xs
xsm
sm
md
lg

เปิดปาก นักท่องเที่ยว “ฟรอม ไทยแลนด์” จอมแหกคอก! “ยอมรับผิด แต่ใครๆ ก็ทำกัน”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
  งามไส้คนทั้งประเทศ! นักท่องเที่ยวไทยถูกฝรั่งอัดคลิปฯ ประจาน ยืนพื้นที่อันตรายใกล้บ่อน้ำพุร้อน “Yellowstone” ทว่า กลับหน้าระรื่นพูดใส่กล้อง “ฟรอม ไทยแลนด์” โซเชียลฯ ตอกกลับ “ถ้าไม่อาย..กลัวตายบ้างก็ยังดี!!” ล่าสุด หนึ่งในนักท่องเที่ยวเปิดใจกับทีมข่าวผู้จัดการ Live “ยอมรับว่าผิด แต่ใครๆ เขาก็ทำ”






“ถ้าไม่อาย..กลัวตายบ้างก็ยังดี!!”

“คนไทยบุกรุกเข้าโซนต้องห้ามในอุทยานแห่งชาติ Yellowstone ที่อเมริกา ซึ่งพื้นผิวมันเปราะบางและเสี่ยงทรุด เขามีแนวกั้น รวมถึงป้ายห้ามเข้าชัดเจน มีอุบัติเหตุคนตกลงไปตายหลายครั้งแล้ว พอฝรั่งเห็นก็เตือนบอกห้ามเข้า ตรงนี้เข้าไม่ได้ ทีมป้าหันมากวนตี- บอกรู้แล้ว แต่อยากถ่าย แล้วจบด้วยประโยคว่า “ฟรอม ไทยแลนด์” โอ๊ยป้า ถ้าไม่อายก็กลัวตายมั่งเหอะ”

งามหน้าไหมล่ะ! เพจดังโพสต์จวกคนไทย หลังฝรั่งปล่อยคลิปฯ แฉ กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเอเชียนเที่ยวเยลโลสโตนไร้จิตสำนึก อัปโหลดสู่โลกออนไลน์ทางยูทูป พร้อมระบุข้อความว่า “Asian group damages thermal feature at Yellowstone National Park”

โดยเหตุการณ์ภายในคลิปฯ เกิดขึ้นที่ อุทยานเยลโลสโตนในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีบ่อน้ำร้อน และน้ำพุร้อน มากกว่า 10,000 แห่ง ได้มีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยไม่สนใจคำเตือนของอุทยาน เดินเข้าไปใกล้ thermal feature(แหล่งความร้อน) ยืนมุงดูบ่อน้ำร้อนและถ่ายรูปอย่างสนุกสนาน


 
ซึ่งขณะที่ชายต่างชาติบันทึกวิดีโอ ได้พูดเตือนกลุ่มนักท่องเที่ยวให้ถอยออกจากจุดดังกล่าว แต่กลุ่มนักท่องเที่ยวยังคงทำหน้าระรื่นไม่แคร์สายตา ทั้งยังมีหญิงไทยพูดขึ้นว่า “from Thailand”

แต่เมื่ออัดคลิปฯ ไปได้ไม่นาน ได้มีหนุ่มไทยรายหนึ่งเกิดอาการโมโหเมื่อรู้ว่ากลุ่มของตนถูกแอบถ่ายคลิปฯ จึงเกิดการโต้เถียงและยืนกรานให้ลบภาพพวกตนออก จนกลายเป็นดรามาร้อนไปทั่วโลกออนไลน์ในขณะนี้

ทั้งนี้ อุทยานเยลโลสโตนถือเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก ซึ่งขนาดเนื้อที่ที่มากกว่า 2 ล้านเอเคอร์ ทำให้มันกลายเป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ซึ่งนั่นก็หมายความว่ามันมีความอันตรายมากพอๆ กับความยิ่งใหญ่ด้วยเช่นกัน

หากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ไม่นาน สำนักข่าว TheSun ของอังกฤษ มีรายงานอุบัติเหตุไม่คาดฝันในอุทยานเยลโลสโตนแห่งนี้ ว่า พบหนุ่มมะกันพลัดตกลงในบ่อน้ำพุร้อนเดือด 92 องศาเซลเซียส จนร่างถูกหลอมละลายหายไปในพริบตา! ซึ่งอุบัติเหตุที่ว่านี้ เกิดขึ้นมาจากความพยายามในการทดสอบอุณหภูมิบ่อน้ำร้อน จนพลาดพลัดตกลงไปในที่สุด

อีกทั้งก่อนหน้านี้ ได้มีเด็กชายวัย 13 ปี ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าจากการถูกน้ำร้อนลวกที่อุทยานเยลโลสโตน ขณะที่พ่อและเด็กชายเดินออกจากทางเดินที่อุทยานกำหนดไว้ จึงเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดดังกล่าว!

