน ตั้งนาฬิกาปลุกมากินเนื้อเป็นกิโลๆ ย่าง ทอด อะไรก็กิน จนกระทั่งหน้าบวมหน้าใหญ่ ตัวใหญ่ แขนใหญ่ หัวไหล่แตกเป็นเส้นๆ



ตอนที่ขามีกล้ามเนื้อแล้ว หญิงก็ลดอาหารค่ะ มันลงอย่างรวดเร็ว ปรากฏว่าแขนหัวไหล่มันแตกเป็นเส้นๆ เหมือนคนเคยอ้วนแล้วมันแตก พอผอมมันก็เลยเห็นเป็นเส้น ก็เลยเน้นเรื่องการกินอาหารที่มีประโยชน์ค่ะ ตอนนี้หญิงกินผลไม้สด ผลไม้แยกน้ำแยกกาก แล้วก็ดื่มสดๆ เลย มันสะอาด ร่างกายเราได้ดีท็อกซ์ หญิงก็จะมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมของหญิงคือดีท็อกซ์ลีไลฟ์ ก็จะกินตลอด ตอนที่หญิงกินเนื้อเยอะๆ ต้องขับถ่ายทุกวัน ซึ่งมันก็ค่อนข้างลงตัวสำหรับการรักษา”

ผลพวงจากอาการป่วยครั้งนี้ ไม่เพียงแค่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายเท่านั้น หากแต่ทั้งความคิดและจิตใจก็พลอยเปลี่ยนไปด้วย กลายเป็นบทเรียนครั้งสำคัญ ที่ทำให้เธอพูดได้เต็มปากว่า “ปล่อยวางกับชีวิตแล้ว”

“ชีวิตหญิงเปลี่ยนมากเลยค่ะ เปลี่ยนทุกอย่าง แม้กระทั่งความคิด ไม่อยากทะเยอทะยาน ไม่อยากได้อยากมีอะไรมากเกินตัวเรา เรามีเพียงพอแล้ว ก็จะทำให้มีความสุข เก็บเงินไว้ดูแลตัวเอง แต่ในส่วนของการทำธุรกิจ ทำรีสอร์ต ต้องใช้เงินเยอะ สิบกว่าล้าน ทำให้เราหวั่นๆ เหมือนกันว่า เราก็อยากจะมีเงินเก็บอีกสักก้อนใหญ่ๆ ที่จะมั่นคงค่ะ



หญิงได้เรียนรู้ว่า คนเราเวลาจะตาย มันจะไม่อยากได้อะไรเลย ภายในตัวหญิงตอนนั้น หญิงนึกถึงแต่จะไปสวนดอกไม้สวยๆ อยากไปที่มันสวยงาม อยากจะยกสมบัติทั้งหมดให้กับคนที่เรารัก บางทีก็รู้สึกว่าการที่เรา ที่ปลงก็คือไม่ไปยึดติดกับมนุษย์ทั่วไป เช่น คนติฉินนินทา เรามองข้ามไปหมดเลยค่ะ มันเป็นอะไรที่ปลายทางแล้ว

หลักๆ คือเรานึกถึง ทำไมชีวิตมนุษย์ตอนที่เรามีกำลังกาย สู้งาน มันไม่หวาดหวั่น แต่เวลาเราจะตายมันไม่อยากได้อยากมีอะไรเลย เราเอาไปไม่ได้สักอย่าง สิ่งที่เรามีตั้งเยอะตั้งแยะ ก็เลยรู้สึกว่า ต่อไปจะทำเท่าที่เรามีความสุข เงินทองก็พอมีพอใช้อยู่ ก็เลยรู้สึกว่ามันน่าจะลงตัวแล้วกับชีวิตที่ผ่านความตายมาแล้วค่ะ ส่วนที่ไร่ที่นาหญิงไม่ไปหาซื้อแล้วค่ะ ตายไปก็เอาไปไม่ได้ ทำวันนี้ให้มีความสุข อยู่กับเพื่อนกับน้อง กินของที่ชอบแต่ว่าไม่ได้เป็นโทษ จะมีความสุขตรงนั้นมากกว่า คนที่นินทา หญิงเบื่อ หญิงไม่สนใจเลย ปล่อยวางด้วยตัวของเราเอง”


