xs
xsm
sm
md
lg

สวยสังหาร “พีช-ภู่ระหงษ์” ผู้ปลุกกระแส “มวยหญิงไทย” ให้ดังกระฉ่อนโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


จากเด็กอ้วนหนักกว่า 85 กิโล สู่เส้นทางการเป็นนักมวยหญิงแข้งหนัก “พีช” ภู่ระหงษ์ ศิษย์จ่าแดง หรือ สุพัตรา เขมทองคำ เจ้าของฉายา “สวยสังหาร” วัย 24 ปี ที่มีดีทั้งหน้าตาและฝีไม้ลายมือแม่ไม้มวยไทย เป็นทั้งครูสอนมวยไทย ทั้งกรรมการตัดสินมวยบนสังเวียนผ้าใบ วันนี้เธอมีอีกหนึ่งบทบาทหน้าที่สำคัญในการเป็นส่วนหนึ่งของการปลุกกระแส “วงการมวยหญิงไทย” ให้คึกคักและเป็นที่ยอมรับมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ

** อ้วนกลมจ้ำม่ำสู่สังเวียนนักชกมืออาชีพ

เส้นทางการเป็นนักชกมวยไทยของสาว พีช-ภู่ระหงษ์ เธอเล่าว่า ในตอนนั้นเธอแค่ต้องการมาออกกำลังกาย เพราะน้ำหนัก 85 กิโลกรัม จึงเลือกกีฬา “ชกมวย” ในการรีดน้ำหนักตัวให้ผอมลง แต่หลังจากชกมวยได้ไม่นานก็เกิดรักการชกมวยขึ้นมาอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ชนิดที่เมื่อว่างจากการเรียน เธอเป็นต้องปรี่เข้ายิมมาชกมวย ที่ไม่ใช่ชกสวยๆ ถ่ายรูปอวดเพื่อนบนโซเชียล แต่เธอซ้อมหนักดั่งเป็นนักกีฬาทีมชาติ ทั้งที่การชกของเธอเป็นเพียงการชกเล่นๆ เท่านั้น

“ตอนอายุ 14 ปี ตอนนั้นอ้วนมาก อ้วนที่สุดในชีวิต เพราะเป็นเด็กกำลังกินกำลังโต มารู้ตัวอีกทีน้ำหนักอยู่ที่ 85 กิโลเข้าไปแล้ว เลยหันมาออกกำลังกายด้วยการชกมวย เพราะชอบกีฬาชกมวยอยู่แล้ว รู้สึกสะใจในการได้เตะ ต่อย ประกอบกับเวลาที่ได้เห็นผู้หญิงต่อยมวย ดูแล้วเท่ห์ ตอนนั้นชกมวยแบบบ้าคลั่ง ทั้ง วิ่ง เตะกระสอบ เตะเป้า ลงเชิงเล่นนวม ซึ่งเป็นการฝึกเทคนิคต่างๆ ซ้อมอยู่แบบนี้ทุกวันจนน้ำหนักลดลงเหลือ62 กิโล จาก 85 กิโล ในเวลา 1 ปี”

สาวนัยต์ตาคมยังบอกอีกว่า โปรแกรมการฝึกซ้อมของเธอถือว่าหนักเอาการสำหรับผู้หญิง เพราะไม่ว่าจะเป็นการล่อเป้า เตะกระสอบ วิ่งเรียกเหงื่อ ไม่มีการลดหย่อนผ่อนปรน ผู้ชายอกสามศอกเขาทำอย่างไร เธอก็ต้องปฏิบัติเช่นนั้นเหมือนกัน

ซ้อมมวยอยู่ประมาณ 1 ปีครึ่ง พีช-ภู่ระหงษ์ มีโอกาสได้ขึ้นชกครั้งแรกในฐานะ “นักมวยหญิง” จากค่ายศิษย์ครูแดง แต่การชกในครั้งนั้นเป็นไฟต์ที่เกิดจากความไม่ตั้งใจ เนื่องจากนักมวยในค่ายเกิดอุบัติเหตุข้อเท้าพลิกขณะฝึกซ้อม ทำให้ไม่สามารถขึ้นชกได้ เธอจึงขึ้นชกแทน บนเวทีอัศวินดำที่ถือว่าเป็นเวทีใหญ่และบูมที่สุด ณ เวลานั้น

