แฉอาจารย์พิเศษออกอุบายนัดลูกศิษย์สวยๆมาเป็นแบบถ่ายรูปเก็บไว้วาดนางในวรรณคดีในโปรเจ็กต์ลับ! สุดท้ายปิดประตูล็อกห้องขอให้แก้ผ้า แหกขาอ้าซ่า โพสต์ท่าให้อาจารย์ลั่นชัตเตอร์ราวกับนางแบบนู้ด แฟน นศ.ผู้เสียหายทนไม่ไหว! ตั้งกระทู้แฉอาจารย์บ้ากาม สังคมตั้งข้อสงสัยทำไมอุบชื่ออาจารย์ภัยสังคมทั้งที่โดนให้ออกแล้ว
ภัยมืดในรั้วมหาวิทยาลัย
จากกระทู้ที่เปิดเผยพฤติกรรมอันเน่าเฟะของอาจารย์พิเศษคนหนึ่ง "ความจริงอันสกปรกโสโครกเบื้องหลังแฟชั่นคณะสีส้มชื่อดังที่ทุกคนใฝ่ฝัน" พร้อมติดแฮชแท็ก #อาจารย์คณะสีส้ม แฉการกระทำของอาจารย์พิเศษ ที่ไร้สามัญสำนึกละเมิดนักศึกษาหญิง ชอบนัดพบเป็นการส่วนตัว อ้างจะขอถ่ายรูปเป็นแบบวาดนางในวรรณคดี เอาเข้าจริง นางแบบหนังโป๊ชัดๆ ถ่ายเสร็จอัดภาพเก็บไว้ดูเองยังไม่พอ ยังอัดแจกให้นักศึกษาผู้เสียหายอีก รับไม่ได้ถึงขั้นเผาทิ้ง เผยยังมีนักศึกษาอีกหลายคนที่โดนเรียกมาถ่ายภาพลักษณะเดียวกันอีกมาก เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นทุกปี
“นี่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น ของอาจารย์ในคณะสีส้มสาขาแฟชั่นชื่อดังย่านวังท่าพระที่ทุกคนใฝ่ฝันอยากเรียนกัน โดยเฉพาะผู้หญิงสวยๆ ลองอ่านไว้เผื่อใครมีแฟนอยู่ในคณะนี้
มีอาจารย์ท่านหนึ่งในภาควิชาที่ผู้หญิงเยอะเป็นพิเศษ แน่นอนครับก็ต้องมีผู้หญิงสวยเป็นธรรมดา มีอาจารย์ท่านหนึ่งที่แก่แล้วเขาเคยเขียนการ์ตูนเกี่ยวข้องกับนักศึกษาสาวแบบโป๊ๆ สาวน้อยกับปีศาจอะไรทำนองนี้ จนถึงปัจจุบันเค้าก็ยังสอนอยู่ เขาบอกตลอดว่าตาเขาไม่ดี เวลาไปไหนมาไหนจะต้องมีนักศึกษาประกบเวลาไปทัศนศึกษา หรือนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถกับข้ออ้างที่ว่า "ไปทางเดียวกันช่วยอาจารย์ดูทางหน่อย" แม้แต่ในห้องเพื่อนผู้หญิงด้วยกันยังสังเกตเห็นเวลาเขาตรวจงาน ตอนเด็กก้มมาส่งงานใกล้ๆ เขาก็มองร่องอกนมเด็ก
วันหนึ่งเขาเดินมาคุยกับบรรดานักศึกษาผู้หญิงสวยๆ เป็นรายคน บอกว่า 'มาเป็นแบบวาดให้อาจารย์หน่อยสิ แต่เรื่องนี้ห้ามบอกใครนะ มาช่วยอาจารย์ที' เป็นแบบวาดนางในวรรณคดี แต่แบบวาดในที่นี้คือ เรียกพบนักศึกษาเป็นการส่วนตัว ซึ่งแฟนผมก็เป็นหนึ่งในนั้นครับแต่เขาเรียกให้ไปพบทีละคน และห้ามพาใครไปด้วยเลย แล้วตอนที่แฟนผมได้เข้าไปที่ห้องประจำภาควิชา ในห้องไม่มีใครเลยนอกจากอาจารย์และแฟนผม เขาล็อคประตูทันทีที่ไม่มีใครผ่านไปมา เขามักจะนัดนักศึกษาในช่วงเวลาที่ไม่มีคนบนตึกอยู่ ไม่มีการเรียนการสอน หลังจากล็อคห้องแล้ว อาจารย์ได้กางรูปภาพที่ใช้สำหรับเป็นแบบโพสต์ออกมา รูปมีเยอะมากถึงร้อยรูป ช่วงแรกเป็นภาพนางในวรรณคดีธรรมดา เป็นท่ายืนหันข้างบ้าง นั่งพับเพียบบ้าง
