เกินไปมั้ย! ที่จะมาหากินกับ “คนตาย” ด้วยการทำธุรกิจจัดการเกี่ยวกับการ “ทำศพ” ให้กับผู้เสียชีวิตก่อนที่ญาติๆ จะนำศพไปประกอบพิธีทางศาสนา ด้วยราคาค่าใช้จ่ายสูงลิ่วตั้งแต่ 5,000 - 8,000 บาท ทั้งที่ความเป็นจริงราคาอยู่ที่ 1,000-2,000 บาทเท่านั้น กับลิสต์รายการยาวเป็นหางว่าว จัดมาเป็นแพคเก็จดั่งถูกบังคับของ รพ.รัฐแห่งหนึ่ง ใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่ญาติผู้เสียชีวิตต้องจ่าย หากไม่จ่ายห้ามนำศพกลับ แถมบิลเรียกเก็บยังเป็นบิลเงินสด ไม่มีหัวของ รพ.ด้วยซ้ำ เอ๊ะ! ยังไง ด้าน ผอ.รพ. งดตอบสื่อขอแถลงข่าวทีเดียวเลย
** มาเฟียใน รพ.หากินกับคนตาย
กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียลขึ้นมาทันที เมื่อมีผู้โพสต์เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า เด็กเมืองชล คนแปดริ้ว ได้โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความเมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นบิลค่าใช้จ่ายในการทำศพของโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง ใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พร้อมข้อความตัดพ้อเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการจัดการศพของเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลที่ดูเกินจริง
ประกอบด้วยค่าบริจาคจิตอาสา 500 บาท ค่าฉีดยาศพ 2,000 บาท ค่าแต่งตัว-อาบน้ำทำความสะอาด 350 บาท ค่าพลาสติกห่อศพ 300 บาท ผ้าขาวรอง-ห่อศพ 200 บาท ค่าหมอน+ผ้าแพร 700 บาท ชุดเชิญ+กระดาษ 700 บาท ถุงซิบใส่ศพ 1,000 บาท รวมทั้งสิ้น 5,750 บาท
ผู้โพสต์ได้อธิบายเพิ่มเติมพร้อมกับไม่เห็นด้วยกับคำว่า “ค่าบริจาคจิตอาสา” ซึ่งทำให้หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเงินที่ทางมูลนิธิต่างๆ เรียกเก็บ ซึ่งความเป็นจริงไม่ใช่
“เพราะเหตุนี้ไง...ทำไมพวกเราถึงต้องจัดหาโลงฟรีให้กับญาติผู้เสียชีวิต...เพราะตอนนี้เราอยู่ในยุคที่ว่า #ไม่มีเงินห้ามตาย #กูงงชิบหายค่าจิตอาสา500บาท #ไม่แท็กนะว่าโรงพยาบาลไหนให้เห็นเอง #บอกไว้ก่อนนะครับทุกคนว่าค่าจิตอาสา500บาทนั้นไม่เกี่ยวข้องกับกู้ภัยที่นำร่างส่งนะครับ #เพราะฉะนั้นอย่าใช้คำว่าจิตอาสาให้ไปใช้คำว่า "เข็นศพ" แทนนะครับ ปล.นี่ดีนะยังไม่มีค่าโลงกับฝากแช่”
ทันทีที่โพสต์ข้อความออกไปในเวลาเพียงไม่กี่นาที ชาวโซเชียลฯ ได้มีการแชร์ข้อความและแสดงความคิดเห็นไม่เห็นด้วยกับการเรียกเก็บเงินค่าจัดการศพของทางโรงพยาบาลนี้เป็นอย่างมากว่าเป็นราคาเกินจริง ไม่กลัวบาปกรรมบ้างหรืออย่างไร บ้างก็บอกว่าเคยถูกทางโรงพยาบาลแห่งหนึ่งบังคับให้ซื้อโลงศพด้วย บางรายถึงกับสงสารคนไม่มีเงิน ที่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินเพื่อมาจ่ายค่านำศพกลับไปประกอบพิธี
** อย่าใช้คำว่า “บริจาคจิตอาสา”
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวผู้จัดการ Live ได้โทรศัพท์สัมภาษณ์เจ้าของโพสต์ เด็กเมืองชล คนแปดริ้ว ทราบข้อมูลเพิ่มเติมว่า โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นโรงพยาบาลรัฐ ใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยที่เมื่อก่อนค่าจัดการศพของโรงพยาบาลแห่งนี้ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายที่สูงจนเกินไป ราคาอยู่ที่ประมาณ 1,000- 2,000 บาทเท่านั้น
แต่ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 60 ที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลได้เปิดประมูลและให้สัมปทานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายโลงศพ ได้เข้ามาดำเนินกิจการในการจัดการศพของทางโรงพยาบาล ก่อนที่ญาติๆ จะสามารถนำศพไปประกอบพิธีการต่อได้ โดยที่ทางญาติผู้เสียชีวิตไม่สามารถปฏิเสธค่าใช้จ่ายใดๆ ที่ทางโรงพยาบาลแห่งนี้เรียกเก็บได้ ซึ่งค่าใช้จ่ายกลับสูงขึ้นกว่าเท่าตัวตั้งแต่ 5,000 - 8,000 บาทแล้วแต่จะเรียกเก็บแกมบังคับ