“เวทีมวยใหญ่ๆ ในตอนนั้นยังมีไม่เยอะ แต่เวทีอัศวินดำที่พีชไปชกตอนนั้นถือว่าใหญ่และดังมากพอสมควร จากอุบัติเหตุที่เพื่อนในค่ายข้อเท้าพลิกขณะซ้อม ครูในค่ายจึงลงความเห็นว่าให้พีชขึ้นชกแทน เพราะตอนนั้นไม่มีใครแล้ว และคู่ต่อสู้เป็นคนเกาหลี

ครูต้องหาคนที่ตัวใหญ่ๆ มาสู้กับคนต่างชาติ ประกอบกับการซ้อมอย่างจริงจังก่อนหน้านี้ของพีช ครูมองว่าเราเป็นมวยแล้วและรู้วิธีการชกมวยพอสมควร จึงขึ้นชกและชนะนักมวยจากเกาหลี ทั้งที่เจ็บมากหน้าบวมไปข้างหนึ่ง ขาเป็นร่องบวมที่เกิดจากการปะทะกัน และเพราะเป็นการขึ้นชกบนเวทีครั้งแรก ถ้าพูดเป็นภาษามวยคือ ตอนนั้นกระดูกยังไม่แข็ง แม้จะเจ็บตัวแต่ก็ไม่เคยคิดที่หยุดชกมวย”

จากกีฬาที่ไม่ได้คาดหวังอะไร ฝึกซ้อมจนสามารถขึ้นไปต่อกรกับคู่ชกจนได้ก้าวขึ้นมาเป็น “นักมวยอาชีพ” อย่างเต็มตัว พีชจึงได้เริ่มชกตามเวทีต่างๆ เรื่อยมา


** ออร่าจับจนคว้าตำแหน่ง “คนสวยมวยสยาม”

นอกจากชื่อเสียงในการวาดลวดลายปล่อยอาวุธเตะหนัก หมัดแรง พีช-ภู่ระหงษ์ ยังสร้างปรากฏการณ์คว้าตำแหน่ง “คนสวยมวยสยาม” จนกลายเป็นกระแสให้คนเริ่มหันมาสนใจวงการมวยหญิงกันมากขึ้น

“ชกมวยตามเวทีต่างๆ ได้สักพัก พีชก็ได้ไปเป็น 1 ใน 8 นักมวยหญิงที่ลงประกวดเวที “คนสวยมวยสยาม” ซึ่งเป็นงานครบรอบ 27 ปี นสพ.มวยสยาม ได้รางวัลชนะเลิศจากการโหวดด้วยการมอบดอกไม้ภายในงานเพื่อนำรายได้เข้ากองทุนฯ นักมวยที่เจ็บป่วยและมอบให้การกุศล”

หลังจากคว้าตำแหน่ง “คนสวยมวยสยาม” ชีวิตเธอก็ต้องเดินสายออกสื่อ ถ่ายรายการตลอดจนแทบไม่มีเวลามาซ้อม แต่เธอก็คิดว่าคุ้มค่ากับเวลาที่หายไปในการซ้อมแลกกับการที่คนในวงการมวยและคนทั่วๆ ไปได้รู้จักตัวเธอและแวดวงมวยหญิงกว้างมากขึ้น

สาวหมัดหนัก ยังกล่าวอีกกว่า การที่เธอมีชื่อเสียงได้จนถึงทุกวันนี้ได้นั้น เพราะเธอเป็นนักมวยหญิงที่ได้เปรียบกว่านักมวยหญิงไทยคนอื่นๆ ตรงที่ เธอเริ่มชกมวยจากในกรุงเทพฯ เมื่อเทียบกับคนอื่นที่อาจจะไต่เต้าการเป็นนักมวยจากโรงเรียนกีฬาตามต่างจังหวัด หรือที่เรียกกันว่า “นักมวยภูธร”

