หายนะรับน้องอีกแล้ว! โลกออนไลน์ปล่อยคลิป แฉ รุ่นพี่ตีนโหดเตะรุ่นน้องไม่ยั้ง พร้อมก่นด่าข่มขู่เชิดชูกฏสาขา “ตัดผมสกินเฮด-ผู้หญิงรวบผมตึง-ต้องมาให้ทันเคารพธงชาติ” ใครไม่ทำตามโดนลงโทษ! สังคมสุดทน “จะต้องเจ็บปวดอีกกี่ราย..กิจกรรมดิบเถื่อนถึงจะหมดไปเสียที!!”
“ระบบโซตัส” ความเจ็บปวดที่ไม่จบสิ้น!
“ปิดห้อง ทำโทษรุ่นน้องแบบนี้เกินไปครับ สาเหตุ คือ เพื่อนมันอ้วน ลุกนั่งแล้วเป็นลม รุ่นพี่บอกให้ทำต่อ แล้วมันทำไม่ไหว เลยโดนรุมเตะแบบในคลิปฯ มันเกินไปครับ พ่อแม่ยังไม่เคยทำแบบนี้เลย”
ความน่าสลดหดหู่ในครั้งนี้กลายเป็นประเด็นร้อนในสังคม ที่ตอกย้ำ 'ความสิ้นหวัง' ให้หายไปจากกิจกรรมรับน้องอย่างสร้างสรรค์เข้าไปทุกที หลังมีคลิป แฉรุ่นพี่มหา'ลัยราชภัฎแห่งหนึ่ง รุมเตะรุ่นน้องปี 1 ไม่ไว้หน้า สร้างความหดหู่ใจไปทั่วโลกออนไลน์
โดยคลิป ดังกล่าว เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างการรับน้อง ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีรุ่นน้องยืนเรียงกอดคอกันลุกนั่ง จากนั้นมีรุ่นพี่ชายรายหนึ่งเข้าเตะรุ่นน้องคนหนึ่งสุดแรง จำนวน 3 ครั้ง พร้อมพูดจาข่มขู่ ขณะที่รุ่นน้องคนดังกล่าวไม่ได้มีทีท่าจะต่อสู้ป้องกันตัวแต่อย่างใด
ภายหลังที่คลิป ถูกเผยแพร่จากเพจดัง โลกออนไลน์ได้เข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์ที่ปรากฏในคลิป เป็นการรับน้องจากคณะศิลปกรรม สาขาจิตรกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา พร้อมวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักจนกลายเป็นประเด็นร้อนที่สุดในขณะนี้
นอกจากนี้ เพจดัง 'Social Hunter' ได้ออกมาให้รายละเอียดเกี่ยวกับกฏระเบียบที่รุ่นพี่สาขานี้กำหนดมาเพื่อให้รุ่นน้องเข้าระบบ ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจอีกด้วยว่า ระบบของสาขานี้จะมีข้อห้ามและข้อบังคับสำหรับน้องปี 1 ให้ปฏิบัติตาม ซึ่งหากไม่ปฏิบัติตามคาดว่าจะเจอกับสถานการณ์ในรั้วมหา'ลัยที่ไม่สู้ดีนัก
“สำหรับผู้ชายต้องตัดผมทรงสกินเฮดเท่านั้น ส่วนผู้หญิงต้องรวมผมตึง ไม่งั้นเจอซ่อม, ห้ามใส่เครื่องประดับทุกชนิด, หน้าห้ามแต่ง, ต้องมาให้ทันเคารพธงชาติ 8.00 ไม่งั้นโดนซ่อมกอดคอ ลุก-นั่ง 100 รอบทุกคน
ผู้หญิงห้ามไปไหน มาไหนคนเดียว ต้องมีผู้ชายตามประกบตลอด, ห้ามคุยกับคณะอื่นๆ เด็ดขาด แม้แต่เพื่อนก็ตาม! กินของก็ต้องกินร่วมกัน อย่างลูกอมต้องอม 30 คน แค่เม็ดเดียว อมวนกันไป ไม่สบายกันมาแล้วเป็นกลุ่ม!!
