เป็นคนดังจะพูดวิจารณ์ใครอย่างนั้นก็ได้หรือ? การเอาเรื่องหน้าตาของคนอื่นมาพูดสนุกปากเพื่อโปรโมตรายการ โดยที่ไม่แคร์ความรู้สึกคนถูกวิจารณ์ ติ่งกงยูโอปป้า ย้อนถามหญิงแย้ เป็นคุณชอบมั้ย? เวลามีคนมาล้อเรื่องเบ้าหน้าเดิมของคุณ?
** ปากพาซวยโดนเกลียดเพียงข้ามคืน
กลายเป็นกระแสวิจารณ์กันในโลกออนไลน์ เมื่อ หญิงแย้-นนทพร ธีระวัฒนสุข ได้โพสต์คลิป VDO รายการ โตแล้วแรดได้ เผยแพร่ทางยูทูปของหญิงแย้เอง ในรายการหญิงแย้และพิธีกรหญิงอีกคนได้มีการวิจารณ์หน้าตาของไอดอลและดารานักแสดงชาวเกาหลีชื่อดังมากมายอย่างสนุกปาก
โดยหนึ่งในนั้นคือดาราชายชื่อดัง “กงยู” ที่หญิงแย้ได้พูดถึงกงยูไว้ว่า “ไม่หล่อ สำหรับแย้รู้สึกไม่หล่อ ไม่มีสเน่ห์ หน้าเขาบูดๆ เบี้ยวๆ หน้าแบบไม่หล่ออะ หน้าเหมือนคนกำลังทำศัลยกรรมกำลังตอกๆ อยู่ แล้วหมอมีธุระเลยไม่ได้กลับมาทำต่อ...”
จนเป็นเหตุให้ผู้ที่ได้ชมรายการ รวมถึงติ่งโอปป้ากงยู เก็บอาการโมโห โกรธเกลียดต่อการกระทำดังกล่าวของหญิงแย้ไม่ไหว ขอออกมาปกป้อง “กงยู” และถามกลับมีสิทธิ์อะไรมาวิจารณ์รูปลักษณ์หน้าตาคนอื่นอย่างสนุกปากเช่นนี้
ทันทีที่แรงโหมของติ่งเกาหลีกดดันจนทำให้การพูดเล่นแบบไม่คิดนั้นกลายเป็นกระแสฮอตเพียงชั่วข้ามคืน งานนี้หญิงแย้ได้โพสต์ขอโทษเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ผ่านอินสตาแกรม @yae_uunws โดยระบุว่า
“ขอโทษแฟนคลับดาราเกาหลีทุกคนนะคะ T T ถึงแฟนคลับศิลปินเกาหลีทุกท่าน เนื่องจากเหตุการณ์ที่แย้ได้ลงคลิป VDO โตแล้วแรดได้ EP.3 นินทาโอปป้าเกาหลี ที่ทำให้แฟนคลับของศิลปินไม่พอใจเป็นอย่างมาก ซึ่งแย้ได้ตัดสินใจลบคลิป VDO ดังกล่าว และตัวแย้เองก็ต้องกราบขอโทษทุกท่านจริงๆ โดยแย้จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกค่ะ ขอบคุณค่ะ”
ตามมาด้วยอีกหนึ่งข้อความ “แย้ต้องกราบขอโทษแฟนคลับของศิลปินทุกท่านด้วยนะคะ ที่อาจจะวิพากษ์วิจารณ์ไปในแนวตลก สนุกสนาน แต่ถ้าทำให้ไม่พอใจต้องกราบขอโทษจริงๆ ค่ะ แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นแย้เองก็ชอบศิลปินเกาหลีนะคะ ไม่ใช่ไม่ชอบ แต่มาแซวกันเล่นๆ ไม่ได้มีเจตนาให้ใครเสียหายหรือเป็นการเหยียดแต่อย่างใด ถ้าแย้ทำให้ใครหลายคนไม่พอใจ แย้ต้องกราบขอโทษด้วยนะคะ”