เธอเป็นนักชกรุ่นใหญ่ ที่เมื่อย้อนกลับไปในตอนนั้นการจะหานักมวยหญิงรุ่นใหญ่ในเมืองไทยนั้นแทบงมเข็มในมหาสมุทรก็ว่าได้ ประกอบกับการออกลีลามวยเพียงไม่กี่ครั้งก็เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป

ระยะเวลากว่า 9 ปี พีช-ภู่ระหงษ์ ขึ้นเวทีชกมวย 30 กว่าครั้ง ซึ่งเธอบอกว่า หากเปรียบกับนักชกคนอื่นๆ ที่อยู่มาหลายปีแบบเธอแล้วถือว่าขึ้นชกน้อยมาก ถึงแม้สถิติการชกของเธอจะน้อย แต่กวาดเรียบรางวัลใหญ่แทบทุกเวทีก็ว่าได้

ปล่อยมัด เตะ ต่อยมวยไม่กี่ครั้งเธอก็ได้เข้าไปชกในนามทีมชาติสหพันธ์มวยไทยโลก WMF ด้วยการเป็นนักชก “มวยไทยสมัครเล่น” พีชอธิบายว่า การแข่งขันของมวยสมัครเล่นจะเป็นการแข่งขันแบบทัวร์นาเมนต์ ต่อยไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้เหรียญทอง ครั้งแรกที่ไปชกก็แพ้เลย เพราะประสบการณ์ยังน้อยอยู่ คู่ชกครั้งนั้นชกกับทีมชาติจีน

ครั้งที่ 2 ได้เหรียญทองแดง ชิงแชมป์โลก และตามมาด้วยแชมป์อื่นๆ ทั้งเหรียญเงินมวยไทยสมัครเล่นWMF แพ้ให้กับฝรั่งเศสตอนรอบชิง นอกจากนี้ได้ชิงเข็มขัดเวทีมวยนานาชาติ เป็นแชมป์รุ่น 65 กิโลกรัม ที่หน้า MBK ของสหพันธ์มวยนานาชาติ

อีกทั้งยังได้ต่อย “มวยสากล” มากว่า 8 ทัวร์นาเม้นต์ ประมาณ 10 กว่าไฟต์ ได้เหรียญทองแดงกีฬาแห่งชาติ กับเหรียญทองแดงชิงแชมป์ประเทศไทย ล่าสุดได้เหรียญทอง มวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย และมีชื่อติดทีมชาติสากลอีกด้วย



** ชก-สอน-ตัดสินมวย ครบเครื่องสาวเก่ง

ความชื่นชอบกีฬามวยไทยของสาวพีช นอกจากความชอบส่วนตัวล้วนๆ จนนำไปสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพแล้ว เธอยังได้แอบกระซิบว่า จริงๆ แล้วเธอมีไอดอลที่เธอติดตามผลงานมาตลอด คือ บัวขาว

“ชอบบัวขาวมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ยังไม่ดังในไทย ชื่นชอบเพราะบัวขาวเป็นมวยรุ่นใหญ่ น้ำหนัก 70 กว่ากิโล ตัวเราเองก็เป็นมวยหญิงรุ่นใหญ่ 60-65 กิโลเช่นกัน สไตล์การชกเป็นมวยดุดัน ซึ่งเราชอบมวยสไตล์แบบนี้ อีกทั้งถ้าจะเรียนรู้เรื่องมวยที่ต้องขึ้นชกกับฝรั่งต้องดูบัวขาวเป็นแบบอย่างถึงจะเอาคู่ต่อสู้อยู่ บัวขาวเป็นคนมีเทคนิคมีฝีมือ มีสมอง และเป็นคนไม่กลัวหมัดเวลาต่อยกับคู่ชก กล้าบวก กล้าแลก เป็นมวยเตะขวา แต่เตะซ้ายดีมาก”

