xs
xsm
sm
md
lg

ล่าสาวแสบลวงโลก! “หลอกแต่ง-เชิดสินสอด” มิจฉาชีพในคราบเมีย!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ปิ๊งรักผ่านเฟซบุ๊กระวังให้ดี! โลกออนไลน์แฉ สาวลวงโลกหลอกหนุ่มแต่งงาน เชิดเงินหลายแสน! วิธีการแยบยลโปรยเสน่ห์ผ่านเฟซบุ๊ก อ้างทำธุรกิจค้าผลไม้ ออกอุบายแต่งงานเรียกค่าสินสอด สังคมช็อก! ภายใน 1 เดือน แต่งผู้ชาย4 คน ล่าสุดสืบพบเหยื่อถูกลวงแต่งกว่า 8คน!! ต้องยกฉายาลวงโลกระดับประเทศให้เลยจริงๆ!!




สาวแสบลวงโลก “หลอกแต่ง-ฉกเงินแสน”


วีรกรรมแสบทรวงหัวใจชาย! ถูกเผยแพร่ผ่านเพจดัง เพื่อเตือนภัยสังคมในรูปแบบการหลอกลวงที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นได้ โดยลักษณะพฤติกรรมของสาวรายนี้ ใช้วิธีแชทหาชายหนุ่มผ่านทางเฟซบุ๊ก อ้างว่าตนมีธุรกิจขายผลไม้สร้างรายได้มากมาย หลังนัดเจอ-คบหา จึงได้ออกอุบายชวนชายหนุ่มแต่งงานเพื่อหวังสินสอด สุดท้ายชิ่งหนีหอบเงินไปอย่างไร้ร่องรอย

“ขอส่งข่าวเตือนภัยค่ะ เนื่องจากผู้หญิงคนที่อยู่ในรูปได้ก่อเหตุหลอกลวงผู้ชาย แต่งงานภายในเดือนเดียวถึง 4 คน แล้วนำรถยนต์ผู้เสียหายหลบหนี แต่มีประชาชนเห็นว่านำไปก่อเหตุลักขโมยของที่คลองสาม และนำเงินที่โกงค่าสินสอดไปชื้อผลไม้บังหน้า มีผู้เสียหายตอนนี้ประมาณ 30 ราย ท่านใดพบเจอขอความกรุณาแจ้งเบาะแสหน่อยนะ”

ที่น่าตกใจและเป็นประเด็นที่พูดถึงกันมากที่สุดในโลกออนไลน์ คือ สกิลการลวงหลอกของเธอที่ได้ใช้แผนหลอกแต่งงานในเดือนเดียวกันมาแล้วถึง 4 คน! สร้างความตะลึงไปทั่วโซเชียลฯ จนต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า..นี่มันมืออาชีพด้านการโกงซะจริงๆ!!


 
นอกจากนี้ ทางเพจดังยังให้ข้อมูลการแต่งงานของสาวรายนี้อีกด้วยว่า เธอได้แต่งงานกับชายคนที่ 1 ในวันที่ 1, คนที่ 2 วันที่ 5, คนที่ 3 วันที่ 18, คนที่ 4 วันที่ 30 ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นเดือนเดียวกัน! และสำหรับคนที่ 5 สืบพบว่าแต่งงานกันที่ จ.ระยอง เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานี้เอง

ล่าสุด หนึ่งในอดีตเจ้าบ่าวออกมาเปิดเผยว่า ตอนนี้รวบรวมข้อมูลจากผู้เสียหายได้แล้วจำนวน 8 คน พบว่าเหยื่อทั้งหมดถูกหลอกในลักษณะเดียวกันทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม หนึ่งในชายที่ตกเป็นเหยื่อกลลวงได้ออกมาให้ข้อมูลผ่านสื่อว่า ตนพบหญิงสาวคนดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กตั้งแต่ปลายปี 2559 โดยฝ่ายหญิงเป็นผู้แอดมาก่อน จากนั้นจึงได้พูดคุยคบหาดูใจกันผ่านเฟซบุ๊กเป็นเวลาหลายเดือน จนกระทั่งเดือนเมษายน 2560 มีการนัดเจอเป็นครั้งแรก

จากนั้น สาวรายนี้ได้พาตนไปพบครอบครัว พร้อมบอกด้วยว่าได้มีธุรกิจส่วนตัวเกี่ยวกับผลไม้ และอยากให้ฝ่ายชายมาร่วมทำธุรกิจ สร้างครอบครัวไปด้วยกัน ตนจึงตัดสินใจแต่งงานด้วย โดยฝ่ายหญิงเรียกสินสอดเป็นเงิน 4 แสนบาท ทองคำหนัก 4 บาท แต่ภายหลังเจรจาลดสินสอดเหลือ 2 แสนบาท

