xs
xsm
sm
md
lg

EVEANDBOY “90% ลดล่อเป้า-บริการห่วย” การตลาดเชิงลบ..ผู้บริโภคเอาผิดได้!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
“สินค้าลดไม่ตรงโฆษณา, ของหมดตั้งแต่เปิดร้าน, บริการห่วยขั้นเทพ” ดรามาเดือดโลกออนไลน์ หลังสาวกนักช็อปผิดหวัง ร้าน EVEANDBOY โฆษณาล่อเป้าปั่นประสาท! โปรโมตลด 90% แต่เรื่องจริงผิดจากที่โฆษณา ล่าสุด ชี้แจงจดหมายขออภัย อ้างสื่อสาร-ประสานงานผิดพลาด มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคย้ำ 'สินค้า-บริการไม่เป็นธรรม..ผู้บริโภคเอาผิดได้!'




โฆษณาเกินจริง..ผู้บริโภคมีสิทธิ์เรียกร้อง!

“ราคาเครื่องสำอางค์ นี่เหมือนโดนหลอกไปซื้อ มันไม่ใช่ราคาตามที่ประกาศ แบบนี้มันหลอกลวงผู้บริโภคชัดๆ บริการก็ห่วย พนักงานจ้องอย่างกับเราไม่ใช่ลูกค้า นึกว่าเป็นขโมยหรือไง!”
 
หนึ่งในความคิดเห็นจากลูกค้ารายหนึ่งที่เดินทางไปซื้อสินค้า ในวันงาน 'Shocking Pink Day' จากคอสเมติกมัลติแบรนด์ชั้นนำ 'EVEANDBOY' ต้องผิดหวังอย่างหนัก เมื่อป้ายโปรโมตชูราคาลดกระหน่ำ 90% จนทำเอาสาวๆ เกือบทั้งเมืองต่อคิวเรียงรายจนล้นสยามสแควร์ สร้างปรากฏการณ์ 'งีบแอนด์คอย' สมชื่อ! แต่กลับต้องผิดหวัง

เมื่อพบว่าสินค้าไม่ลดราคาตามที่โฆษณาไว้ ทั้งยังมีปัญหาเรื่องการให้บริการของพนักงานภายในร้าน, การได้สินค้าที่คุณภาพยอดแย่ แถมโดนทวงคืนภายหลังจากที่ซื้อสินค้าไปแล้ว โดยอ้างเหตุผล 'ยังขายไม่ได้ ขอคืน พร้อมให้เงินคืน แถมของสัมนาคุณ' ทำเอาสาวๆ ขาช็อปที่อุตส่าห์ต่อคิวครึ่งค่อนวัน ต้องผิดหวังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ค่อนเมือง!

ทางทีมข่าวจึงต่อสายตรงไปยัง “นฤมล เมฆบริสุทธิ์” หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เพื่อไขข้อแคลงใจของสังคมในขณะนี้ ถึงการกระทำของผู้ประกอบการที่ถูกครหาอย่างหนักว่า 'เข้าข่ายหลอกหลวงผู้บริโภคหรือไม่' จึงได้คำตอบถึงประเด็นนี้ว่า “ถ้าคุณโฆษณาอย่างหนึ่ง แต่ปฏิบัติอีกอย่างหนึ่ง มันก็คือการโฆษณาที่เป็นเท็จ”


 
หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ให้คำตอบกับทีมข่าวผู้จัดการ Live ถึงประเด็นร้านคอสเมติกมัลติแบรนด์ดัง 'EVEANDBOY' หลังเจอกระแสดรามาถูกจวกถล่มเละทั่วโลกออนไลน์

“มันก็แบ่งได้หลายสถานการณ์นะคะ อย่างแรก โฆษณาที่เป็นเท็จแน่นอน เพราะคุณไม่ได้ปฏิบัติตามที่คุณโฆษณาเลย อย่างที่สอง การให้บริการของคุณไม่ได้เป็นไปตามนั้น แถมเมื่อซื้อกลับมาแล้ว สินค้ายังมีความชำรุด-บกพร่องอีก หลักๆ มีสามประเด็นที่ผู้บริโภคเจอปัญหา

ต้องดูที่เรื่องเจตนา ว่าเจตนาได้ลวงให้ผู้บริโภคเข้าไปในร้านค้า เพื่อให้ซื้อสินค้า มันก็เข้าข่ายในการหลอกให้ผู้บริโภคเข้าไปจ่ายเงิน ซึ่งถ้าเป็นเรื่องของการโฆษณาที่เป็นเท็จ มันก็มีตัวกฎหมายที่เอาผิดเรื่องนี้อยู่”

หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค ยังยืนยันกับทีมข่าวอีกด้วยว่า ผู้บริโภคที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมสามารถเรียกร้องสิทธิ์ของตนได้ ตามหลักการสิทธิผู้บริโภค 5 ประการ

“ลูกค้าสามารถเอาผิดได้ โดยการแจ้งหน่วยงานรัฐฯ ให้เข้าไปตรวจสอบได้เลย หรือถ้าพบว่ามีการโฆษณาที่เป็นเท็จ เบื้องต้นผู้บริโภคสามารถไปแจ้งความ ลงบันทึกประจำวัน ให้ตำรวจดำเนินคดีได้ แต่ต้องดูด้วยว่าเมื่อเรารู้แล้วว่ามีการโฆษณาเกินจริง เรายินยอมที่จะซื้อหรือเปล่า

ส่วนหลักการสิทธิคุ้มครองผู้บริโภคมันมีอยู่ 5 ข้อ คือ การได้รับข้อมูลข่าวสารที่เป็นจริง ถูกต้อง ตรงตามคำพรรณนาเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการนั้น, การที่ผู้บริโภคมีสิทธิ์เลือกสินค้าหรือบริการนั้น

รวมถึง ความปลอดภัยในการใช้สินค้าและบริการนั้น, เมื่อเลือกหรือซื้อมาแล้ว ต้องได้รับข้อสัญญาที่เป็นธรรม และ สิทธิ์ได้รับการเยียวยา กรณีที่ซื้อสินค้าหรือบริการแล้วได้รับความเสียหาย”

อย่างไรก็ดี คุณ นฤมล ยังฝากถึงผู้ประกอบการสำหรับกรณีดรามาสะท้านเมืองครั้งนี้อีกด้วยว่า ควรมีมาตรการแก้ปัญหาที่แสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้ พร้อมแนะนำผู้บริโภค หากได้รับสินค้าหรือบริการที่ไม่เป็นธรรม สามารถเรียกร้องสิทธิ์ของตนได้เช่นกัน


 
“อยากให้ผู้ประกอบการออกมาแสดงความรับผิดชอบมากกว่า เพราะอย่างน้อยผู้บริโภคต้องเสียเวลาที่จะไปคืน-เปลี่ยนสินค้า มีช่องทางอื่นที่จะช่วยผู้บริโภคได้ไหม นอกจากการถือสินค้าไปเปลี่ยน หรือมีการกำหนดเวลาไหมว่าสามารถไปเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ไม่มีกำหนด

ส่วนคนที่ไม่ได้ซื้อคงเสียความรู้สึกและรู้สึกเสียเวลา ซึ่งการที่ออกมาแสดงความรับผิดชอบด้วยคำขอโทษอย่างเดียว แต่ผู้เสียหายไม่ได้รับการเยียวยา มันคงเป็นไปได้ยาก มันควรจะมีมาตรการแก้ปัญหามากกว่านี้

สำหรับบทกำหนดโทษในเรื่องโฆษณาเกินจริง ถ้าเป็นในเรื่องของการคุ้มครองผู้บริโภคในเรื่องโฆษณา โทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท

เราอยากให้มีมาตรการจัดการกับผู้ประกอบการเลย โดยที่ไม่ต้องรอให้คนร้องเรียน เพราะอย่างน้อยๆ คนที่มาร้องเรียน เขาจะรู้สึกว่ามันคุ้มกับการที่ได้ร้องเรียน แต่ถ้าเขารู้สึกว่าการร้องเรียนมันไม่คุ้มค่า มันก็จะทำให้กระบวนการเรียกร้องสิทธิ์มันหายไป ผู้ประกอบการก็จะได้ใจในเรื่องของการดำเนินธุรกิจที่เอาเปรียบผู้บริโภค”

“อีฟแอนด์บอย” แจง..ประสานงานผิดพลาด!