ส่วนตัวเธอแล้วชอบ “มวยไทย” มากกว่า “มวยสากล” เพราะมวยไทยดูครบเครื่อง หมัด เท้า เข่า ศอก หลายคนบอกว่ามวยไทยเจ็บที่สุด แต่สำหรับพีชคิดว่า มวยสากลเจ็บที่สุดเพราะต่อยได้แค่ศีรษะ กับท้อง เวลาโดนต่อยจะมึนและกระทบกระเทือนมาก แต่สำหรับมวยไทยแล้วเลือกเจ็บตัวได้หลายส่วนทั้งขา เอว ตัว
สำหรับอาวุธที่ถนัดมวยไทยจะเป็น “เตะขวา” เพราะชอบเตะ แต่จะไม่ถนัดวงใน ไม่ชอบตีเข่า ส่วนมวยสากล อาวุธเด็ดจะเป็น “หมัดแย็บ” ด้วยความที่เป็นคนตัวสูงใหญ่ ดังนั้นหมัดที่ส่งออกไปจะเป็นหมัดหนัก หน้ายาว แย็บกระแทก

นอกจากการเป็นนักมวยขึ้นชกบนสังเวียนแล้ว สาวเก่งคนนี้ยังขอเป็นอีกหนึ่งแรงพลักดันช่วยปลุกกระแสมวยหญิงไทยให้ได้รับความสนใจและเป็นที่รู้จักมากขึ้น จากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ด้วยการเอาศิลปะวัฒนธรรมไทยไปเผยแพร่ และโชว์การใช้อาวุธแม่ไม้มวยไทยยังต่างประเทศในการเป็นตัวแทนฑูตวัฒนธรรมไปเผยแพร่ศิลปะมวยไทยยังต่างประเทศ ทั้งฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมัน รัสเซีย จีน เป็นต้น

รวมถึงการป็นครูสอนมวยอาชีพ ได้ลายเส้นของการกีฬาแห่งประเทศไทย ในระดับ A ก่อนหน้านี้เคยไปสอนให้กับนักเรียนนายร้อยตำรวจหญิง เคยไปสอนในศูนย์วัฒนธรรม รวมถึงรับหน้าที่เป็นกรรมการตัดสินมวยในหลายๆ เวทีอีกด้วย ปัจจุบันทำงานอยู่ในโครงการ “สุดสวยมวยไทย” ของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)



** ผลักดันมวยไทยสู่เวทีระดับโลก

เทรนด์ผู้หญิงมาออกกำลังกายด้วยการชกมวย เริ่มมาบูมเมื่อประมาณ 3-4 ปีที่ผ่านมา การเลือกออกกำลังกายด้วยการชกมวยเป็นการออกกำลังที่ดีเพราะได้ขยับทุกส่วนของร่างกาย นอกจากร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังเป็นการป้องกันตัวได้ด้วย ทำให้มีความมั่นใจมากขึ้น

แต่ในอีกมุมหนึ่ง “การชกมวย” ถือเป็นการได้สืบสานวัฒนธรรมไทย เพราะคนไทยยังเล็งเห็นว่ามวยไทยไม่ได้เอามาเพื่อชก ไม่ได้เอามาเพื่อเจ็บตัวเท่านั้น แต่ยังสามารถนำมาทำให้สวยงามก็ได้ ทำให้แข็งแรงก็ได้ ทำให้เป็นการออกกำลังกายก็ได้ แล้วยังเป็นสีสันได้ด้วย

พีชบอกอีกว่า ผู้ที่มาเรียนมวยในสมัยนี้ ไม่ได้ต้องการที่จะรู้ลึกถึงความเป็นมา หรือประวัติมวยไทยอะไรมากมาย สิ่งที่พวกเขาเหล่านั้นต้องการคือการมาออกกำลังกาย หรือไม่ก็ตามเทรนด์เท่านั้น ดังนั้นจึงไม่แปลกใจหากคนที่ชกมวยสมัยนี้จะไม่ได้รู้ลึกจริงๆ เกี่ยวกับเรื่องราวของมวยไทยเลย