** ห้ามว่ากงยูโอปป้านะ!
งานนี้ผู้สื่อข่าว ผู้จัดการ Live เลยต่อสายสัมภาษณ์ ปาริ หนึ่งในแฟนคลับตัวยง กงยูโอปป้า ถึงกับปรี๊ดแตกเลือดขึ้นหน้าทันทีที่ทราบว่าหญิงแย้ได้พูดผ่านรายการตัวเองว่ากงยูไม่หล่อ เหมือนศัลย์ยังไม่เสร็จ
“กล้าวิจารณ์คนอื่นเรื่องหน้าตาแบบนี้ได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ศัลยกรรมมาทั้งหน้า ผ่านมีดหมอมาเป็นหมื่นเข็ม แต่ต่อให้ศัลย์เสร็จแล้วสวยแค่ไหน หญิงแย้ก็ไม่มีสิทธิ์ไปพูดวิจารณ์ใครแบบนั้น และการที่ออกมาบอกว่ารู้เท่าไม่ถึงการ มันก็ไม่ใช่ เพราะคนระดับนี้แล้ว โตมาแต่งงานมีสามีจนเลิกรามาครั้งหนึ่งแล้ว น่าจะรู้อะไรควรอะไรไม่ควร”
พร้อมอยากถามกลับหญิงแย้ หากย้อนกลับไปตอนที่ยังมีเบ้าหน้าเดิมอยู่ เวลามีคนมาล้อคุณ คุณชอบมั้ย? แน่นอนคุณก็ต้องไม่ชอบเช่นกัน เพราะเชื่อว่าการที่คุณทำศัลยกรรมมานั้นก็เพื่อลดปมด้อยของตัวเองที่มีอยู่ ทำให้ตัวเองดูดี สวยขึ้น แต่การที่คุณสวยขึ้นมาจากการศัลยกรรมแต่การพูดวิจารณ์คนอื่นสนุกปาก ทำให้ “ใจ” คุณนั้นไม่ได้ดูสวยขึ้นมาด้วยเลย
ทั้งนี้เธอยังกล่าวอีกว่า ในฐานะที่เป็นแฟนคลับกงยู มากว่า 9 ปี ชื่นชอบตั้งแต่ซีรีส์เรื่อง Coffee Prince ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 ดังนั้นทุกคนจะรู้ว่าโอปป้าคนนี้ ไม่ใช่ผู้ชายที่หล่อดั่งเทพบุตร แต่เขามีเสน่ห์ด้วยภาพรวมทั้งหมดของเขา ทั้งในเรื่องของการวางตัว ความสามารถในด้านการแสดง นิสัยใจคอ ส่งผลให้ภาพรวมทั้งหมดมันดูกลมกล่อม
รวมถึง นก-วาสนา เกตุเห่ง อายุ 41 ปี ติ่งกงยูมากว่า 8 ปี ก็ขอออกมาปกป้องกงยูด้วยเช่นกันว่า “ตอนแรกที่ดูคลิปได้ฟังหญิงแย้และพิธีกรอีกคนหนึ่งตำหนิดาราเกาหลีหลายๆ คน และทันทีที่ได้ยินเกี่ยวกับกงยู โมโห หงุดหงิด และงงมาก เพราะหญิงแย้อยู่ในวงการนี้มานานพอสมควร ควรมีวุฒิภาวะมากกว่านี้ในการพูดหรือนำเสนอ แม้จะเข้าใจว่าการอัดคลิปตัวนี้ออกมาเพื่อเป็นการโปรโมตช่องยูทิวบ์ของเขาเอง อยากจะพูดอะไรก็พูดออกรายการได้อย่างนั้นหรือ แต่การพูดตำหนิคนอื่นเช่นนี้เป็นการกระทำที่แย่มากๆ ในทุกๆ คำพูดที่หญิงแย้พูดออกมา ทำให้เราเสียความรู้สึก เพราะเขาถือได้ว่าเป็นบุคคลสาธารณะ มีสิทธิ์ขนาดนั้นเลยหรอที่จะไปวิพากษณ์วิจารณ์คนอื่นได้มากขนาดนี้”
นก-วาสนา ยังกล่าวอีกว่า การที่จะมาวิจารณ์ใครขนาดนี้ ควรที่จะมีข้อมูลที่ดีกว่านี้ เพราะถ้าใครที่เป็นแฟนคลับกงยูเองจริงๆ เลยจะรู้ดีว่ากงยูไม่ได้ผ่านมีดหมอในการทำศัลยกรรมใดๆ มาเลย
ทั้งนี้หลังจากเกิดเหตุการณ์วิจารณ์สนั่นโลกออนไลน์ ตนเองได้ดูคลิปที่หญิงแย้ออกมาขอโทษแฟนคลับกงยู และขอโทษต่อการกระทำของตัวเอง เราเองก็พร้อมให้อภัย ถือเป็นบทเรียนแก่ตัวหญิงแย้เอง เพราะคนทำผิดแล้วยอมรับผิดเราก็ควรที่จะให้โอกาส
