อุทาหรณ์นักเสี่ยงโชค! กองสลากฯ สั่งลงดาบ เด็กตัดแปะลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 หยอกย่าขำๆ ฐานปลอมเอกสารแถมผิด พ.ร.บ.คอมพ์ฯ เพราะภาพดันหลุดไปในโซเชียลฯ ด้านทนายชี้ เอาผิดได้แต่ควรดูเจตนาก่อน!
แปะขำๆ แต่กองสลากฯไม่ขำด้วย!
กลายเป็นประเด็นดรามาขึ้นมาทันที หลังจากที่โลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพของหญิงสูงอายุคนหนึ่งใน จ.พะเยา ถือสลากกินแบ่งรัฐบาลด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมข้อความประกอบว่าหญิงคนนี้ถูกรางวัลที่ 1 ประจำงวดวันที่1 ก.ย.60 จำนวน 5 ใบ เป็นเงิน 30 ล้านบาท แต่สุดท้ายกลับโอละพ่อ เพราะลอตเตอรี่ที่เธอถืออยู่นั้น ได้ถูกปลอมหมายเลขโดยหลาน จนเรื่องราวใหญ่โตถึงขั้นทางกองสลากฯแจ้งความเอาผิดแล้ว!
จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์นี้ เริ่มมาจากตัวหลานนั้นอยากได้รถจักรยานยนต์ ก่อนหน้านี้เคยพูดคุยกับย่าไว้ว่า หากถูกรางวัลที่ 1 จะให้ย่าซื้อให้ ต่อมาหลานนึกสนุกจึงนำลอตเตอรี่ที่ตรวจแล้วว่าไม่ถูกรางวัล มาตัดแปะตัวเลขให้กลายเป็นรางวัลที่ 1 และนำมาให้ย่าถือเพื่อถ่ายภาพ ก่อนจะส่งภาพไปในกรุ๊ปไลน์ครอบครัวเพื่อเป็นการหยอกล้อกันในหมู่เครือญาติ
ปัญหาเกิดขึ้น เมื่อน้าสาวเข้าใจว่าย่าถูกรางวัลที่ 1 จริง จึงนำไปโพสต์ลงโซเชียลฯ และเกิดการแชร์ต่อๆ ไปจนกลายเป็นที่ฮือฮา เมื่อข่าวแพร่สะพัดออกไปก็มีผู้คนเดินทางมาที่บ้านเพื่อแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก ทำให้ครอบครัวนี้ต้องคอยตอบคำถามทั้งวันว่าไม่ได้ถูกรางวัลจริงๆ เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้เป็นย่าถึงกับเครียด มีอาการความดันสูง ต้องนำส่งโรงพยาบาลยกใหญ่ และต้องออกมาขอโทษทุกคนที่ทำให้เข้าใจผิด
แต่เรื่องไม่ได้จบเพียงแค่นั้น เพราะล่าสุด ตัวแทนฝ่ายกฎหมายจากกองสลากฯ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(ปอท.) ว่ากรณีนี้อาจเข้าข่ายการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(1) คือนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
รวมถึงเรื่องการปลอมแปลงเอกสารด้วย เนื่องจากกังวลว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะกระทบต่อความเชื่อมั่นในระบบการพิมพ์ของกองสลากฯ ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากไม่พบว่ามีความผิด สำนักงานสลากฯ ก็อาจถอนแจ้งความได้ แต่หากมีความผิดก็อาจมีโทษทั้งจำคุกและปรับ
(ซ้าย) ธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล
พล.ต.ฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า แม้ผู้โพสต์ยอมรับว่าไม่มีเจตนา แต่กองสลากฯ เป็นหน่วยงานของรัฐ จำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อให้เป็นกรณีตัวอย่าง ไม่ให้ประชาชนทำตาม ส่วน ธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้ออกมาเตือนว่า อย่าทำตาม แม้จะไม่มีเจตนาหรือทำไปเพื่อความสนุกสนาน แต่หากมีภาพหลุดออกมาสู่สาธารณะก็อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้และอาจถูกแจ้งความดำเนินคดี
ก่อนหน้านี้ โจ๊ก IScream เน็ตไอดอลสายฮา ก็เคยตัดต่อภาพตัวเองถือล็อตเตอรีรางวัลที่ 1 ทำให้เกิดความเข้าใจผิด
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการปลอมล็อตเตอรีจนเกิดเป็นข่าวดัง หากยังจำกันได้ก่อนหน้านี้ อรรถวุฒิ อินทอง หรือ โจ๊ก IScream เน็ตไอดอลสายฮา ก็เคยตัดต่อภาพตัวเองถือล็อตเตอรีรางวัลที่ 1 ทำให้เกิดความเข้าใจผิดเช่นกัน จนเขาต้องรีบออกมาโพสต์ชี้แจงว่าเป็นเพียงภาพตัดต่อและขอโทษโลกโซเชียลฯ ซึ่งทาง ปอท.กล่าวถึงกรณีของโจ๊กว่า เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฐานนำข้อมูลเท็จหรือข้อมูลปลอมเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่ต้องมีผู้เสียหายมาแจ้งความก่อนจึงจะดำเนินคดีได้