ดังนั้นแล้วเธอจึงต้องการให้เด็กรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ และรู้ถึงความเป็นมวยจริงๆ บ้าง ว่ามวยมาจากอะไร เพื่อที่มวยไทยจะได้อยู่ไปนานๆ ไม่พลิกแพลงไปเป็นอย่างอื่น อยากให้ช่วยกันรักษาไปจนชั่วลูกชั่วหลาน

รวมทั้งอยากให้ผู้ใหญ่หรือว่าผู้ที่เกี่ยวข้องได้สนับสนุน นักชกหญิง โดยพีชเองอยากทำให้ไปได้ไกลถึงระดับนานาชาติด้วยซ้ำ นักมวยหญิงไทยเก่ง การที่นักมวยต่างชาติได้มาชกกับนักมวยหญิงไทย เขาถือว่า เขาประสบความสำเร็จแล้วที่ได้มาชกกับนักมวยหญิงไทย บางคนยอมแพ้แต่ขอแค่ให้ได้มาชกแค่นี้ก็พอแล้ว

เพราะมวยไทยเป็นออริจินัล และนักมวยหญิงไทยเก่ง แต่ต้องล้มหายตายจากไปเพราะไม่มีคนสนับสนุน นับเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย อยากให้ผู้ใหญ่และผู้ที่เกี่ยวข้องหันมาเล็งเห็นเพราะตลาดตรงนี้ขายได้ อยากให้มาสนับสนุนให้เติบโตขึ้นไป

เมื่อถามถึงค่าตัวของนักชกหญิงทุกวันนี้ สาวตาคมบอกว่า นักกีฬามวยไม่ใช่กีฬาที่ได้เงินเยอะ ไม่ได้ลำบากจนถึงต้องมาชกมวยเลี้ยงชีพ แต่พีชชกมวยเพราะใจรักล้วนๆ ไม่ได้เป็นการชกเพราะต้องเลี้ยงชีพ

“ค่าตัวนักมวยหญิงรุ่นแรกๆ เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วเริ่มที่ 500 บาท ของพีชเริ่มชกก็เริ่มที่ 500 บาทเช่นกัน รายได้นี้ไม่รวมเงินอัดฉีด พีคสุดของพีชได้ค่าตัวขึ้นชก 50,000 บาทเมื่อ 4 ปีที่แล้วซึ่งเมื่อก่อนถือว่าเยอะ เมื่อเทียบกับวันนี้รายได้นักมวยหญิงหากเป็นไฟต์ต่างประเทศค่าตัวจะอยู่ที่ 2แสนบาท หากเป็นไฟต์ในประเทศค่าตัวเริ่มที่ 25,000 บาทต่อไฟต์”

รายได้จากการชกมวย พีชมองว่าอาชีพชกมวยสร้างรายได้ให้กับนักชกหรือไม่นั้น เธอมองว่ารายได้นี้เป็นรายได้ที่ไม่เพียงพอที่จะสามารถเลี้ยงชีพได้ เพราะรายการมวยหญิงในประเทศไทยยังมีน้อย เวลาจัดมักจะเห็นแต่นักชกหน้าเดิมๆ ส่งผลให้นักชกเหล่านี้เมื่อต้องไปสู้กับต่างชาติไม่สามารถสู้กับนักมวยต่างประเทศได้

