กลายเป็นว่าการตลาดของ MV เพลง บันไดสีแดง ที่ร้องโดย ฮิวโก้-จุลจักร จักรพงษ์ ไม่ใช่แค่เรียกแขก เรียกยอดให้เพลงนี้ดังเท่านั้น แต่มันลามไปจนถึงร้าน ทีเด็ด 99 (T-Ded 99) ด้วย ที่ปรกติก็ครึกครื้นกันอยู่แล้ว กลายเป็นได้รับความสนใจขึ้นมาอีก จนหลายต่อหลายคนโหยหาว่าอยากไปลองของเสียให้ได้
ร้านใน MV ดูคาวโลกีย์สมจริงมาก บรรดาเหยี่ยวราตรีทั้งหลายที่เคยไปลิ้มรสอาจเกิดอาการคิดถึงกันขึ้นมาตะหงิดๆ พาลนึกถึงบรรยากาศเก่าๆ วัยห้าวเป้ง เผื่อเจอช้างเผือกที่ถูกใจจะได้คล้องขึ้นห้อง
จริงๆ ร้านแนวๆ นี้มีมากมาย แต่ถ้าพูดกันเรื่องอยู่ยงคงกระพันมีลูกค้าไม่ขาดสายก็น่าจะมีไม่กี่ร้าน ทีเด็ด 99 คือหนึ่งในนั้น เป็นร้านเหล้าแถวสะพานควาย ขึ้นชื่อในเรื่องการสับเปลี่ยนหมุนเวียนเด็ก ของเก่าคัดออก ของใหม่มาให้ได้เลือกจับจ่ายตลอด อันที่จริงถ้าจะเอาเกรดนี้ แนะนำให้ไปลงอ่างกันเลยจะดีกว่า ไม่ต้องเสียค่าเหล้าค่าดริ้งค์อะไรด้วย แต่ตามประสาคนเที่ยวเตร่น่ะนะ มันต้องสร้างบรรยากาศ สร้างอารมณ์ก่อนสำเร็จความใคร่ถึงจะมันส์ ไม่ใช่อาเสี่ยที่เลี้ยวรถเข้าไปจอด เลือกๆ เด็กแล้วขึ้นห้องเลย
เสน่ห์ของการเที่ยวสถานที่แบบนี้คือ การสู้รบปรบมือกับพวกนังตัวดีเนี่ยแหละ คิดภาพตามนะว่าช่วงดึกๆ แทบทุกคนในร้านเดินแต่งตัววาบหวิว บ้างก็แก้ผ้าเดินเสิร์ฟอาหารเสิร์ฟเหล้ากันโทงๆ เรียกได้ว่ามีแค่เด็กรับรถแหละที่ไม่แก้ผ้า เปลือยกาย แต่อันนี้มันต้องช่วงดึกๆ นะครับ ใครอยู่ไหวก็อยู่
เด็กแถวๆ นี้ ยุคเมื่อราวๆ สิบกว่าปีก่อนมีช้างเผือกเยอะมาก ตั้งแต่สมัยราคาอ๊อฟแค่พัน พันกว่าๆ ก็สามารถเสพสมได้แล้ว เด็กอาจช้ำมาจากทางเหนือนิดหน่อย จากเชียงใหม่ เชียงราย อะไรพวกนี้ ก็โบยบินมาหยุดที่กรุงเทพฯ ก่อนที่จะสลับหมุนเวียนลงใต้ไปหากินแถบๆ ทะเล
เด็กสาวหน้าตาดีแตกเยอะมากที่เลือกมาลงเอยเป็นเด็กนั่งดริ้งค์ ปัจจุบันไม่ทราบว่ายังมีช้างเผือกอยู่ไหม เพราะไม่ค่อยได้ติดตามผลงานนานแล้ว ในร้านจะมีเซลเชียร์แขกกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ เพื่อพูดยุยง ไม่ก็ยุขายดริ้งค์ให้เด็ก อยากเสพสมก็มีห้องให้ ถ้าอยากออฟไปข้างนอกก็ได้เลย โรงแรมแถวนั้นเยอะแยะ