แต่ในตอนนั้นเขาก็ไม่ได้ถูกแจ้งความดำเนินคดีจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เนื่องจากทางกองสลากฯ ให้เหตุผลว่า ดูจากเจตนาของผู้กระทำแล้ว น่าจะทำขึ้นเพื่อคลายเครียดในโลกโซเชียลฯ เป็นการแก้ไขตัวเลขในภาพถ่ายไม่ใช่ที่ตัวสลาก และทำไปโดยไม่มีเจตนาจะไปขึ้นเงิน กองสลากจึงไม่ได้รับความเสียหาย
แค่ตักเตือน อย่าให้ถึงขั้นติดคุก
ทีมข่าวผู้จัดการ Live ได้ติดต่อไปยัง ชมทรรศน์ สมบุตร ทนายความ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย เพื่อสอบถามถึงกรณีที่เกิดขึ้นนี้ว่า ในมุมมองของนักกฎหมายคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้และแนวโน้มในการตัดสินคดีจะเป็นไปในทิศทางใด
“ผมว่าถ้ากระแสสังคมมีการกดดันหรือว่ามีการให้ความเห็นกันเยอะๆ กรณีนี้พนักงานสอบสวนมีอำนาจสั่งไม่ฟ้องได้ครับ โดยอาจจะพิจารณาถึงเจตนาของเด็กที่ทำ คือความเสียหายเกิดขึ้นแล้วแหละที่ตัวเอกสารหรือตัวสลากเนี่ย แต่ถามว่าสิ่งที่เขาทำ เขาทำเพื่อเล่นในครอบครัว คือมันไม่ได้มีเจตนาทุจริต ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้กองสลากเสียหาย ถามว่าควรจะลงโทษเขามั้ย ก็พิจารณาได้ว่าไม่ควรลงโทษครับ
ต้องดูเป็นกรณีๆ ไปครับ ซึ่งกรณีนี้ผมมองว่า เด็กเขาปลอมสลากจริงแต่ก็เป็นการเล่นในครอบครัว ซึ่งน้าเขาไม่รู้เขาเลยเอาไปแชร์ ถามว่าจะลงโทษกันถึงให้ติดคุกเลย ผมว่ามันก็ค่อนข้างรุนแรงไปนิดนึงครับ อาจจะเรียกมาตักเตือนต่อหน้าพนักงานสอบสวนหรืออะไรก็ว่ากันไป
จริงๆ ถามว่าเอาผิดได้มั้ย ก็ได้ครับ ฐานปลอมเอกสารและฐานเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในการเอาลอตเตอรี่ไปโพสต์ต่อ เพราะเมื่อเอาเข้าระบบคอมพิวเตอร์แล้ว ถึงจะเจตนาหรือไม่เจตนาก็ได้มีการดำเนินการกระทำแล้ว แต่ถ้าถามว่าเล่นกันภายในครอบครัว ก็ต้องไปพิสูจน์ต่อศาล เพราะมีแนวคำพิพากษาอยู่ว่าการปลอมลอตเตอรี่ แล้วอ้างว่าถูกรางวัล แล้วไปหลอกให้เพื่อนเลี้ยงข้าว ศาลก็จะมองว่า เป็นการแกล้งกันระหว่างเพื่อนอะไรอย่างนี้ครับ ดูแล้วถือว่าไม่มีเจตนาศาลก็ยกฟ้องไป เทียบกับกรณีนี้ได้เหมือนกัน
แต่ก็ขึ้นอยู่กับทางกองสลากว่าจะดำเนินการยังไง เพราะว่าจริงๆ ถามว่าการปลอมแล้วเอามาเล่นกันในกลุ่มหรือในครอบครัว เป็นการแกล้งกันกับคนใกล้ชิด เจตนาที่จะให้เกิดความเสียหายมั้ย แบบนี้สามารถนำสืบได้ครับ ถ้านำสืบได้ว่าเจตนาไม่ประสงค์ให้เกิดความเสียหาย”
เมื่อถามถึงความผิดของคนที่แชร์ภาพต่อๆ ไป ทนายชมทรรศน์ก็ให้คำตอบว่า ก็ต้องดูก่อนว่าคนแชร์ทราบว่าปลอมหรือไม่ ซึ่งกรณีนี้ตามข่าวก็คือน้าไม่รู้ว่าเป็นการปลอม คนที่แชร์ต่อจึงน่าจะไม่มีความผิด
“กฎหมายระบุไว้ว่าต้องมีเจตนาโดยทุจริตด้วย แต่กรณีตรงนี้เขาไม่รู้ เขาแชร์ไปก็ไม่มีเจตนาที่จะกระทำความผิดกรณีนี้ทำในครอบครัว แต่ต้องไปพิสูจน์กับศาลต่อไปครับ”
สุดท้าย ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ได้ฝากเตือนผู้ที่นึกสนุกดัดแปลงเอกสารสลากกินแบ่งรัฐบาล แม้ท้ายที่สุดอาจจะไม่ถึงขั้นที่ถูกตัดสินจำคุก แต่ก็ต้องเสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา เพื่อเดินทางไปพิสูจน์ต่อศาล เป็นความสนุกเพียงชั่วคราวที่ไม่คุ้มค่าเลยกับสิ่งที่ต้องเสียไป
“เคยมีหลายกรณีตัวอย่างที่ทำกัน แล้วก็เสี่ยงที่จะโดนทางกองสลากฯ ฟ้อง หรือหน่วยงานอื่นๆ เขาฟ้องดำเนินคดี ก็ต้องระวังนิดนึง เพราะว่าบางหน่วยงานเขาจะมองว่า ถ้าอย่างนั้นให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีไปก่อน คุณก็ไปพิสูจน์ต่อศาล คุณอาจจะต้องเสียเงินประกันตัว เสียเงินไปในการสู้คดีหรือเสียเวลาในการที่จะต้องเดินทางหรือว่าเพื่อจะกลับสู่อิสรภาพเหมือนเดิม”