อีกทั้งอายุของการเป็นนักมวยหญิงนั้นมีอายุที่สั้น พีชเริ่มต้นตั้งแต่อายุ 15 ปีปัจจุบันเลือกงานโชว์ตัวและงานสอนมากกว่า เธอไม่อยากใช้ร่างกายหักโหม เนื่องจากสภาพร่างกายผู้หญิงที่ไม่สามารถใช้ได้นาน และไม่แข็งแรงเท่าผู้ชาย นักชกผู้หญิงบางคนก็มีครอบครัวมีลูก ดังนั้นจึงเป็นจุดที่ทำให้เธอต้องการที่จะสร้างนักมวยหญิงหน้าใหม่ๆ ขึ้นมาเพื่อที่วงการนักมวยหญิงจะได้ไม่เงียบหายไปอีก




** พักนวม 2 ปี รักษาอาการป่วย

ไม่ได้ขึ้นชกมาประมาณ 2 ปี เพราะพักรักษาอาการป่วย “เนื้องอกในมดลูก” ทำให้มีผลกระทบกับการชกมวยพอสมควร

“จริงๆ อาการป่วยนี้จะกระทบเวลาเป็นประจำเดือนเท่านั้น ทำให้ปวดท้องหนักมาก จนไม่สามารถทำอะไรได้ ไม่มีแรง ตอนนี้รักษาด้วยการฉีดฮอร์โมนทำให้น้ำหนักขึ้นมา 5-7 กิโลกรัม ส่งผลให้เรารู้สึกอืด ไม่คล่องตัวเหมือนเมื่อก่อน ล่าสุดไปเช็คอาการที่โรงพยาบาลผลการรักษาดีขึ้น ขนาดของซีสต์เล็กลง ตอนนี้เหลือขนาด 3-4 เซนติเมตรเท่านั้น”

นอกจากนี้มีอาการปวดหลังช่วงล่าง ซึ่งเป็นผลจากการมีพังผืดจากการรักษามดลูก ซึ่งตอนนี้คุณหมอได้อนุญาตให้ออกกำลังกายเบาๆ ได้บ้างแล้ว โดยก่อนหน้านี้เคยลองเล่นเวท แต่ยังรู้สึกเจ็บเลยหลีกเลี่ยงไปก่อน เลยเปลี่ยนมาเป็นการยืดเส้น ยืดกล้ามเนื้อเบาๆ แทน

ประกอบกับตอนที่ต่อยมวยสากล เส้นพลิกเข้ากระดูกแขน ทำให้แขนขวาใช้ไม่ได้ พอต่อยมวยหรือออกแรงจะชา เลยต้องรักษาอาการนี้เป็นปีกว่าจะหายดี

สาวพีชยังบอกอีกว่า ตอนนี้ใจยังอยากกลับมาชกมวย เพราะชื่อเธอยังคงติดอยู่ในวงการ และมีความเคลื่อนไหวตลอดเวลาที่ไม่ได้ขึ้นชก ไฟต์ไหนเธอไม่ได้ขึ้นชก เธอก็จะขึ้นเป็นกรรมการ ทั้งนี้หากหายป่วยและร่างกายฟิต 100 เปอร์เซ็นต์เป็นไปได้จะกลับมาคืนสังเวียนอีกครั้งแน่นอน

ส่วนอนาคตเธอบอกว่า กำลังจะเปิดสปอร์ตคอมเพล็กซ์ซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัว ประกอบด้วยสนามฟุตบอล ฟิตเนส และเธออยากจะใส่มวยเข้าไปด้วย เพราะคิดว่าชีวิตเธอไม่ว่ายังไงก็ยังจะทำเกี่ยวกับ “มวยไทย” ไปตลอดชีวิต

การต่อยมวยเป็นบันไดชีวิตของพีช แม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นนักมวยหญิงที่เก่งที่สุด แต่เรารักในตรงนี้และเราก็อยากที่จะทำตรงนี้ให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการหมั่นทำรายการจัดไฟต์ชกหญิง จนตอนนี้เรียกได้ว่าถ้าใครจะทำอะไรเขาจะคิดถึงเราเป็นอันดับแรกๆ