เมื่อเริ่มถ่าย เขาได้บอกให้แฟนผมทำการถอดเสื้อผ้าออก เหลือแต่เกาะอกสีเนื้อ และกางเกงเซฟสีเนื้อ ด้วยเหตุผลที่ว่าเวลาเอารูปไปวาดจะได้เห็นการพลิ้วไหวของผ้าที่ปกปิดร่างกายได้เสมือนจริง พอถ่ายไปได้สัก 10 รูป อาจารย์ก็ขอให้แฟนผมถอดเกาะอกออก และใช้กรรไกรตัดซิลิโคนบราให้เหลือเป็นแค่ที่ปิดจุก พร้อมกับให้ถอดกางเกงในออกด้วย แฟนผมตกใจมากครับและรู้สึกไม่ชอบมาพากลจึงได้ปฏิเสธอาจารย์ เพราะแบบรูปที่ให้โพสต์มีเป็นร้อยรูป อีกทั้งรูปเซตหลังท่าการโพสต์อยู่ในระดับเรต R มาก เช่น ท่านั่งบนโต๊ะและแหกขาเป็นรูปตัว M ทุกอย่างน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ มีช่วงนึงที่แฟนผมเผลออาจารย์ก็ได้เอามือมาจับหน้า จับไหล่ และเอว ตอนนั้นแฟนผมไม่รู้จะทำยังไง ทำได้แค่ถอยหนีออก เพราะไม่มีใครอยู่บนตึกเลย
เมื่อถ่ายรูปเสร็จ แฟนผมกำลังใส่เสื้อผ้า อาจารย์ยังคงถ่ายรูปต่อไปเรื่อยๆ เขาบอกให้แฟนผมติดกระดุมเสื้อช้าๆ และค่อยๆ ใส่เสื้อผ้าทีละชิ้น แฟนผมเองก็รู้สึกกลัวกับสายตาและสีหน้าของอาจารย์ที่แสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน(หื่นนั่นเอง) อาจารย์ก็ยังถ่ายไปเรื่อยๆ แม้ว่าจะกำลังใส่ถุงเท้าก็ตาม ตอนกลับอาจารย์ก็ยังย้ำอีกว่า "เรื่องนี้ห้ามบอกใครนะ” ความรู้สึกของแฟนผมในตอนนั้นคืออยากร้องไห้ และแทบจะมุดแผ่นดินหนี จะไประบายกับใครก็ไม่ได้”
เรื่องราวนี้ได้ถูกแชร์และวิจารณ์หนักมากในโลกโซเชียลฯ พร้อมตั้งข้อสงสัยว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เพราะข้อความที่แฉได้ถูกลบปลิวหายไปแล้ว
พี่น้องมัณฑนศิลป์จี้เอาผิด เยียวยาผู้เสียหาย
สั่นสะเทือนไปถึงมหาวิทยาลัยและคณะมัณฑนศิลป์ ! ไม่นานนักทางมหาวิทยาลัยศิลปากร โดยอธิการบดีได้ออกแถลงการณ์ในวันที่ 15 ก.ค. 2560 ประกาศจะทำการสอบสวนข้อเท็จจริงและขอความร่วมมือให้งดโพสต์ต่างๆทางโลกโซเชียลฯ หลายคนรวมทั้งพี่น้องชาวมัณฑนศิลป์ รอการสอบสวนอย่างใจจดใจจ่อ
กระทั่งศิษย์เก่ามัณฑนศิลป์ รหัส 426065 ได้ตั้งกระทู้ “จดหมายเปิดผนึกถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร” ว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมาเกือบเดือน ไม่รวมเวลาอีกกว่า 2 เดือนที่ผู้เสียหายพยายามร้องเรียนแต่เรื่องไม่คืบหน้าไปไหนจนต้องมาพึ่งโซเชียลฯ ผู้สนใจปัญหาได้มีการติดตามความคืบหน้าทางภายในมาเป็นระยะ ใน Facebook เพจ I’m Dec. ซึ่งเป็นห้องของศิษย์เก่ามัณฑนศิลป์ ได้มีปัญหาถกเถียงกันอย่างกว้างขวางเพราะเกิดการลบโพสต์ที่ศิษย์เก่าที่ติดตามเรื่องไปหลายโพสต์ รวมทั้งมีการปิดคอมเมนต์ แม้มีการแจ้งว่าเรื่องนี้อยู่ในขั้นตอนของทางมหาวิทยาลัย ซึ่งเลยอำนาจการตัดสินใจของคณะไปแล้ว แต่ศิษย์เก่าก็มีความกังวลใจว่าเรื่องนี้กำลังถูกปิดกั้นและประวิงเวลาอย่างไร้เหตุผลและไร้คำตอบโดยไม่ทราบว่าจะจบอย่างไรและเมื่อใด
