บอนนี่ พาร์คเกอร์ (Bonnie Parker) เป็นสาวสวย ตัวเล็ก ผมบรอนด์ นัยตาสีฟ้าและฉลาดเป็นกรด เธอมีความเชื่อมาตั้งแต่เด็กๆ ว่าสักวันเธอจะต้องมีคนรักที่มาจูงมือเธอสร้างตำนานอะไรบางอย่างให้โลกจดจำ เธอเป็นสาวนักกวีที่มีพรสวรรค์ อารมณ์ขันของเธอร้ายกาจ เป็นสาวสวยในอุดมคติของผู้ชายทั่วไป
จุดเปลี่ยนของเธอคือตอนที่เจอกับพ่อยอดชายนาย ไคลด์ บาร์โรว์ (Clyde Barrow) เธอค้นพบว่าเขานี่แหละที่สามารถจูงมือเธอไปสร้างตำนานอย่างที่เธอวาดฝันไว้ ตำนานที่ว่านั่นคือการเป็น “โจร”
ใช่แล้ว ไคลด์ บาร์โรว์ คือโจรหนุ่มสมองตันแต่แรงเยอะ เขาได้ บอนนี่ มาเคียงข้างก็เท่ากับว่าเธอเป็นมันสมองของเขา เธอมักคิดแผนเด็ดๆ ให้ชายคนรัก และร่วมกันออกปล้นเสมอๆ พวกเขาคือตำนานความรักสายเลวในยุค 20-30 เธอไม่ได้ถูกเขาลวงหลอกให้เป็นโจร เพราะเป็นบอนนี่เองที่เป็นฝ่ายเข้าหาโจรหนุ่ม จนลงเอยด้วยการสร้างตำนานสะท้านกรมตำรวจ เป็นคู่โจรผัวเมียที่แสบที่สุดในยุคนั้น
ถึงแม้จะเป็นนางโจรและถอยหลังกลับไม่ได้แล้ว แต่ดูเหมือนว่าเธอไม่เคยเสียใจเลย ในทางกลับกันเธอกลับสนุกสนานไปกับการปล้น และมักเขียนบทกวีส่งไปให้สำนักพิมพ์ตีพิมพ์บทกวีของเธอเสมอๆ เป็นบทกวีอันไพเราะจากนางโจรชื่อกระฉ่อน เธอมักถ่ายรูปไว้ทุกๆ ครั้งที่ก่อวีรกรรม เพราะเธอมีความเชื่อว่าทุกครั้งที่ทำอะไรบ้าๆ อย่างเช่นการปล้น หรือการดวลปืน โอกาสรอดแต่ละครั้งจะมีเพียง 30% และแน่นอนว่ารูปภาพเหล่านี้มักถูกส่งไปให้หนังสือตีพิมพ์พร้อมๆ กับกวีของเธอ
ครั้งหนึ่งเธอขู่ยิงก้นนักหนังสือพิมพ์ที่ตีพิมพ์รูปเธอคาบซิก้าร์ เธอบอกว่ามันเป็นแค่การแสดง ความจริงเธอไม่เคยชอบกลิ่นซิก้าร์เลยด้วยซ้ำ ใครเป็นคนเอาลงเธอจะยิงก้นมันให้หมดแม็ก นั่นคืออารมณ์ขันของเธอ เพราะความจริงแล้วเธอไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น ออกจะเป็นพันธมิตรที่ดีต่อสำนักพิมพ์ด้วยซ้ำ
เธอคือมันสมองของแก๊งบาร์โรว์ ของสามีเธอ ไคลด์ เป็นประเภทไร้สมอง แต่มีลูกบ้าเยอะ เขาถูกตำรวจจับได้แบบโง่ๆบ่อยๆ แต่เขาอุ่นใจไม่กลัวตาราง เพราะเชื่อว่าเดี๋ยวบอนนี่ก็จะช่วยเขาออกไปเอง วีรกรรมโหดของไคลด์ ในคุกก็ใช่เล่น เขาสามารถสร้างอิทธิพลในคุกที่ขนาดผู้คุมยังขยาด เขาทำวีรกรรมชั่วต่างๆ ในคุกเหมือนกับมันเป็นเรื่องสนุก ทั้งชกต่อย ฆ่าแกงคู่อริต่างแก๊ง แต่เขากลับได้รับรายงานว่าเป็นนักโทษชั้นดีจนพ้นโทษ เพราะผู้คุมคุกเองก็ไม่กล้ามีปัญหากับเขา
ในช่วงหนึ่ง บอนนี่ ประสบอุบัติเหตุระหว่างปล้นจนทำให้เธอขาเป๋ และเป็นภาระของแก๊ง เธอถูกโหวตออก แต่ไคลด์ประกาศกร้าวว่าห้ามใครแตะต้องเธอเด็ดขาด เธอจะยังคงเป็นมันสมองของแก๊งต่อไป เธอคือรักแท้ของเขา เขาไม่เคยชายตามองสาวอื่นนอกจากบอนนี่ เพราะเธอสามารถทำให้เขาขบขันได้ตลอดและเขาตกหลุมรักในความฉลาดและถึงไหนถึงกันของเธอ
ในรุ่งสางของวันที่ 23 พฤษภาคม ค.ศ.1934 ที่ทางหลวงตัดผ่านแนวป่าใกล้กับเซลเลส ในหลุยส์เซียนา พวกเขาทั้งคู่ถูกตำรวจวิสามัญจนรถพรุนไปด้วยคมกระสุน มือของบอนนี่ยังกำปืนแน่น ราวกับจะบอกว่า ฉันจะปกป้องเธอเองไคลด์ เป็นที่น่าเสียดายที่หากในวัยสาวเธอเลือกที่จะจับปากกา แทนที่จะจับปืน เธอคงไม่พบจุดจบแบบนี้ เธอคงเป็นภรรยาที่น่ารักของสามีและ นั่งเขียนบทกวีอยู่ที่ไหนสักแห่ง แล้วแก่ตายไปพร้อมสามี แต่อย่างว่าแหละนะ อานุภาพแห่งความรัก มันสามารถสร้างตำนานทั้งดีและเลวได้