หญิงลี Life style



“วันว่างๆ หญิงไม่ค่อยว่างค่ะ(หัวเราะ) ก็จะมาดูเพจ มาอัปเดตชุดแดนซ์เซอร์ ชุดนักร้อง ต้องไปเยี่ยมญาติ ไปหาผู้ใหญ่ คือความใส่ใจของหญิงที่จะต้องมีให้ทุกคนในลักษณะที่ว่าเราไม่ทิ้งใคร ญาติพี่น้องป่วยเราก็ต้องไปเยี่ยม วันเกิด วันบวชใคร หญิงไปได้ก็ไป
ถ้าว่างจริงๆ ก็อยู่บ้าน นอนหลับพักผ่อน ทำกับข้าวค่ะ จุกจิก ไปดูหนังฟังเพลงบ้าง ตามสไตล์วัยรุ่นบ้าง เดี๋ยวเราจะแก่ก่อน เดี๋ยวจะไม่ได้ไปทำแบบวัยรุ่นไงคะ(หัวเราะ) แต่จะไม่มีเวลาว่างไปเที่ยงจริงจัง เพราะว่าหญิงไม่เปิดโอกาสให้ตัวเองเที่ยวหรือใช้เงินในกระเป๋า ถ้าจะไปเที่ยวก็คือไปคอนเสิร์ตด้วยแล้วถือโอกาสเที่ยว อย่างตั้งใจไปเที่ยวต่างประเทศ ไม่มีโมเมนต์นั้นเลย คงจะเป็นโอกาสต่อไปหลังจากปีหน้าค่ะ เพราะว่าปีนี้หญิงยังต้องใช้เงินสดเยอะในการทำรีสอร์ต ต้องเก็บออมเงินสดไว้สำรองใช้จ่าย
อีกอย่างถ้าเราเจ็บป่วยฉุกเฉิน ต้องมีเงินสดสำรองไว้ค่ะ เลยยังคิดว่าไม่ควรใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย กระเป๋าแพงๆ หญิงก็ไม่กล้าใช้ แพงสุดๆ ของหญิงราคา 120,000 บาท หญิงซื้อมาจากต่างประเทศตอนที่หญิงไปร้องเพลง มีเท่านั้นก็รู้สึกดี แต่ถ้าเป็นทองคำก็จะซื้อไว้บ้าง เน้นเงินสดกับหลักทรัพย์ค่ะ”


เกือบดับก่อนได้ดัง

แฟนเพลงทุกคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า ในช่วงก่อนที่เธอจะป่วย เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว เพลง “ขอใจเธอแลกเบอร์โทร” ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ให้แก่วงการเพลงลูกทุ่ง เพราะไม่ว่างานไหนๆ บทเพลงของนักร้องสาวเขี้ยวเสน่ห์ผู้นี้ก็มักจะถูกเลือกไปเปิดเพื่อสร้างสีสันให้กับงานนั้นๆ อยู่เสมอ กลายเป็นการเปิดมิติใหม่ให้แก่วงการเพลงลูกทุ่งไปโดยปริยาย

“ตอนนั้นเพลงขอใจเธอแลกเบอร์โทร ไม่ได้เป็นเพลงโปรโมตด้วย อยู่อันดับที่ 10 เลย อยู่นอกสายตาของทุกคน คือหญิงเป็นคนที่ชอบตั้งแต่ตอนบันทึกเสียงแล้ว แล้วทางผู้ใหญ่ท่านเป็นคนจัดเรียงอันดับเพลง บางทีก็เหมือนเราจะซื้อหวยนั่นแหละค่ะ เราก็ไม่รู้หรอกว่าเพลงไหนจะดัง ทางผู้ใหญ่ท่านชอบเพลงนั้นเพลงนี้ ก็โปรโมตตามความคิดของการตลาด แต่บางทีแล้ว กระแสตอบรับเป็นสิ่งที่มาจากประชาชนมากกว่านะคะ


