ดังกลบข่าวอื่นสนิท เมื่อ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เกิดหายตัว ไม่มาฟังคำพิพากษาคดีจำนำข้าว อ้างป่วยน้ำในหูไม่เท่ากัน ท่ามกลางสื่อนอกที่ประโคมข่าวคนไทยถูกแหกตา ยัน“ปู”หนีออกนอกประเทศไป “ดูไบ” ตั้งแต่ 2 วันก่อนถึงวันนัดตัดสินคดีของศาลแล้ว ขณะที่โลกโซเชียลฯ วิจารณ์หนัก พร้อมสร้างกระแสล้อเลียนติดแฮชแท็ก #น้ำในหูไม่เท่ากัน #น้ำในหูหนี กลายเป็นวลีฮิตทั้งวัน
**คนไทยถูกแหกตา “ปู” หนีถึงดูไบแล้ว
หลังข่าว “ปูหนีคดีจำนำข้าว” แพร่สะพัด หน่วยงานด้านความมั่นคงของรัฐบาล ได้แกะรอยเส้นทางหลบหนีออกนอกประเทศของ ยิ่งลักษณ์ โดยทราบว่า หลังจากที่ “ยิ่งลักษณ” เดินทางไปทำบุญกราบไหว้สมเด็จโตที่วัดระฆังโฆสิตาราม กทม. เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ในคืนวันเดียวกันได้เดินทางไปพักที่เกาะช้าง จ.ตราด และนั่งรถยนต์ เข้าประเทศกัมพูชา จากนั้นในวันรุ่งขึ้น 24 ส.ค. 2560 “ยิ่งลักษณ์” ได้นั่งเครื่องบินส่วนตัวไปพัก ที่ประเทศสิงคโปร์
ขณะที่สำนักข่าวต่างประเทศ อย่าง CNN , BBC และรอยเตอร์ ต่างรายงานตรงกัน โดยอ้างแหล่งข่าวพรรคเพื่อไทยระบุว่า “ยิ่งลักษณ์” ได้หลบหนีศาลออกนอกประเทศตั้งแต่ช่วง 2 วันก่อน ถึงกำหนดวันนัดอ่านคำพิพากษาคดีปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต โครงการรับจำนำข้าว โดยได้เดินทางไปยัง นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เรียบร้อยแล้ว และปลอดภัยดี
ทั้งนี้ รายงานยังระบุว่า ยิ่งลักษณ์ จะเดินทางไปพักอยู่กับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นพี่ชาย ที่ถูกรัฐประหาร และหลบหนีคดีทุจริตอยู่ในดูไบ เช่นกัน
อย่างไรก็ตามรายงานของสำนักข่าวต่างประเทศ ไม่ได้ ระบุว่า ยิ่งลักษณ์ เดินทางออกจากประเทศไทย ในช่องทางใด หรือใช้เส้นทางผ่านไปยังประเทศเพื่อนบ้านใด ก่อนไปดูไบ มีเพียงการอ้างการให้สัมภาษณ์ ของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ระบุ ไม่มีบันทึกการออกนอกประเทศในช่องทางปกติของ ยิ่งลักษณ์ และยอมรับอาจเป็นไปได้ที่จะหลบหนีไปโดยทางบก หรือทางน้ำเข้าประเทศเพื่อนบ้านก่อน