เห็นได้ว่า นี้ไม่ใช่เคสแรกๆ ที่เกิดอุบัติเหตุระทึกขวัญเช่นนี้ขึ้นที่อุทยานแห่งชาติเยลโลสโตน แต่ถึงแม้ว่าจะมีการติดป้ายประกาศเตือนให้ระวังถึงความอันตรายเอาไว้ก็ตาม ก็ยังไม่วายมีคนบางกลุ่มทำเรื่องไร้สติและสามัญสำนึกอยู่ดี!
ภาพจาก Jod8riew
อีกมุม! นักท่องเที่ยวไทย “ยอมรับผิดจริง..แต่ใครๆ เขาก็ทำ”

ทีมข่าวผู้จัดการ Live ได้ต่อสายตรงไปยังหนึ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยที่กำลังมีประเด็นดรามาอยู่นั้น ทางทีมข่าวได้สอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอีกแง่มุมที่ถูกโจมตีอย่างหนัก อีกทั้งในประเด็นที่สังคมวิพากษ์ในวลีฮิต “from Thailand”

“ผมอยากขอชี้แจงนะครับว่า ทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่อย่างที่เข้าใจ จริงๆ แล้ว ที่เยลโลสโตนจะมีบ่อน้ำพุร้อนเยอะมาก มีทั้งบ่อที่อันตรายมากและบ่อที่อยู่ข้างทางเดินปกติ ซึ่งบ่อที่อันตราย เจ้าหน้าที่จะทำการกั้นรั้วไว้และติดป้ายห้ามเข้า แต่บ่อที่มีดรามากันอยู่นี้คือบ่อที่อยู่ตามทางเดินปกติ

ซึ่งก่อนหน้าที่กลุ่มผมจะลงไป ผมเห็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติยืนอยู่ตรงนั้นก่อนแล้ว คนเยอะมาก ส่วนผมก็ไม่ทันสังเกตว่าตรงนั้นมีป้ายห้ามเข้า ผมเห็นมีแต่ป้ายที่เตือนว่าอันตราย ซึ่งตรงนี้ผมยอมรับว่าผมผิดที่เข้าไปในพื้นที่ที่อันตราย
ส่วนในคลิปฯ ที่เห็นว่าผมโมโห คือ ผมไม่พอใจที่มีคนมาอัดคลิปฯ ซึ่งมันเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ทั้งที่ก่อนหน้านั้นมีกลุ่มชาวต่างชาติหลายคนยืนอยู่ในบริเวณเดียวกับผมเหมือนกัน แต่ชายคนนี้ไม่ถ่ายและจงใจถ่ายมาแค่ที่กลุ่มคนไทย ผมเลยโมโหและบอกให้เขาลบออก”

 
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวรายนี้ยังขยายความถึงวลี “from Thailand” ที่มีการพูดถึงอย่างหนักในโลกออนไลน์ ซึ่งได้มีการหยิบประโยคที่ว่ามาล้อเลียนตามเพจต่างๆ ด้วยว่า เหตุผลที่พูดเช่นนั้น เป็นเพราะเข้าใจว่าชายคนดังกล่าวกำลังถ่ายคลิปท่องเที่ยวธรรมดา

“ส่วนคำพูด “from Thailand” ผมอยากขอชี้แจงครับว่า ผู้หญิงในคลิปฯ ไม่ทราบจริงๆ ว่าชายคนที่กำลังถ่ายคลิปฯ สื่อออกไปในลักษณะไหน คิดแค่ว่าถ่ายบรรยากาศความสวยงาม ป้าจึงพูดออกไปว่า “แอม ฟรอม ไทยแลนด์” ไม่ได้คิดว่าเขาถ่ายประจานเราอยู่ แต่กระแสออกมาว่าเราไม่สำนึกพูดถึงไทยแลนด์แบบนั้น ซึ่งผมไม่ได้มีเจตนาแบบนั้นเลยครับ

สุดท้ายแล้ว ผมก็อยากขอโทษ เราไม่ปฏิเสธอยู่แล้วว่าได้เข้าไปในพื้นที่หวงห้าม ต้องยอมรับผิด แต่ผมอยากขอพื้นที่ให้ได้ชี้แจงในอีกมุมหนึ่งให้คนได้เข้าใจในการกระทำของผมครับว่า ทำไมผมถึงต้องมีอารมณ์โมโห หรือต้องโกรธคนถ่ายคลิปฯ ขนาดนั้น”