หากไม่เข้าระบบ ชีวิตจะเป็นยังไงมาดูกัน ห้ามคนในสาขาคบหรือพูดคุย, สิ่งของที่เป็นส่วนกลางของคณะห้ามใช้ มึ-ต้องหาเอง โดนบีบทั้งการเรียน-กิจกรรม”
แม้สถานการณ์ล่าสุด ทางมหาวิทยาลัยได้สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องแล้วก็ตาม แต่ก็ยังยืนยันไม่ได้ว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก
“พฤติกรรมป่าเถื่อน” ทำผิดต้องรับผิด!
โลกโซเชียลฯ วิจารณ์เดือดเหตุการณ์รุ่นพี่ตีนโหดเตะรุ่นน้องไม่ยั้ง พร้อมพากันขุดภาพ-คอมเมนต์ในโซเชียลฯ ที่เหล่านักสืบออนไลน์ออกมาแฉว่า รุ่นพี่เหล่านี้ยังไม่มีทีท่ารู้สึกสำนึกต่อการกระทำดังกล่าว ล่าสุด ทางอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา สั่งลุยตรวจสอบและลงโทษ ลั่น “ทำผิดก็ต้องยอมรับผิด!”
“พ่อ-แม่ส่งลูกเข้าเรียนเพื่อให้มีการศึกษา ไม่ได้ส่งมาให้รุ่นพี่เตะเล่นยังกะลูกบอล รับน้องผมเข้าใจนะ แต่ถ้าทำเกินไปก็ไม่ไหวเหมือนกัน”
“ในฐานะศิษย์เก่าที่เคยหลงผิด อยากฝากบอกน้องๆ ทุกคนที่กำลังห้าวหาญระบบโซตัส โลกมันเปลี่ยน เด็กเข้าใหม่ใช่ว่าจะชอบระบบโดนซ่อมเสมอไป เป็นไปได้รับน้องแบบสร้างสรรค์ สร้างกิจกรรมกันดีกว่า เพราะผลกระทบจะไปตกที่ อ.ของสาขา รองอธิการคณะฯ ชื่อเสียงมหา'ลัย เวลาไปสมัครงานที่ไหน เขาก็มองไม่ดีแล้วล่ะ”
“ควรออกกฏหมายยกเลิกรับน้องทุกมหาวิทยาลัย แนะให้รุ่นน้องรู้จักรุ่นพี่แบบดีๆ กันไม่เป็นใช่ไหม ควรเด็ดขาดได้แล้ว รับน้องคณะไหน รับน้องรุนแรงหรือบังคับให้ไปรับน้องนอกสถานที่ ไล่ออกเลย ไม่รู้รับไปเพื่ออะไร”
สำหรับเรื่องดังกล่าว ทางอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา “รศ.ดร.ฤๅเดช เกิดวิชัย” ได้ออกมาชี้แจงกับสื่อ โดยสั่งลงโทษพักการเรียนรุ่นพี่ปี 2 คนดังกล่าวเป็นเวลา 1 เทอม ส่วนรุ่นพี่คนอื่นๆ อีก 15 คน ถูกคาดทัณฑ์บนและตัดคะแนนความประพฤติ
ทั้งนี้ ทางมหาวิทยาลัยได้พิจารณาแล้วว่า บทลงโทษสำหรับนักศึกษานั้นอาจยังเบาไป จึงได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบใหม่อีกครั้ง พร้อมหากฎหมายที่แรงกว่า ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงขั้นไล่ออก!