หลังจากได้แต่งงานกันที่บ้านฝ่ายหญิง จ.ปทุมธานี ในเดือนพฤษภาคม ฝ่ายหญิงทำทีให้ตนกลับบ้านที่ จ.อุบลราชธานี จากนั้นจึงค่อยตามมา แต่สุดท้ายก็บ่ายเบี่ยงและเงียบหายไป ตนจึงสืบพบที่หลังว่าหญิงสาวรายนี้เป็นมิจฉาชีพและมีการโกงเงินในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง

แม้สืบพบว่ามีชายหลายคนตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน ทว่า รูปแบบการหลอกลวงนั้นแตกต่างกันออกไป ซึ่งวิธีการมีทั้งอ้างว่าท้องแต่ได้เสียลูกไปภายหลัง, อ้างว่าให้มาช่วยกันทำธุรกิจผลไม้ก่อนเชิดเงินหนีหาย และถึงแม้จะเคยโดนจับได้และเตรียมดำเนินคดีแต่ก็หนีไปได้ในที่สุด!!

นักสืบโซเชียลฯ แฉ “โกงสารพัดพิษ”

หลังเรื่องราวสาวจอมลวงโลกถูกเผยแพร่จนร้อนไปทั่วโลกออนไลน์ ซึ่งได้กลายเป็นบุคคลอันตรายที่สุดในขณะนี้! ล่าสุด โลกโซเชียลฯ ยังแฉไม่หยุด หลังมีการขุดเบื้องลึก-เบื้องหลังสาวรายนี้และครอบครัวของเธอด้วยว่า “โกงสารพัดพิษ” สมกับที่ได้รับฉายา “สาวแสบแห่งวังสะพุง” ซะจริงๆ

นักสืบโซเชียลร่วมกันแฉข้อมูลสาว 18 มงกุฎ ผ่านเพจดัง “บิ๊กเกรียน” เกี่ยวกับหญิงสาวรายนี้ว่า เธอมักจะใช้ชื่อว่า “น้ำมนต์” บ้านเดิมอยู่ อ.วังสะพุง จ.เลย พฤติกรรมชอบโปรยเสน่ห์ทางเฟซบุ๊ก เมื่อได้พูดคุยกับชายหนุ่มผ่านทางโลกออนไลน์ก็ได้มีการนัดเจอ รวมถึงอ้างตนว่ามีธุรกิจค้าผลไม้ จนไปถึงการหลอกให้แต่งงานเพื่อเชิดสินสอดในที่สุด

โดยชายหนุ่มที่ตกเป็นเหยื่อมักอยู่คนละพื้นที่กัน มีตั้งแต่พื้นที่ จ.ชลบุรี-ประจวบคีรีขันธ์-อุบลราชธานี-เพชรบูรณ์-ระยอง นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่ามีผู้เสียหายจำนวนมากที่ถูกสาวรายนี้หลอกลวง

“คนๆ นี้โกงทุกอย่าง ทุเรียน ลิ้นจี่ ลำไย สารพัดไม่เว้นแม้แต่ตระกร้าหรือเข่งพลาสติกใส่ผลไม้เป็นจำนวนนับพันๆ ใบ คนพิการขายสลากกินแบ่งที่ อ.วังสะพุง และถ้าว่ากันจริงๆ พ่อ-แม่ของเขาน่าจะร่วมรู้เห็นเป็นใจด้วย เพราะต้องไปปรากฏในงานแต่งทุกงาน หากไม่รู้กันก็ต้องห้ามปราม แต่นี้เห็นดีเห็นงาม”

 
หลังจากที่ได้มีการเผยแพร่เรื่องราวดังกล่าว ได้มีกระแสความคิดเห็นหลั่งใหลเข้ามาอย่างมาก อีกทั้งยังถูกแชร์ต่อๆ กันเพื่อเป็นอุทาหรณ์การหาคู่ในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวอีกด้วยว่าความรักในโลกออนไลน์ไว้ใจไม่ได้เสียจริงๆ

“เมื่อประมาณปีกว่าๆ เคยคบกับพี่ชายเราไม่กี่วัน บอกว่าเป็นแม่ค้าขายส่งผลไม้อยู่ตลาดไทย ชื่อน้ำ เวลามาที่บ้านก็เอาผลไม้มาฝากเต็มเลย บอกว่าที่บ้านอยากให้แต่งงานจะได้เอาพี่เราไปอยู่ด้วย ช่วยกันทำมากินขายผลไม้ ถ้าไปอยู่ด้วยกันเฉยๆ อายเขา แต่สุดท้ายเลิกคุยเสียก่อน นางได้ไอโฟน 5 ไป 1 เครื่อง น่ากลัวจริงๆ คนสมัยนี้ ”

