มีคำกล่าวว่า โจรขึ้นบ้านสิบครั้งไม่เท่าไฟไหม้ครั้งเดียว ไฟไหม้สิบครั้งก็ไม่เท่ากับแพ้คดีหย่าครั้งเดียว และคนที่รู้ซึ้งถึงสิ่งที่ว่ามานี้คือ อดีตพระเอกคิวทองของฮอลลีวูดนามว่า เบรนเดน เฟรเซอร์ หรือที่เรารู้จักกันดีจากหนัง The Mummy นั่นเอง
อดีตพระเอกผู้มีเคยมีค่าตัวถึง 20 ล้านดอลลาร์ กำลังอยู่ในช่วงย่ำแย่ที่สุดในชีวิต ภายหลังจากที่เขาแพ้คดีหย่ากับภรรยาในปี 2007 หลังมีข่าวออกมาว่า เจ้าตัวได้ทำร้ายภรรยาหลังทะเลาะเบาะแว้งกันอย่างหนัก จนสุดท้ายทุกอย่างไปจบที่การฟ้องศาล ซึ่งเฟรเซอร์ได้พ่ายแพ้ให้กับภรรยาตัวเองและลูกของตัวเองด้วยการต้องจ่ายเงินหลายสิบล้านเหรียญตามคำสั่งศาล
“ผมอยากกล่าวขอโทษภรรยาที่ผมกระทำสิ่งที่เลวร้ายลง ผมอยากขอโทษลูก ๆ ที่ผมทำลงแบบนี้ นี่คือสิ่งที่ผมผิดพลาดและอยากจะขอโทษทุกคนที่ผิดหวังในตัวของผม”
นอกจากพ่ายแพ้ให้กับภรรยาแล้ว เฟรเซอร์กลายเป็นผู้ร้ายในสายตาของฮอลลีวูดไปทันที หลังจากข่าวฉาวหลุดออกมา หนังที่เคยมีให้เล่นปีละสี่ห้าเรื่องถูกถอดออกจนหมด ส่งผลให้เขาตกงานโดยทันทีที่สำคัญคือ ฮอลลีวูดไม่มีใครต้องการเขาอีก แม้ว่าจะพยายามบากหน้าของานจากสตูดิโอที่เคยสร้างชื่อตัวเองอย่าง ยูนิเวิลด์แซล แต่สิ่งที่เฟรเซอร์ได้รับคือ การปฏิเสธเนื่องจากข่าวฉาวเรื่องการทำร้ายภรรยานั้นทำให้ภาพลักษณ์พระเอกคนดีเสียไปหมดในชั่วพริบตา
ดีที่ว่าชื่อเสียงของเขาสมัยเล่นมัมมี่นั้นยังช่วยชีวิตเขาเอาไว้ได้ ทำให้พอจะมีหนังที่มีสตูดิโอต่างประเทศติดต่อมาบ้าง อาทิ หนังอนิเมชั่น The Nut Job ที่มีสตูดิโออยู่แอฟริกา หรือ หนังของ Reality media ที่มีสตูดิโออยู่เยอรมัน ซึ่งเมื่อส่งไปยังอเมริกา มันจะถูกส่งลงแผ่นหรือฉายโรงเล็ก ๆ ก็เท่านั้นเอง
“ผมเคยมีหนังเล่นมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านดอลลาร์ แต่ตอนนี้ผมแทบไม่มีงาน ไม่มีคนยื่นข้อเสนอมาให้ ผมถูกถอดออกจากหนังที่ผมเคยเป็นตัวเอกในภาคสองเพื่อให้คนอื่นมาแสดงแทนผม (เฟรเชอร์หมายถึง แฟรนไชส์ Journey to the Center of the Earth ที่เขาถูกถอดออกแล้วได้เดอะร็อคมาเล่นแทน) โชคดีที่ผมพอจะมีที่ทางจากพรรคพวกนอกฮอลลีวูดอยู่บ้างในตอนนี้”
ล่าสุด เฟรเซอร์ไปไกลถึงบอลลีวูด ดินแดนภารตะเพื่อร่วมแสดงในหนังอินเดียที่มีชื่อเรื่องว่า The Field ในบทตัวร้าย ซึ่งเขาไม่เคยทำมาก่อน แต่ต้องทำด้วยเหตุผลเรื่องเงินล้วน ๆ
“ตอนนี้ผมต้องใช้เงิน ผมจำเป็นต้องรับเล่นทุกบทเท่าที่มีคนเสนออยู่ดี”
เฟรเซอร์กล่าวถึงตัวเองที่ต้องรับบททุกอย่างในตอนนี้เพื่อหาเงินไปให้กับภรรยาและลูกหลังคดี มันทำให้เขาต้องรับบททุกอย่างที่ทุกคนเสนอมาโดยไม่เกี่ยงงอนใดๆ ซึ่งตัวเขายอมรับว่า นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจากกระทำแย่ๆ ของเขานั่นเอง และ วอนขอโอกาสอีกครั้งในวงการนี้
“ผมอยากขอโอกาสอีกครั้ง ผมอยากเล่นหนัง และ พร้อมเล่นทุกบทที่เสนอมา ขอแค่มีโอกาสได้เล่นอีกครั้งเท่านั้น”
นี่คืออุทาหรณ์ในยุคที่มีการปลุกระดมสิทธิสตรีกันอย่างจริงจัง สิ่งที่คุณทำพลาดมันอาจเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบ แต่มันอาจทำให้ชีวิตคุณลงเหวได้