ผลงานสร้างชื่อ “ขอใจเธอแลกเบอร์โทร”

แต่กลายเป็นว่าเพลงนี้ดังมากที่สุดเลยค่ะ ตอนนั้นศิลปิน ดาราทุกท่านที่ออกงานอีเว้นท์ก็นำบทเพลงไปร้อง รวมทั้งที่หญิงไปต่างประเทศ เขามองว่าหญิงลีเป็นซุปเปอร์สตาร์ผู้หญิงอันดับหนึ่งค่ะ ส่วนอันดับหนึ่งของผู้ชาย เขายกให้พี่เบิร์ด ธงชัย มันสูงสุดในชีวิตของหญิงลีแล้วค่ะ แม้แต่ตอนนี้กระแสสังคมก็ยังให้หญิงเป็นที่ 1 อยู่ ที่สำรวจโพลออกมาลูกทุ่งขวัญใจที่ 1 คือใคร เขาก็ให้หญิงลีเป็นที่ 1 กระแสค่านิยม หรือยอดวิวในยูทูปตอนนี้ไม่สู้ศิลปินท่านอื่น แต่ถ้าถามว่าคุณรู้จักศิลปินลูกทุ่งใครบ้าง คนที่ไปถามทั้งหลายก็ได้คำตอบว่ารู้จักหญิงลี คือความนิยมหรือคนที่รู้จักยังเยอะอยู่ค่ะ

หลายปัจจัยที่มันโด่งดังค่ะ ก็จะเป็นเนื้อเพลงที่มาอันดับหนึ่ง ดนตรีที่สอง ท่าเต้นที่สาม หญิงลีที่สี่ แล้วก็สังกัดค่ายด้วยเนอะ เชียร์ดีโปรโมตดี มัน 5 ปัจจัยค่ะ ที่สำคัญคือหญิงลีที่เป็นเอกลักษณ์นี่แหละค่ะ ซึ่งหลังจากนั้นก็มีคนทำเพลงแนวสนุกๆ ออกมาหันเต็มเลย แล้วก็มาเป็นเพลงลูกทุ่ง เพลงอื่นๆ ที่ดังกันมาหลังๆ นี้ค่ะ อัลบั้มถัดมาหญิงลั้ลลาก็จะดังมากเหมือนกันค่ะ”

ทว่า ทุกเส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะก่อนหน้าที่หญิงลีจะเป็นดาวจรัสแสงแบบนี้ เธอได้เคยผ่านเหตุการณ์ที่ทำให้อนาคตในวงการเพลงของเธอต้องถึงกับดับวูบมาครั้งหนึ่งแล้ว



ก่อนหน้านี้มีปัญหาเรื่องออกอัลบั้ม ตอนหญิงอายุ 20 ค่ะ เพลงบ่ย่านบาปของหญิง คุณระเบียบรัตน์ พงศ์พานิช ออกมาแบนว่าห้ามเปิด ห้ามออกอากาศ แล้วหญิงก็ไม่ดัง คือตอนนั้นจะออกเทปครั้งแรก กลายเป็นอนาคตก็ดับวูบ คือหายจากวงการไปเกือบ 10 ปีค่ะ จริงๆ มันก็ไม่ได้หายหรอก เหมือนกับเราไม่ดังอยู่แล้ว

หญิงก็มาดังอีกทีตอนอายุ 29 - 30 เลยจากเพลงขอใจเธอแลกเบอร์โทรนี่แหละค่ะ ผลงานตอนนี้มีอัลบั้มที่ 3 ค่ะ แต่ว่าอัลบั้มนี้มันบังเอิญตรงกับตอนที่หญิงป่วยหนัก และยังตรงกับตอนที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ สวรรคต พวกเราชาวไทยก็ไม่สามารถที่จะรื่นเริงบันเทิงใจได้ในบทเพลงสนุกๆ ของหญิงลีได้