จอมแหกกฎ! “รู้ว่าผิด..แต่ขอหน่อยแล้วกัน”

“ไม่ต้องถึงเยลโลสโตนหรอก แค่อุทยานในเมืองไทยก็พอ”

หนึ่งความเห็นที่ต้องเห็นด้วยอย่างปฏิเสธไม่ได้ ซึ่งได้มีการพูดถึงกรณีการละเมิดกฎของกลุ่มคนไทยในอุทยานเยลโลสโตนที่กำลังเป็นกระแสดรามาอยู่ขณะนี้ จากแฟนเพจ “เรารักษ์ป่าแก่งกระจาน” โดยมีใจความสำคัญสื่อถึงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวบางคนที่รู้ว่าผิด(กฎ)แต่ก็ยังทำ!

“นักท่องเที่ยวบางคนยังไม่อ่านป้ายเตือน ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบอุทยานฯ อย่างเข้มงวด บางคนจงใจไม่ทำเลย เรื่องนำสัตว์เลี้ยงเข้าในเขตอุทยานฯ การส่งเสียงดัง ดื่มของมึนเมาในพื้นที่กางเต็นท์ เรื่องขยะทิ้งไม่เป็นที่เป็นทาง และอีกหลายๆ เรื่องที่คนไทยรู้ว่าผิด ก็แต่ยังทำ เพื่อความสะดวกของตัวเองเป็นที่ตั้ง "บางเรื่องห้ามสัตว์ ยังง่ายกว่าห้ามคน”
ภาพจาก huffpost.com

 
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ “ครั้งแรก” และ “ครั้งสุดท้าย” สำหรับพฤติกรรมการท่องเที่ยวเชิงทำลาย-ไร้จิตสำนึกของนักท่องเที่ยวบางกลุ่ม ทว่า หากย้อนไปก่อนหน้านี้จะเห็นว่าเรื่องราวดรามาในลักษณะนี้มีให้เห็นมานานแล้ว และไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงได้

ทั้งกรณีแหกกฎ-เสี่ยงตาย ที่ “กิ่วแม่ปาน” ซึ่งมีนักท่องเที่ยวหลายคนขึ้นไปยืนและนั่ง บนราวระเบียงชมวิวที่กิ่วแม่ปาน พร้อมกับถ่ายรูปออกมาอย่างสวยงาม จนถูกตำหนิถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสม เพราะบริเวณดังกล่าวมีป้ายห้ามนั่งหรือปีนราวไม้ ซึ่งอาจมีผู้ทำตามจนทำให้ระเบียงไม้เสียหาย และอาจเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยวได้

เช่นเดียวกับกรณีนักท่องเที่ยวไทย “ปีนป่ายโบราณสถาน” ภายในวัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อขึ้นไปถ่ายรูปด้วยความสนุกสนาน ทั้งที่มีป้ายชัดเจนว่า “ห้ามขึ้นไปถ่ายรูป” แต่ไม่ปฏิบัติตาม พร้อมยังโพสต์ภาพตนอวดลงโซเชียลฯ อย่างหน้าไม่อาย!

รวมถึงกรณีนักแสดงแก๊งก์ฮอร์โมน อัดคลิปฯ เต้นสนุกบนรถไฟฟ้าที่ประเทศญี่ปุ่น แถมยังมีดรามาตามมาติดๆ เรื่องความไม่เหมาะสมในการถ่ายรูปกับดอกซากุระ ทั้งการสัมผัสและการโน้มกิ่งซากุระลงมาถ่ายรูป ซึ่งนอกจากนักแสดงกลุ่มนี้แล้ว ก็ยังมีดารา-นักแสดงอีกหลายคนที่แสดงพฤติกรรมเช่นนี้ขณะไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

เรื่องราวดรามาครั้งนั้น ถูกวิจารณ์อย่างหนักจนร้อนถึงเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว ออกประกาศเตือนนักท่องเที่ยวไทยกันเลยทีเดียวว่า ขอความร่วมมือปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อห้ามกันสักหน่อย เพื่อรักษาภาพลักษณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยในสายตาคนญี่ปุ่นนั่นเอง

อย่างไรแล้ว หากว่าสามัญสำนึกและการปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดของนักท่องเที่ยวบางกลุ่มยังคงไม่มากพอ เห็นทีว่าเรื่องแบบนี้จะยังคงมีมาให้ตำหนิกันอยู่เรื่อยๆ อีกตามเคย!

ข่าวโดย ทีมข่าวผู้จัดการ Live
กำลังโหลดความคิดเห็น