สำหรับความเคลื่อนไหวหลังผ่านไปเกือบเดือน (11 ส.ค. 2560) ธนาทร เจียรกุล คณบดีคณะมัณฑนศิลป์ ได้ออกมาชี้แจงความคืบหน้าว่า ทางคณะได้ถอดชื่ออาจารย์พิเศษคู่กรณีออกจากการสอนทุกรายวิชาแล้ว ส่วนในขั้นตอนของทางมหาวิทยาลัยซึ่งรับข้อมูลของผู้เสียหายแล้ว และกำลังประสานงานให้อาจารย์คู่กรณีมาชี้แจงคงจะได้ข้อยุติเร็วๆนี้
"ในฐานะคณบดีคณะมัณฑนศิลป์ ผมรู้สึกไม่สบายใจที่เกิดความไม่เข้าใจกันในกลุ่มพี่น้องชาวมัณฑนศิลป์ ทำให้มีผลกระทบกับทุกฝ่ายที่ต่างก็มีความรักความหวังดีกับคณะของเราทุกๆคน จึงต้องขออภัยทุกท่านเป็นอย่างมากที่ไม่ค่อยได้เข้ามาสื่อสารกับท่านในพื้นที่นี้ แต่ถ้าการชี้แจงของผมสามารถทำให้ทุกท่านคลายกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้บาง ผมก็จะยินดีที่จะรายงานความคืบหน้าเพิ่มเติม
ในส่วนของนักศึกษาผู้เสียหายที่ผมเคยนัดมาให้ข้อมูลเบื้องต้นก่อนหน้านี้ก็ได้เข้าไปให้ปากคำเรียบร้อยแล้ว และมีบางส่วนได้ขอพบท่านอธิการบดีเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมโดยตรงอีกด้วย"
คณบดีคณะมัณฑนศิลป์ ยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ขอให้ไว้ใจ จะเข้าไปดูแลนักศึกษาที่ได้รับผลกระทบอย่างดีที่สุดทุกคนไม่ต้องกังวล นักศึกษาภาควิชาแฟชั่นทุกคนจะได้รับการคุ้มครองและให้ความยุติธรรมจากคณะและมหาวิทยาลัยอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม ศิษย์เก่าคณะมัณฑศิลป์ ยังตั้งข้อสงสัยถึงแนวทางการปฏิบัติและขอบเขตอำนาจของทางอธิการบดีและทางมหาวิทยาลัยต่อการจัดการปัญหานี้ ว่านอกจากไม่ให้อาจารย์พิเศษผู้นั้นกลับมาสอนแล้ว สามารถเอาผิดด้านอื่นด้วยได้หรือไม่ และทางมหาวิทยาลัยจะมีนโยบายอย่างไปในการป้องปรามปัญหาการละเมิดแบบนี้ในอนาคต รวมถึงทางมหาวิทยาลัย จะมีวิธีเยียวยาผู้เสียหายอย่างไร
ล่าสุด มหาวิทยาลัยศิลปากรได้ออกประกาศแถลงการณ์ผลการสอบสวนหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพฤติกรรมไม่เหมาะสมของอาจารย์พิเศษคนดังกล่าว พบว่าผิดจริง! โดยมหาวิทยาลัยได้ยุติเชิญอาจารย์คนดังกล่าวมาสอน และให้ทางคณะกำกับดูแลไม่ให้มีผลกระทบต่อนักศึกษาที่ให้ข้อมูล
ทั้งนี้ อาจารย์คนดังกล่าวไม่ใช่อาจารย์ประจำจึงไม่สามารถดำเนินการทางวินัยได้ โดยนักศึกษาสามารถร้องโทษเป็นคดีกับพนักงานสอบสวนได้ ทางมหาวิทยาลัยจะยินดีช่วยเหลือตามสมควร
เหยื่อเพียบ! ภาพลักษณ์อาจารย์ไม่น่าบ้ากาม