การวิจารณ์หากเป็นการวิจารณ์ในเรื่องการแสดง เรายอมรับฟังในประเด็นดังกล่าวได้ แต่นี่มาวิจารณ์เกี่ยวกับหน้าตา ที่ไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาพูดล้อเล่นกัน ซึ่งเรื่งนี้ก็คล้ายๆ กับเรื่องของ “ค่านิยมคนไทย” ที่มักจะพูดว่า “คนผิวดำคือคนที่ดูแล้วสกปรก ส่วนคนขาว คือคนที่ดูสะอาดสะอ้าน”
แต่การที่หญิงแย้โยนความผิดไปให้ PD รายการด้วยถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะก่อนเริ่มรายการแน่นอนว่าต้องรู้ประเด็นหัวข้อที่จะพูดเป็นอย่างดี หากตัวเขามองว่าเรื่องนี้ไม่ถูกต้อง ไม่ควรทำ ด้วยพาวเวอร์ของตัวหญิงแย้เองน่าจะมีอำนาจในการพูดคุยต่อรอง หรือแสดงความคิดเห็นได้ เพื่อปรัปแก้สคริปรายการกับ PD ได้
** คนบันเทิงฉุนอย่าล้อเล่นเรื่องหน้าตา
ใช่ว่าจะมีแค่แฟนคลับที่เป็นติ่งเกาหลีเท่านั้น เพราะเหล่าคนบันเทิงชื่อดังในบ้านเราก็เป็นติ่ง “กงยูโอปป้า” ด้วยเช่นกัน งานนี้จึงยิ่งสร้างความร้อนแรงในการแสดงความคิดเห็นและทวีตวิจารณ์ต่อกรณีดังกล่าวอย่างกว้างขวาง
ดังเช่น โอปอล์ ปาณิสรา ซึ่งเป็นแฟนคลับกงยู ได้ออกมาทวีตข้อความว่า “ห้ามว่ากงยูนะ! #ลมหายใจแห่งภาคพื้นเอเชีย”
รวมทั้ง “การล้อเลียนรูปลักษณ์ของคนอื่น มันไม่ตลก...ไม่เคยตลก น้องๆ ที่ชอบ ศลป. เหล่านี้ก็ไม่ได้ผิดที่เค้าไม่รู้สึกตลกไปด้วย การให้เกียรติในความแตกต่างและเท่าเทียมกันของมนุษย์เป็นสิ่งที่ควรเกิดขึ้นไม่ใช่เหรอ”
และ “ต้องหยุดได้แล้วคำว่าแซวเล่นพูดเล่น ปากพาซวยมาหลายคนแล้ว อะไรที่มันเล่นกับการเหยียด การล้อรูปกายคนอื่น ไม่ต้องเอามาแซว ไม่ต้องเอามาพูดเล่น จบ!”
ทั้งนี้ โอปอล์ยังรีทวีตข้อความของ ครูลูกกอล์ฟ เจ้าของสถาบันสอนภาษาอังกฤษ ซึ่งได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ @LoukgolfLG ระบุว่า
“ทำรายการ ไม่ต้องแรง ไม่ต้องด่าใคร ไม่ต้องจิกกัดเสียดสี รายการมันก็รอดได้ รู้ว่าการทำรายการมันเหนื่อย การขึ้นรายการใหม่มันยาก แต่ถ้า เน้นเนื้อหาดี ยังไงก็มีคนดู นี่ที่พูดเพราะก็ทำรายการรอดมาเข้าปีที่ 4 แล้ว ไม่ต้องด่าใคร มันก็สนุกได้ รายการก็รอด คนดูเยอะด้วยนะ”
ด้าน โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ นักร้องนักดนตรีชื่อดังก็ได้ทวีตข้อความ “ผมเป็นผู้ชายครับ และสำหรับผม ผู้ชายแบบกงยู คือโอปป้าที่แท้ทรูหนึ่งในใจ #ไอดอล #โตแล้วแรดได้ #แฟนบอย”
ส่วน ปุ๊กกี้ ปวีณ์นุช ติ่งเกาหลีของแท้ ทวีตข้อความสั้นๆ แต่เจ็บจี๊ดสุดๆ “#อย่ายุ่งกับกงยูผัวกู”
ด้าน ดีเจนุ้ย ตบเท้าทวิตข้อความกับเขาด้วยเช่น “ทุกคนล้วนมีเหตุผลเป็นของตัวเอง #ชั้นก็รักของชั้นเข้าใจบ้างมั้ย #ภายใต้ความรักคือการให้อภัย"
เรียกได้ว่างานนี้ “ปากพาซวยที่แท้ทรู” สำหรับหญิงแย้ เพราะเรื่องของการวิจารณ์เหยียดผู้อื่นเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ แต่หากรู้ตัวว่าทำผิด และยอมรับก็ควรให้อภัย ถือเป็นบทเรียนสำคัญในการคิดตริตรองให้ดีก่อนที่จะพูดอะไรออกมา เพราะหากพูดไม่คิด ผลสะท้อนกลับอาจมีมากจนรับมือแทบไม่ไหวก็เป็นได้...