“สรุปของที่ลด 90% ถ้าไม่ใช่พนักงานก็ไม่มีวันซื้อได้ค่ะ ทำโปรฯ มาเรียกกระแสเฉยๆ พอใกล้วันก็ลบรูปออก ไม่ลดแล้วเพราะของหมด”

“บอกสินค้าลด 90% บางอย่างก็ไม่มีแล้ว เกิดข้อผิดพลาด หรือพนักงานซื้อเก็บไว้ขายเอง เสียความรู้สึกมากค่ะ ยังไม่ทันถึงวันลดเลย บอกสินค้าไม่มีแล้ว”

“ซื้อสินค้ามา ดีใจได้ของถูก ปกติตัวนี้ราคาแพง จ่ายเงินเสร็จเรียบร้อย กลับหอมาตอนค่ำ มีพนักงานโทร.มาบอก ขอคืนของที่ซื้อไปจะให้เงินคืนกับของสมนาคุณแทน และจะเอาคืนนี้เลยจะส่งคนไปรับ ตอนจะวางสายน้องได้ยินคนข้างหลังพูดว่า "เออ...นางไม่มีปัญหา ดี" มันเกิดอะไรขึ้น เราไม่เข้าใจ แต่รู้ว่าเสียความรู้สึกมาก”

 
สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ได้วิพากษ์วิจารณ์ถึงสินค้าและบริการในเชิงลบอย่างต่อเนื่องผ่านสื่อออนไลน์ ล่าสุด EVEANDBOY ออกมาชี้แจงแล้ว โดยได้มีการเผยแพร่จดหมายขออภัย ผ่านทางเฟซบุ๊กแฟนเพจของตน ซึ่งมีการชี้แจงรายละเอียดหลักๆ 4 ประการ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

“กรณีการจำหน่ายสินค้าราคาโปรโมชั่นบางรายการ ก่อนวันงาน Shocking Pink Day ทีมงานได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่าเกิดความผิดพลาดจากการประสานงาน ทำให้มีการจำหน่ายสินค้าก่อนถึงกำหนดวันงานจริง ซึ่ง หลังจากทีมงานรับทราบถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เราได้ดำเนินการแก้ไขและยุติระบบการจำหน่ายสินค้าทันที
ทางร้านขอยืนยันว่าตามกฎระเบียบของร้านอีฟแอนด์บอย พนักงานทุกคนไม่มีสิทธิ์ในการซื้อสินค้าโปรโมชั่นพิเศษก่อนวันงานหรือแม้กระทั่งในวันงานก่อนลูกค้าก็ตาม

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เรื่องความบกพร่องของระบบการจัดงาน ที่สร้างความไม่สะดวกสบายอันก่อให้เกิดความไม่พึงพอใจแก่ลูกค้าผู้มีอุปการคุณทุกท่าน ทั้งนี้เรายินดีน้อมรับทุกคำเสนอแนะมาปรับปรุงแก้ไข และดำเนินการปรับแผนระบบการจัดงานใหม่ทันทีในวันถัดมา

 
หากพบว่าสินค้าชำรุดเสียหาย หรือราคาไม่ตรงกับในสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ของทางร้าน ลูกค้าสามารถนำสินค้าพร้อมใบเสร็จกลับมาที่ร้านอีฟแอนด์บอย เพื่อดำเนินการเปลี่ยนสินค้าและแก้ไขให้ถูกต้องได้ทุกกรณี หากลูกค้าไม่สะดวก สามารถส่งข้อมูลที่มีปัญหามาได้ที่อีเมล์ : info@eveandboy.com โดยทางทีมงานจะติดต่อกลับอย่างเร็วที่สุด

ส่วนเรื่องการให้บริการของพนักงานที่ประพฤติปฏิบัติต่อลูกค้าอย่างไม่เหมาะสม ทางเรารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก และมิได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเราตระหนักถึงเรื่องงานบริการเป็นสำคัญ และได้เร่งดำเนินการฝึกอบรม รวมทั้งควบคุมดูแลพนักงานอย่างเข้มงวด เพื่องานบริการที่มีคุณภาพ”

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีหนังสือชี้แจงแสดงความขอโทษออกมาข้างต้น ทว่า กระแสดรามาจากลูกค้าที่ผิดหวังกับการให้บริการดังกล่าวยังคงไม่ยุติ เห็นได้จากการแสดงความคิดเห็นต่อหนังสือชี้แจง ที่ยังคงเสียความรู้สึกจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และคาดหวังให้ผู้ประกอบการไม่เอาเปรียบผู้บริโภคอีกในอนาคต!

ข่าวโดย ทีมข่าวผู้จัดการ Live
ภาพประกอบ : Twitter
กำลังโหลดความคิดเห็น