นอกจากนี้ ด้านอธิการบดีฯ ยังเปิดเผยว่า แม้นักศึกษาสาขาจิตรกรรมจะมีพฤติกรรมที่ดียังมีอยู่เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถลบล้างความผิดได้ หากทำผิดก็ต้องรับผิด ทั้งยังแสดงความเสียใจกับนักศึกษา รวมถึงผู้ปกครองอีกด้วยว่า ทางมหาวิทยาลัยไม่ได้นิ่งเฉยและกำลังดำเนินตรวจสอบอยู่
คงต้องรอดูกันต่อไปว่ามาตรการลงโทษในครั้งนี้ จะทำให้รุ่นพี่บางกลุ่มหวั่นเกรงที่จะไม่กระทำการณ์รับน้องโหดในลักษณะอีกหรือไม่ในอนาคต
ถ้าไม่จริงจัง! “บทลงโทษ” ไร้ประโยชน์!!
ทีมข่าวผู้จัดการ Live ได้ติดต่อไปยังแอดมินเพจดัง “Anti Sotus” ผู้ที่ต่อสู้และแสดงจุดยืนต่อกิจกรรมรับน้องที่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย จิตใจ รวมถึงกรอบแนวคิดที่สร้างความเชื่อของกลุ่มคนที่หลงผิดคิดว่าตนมีอำนาจ มากว่า 6 ปี ถึงประเด็นดังกล่าว
ซึ่งเขาได้ให้ความเห็นที่เป็นมาตรการสำหรับการแก้ปัญหาที่แท้จริง ว่า ไม่ใช่ประเด็นความหนัก-เบาของบทลงโทษ แต่อยู่ที่ความจริงจังในการบังคับใช้กฏเสียมากกว่า!
“ถ้าให้เด็ดขาด ผมว่าการที่เอาอำนาจไปกด มันเป็นแค่ทางหนึ่ง เราใช้ทางนั้นทางเดียวไม่ได้ มันจะต้องใช้ความตระหนักรู้ของทุกๆ คน ทั้งตัวผู้ปกครอง ตัวเด็กเอง และคนในสังคม ต้องช่วยกันสร้างความเข้าใจใหม่ ช่วยกันกดดันว่าสิ่งที่คุณทำตรงนี้มันไม่ถูกต้อง
สำหรับการลงโทษ มันไม่เกี่ยวกับว่าหนักหรือไม่หนัก ผมว่ามันเป็นเรื่องของความจริงจังมากกว่า ประเด็นหลักคือความเข้มงวดของการบังคับใช้กฏ หรือมีการควบคุมดูแลมากน้อยแค่ไหน อันนี้เป็นอีกทางหนึ่ง แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งเดียวที่ช่วยแก้ไขได้ เพราะก็อาจจะมีคนที่หาช่องว่างจากกฏนั้นๆ เพื่อกระทำสิ่งต่างๆ ที่ไม่ถูกต้องได้อยู่ดี”
สิ่งสำคัญที่สังคมยังขาดอยู่ นั่นคือ เรื่องของจิตสำนึกและความตระหนักรู้ของสังคม รวมถึงตัวรุ่นน้องเองด้วย ทุกคนต้องช่วยกันสอดส่องดูแล นี่คือสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้น
“ส่วนอีกปัจจัยที่จะช่วยแก้ไขได้ คือ รื้อระบบกิจกรรมของมหา'ลัยใหม่ทั้งหมด ซึ่งคนอาจจะตกใจว่าหมายถึงการล้มล้างหรือเปล่า แต่มันไม่ใช่ เพราะโดยพื้นฐานกิจกรรมในมหา'ลัย มันมีความสัมพันธ์เชิงผลประโยชน์กัน ทั้งตัวมหา'ลัย หรือตัวนักกิจกรรมเองก็ตาม
อย่างที่ผมบอกไปว่าการจริงจัง-เข้มงวด ในการบังคับใช้กฏ, การสร้างความตระหนักรู้ของสังคมต่อกิจกรรมการรับน้อง และการรื้อระบบกิจกรรมมหา'ลัยเสียใหม่ ถ้าเราทำ 3 เรื่องหลักๆ นี้ได้ มันจะช่วยแก้ไขปัญหาตรงนี้ได้”
ข่าวโดย ทีมข่าวผู้จัดการ Live
ขอบคุณภาพ FB : ANTI SOTUS, Social Hunter