รวมถึงกระแสเศรษฐกิจด้วยนะคะ ไม่ใช่ธรรมดา ต้องสอบถามประชาชนทั่วไป เมื่อก่อนการปิดวิกจะเยอะมาก งานรับจ้างทั่วไป แต่ตอนนี้คนมาดูน้อย คนจัดก็ไม่คุ้ม แต่ช่วงนี้ก็พอรับงานได้แล้วค่ะ มีงานเยอะอยู่ ประมาณ 20 กว่าคิว มีใครจ้างก็ไปค่ะ ช่วงนี้เพลงก็ไม่ได้โด่งดังมาก ก็ดีแล้วกับการเริ่มต้นใหม่ หญิงก็ไม่ต้องโลดโผนมาก มีงานไปบ้างอะไรบ้าง ดีกว่าไม่มี การทีไม่มีงานก็ไม่ถูกต้องสำหรับการเป็นศิลปิน หญิงว่าถ้าไม่ได้ดังในช่วงนั้น ก็คงไม่ได้เป็นหญิงลีอย่างทุกวันนี้ ก็คงจะเป็นนักร้องรับจ้างทั่วไปเหมือนเดิม ทีมงานให้ฉายาหญิงว่าแมวเก้าชีวิต ไม่มีวันตาย


พิสูจน์แล้ว วงการลูกทุ่งโกยเงินได้มากกว่าแนวอื่น!
“จริงแท้แน่นอนค่ะ พิสูจน์มาแล้ว 2-3 ปี หญิงลีหาเงินได้เยอะมาก ซึ่งวันนึงมีหลายงาน งานนึงก็ร้องเพลงเท่าเพลงสตริง แต่บางอย่างนักร้องลูกทุ่งเราวางตัวง่าย บางทีการไปการมามันไม่มีกฎระเบียบเยอะ ไม่ต้องมาใครมาดูแลเรามาก เราไปของเราได้กับทีมงานเรา แต่ถ้าเป็นนักร้องศิลปินสตริง ก็อาจจะมีทางสังกัดค่ายดูแล
ค่าตัวนักร้องลูกทุ่งมันก็หลักแสนเหมือนกันนะคะ ไปงานได้เยอะกว่า เพราะเราไปได้งานวัดก็ได้ งานบุญงานบวชได้หมด แต่สตริงก็จะไปในผับ แล้วก็ในส่วนของวัยรุ่น แต่คนเฒ่าคนแก่ก็อาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับเพลงสตริงค่ะ ส่วนลูกทุ่งของหญิงลีมันเป็นแนวสตริง อย่างเพลงขอใจเธอแลกเบอร์โทรมันก็แนวสตริงด้วย แล้วก็เป็นแนวลูกทุ่งได้ หญิงลีก็เลยไปได้ทุกเพศทุกวัย ทุกกลุ่ม ทุกภาค ทุกงานจ้าง จัดเลี้ยงสังสรรค์ งานบุญงานบวช งานแต่ง งานปาร์ตี้ งานผับ ทุกงานเลยค่ะ มันไปได้หมดค่ะ”


ขอเป็นนักร้องไปจนวันตาย

เป็นเรื่องปกติของคนในวงการบันเทิงที่มักจะมีธุรกิจส่วนตัว เป็นช่องทางสร้างความมั่นคงเพิ่มให้กับตัวเอง สำหรับหญิงลีก็เช่นกัน เพราะหลังจากที่โด่งดังเป็นลูกทุ่ง ซุป’ตา แล้ว ล่าสุด ลูกทุ่งสาวยังคงต่อยอดสร้างธุรกิจฟิตเนส ในบริเวณบ้านของเจ้าตัว โดยใช้ชื่อว่า “LALLA FITNESS ลั้ลลา ฟิตเนส” ตามชื่อผลงานเพลงของตนเอง