เมื่อพูดถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวและการสนับสนุนเรื่องชกมวย สาวพีชตอบพร้อมอมยิ้มว่า เธอโชคดีที่มีคุณพ่อ พ.ต.ท.สมนึก เขมทองคำ อัยการจังหวัด และคุณแม่ สุกัลย์ เขมทองคำ ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับบริษัทภาพยนตร์ คอยให้การสนับสนุนอยู่เสมอ

“คุณพ่อคุณแม่ให้การสนับสนุนเต็มที่ พร้อมทั้งไม่เคยว่าอะไร ครอบครัวพีชจะปล่อยถ้าลูกชอบอะไรก็ให้สิทธิ์ทำได้เต็มที่เลย อาจจะมีคุณแม่ที่เป็นห่วงบ้างด้วยความที่เราเป็นลูกผู้หญิง ทุกครั้งเวลาที่ลงจากเวทีหน้าตาเขียว บวมปูด คุณแม่จะเป็นคนคอยหายามาทาประคบให้ ส่วนคุณพ่ออาจจะมีบ่นบ้างถ้าไฟต์ไหนเราเตรียมตัวไม่ดีขึ้นชกแล้วเจ็บตัวกลับมา แต่ทั้งคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ได้บอกให้เลิก หรือว่าเฮิร์ทที่เห็นลูกเจ็บตัว

ที่ผ่านมาคุณพ่อไม่เคยไปดูพีชขึ้นชกบนเวทีเลยสักครั้งตั้งแต่ต่อยมวยมา 9 ปี ไม่เคยแม้จะไปเหยียบเวทีมวยเลย จริงๆ แล้วพ่อไม่ได้สนับสนุน ไม่ได้ชอบมากมาย แต่ไม่ห้าม” สาวพีชกล่าว

พีชยังบอกอีกว่า การที่เธอเป็นคนชื่นชอบในเรื่องของกีฬา คงเป็นผลมาจากการที่ครอบครัวของเธอนั้นชอบออกกำลังกาย เพราะตั้งแต่สาวพีชจำความได้เธอก็เห็นคุณพ่อชอบออกกำลังกาย ทั้งเตะบอล ว่ายน้ำ ตีกอล์ฟ มวยพ่อก็เคยต่อย บางครั้งก็เล่นยูโด แม้ทุกวันนี้คุณพ่อวัยใกล้ 60 ปีแต่ท่านก็ยังออกกำลังกายอยู่เสมอ ส่วนคุณแม่ ว่างๆ ก็จะมาซ้อมมวยเป็นเพื่อน ซึ่งนอกจากชกมวยแล้วคุณแม่ก็จะชอบเล่นโยคะ และเข้าฟิตเนส

วันนี้ด้วยวัยเพียง 24 ปี แต่ “พีช” ภู่ระหงษ์ หรือ สุพัตรา เขมทองคำ เจ้าของฉายา “สวยสังหาร” ที่ชื่นชอบเกี่ยวกับ “มวยไทย” ที่แม้ตอนนี้ร่างกายของเธออาจจะยังไม่พร้อมให้ขึ้นสังเวียนท้าแข้งกับใคร แต่เธอก็ไม่ได้อยู่นิ่งเฉย ยังคงหาช่องทางส่งเสริม “มวยไทย” ให้เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะ “นักมวยหญิงไทย” ...

เรื่องโดย : นับดาว รัตนสูรย์
ภาพประกอบโดย : พลภัทร วรรณดี









นางฟ้าหมัดหนัก 4 ดาวรุ่งนักมวยหญิงไทย

1. ชมมณี ส.เต๊ะหิรัญ อายุ 21 ปี ฉายาแข้งพิฆาต

2. สาวสิงห์ ส. โสพิศ อายุ 21 ปี ฉายาอัศวินสาวเมืองสิงห์

3. น้ำตาล พ.เมืองเพชร อายุ 22 ปี ฉายาขุนเข่านางแบบ

4. ซาซ่า ศ.อารีย์ อายุ 23 ปี ฉายาสาวสวยจอมน็อคเอ้าท์
กำลังโหลดความคิดเห็น