**โซเชียลจัดหนัก! แซวยิ่งเละ!!
การเบี้ยวนัดศาลฎีกา ไม่มาฟังคำพิพากษาจำนำข้าวของ “ยิ่งลักษณ์” กลายเป็นที่วิพากวิจารณ์อย่างหนัก โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ เพจดังหลายเพจได้โพสต์ภาพล้อเลียน ซึ่งสมาชิกเพจก็แชร์ภาพล้อเลียนดังกล่าวอย่างแพร่หลาย
ก่อนหน้าจะถึงวันตัดสินคดี ชาวเน็ตมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกรณีดังกล่าวอย่างกว้างขวาง โดยสร้างแฮชแท็กเป็นที่รู้กัน คือ #จำนำข้าว #Yingluck อยู่ก่อนแล้ว
จนเมื่อถึงวันตัดสิน “ยิ่งลักษณ์” หนีไม่มาฟังคำพิพากษา โดยส่งทนายมากล่าวอ้างว่าป่วยเป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากันนั้น ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก ชาวโซเชียลจึงเริ่มแสดงความคิดเห็นแซวอดีตนายกรัฐมนตรีหญิงกลายเป็นตัวตลกที่น่าขบขัน
นอกจากนี้ยังสร้างแฮวแท็กขึ้นใหม่ คือ #น้ำในหูไม่เท่ากัน #น้ำในหูหนี ซึ่งตลอดทั้งวันได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในทวิตเตอร์ และยังมีการค้นหาคำว่า “น้ำในหูไม่เท่ากัน” ในเว็บไซต์กูเกิลจำนวนมาก รวมถึงในกูเกิลคำว่า ข่าวยิ่งลักษณ์ ซึ่งมีการค้นหามากกว่า 20,000 ครั้ง และอันดับสองคือคำว่า ยิ่งลักษณ์ มีการค้นหาแล้วมากกว่า 10,000 ครั้ง
**ย้อนรอยคดีโกงข้าวครั้งใหญ่
รัฐบาลยิ่งลักษณ์ถือฤกษ์ 7 ต.ค.2554 กดปุ่มเปิดโครงการรับจำนำข้าว ด้วยวิธีการคล้ายสมัย “ทักษิณ” เคยทำ ต่างกันที่ของ “รัฐบาลปู” เป็นการรับจำนำแบบไม่มีการจำกัดปริมาณ แถมให้ราคาสูงกว่าราคาตลาดมาก โดยข้าวเปลือกเจ้าอยู่ตันละ 15,000 บาท และข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 20,000 บาท ตามที่พรรคเพื่อไทยประกาศหาเสียงไว้นั้นเอง
พฤติกรรมดังกล่าว ส่งผลให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่าจ้างสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ศึกษาโครงการ ซึ่งพบว่าหากดำเนินการดังกล่าว จะทำให้ขาดทุนมหาศาล ทั้งยังสร้างปัญหาวินัยการคลัง และประโยชน์ส่วนใหญ่ไม่ได้ตกแก่ชาวนา แต่ตกแก่ผู้ส่งออก โรงสี เจ้าของโกดัง และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ป.ป.ช. จึงยื่นหนังสือเตือนรัฐบาล แต่ก็ใม่มีการแก้ไข
ยิ่งนานวัน ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันเริ่มผุดเป็นดอกเห็ด ตั้งแต่สวมสิทธิ์เกษตรกร, นำข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านมาสวมสิทธิ์เข้าโครงการ และการยักยอกขนข้าวจากสต็อกไปขาย
ก่อนถลำลึกมากไปกว่านั้น ป.ป.ช.ได้มีหนังสือเตือนรัฐบาลอีกครั้ง โดยจี้ให้ยกเลิกโครงการรับจำนำข้าว และเสนอให้ใช้วิธีการประกันความเสี่ยงด้านราคาข้าว แต่รัฐบาลยังดื้อรั้นไม่ฟังคำเตือนดังกล่าว
สุดท้ายความล้มเหลวก็เกิดขึ้นจริง!
รัฐบาลปูสร้างภาระงบประมาณอันใหญ่หลวง ต้องนำภาษีของประชาชนจำนวนมากหลายแสนล้านบาท มาชำระคืนการขาดทุนในโครงการ เป็นเหตุให้มีการฟ้องร้องตามมา
จนในที่สุดคดีประวัติศาสตร์โครงการรับจำนำข้าวก็ใกล้ถึงบทอวสาน โดยเมื่อ 25 ส.ค. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิากษาคดีที่ “อัยการสูงสุด” เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เรื่องความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต กรณีปล่อยปละละเลยโครงการรับจำนำข้าวให้บังเกิดความเสียหาย แต่ทนายความยื่นคำร้องว่ายิ่งลักษณ์ ป่วยด้วยโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน มีอาการวิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรง ขอเลื่อนการฟังคำพิพากษา
ทว่า เมื่อศาลพิเคราะห์แล้ว ไม่เชื่อว่าจำเลยเจ็บป่วยจนถึงขนาดมาศาลไม่ได้ พฤติการณ์มีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเลยหลบหนี จึงให้ออกหมายจับจำเลยและปรับนายประกันเต็มตามสัญญา 30 ล้านบาท และให้เลื่อนไปฟังคำพิพากษาในเวลา 09.00 น.วันที่ 27 ก.ย.2560
ขอบคุณภาพจาก เฟซบุ๊ก “พิชิต ขจัดพาลชล”, แฟนเพจ “สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก”, “ห่วยตูน”, “Major Group”, “คาราโอเกะชั้นใต้ดิน”