“หญิงก็มีทุนมาจากคอนเสิร์ตค่ะ ถ้ายอดเงินที่เข้ามาก็น่าจะถึง 50 ล้านค่ะ ก็เลยลงเครื่องฟิตเนสที่บ้าน ซึ่งบ้านหญิงลีก็เป็นบ้านของตัวเองที่ซื้อ หญิงซื้อเงินสดทั้งตึก เป็นบ้านเก่าเขา แต่เป็นบ้านใหม่ของเรา ซึ่งเป็นความภูมิใจ ก็ต่อเติม แล้วก็รีโนเวตตกแต่ง ใส่กระจกสวยๆ ให้มันดูกว้างขวางใหญ่โตโอ่โถง ตอนนั้นก็ยังไม่ได้มีฟิตเนส ก็มีใช้ซ้อมวง เดินเข้าเดินออกสบายใจ บ้านโล่ง มีคนเข้าคนออกตลอด มีวงดนตรี แต่ตอนหลังมาหญิงก็รู้สึก กลัวเหงา ก็เลยหาฟิตเนสลง จะขายของก็คงจะหายไม่เป็น ก็ลงฟิตเนสค่ะ



ที่เลือกเป็นฟิตเนส เพราะหญิงชอบออกกำลังกายค่ะ แต่ส่วนหนึ่งก็ได้รับคำแนะนำมาจากแฟนหญิงค่ะ คุณแต๊งค์เขาชอบเล่นฟิตเนส เขาก็เลยแนะนำว่า ทำไมบ้านเราก็มีสถานที่ลงฟิตเนสได้นะ หญิงไม่มีความรู้เรื่องนี้หรอก ก็เลยให้เขาหาข้อมูลให้ แล้วก็แนะนำ ลองศึกษาดูว่าลงเครื่องประมาณ 2 ล้านบาท ก็สะดวกอยู่ ก็ลงเครื่องเต็มพอดี แต่ที่จอดรถเราก็ไม่ได้กว้าง

เราไม่ได้เช่าที่อื่น ค่าใช้บริการเราก็ไม่แพง ก็มีลูกค้ามาสนุกสนานร่าเริง แต่ละวันเราก็ไม่เหงา มีคนอยู่ที่บ้านเราเยอะก็รู้สึกสดชื่น บ้านมันมีชีวิตค่ะ มีเงินเข้าด้วย ซึ่งทำให้หญิงโอเค ไม่ต้องไปทำอาหารขาย เราคงดูแลตรงนั้นไม่ได้ เปิดบริการฟิตเนสมันค่อนข้างเข้าทาง เพราะหญิงต้องออกกำลังกายเล็กๆ น้อยๆ บ้าง วิ่งบ้าง ส่วนกิจการดีค่ะ แต่หลายคนบอกว่าที่จอดรถมันน้อย ได้ประมาณ 10 คัน นี่คือปัญหา ซึ่งเราแก้ไม่ได้หรอก เพราะว่าที่มันมีแค่นั้น นอกจากว่านั่งรถมอเตอร์ไซค์มาก็ได้ มันได้เท่านั้นก็ต้องเอาเท่านั้นค่ะ”



ไม่เพียงแค่ฟิตเนสเท่านั้น เธอยังมีธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารเสริมดีท็อกซ์ลีไลฟ์และสบู่กวาวเครือที่กำลังอยู่ในช่วงทดลองสูตร นอกจากนี้ยังมีธุรกิจรีสอร์ตที่บ้านเกิดด้วย และเช่นเคย...เธอใช้เงินสดอีกแล้ว

“รีสอร์ตหญิงลีเปิดที่จังหวัดบุรีรัมย์ค่ะ ก็เป็นน้ำพักน้ำแรงของหญิงนี่แหละ เป็นเงินสดเหมือนกัน คือใช้เงินสดทุกอย่างเลย รีสอร์ตก็มากกว่า 35 ห้องค่ะ คือในอนาคตปี สองปี น่าจะถึง 40 ห้องค่ะ เพราะเวลาที่คนมาเช่าเยอะๆ ก็ไม่มีที่รองรับ ก็เลยทำเยอะ พื้นที่ประมาณ 7 ไร่ค่ะ อยู่ในหมู่บ้านที่หญิงเกิดเลยค่ะ ก็จะไม่อยู่ในเมืองค่ะ ตอนนี้ก็มีคนที่เขามีงานบุญงานบวชก็จะมาใช้บริการที่ห้องพักเราค่ะ มันเหมือนรีสอร์ตครอบครัวค่ะ ก็มีน้องเป็นคนดูแลพ่อกับแม่ แล้วก็ดูแลรีสอร์ตด้วย”



