เป็นใครก็ต้องอึ้ง! เมื่อแก๊งรถซิ่งกว่า 70 คน รวมตัวกันจัดทริปมีตติ้งควักเงินเหมารีสอร์ตหรู The Loft Khao Yai ราคาเหยียบแสนหวังลั้นลาเสพสุขให้เต็มที่ แต่แล้วทุกอย่างกลับพังเมื่อต้องเจอโจรย่องเบามาขโมยของในห้องพัก เตียงสกปรกมีคราบเปรอะเปื้อน คอยหวาดระแวงกับสัตว์ร้าย งู ตะขาบ หนอนบุ้ง หนำซ้ำอาหารบุฟเฟ่ต์ที่ทำมาประหนึ่งให้คนกินแค่ 10 คน ด้านเจ้าของรีสอร์ตถูกชาวโซเชียลฯ ถล่มถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาล และสั่งลูกน้องไล่ลบคอมเมนท์ที่เข้ามาต่อว่าในเพจรีสอร์ตหายเกลี้ยง
** เตือนใจให้จดจำก่อนเข้าพักรีสอร์ตหรู
เมื่อสิ่งที่คิดกับสิ่งที่เห็นไม่เป็นไปตามที่ต้องการ คุณจะรู้สึกเช่นไร เฉกเช่นผู้ใช้เฟสบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ร่ายยาวถึงเรื่องราวชวนเซ็งในความผิดพลาดที่อยากจะบอกต่อกับใครหลายๆ คน ในการติดต่อประสานงานเพื่อเหมารีสอร์ตแถมจ่ายเงินเหยียบแสน ทว่าสิ่งที่เจอมากลับทำให้ผู้เข้าพักกว่า 70 ชีวิตถึงกับต้องจำฝังใจ
ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ได้ส่งเรื่องราวรีวิวการเข้าพักรีสอร์ตแห่งหนึ่งที่เขาใหญ่ผ่านแฟนเพจ โครตห้าวV3 ระบุว่า เธอรับหน้าที่เป็นคนหาสถานที่ในการจัดงานมีตติ้งของกลุ่มรถซิ่ง ที่จะขับรถจาก จ.ปทุมธานีไปยัง จ.นครราชสีมา โดยได้จ่ายเงินจำนวน 94,500 บาทให้กับ รีสอร์ต The Loft Khao Yai สำหรับเหมารีสอร์ตเพื่อการเข้าพัก 70 คนในวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา
โดยก่อนหน้าที่จะถึงวันเข้าพักได้มีการพูดคุยเพื่อตกลงรายละเอียดและดูสถานที่จริงล่วงหน้ากว่า 3 เดือน อีกทั้งมีการติดต่อกันผ่านไลน์กับเจ้าของตลอดเวลา ซึ่งค่าใช้จ่ายถูกแบ่งออกเป็นค่าที่พักหัวละ 1,000 บาท และบุฟเฟ่อาหารตอนเย็นหัวละ 350 บาท ประกอบด้วยอาหาร4-6 อย่างโดยมีการเติมอาหารให้ตลอดเวลาถึง 4 ทุ่ม และซอฟต์ดริ้งก์ ที่ทางเจ้าของรีสอร์ตย้ำว่า “รับรองอิ่มแน่นอน”
ไม่กี่วันก่อนเดินทางเข้าพักทางผู้จองยังได้โทรสอบถามไปยังเจ้าของรีสอร์ตเพื่อสอบถามถึงความเรียบร้อยเกี่ยวกับสถานที่และเรื่องอาหาร ซึ่งทางเจ้าของรีสอร์ตยืนยันว่า สถานที่จัดให้ตามที่ต้องการ ห้องพักสะอาดเรียบร้อย ในส่วนของอาหารจัดเป็นซุ้มพร้อมกับได้แถมกุ้งให้อีก 10 กิโลฯ! และไฟฟ้าได้มีการติดตั้งเพิ่มความสว่างให้ตามที่ร้องขอ รวมถึงสระน้ำได้ทำความสะอาดรอต้อนรับคณะผู้เข้าพักไว้เช่นกัน ซึ่งวันที่ไปดูสถานที่ผู้เข้าพักได้เห็นว่าในสระน้ำมีใบไม้อยู่จำนวนมาก แต่เมื่อทางเจ้าของได้ยืนยันว่าทำความสะอาดแล้ว ทางผู้เข้าพักจึงไม่คิดเอะใจอะไร
** ฝันสลายเมื่อต้องพบกับความเป็นจริง
ทว่าทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คุยกันไว้เมื่อคณะผู้เดินทางกว่า 70 ชีวิตที่มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่มาถึงรีสอร์ต ก็ต้องอึ้ง! กับค่าอาหารกลางวันที่ต้องจ่ายเพิ่มกว่า 7,000 บาทสำหรับเมนูสปาเก็ตตี้และข้าวผัดที่เสิร์ฟมาในถาดเล็กๆ อย่างละ 3 จานจนแทบไม่พอกินกัน ด้านที่พักก็สกปรก มีทั้งงู ตะขาบ บุ้ง และต้องพบกับโจรเข้ามาขโมยของในที่พัก