เสียงร่ำลือว่าเด็กสมัยนี้เฮี้ยนมาก เอาใจยาก หน้าบูด สูบเงินเก่งไม่รู้จริงรึเปล่า ราคาก็ค่อนข้างแพง การจะออฟเด็กต้องควักถึง 2,500 บาทกันเลยทีเดียว พอขึ้นห้องจริงๆ ก็เจอกับบริการที่ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ที่สวยๆ จะรีบๆ ทำรอบกันซะมากกว่า บางวันเจอเด็กช้ำขึ้นมาสองสามรอบแล้วก็ต้องทำใจว่าหน้าบูดตลอดชั่วโมงที่คุณเสพสมแน่นอน
ดังนั้น สถานที่แห่งนี้จึงเหมาะเอาไว้นั่งดื่ม นั่งดู เสียมากกว่า ทีเด็ดจะมารอบดึกๆ บางวันมีโชว์สยิวกิ๋วก็มี นี่แหละกลยุทธ์ทรมานลูกค้าของร้าน ประมาณว่าคุณดูโชว์แล้วต้องมีอารมณ์แน่นอน พอมีอารมณ์แล้วก็ต้องออฟน้องๆ ไปเสพสม
ถ้าอยากจะเที่ยวสถานที่อะไรแนวๆ นี้ก็ต้องยอมนั่นแหละ อย่าได้คาดหวังว่าข้างในจะสะอาดสะอ้านเหมือนในอ่าง ราคาเหล้ายาปลาปิ้งก็ค่อนข้างจะหนักหน่อย และแทบทุกอย่างเกี่ยวกับความเสียวกระสันล้วนเป็นเงินหมด เช่น การล้วง การจก ก็ต้องมีติดปลายนวมให้เด็กๆ หน่อย
แนะนำว่าอย่าใส่กางเกงยีนไปเพราะใส่กางเกงผ้าพริ้วๆ หน่อยก็จะสามารถเสร็จได้ด้วยการเสียเงินแค่สองสามร้อย ดีกว่าออฟแล้วหิ้วขึ้นห้องไป
ส่วนโชว์เต้นนั้นก็ไม่รู้เดี๋ยวนี้จะเต้นกันจริงจังมั๊ย เมื่อก่อนนั้นน้องๆ บนเวทีมีสปิริตมาก เต้นทุกเพลง เพลงช้า เพลงเร็ว จะเต้นได้น่าดูน่าชมมาก แต่ได้ยินมาว่ายุคนี้น้องๆ เต้นเหมือนขี้เกียจ เหมือนญาติเพิ่งเสียมาหมาดๆ ดีหน่อยก็ตรงเปลื้องผ้าเต้นเหลือแค่สติ๊กเกอร์แปะเนี่ยแหละ แถมมีโชว์ตื่นตระการตามาให้ดูเยอะกว่าเมื่อก่อน แน่นอนว่าล้วนเป็นโชว์ที่แสนยั่วยวนแทบทั้งสิ้น
พูดกันตามตรงว่าร้านนี้มันมีเสน่ห์ เพราะสามารถทำให้คนที่เข้าไปเที่ยวยอมจำนน จนมุมให้กับความเปลี่ยว เพราะหลายๆ อย่างในร้านช่างยั่วสวาทหมด ไม่รู้ว่าในอาหารจะใส่ไวอากร้าลงไปด้วยรึเปล่า เพราะกินแล้วคึกมาก
แต่แหม่... ไม่ต้องถึงขนาดเจอไวอากร้าหรอก แค่น้องๆ เด็กเสิร์ฟไม่ใส่เสื้อใน หรือแค่ดูสาวๆ เต้นบนเวที แค่นี้น้ำกามก็แทบทะลักออกมาแล้ว สุดท้ายทุกคนที่ออกมาล้วนเข่าอ่อนทุกที เพราะกระเป๋าแฟ่บทุกทีเหมือนกัน
จริงๆ ร้านแบบนี้มีเยอะ แต่พอดีร้านนี้กำลังดัง เลยเอาเรื่องราวคร่าวๆ มาฝาก เผื่อใครสนใจไปตามลายแทง แต่อย่าลืมนะ พกเงินพกถุงไปเยอะๆ