แม้จะมีธุรกิจหลากหลาย แฟนเพลงก็ไม่ต้องกลัวไปว่าเธอจะเลิกร้องเพลง และหันมาเอาดีด้านธุรกิจเต็มตัว เพราะเธอยืนยันอย่างหนักแน่นแล้วว่า ขอเป็นนักร้องไปตลอดชีวิต

“หญิงชอบการเป็นนักร้องค่ะ คือการเป็นนักร้องมันมีความสุขบนเวทีค่ะ มันเป็นนางพญาบนเวทีค่ะ ได้เต้น ได้สนุก ได้ทำให้คนสนุก เวลาได้ยินเสียงเพลงเราเวลาไปไหน ก็จะรู้สึกภูมิใจมาก ส่วนเป็นแม่ค้าขายของมันก็เป็นอาชีพเสริม ณ วันหนึ่งเขาก็ต้องเลิกจ้างศิลปินดารา ถูกไหมคะ เราก็ต้องมีงานรองรับไว้ เราอย่าประมาท เผื่อวันนึงไม่มีใครจ้าง เราก็ต้องอยู่ให้ได้ อยู่อย่างมีศักดิ์ศรี ไม่ใช่ว่าไม่มีเงินมันไม่ถูกต้อง เราเป็นนักร้องดังมาแล้ว ไม่ใช่ว่าวันนึงจะหมดตัง หญิงรับไม่ได้กับตัวเองที่จะเป็นอย่างนั้น



หญิงมีธุรกิจรีสอร์ตแล้วค่ะ แล้วหญิงก็มีฟิตเนส มีผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ได้เป็นหุ้นส่วนกับยี่ห้อหนึ่งที่เขามีการตลาดอยู่แล้ว ก็มีอาชีพที่ได้เงินมาทุกเดือนอยู่แล้ว คือเงินน่ะมันมีอยู่แล้ว เราไม่ได้ไปทำอาชีพอื่นเป็นหลัก เรามีอาชีพร้องเพลงเป็นหลักค่ะ ก็มีสิทธิ์ที่จะเสนอบทเพลงได้ เช่น ขอมีส่วนร่วมในเพลงได้ ทางผู้ใหญ่ก็ให้โอกาสแบบนี้มาตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งเพลงหญิงลั้ลลาคือหญิงแต่งค่ะ มันมีบทพิสูจน์อยู่แล้ว เพลงไหนที่เรามีผลงานมาค่ะ หญิงไม่คิดอะไร หญิงคิดว่าจะเป็นนักร้องจนวันตายค่ะ”