ล่าสุด รายการทุบโต๊ะข่าว ได้เปิดใจนักศึกษาอีกรายที่เคยถูกอาจารย์พิเศษคนดังกล่าวละเมิดเช่นกัน เธอเล่าว่า จากการจับตาดูพฤติกรรมของอาจารย์ขาหื่นอยู่เงียบ ๆ ทำให้พบว่า ชอบแอบมองหน้าอกเพื่อนผู้หญิง ชอบเรียกเพื่อนสวยๆไปช่วยถือของ เธอเปิดเผยว่า เป็นคนที่ 3 แล้วที่ถูกอาจารย์คนเดียวกันทำแบบนี้ โดยเฉพาะเพื่อนรุ่นเดียวกันมีนักศึกษาตกเป็นเหยื่อ 4 รายแล้ว ซึ่งยังไม่นับรวมรุ่นน้องคนอื่น หรือนักศึกษาสถาบันอื่นที่อาจารย์คนนี้ไปสอน เชื่อว่าน่าจะยังมีอีกหลายคน อึ้ง! ภาพลักษณ์ของอาจารย์ไม่น่าจะเป็นคนแบบนี้
เธอเล่าว่า เมื่อปี 2558 ตอนเรียนชั้นปีที่ 2 เรียนวิชาหนึ่งกับอาจารย์พิเศษรายนี้ โดยอาจารย์ได้เรียกตรวจงานเป็นรายบุคคล ซึ่งเมื่อถึงคิวตน อาจารย์บอกว่ากำลังจะทำโปรเจกต์นิทรรศการภาพวาดสีน้ำมัน นางในวรรณคดี ประมาณ 3 ภาพ จึงขอให้ตนไปเป็นแบบให้ โดยจะต้องใส่ชุดรัดรูปเพื่อให้เห็นสรีระ พร้อมโพสต์ท่าตามแบบ ตนเห็นว่าไม่น่าจะมีอะไร จึงตอบตกลงไปถ่ายรูปเป็นแบบให้อาจารย์เก็บไว้วาด เพราะจะหาเวลาไปเป็นแบบวาดให้ได้ไม่ตรงกัน ซึ่งอาจารย์รายนี้ยังบอกด้วยว่า ให้ตนไปเพียงแค่คนเดียวเพราะโปรเจกต์นี้ต้องเป็นความลับก่อน
จากนั้นได้ตกลงกับอาจารย์ว่า ตนจะใส่ซิลิโคนบรา เกาะอก และกางเกงเซฟ เมื่อเข้าไปที่ห้องประจำภาควิชา อาจารย์ก็ล็อคประตูทันที ซึ่งขณะนั้นไม่มีใครอยู่เลย หลังจากนั้น อาจารย์ได้กางรูปภาพที่ใช้สำหรับเป็นแบบโพสต์ออกมาให้ตนโพสต์ตาม ซึ่งในช่วงแรกที่ถ่ายก็เป็นภาพนางในวรรณคดีธรรมดา เป็นท่ายืนหันข้างบ้าง นั่งพับเพียบบ้าง แต่มีบางจังหวะที่ตนเผลอ เขาเริ่มเอามือมาจับหน้าและจับลำตัวของตนเพื่อจะจัดท่า แต่ตนบอกกลับไปว่า สามารถโพสต์ท่าเองได้
เมื่อเริ่มถ่ายสักพัก เขาได้บอกให้ตนถอดเสื้อผ้าและกางเกงในออก ซึ่งเธอก็ปฏิเสธทันที ว่าถ้าอาจารย์ต้องการแบบนั้นก็ให้ไปจ้างนางแบบนู้ด แต่ก็ยังถูกคะยั้นคะยออีกหลายครั้ง จนต้องขอยุติไม่ถ่ายต่อ แต่อาจารย์รายนี้กลับบอกว่า ยังถ่ายไม่ถึงครึ่งเลย พร้อมกางแบบท่าโพสต์ลักษณะดาวโป๊ให้ตนดู ตอนนั้นตนทำอะไรไม่ถูก ทำได้แค่ถอยหนีออก เมื่อกำลังใส่เสื้อผ้า อาจารย์ยังคงถ่ายรูปต่อไปเรื่อยๆ ทั้งยังบอกให้ติดกระดุมเสื้อช้าๆ และค่อยๆ ใส่เสื้อผ้าทีละชิ้น แล้วคงกดชัตเตอร์ถ่ายไปเรื่อยๆ ก่อนตนจะออกมา อาจารย์พูดกำชับด้วยว่า เรื่องนี้ห้ามบอกใคร
สำหรับแถลงการณ์ของมหาวิทยาลัยล่าสุดนี้ เธอรู้สึกว่าไม่ยุติธรรม เพราะมหาวิทยาลัยควรที่จะต้องเปิดเผยชื่อและใบหน้าของอาจารย์คนนี้ เพื่อไม่่ให้มีสิทธิ์ไปสอนที่ไหนต่อ และจะได้ไม่ไปทำกับใครอีก นอกจากนี้ อาจารย์คนดังกล่าวยังไม่เคยออกมาขอโทษ หรือยอมรับผิด และยังกล่าวหาว่าพวกเธอพูดใส่ร้าย ส่วนเรื่องดำเนินคดีทางกฎหมาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรึกษากับเพื่อนที่เป็นผู้เสียหายว่าจะทำอย่างไรต่อไป