“พี่แถวบ้านผมก็แต่งกับผู้หญิงคนนี้เหมือนกันเมื่อปีที่แล้ว ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อำเภอบางสะพาน พออีกวันหายทั้งคน ทั้งเงิน แล้วยังทำให้ผู้ชายเป็นหนี้อีก 3 แสน”

“ก่อนหน้านี้เกือบโดนเหมือนกัน ดีนะตรูจน นางกำลังแอบไปแต่งงานกับคนอื่น โชคดีผู้ชายทางโน้นจับได้ก่อน ความเลยแตก เจอทางโน้นยกเลิกงานแต่งกลางอากาศ แจกการ์ดแล้วด้วยนะ สะใจมาก รอดไป”

ขณะที่ความคืบหน้าล่าสุด สาวแสบรายนี้ได้หลบหนีไปอยู่ที่อรัญประเทศ ด้านเหยื่อกว่า 30 รายเตรียมรวมตัวล่าสาวแสบมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด!!

ไม่ได้ให้ด้วยเสน่หา..แต่คือการฉ้อโกง!!

ทีมข่าวผู้จัดการ Live ได้ติดต่อไปยัง ทนายความ “รณณรงค์ แก้วเพ็ชร” ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ถึงประเด็นดังกล่าวเพื่อให้ความรู้ทางด้านกฎหมายว่าสามารถเอาผิดฐานฉ้อโกงได้หรือไม่ อีกทั้งยังตอบข้อสงสัยถึงเรื่องการให้โดยเสน่ห์หา ซึ่งไม่อาจถือว่าเป็นความผิด!

“ต้องบอกก่อนว่าการมั้นแล้วไม่แต่ง ไม่ใช่ความผิดฐานฉ้อโกง ประชาชนต้องทำความเข้าใจก่อน แต่ในกรณีนี้ที่มันเป็นความผิดฐานฉ้อโกง เพราะมีผู้เสียหายมีหลายราย สอดคล้องกับพฤติการณ์ของผู้ต้องหามีลักษณะการรับปากกับผู้ชายหลายๆ คนพร้อมกันว่าจะแต่งงานด้วย


 
ซึ่งวิญญูชนทั่วไปต้องรับรู้กันอยู่แล้วว่า การแต่งงานสามารถแต่งได้ครั้งเดียวกับคนๆ เดียว ไม่สามารถแต่งเดือนเดียว 4 คนได้ เพราะฉะนั้นเจตนามันชัด จึงเข้าข่ายฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา 341แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่งที่ว่าผู้เสียหายมีแค่คนเดียวคงเป็นความผิดฐานฉ้อโกงไม่ได้

แต่เนื่องจากกรณีนี้ผู้เสียหายมีหลายคน ผมอยากให้แต่ละคนไปแจ้งความดำเนินคดีในความผิดฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตราที่ 341 ผู้ใดทุจริต หลอกลวงผู้อื่น ด้วยการแสดงข้อความเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งและโดยการหลอกลวง ดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง เป็นความผิดฐานฉ้อโกง”

นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่ามีการคุยกันผ่านทางเฟซบุ๊ก ซึ่งการพูดคุยทางเฟซบุ๊ก ถ้ามีเนื้อหาที่มีการหลอกลวง หรือแสดงข้อความอันเป็นเท็จ ก็เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(1) ด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ทนายความคนดังกล่าวยังบอกอีกว่า ในกรณีนี้ไม่ใช่การหยิบยื่นให้ด้วยความเสน่หา เพราะหากฝ่ายชายให้ด้วยความเสน่หาจะต้องเป็นการให้อย่างไม่มีเงื่อนไขและไม่มีข้อผูกมัด ซึ่งต่างจากกรณีนี้อย่างสิ้นเชิง
 
“สำหรับการให้โดยเสน่หา ผมต้องบอกว่ามันคือการให้โดยไม่มีเงื่อนไข ให้จากความรัก ให้เพราะอยากให้ ซึ่งการให้โดยเสน่ห์หาจะไม่ใช่การให้เพื่อเป็นสินสอด หรือเป็นเงินค่าจัดงานแต่งงาน เพราะฉะนั้น มันจึงไม่ใช่การให้โดยเสน่ห์หาแต่อย่างใด”

ข่าวโดย ทีมข่าวผู้จัดการ Live
ขอบคุณภาพ FB : ตีแผ่
กำลังโหลดความคิดเห็น