ย้อนเส้นทาง ก่อนมาเป็นหญิงลี
“หญิงเป็นคนที่เรียนหนังสือไม่เก่งค่ะ เป็นคนยากจน เวลาทำกิจกรรมที่โรงเรียน ก็จะถูกเลือกให้เป็นนักร้องโรงเรียน นาฏศิลป์ เขาก็จะเลือกหญิงออกหน้าเสาธง ก็เลยมีแรงบันดาลใจว่า เราเป็นนักร้อง รับจ้างร้องเพลงตามงานวัด วงดนตรีอิเลกโทน ก็มีคนจ้างเรา แล้วโรงเรียนก็ให้ร้องเพลงบ่อยๆ ก็พอมีรายได้ ตอนมอต้นก็จะได้เงิน 300 ต่องาน ก็ดีใจ ก็รู้สึกว่า เรียนจบแล้วก็จะไปเป็นนักร้อง เป็นนักร้องตามงานทั่วไป แล้วก็จะทำงานโรงงานด้วย เพราะว่าญาติหญิงเขาทำงานโรงงาน เขามีโบนัส มีรถยนต์ ก็อยากมีอย่างเขา
หญิงพัฒนามาเรียนเป็นนักร้องหมอลำซิ่งกับ อาจารย์แม่วัชราภรณ์ สมสุข อาจารย์แม่ก็แนะนำให้รู้จักกับ อ.สวัสดิ์ สารคาม ได้ทำเพลงบ่ย่านบาป ตอนอายุ 20 แล้วก็ถูกคุณระเบียบรัตน์ออกมาแบน ว่าเป็นเพลงที้ผิดศีลธรรม ตอนนั้นสัญญากับค่ายเดิม 8 ปี ยังไม่หมด จนกระทั่งหมดสัญญาตอนอายุ 28 ค่ะ ถึงได้เซ็นสัญญากับค่ายแกรมมี่ตอนอายุ 29 ก็เริ่มบันทึกเสียง เริ่มออกโปรโมต ก็มาโด่งดังอายุ 30 ค่ะ
แต่ตอนที่หญิงดังอะค่ะ กระแสตอนนั้นมันซบเซาประมาณ 3 ปีมาแล้ว ก็จะมีแต่ทางหมอลำซิ่ง ทางสังกัดค่ายทอปไลน์ก็จะฮือฮาในความแปลก ความสนุกค่ะ แล้วทางแกรมมี่ก็เลยมองว่าค่ายแกรมมี่ก็อาจจะยังไม่มีศิลปินสนุก ก็เลยให้โอกาส อ.สวัสดิ์ หาศิลปิน ซึ่งหญิงก็เป็นลูกศิษย์ อ.สวัสดิ์อยู่แล้ว ฝากเนื้อฝากตัวกับท่านมาว่า ถ้ามีค่ายไหนที่หญิงจะไปร้องเพลงได้ ก็อยากจะให้พาไปสมัครร้องเพลง เพราะว่าหญิงจะแก่ก่อนแล้ว อายุหญิงตอนนั้น 29 ปีแล้ว ถ้าเลย 30 ปีจะเกษียณไปหามีครอบครัว
บังเอิญกับจังหวะที่เจ้านายทางแกรมมี่เรียกตัวมา หญิงก็เข้าไปแล้วได้ทำเลย ช่วงนั้นหญิงก็รับจ้างร้องเพลงทั่วไปด้วย ก็ไม่คาดคิดว่าหญิงจะโด่งดัง คือรู้แน่ๆ ว่าเราได้ออกทีวีแน่นอน แล้วก็คนที่ได้ออกทีวี มันจะมีคนรู้จักมากขึ้น การจ้างงานก็จะมีมากขึ้น อาจจะไม่ได้โด่งดัง แต่พอหญิงออกเทปไปไม่ถึงปี หญิงโด่งดังมาก ซึ่งเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของหญิงลี มหัศจรรย์ของวงการลูกทุ่ง
ตอนนี้หญิงอายุ 34 ค่ะ ปีหน้าสัญญาก็จะหมด ก็จะต่อสัญญาใหม่ค่ะ ไม่เป็นนักร้องอิสระ ดังเพราะเขาก็ต้องอยู่กับเขาเนอะ เพราะว่าเราก็ไม่ได้ดังขึ้นมาเอง เราอาจจะมีคุณสมบัติที่ทำให้เราดัง แน่ถ้าเราไม่มีเขา เราก็ไม่ดังนะคะ หญิงเป็นคนอย่างนี้แหละ ไม่ได้ทะเยอทะยาน อยากดังอยากร่ำรวยอยู่คนเดียว คือเรามีแล้ว ทำยังไงก็ได้ที่ตอบแทนคุณเขา หญิงรู้สึกว่าถูกผู้ใหญ่เมตตาหญิงเสมอมา ก็ไม่อยากจะไปไหน ถ้าหญิงไม่อยู่กับแกรมมี่ หญิงรู้สึกไม่มีความสุขในใจค่ะ ก็เลยคิดว่าเราอยู่ตรงนี้แหละ ก็พออยู่พอกินแล้ว แต่ก็อาจจะมีขอข้อตกลงสบายๆ ไม่กดดัน”


สัมภาษณ์โดย : ผู้จัดการ Live
ขอบคุณภาพ : แกรมมี่โกลด์ และอินสตาแกรม@yinglee_lalla
กำลังโหลดความคิดเห็น