ตกเย็นบุฟเฟ่ที่ทุกคนเฝ้าฝันเริ่มตั้งในเวลา 18.15 น. ประกอบด้วยส้มตำ ไข่เจียวใส่ถาดเล็กๆ แกงหมูหม้อน้อยๆ ชนิดที่คน 10 คนกินก็ยังไม่พอ บาร์บีคิวไม่ถึง 150 ไม้ ซี่โครงหมูย่าง 5 แผ่น ขนมจีน 1 เข่ง ข้าวสวย และซอฟต์ดริ๊งก์ประกอบด้วยน้ำแข็งและน้ำเปล่า ส่วนกุ้ง 10 โลที่คุยกันไว้ไม่เห็นแม้แต่เงา
ผ่านไปไม่ถึง 1 ชั่วโมงก็ต้องช็อกอีกครั้ง! เมื่ออาหารที่เป็นบุฟเฟ่นั้นหมดลงและไม่มีการเติมอาหารให้อย่างที่ได้พูดคุยกันไว้ก่อนหน้านี้ แถมสถานที่ก็มืดสลัวไม่มีการติดสปอตไลต์ใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งทางเจ้าของรีสอร์ตได้ให้คำตอบที่ทำให้ผู้เข้าพักต้องเจ็บจี๊ด! กว่าเก่าคือ ช่างไฟกลับบ้านหมดแล้ว และถ้าจะต้องติดไฟต้องมีค่าใช้จ่ายกว่า 35,000 บาทใครจะติด? หนำซ้ำยังบอกอีกว่านี่ยังไม่คิดเพิ่มค่าสถานที่ในการจัดงานอีก 20,000 บาทนะ! ก่อนเจ้าของจะตัดบทยังได้ทิ้งท้ายประโยคเกี่ยวกับ ค่าอาหารกลางวัน6 จานราคา 7 พันบาท ว่าคณะผู้เข้าพักยังไม่มีปัญญาจ่ายเลย!!
ทั้งนี้ทางเจ้าของรีสอร์ตได้เสนอเงินคืนให้ทางคณะผู้เข้าพักจำนวน 24,000 บาทเพื่อยุติเรื่องราวทั้งหมด ซึ่งทางคณะผู้เข้าพักจะรับเงินหรือไม่นั้นต้องขอคุยกับทั้ง 70 คนที่ไปด้วยกันก่อนเพราะเงินที่เสียไปเป็นเงินของทุกคนตนเองตัดสินใจแทนไม่ได้
** เจ้าของรีสอร์ตเตรียมชี้แจง
ความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าว Manager Live ได้โทรศัพท์เพื่อสอบถามไปยัง ดร.ทับทิบสยามพลอย สิงหเสนี ซึ่งเป็นเจ้าของรีสอร์ต The Loft Khao Yai ได้ความว่า ตอนนี้ตัวเธอนั้นเพิ่งออกจากโรงพยาบาล เพราะเครียดกับข่าวที่เกิดขึ้น และจากข่าวนี้ได้สร้างความเสียหายให้กับรีสอร์ตเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ตนเองได้เรียกประชุมกับทางทีมงานและผู้จัดการรีสอร์ต และจะขอชี้แจงเรื่องราวทั้งหมดผ่านเอกสารแก่สื่อมวลชนทันทีที่ดำเนินการเสร็จ
เมื่อเข้าไปในหน้าเพจ The Loft Khao Yai ซึ่งเป็นเพจหลักของทางรีสอร์ตกลับพบว่าได้มีคอมเมนต์หลายคอมเมนท์ถูกลบหายไปจากช่องแสดงความคิดเห็น รวมถึงรูปภาพบางภาพที่ตลอดทั้งวันยังคงอยู่และมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกับสอบถามข้อเท็จจริงต่อเรื่องดังกล่าว ในช่วงเย็นของวันพุธที่ 23 ส.ค. กลับถูกลบหายไปจากหน้าแฟนเพจ
งานนี้ก็ต้องรอฟังการออกมาชี้แจงจากทางฝั่งของรีสอร์ตกันอีกทีว่าเรื่องราวที่แท้จริงนั้นเป็นเช่นไร สรุปแล้วใครผิดใครถูกกันแน่ หากเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องจริงและทางรีสอร์ตออกมายอมรับก็ต้องดูกันอีกทีว่าจากนี้ไปจะมีวิธีการแก้ไขปัญหาต่างๆ เหล่านี้อย่างไรให้ดีขึ้น
ขอบคุณภาพ : SUNE-O BIG FAMILY MEETING