นอกจากนี้เจ้าของโพสต์ยังกล่าวอีกว่า การจัดการศพของทางบริษัทเอกชนแห่งนี้ไม่เคยสอบถามความสมัครใจกับทางญาติผู้เสียชีวิตก่อนว่าต้องการให้ทำอะไรบ้าง เช่น ญาติผู้เสียชีวิตบางรายต้องการนำศพกลับไปฉีดยาฟอร์มาลีนเอง ทางเจ้าหน้าที่กลับปฏิเสธพร้อมแจ้งว่าได้ฉีดยาให้เรียบร้อยแล้ว พร้อมแจ้งรายการค่าใช้จ่ายทั้งหมดลงไปในบิลว่าเป็นค่าอะไรบ้าง บางคนมีเงินไม่พอจ่ายก็ต้องวิ่งหายืมเงินมาจ่ายถึงจะสามารถนำศพผู้เสียชีวิตออกจากโรงพยาบาลได้
สาเหตุของการออกมาโพสต์ข้อความในครั้งนี้ เด็กเมืองชล คนแปดริ้ว บอกว่า อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในโรงพยาบาลดังกล่าวเปลี่ยนคำว่า “ค่าบริจาคจิตอาสา” เป็นคำว่า “เข็นศพ” แทน เพราะคำว่า “บริจาคอาสา 500 บาท” นั้น ทำให้หลายคนเข้าใจผิดเหมารวมคิดว่าค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เป็นเงินที่ทางเจ้าหน้าที่จากทางมูลนิธิต่างๆ เป็นคนเรียกเก็บ ซึ่งแท้จริงแล้ว เจ้าหน้าที่มูลนิธิต่างๆ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้นเลย การเขียนข้อความเช่นนี้สร้างภาพลักษณ์ในด้านลบให้กับคนทำงานตรงนี้อย่างมาก
ทั้งนี้ทางผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อเพื่อขอสัมภาษณ์ นพ.ราเมศน์ อำไพพิศ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลต้นเรื่อง ว่าเรื่องที่ถูกแชร์ทางโซเชียลฯ นั้นเป็นจริงหรือไม่อย่างไร แต่ไม่สามารถติดต่อขอสัมภาษณ์ได้ มีเพียงเจ้าหน้าที่ของทาง โรงพยาบาลรับเรื่องไว้และแจ้งว่า ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะมีการแถลงข่าวในวันที่ 17 พ.ย. 60 เวลา 10.00 น. ณ.ห้องประชุมชั้น 4 รพ.แหลมฉบัง (อ่าวอุดม)
** คนเป็นพ้อค่าทำศพ แพงเวอร์
ด้านชาวโซเชียลฯ ต่างพากันออกมาแชร์ความคิดเห็นถึงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดการศพของทาง รพ. ต่างๆ ทำให้หลายๆ คนถึงกับอึ้ง! ว่าทุกวันนี้ค่าใช้จ่ายสูงขนาดนี้กันเลยทีเดียว
“เรื่องจริงครับ ของผมพ่อเสียที่ รพ.ชลบุรี เสียค่าเอาศพออกพอสมควร จำได้ว่ามีค่าฉีดศพ นั่นนี่โน่น ประมาณ 9,000 กว่าบาท พอไปร้องเรียนที่ห้องรับเรื่องร้องเรียน เจ้าหน้าที่ในห้องบอกให้ทำใจครับ เพราะโรงพยาบาลให้เอกชนเช่าพื้นที่หากิน ได้แต่คิดในใจขอให้เจริญๆ ครับ” Nato Desuka
“แล้วแต่ศพรึเปล่า เพราะตอนไปรับศพพี่ที่โรงบาลตำรวจ เสียค่าใช้จ่ายไปพันกว่าบาทเอง แต่ไม่ได้ฉีดยา ไม่ได้ใส่ถุงซิป” หนึ่ง มิถุนา มิ้งค์
“เหมือนที่จังหวัดกาญจนบุรีเลยค่ะ มีค่าพิธี และอื่นๆ รวมแล้วก็ประมาน 5,000 กว่าๆ ไม่มีเงินเอาศพออกไม่ได้ ญาติต้องขอร้องนำศพไปทำพิธีก่อน แต่ยึดบัตรประชาชนไว้ แล้วมีเงินค่อยมาเอาคืน ครอบครัวที่เขาไม่มีจริงๆ ก็ไม่มีจะให้” นู๋ใบข้าว มากมาย
“ขนาดที่สมุยเมืองท่องเที่ยวแท้ๆ ถ้าศพไหนญาติไม่มีเงิน โลงศพฟรี ผ้าขาวฟรี รถขนศพส่งวัดฟรี ทำพิธีทางศาสนาฟรี มูลนิธิจัดการทั้งหมด แต่ในโพสต์นี้คือที่ไหนหรือคะ? ทำไมจึงแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง” Duangkamol Jaiyong
นอกจากนี้บางคนกลับสงสัยพร้อมตั้งคำถามเกี่ยวกับรูป “ใบเสร็จ” หากใบเสร็จเรียกเก็บเงินนี้เป็นของ โรงพยาบาลรัฐจริงหรือไม่? เหตุใดใบเสร็จเรียกเก็บเงินถึงไม่มีตราของโรงพยาบาล แต่กลับเป็นบิลเงินสดธรรมดาเช่นนี้ อย่างไรก็ตามก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าความจริงเป็นเช่นไรกันแน่...