หัวใจแม่แทบสลาย เมื่อรู้ว่าลูกสาวที่หายตัวไป ถูกอดีตคนรักยศสิบโทอุ้มฆ่าตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว ส่ง Line หาทุกวันโดยที่ไม่รู้ชะตากรรมลูกสาว ล่าสุดจับตัวผู้ต้องหาได้ Faceoff เปลี่ยนหน้ามาใหม่หวังหนีคดี สุดท้ายไปไม่รอด รับสารภาพฆ่าเผานั่งยางเพราะหึงหวง แม่เหยื่อทวงถาม คดีล่าช้าเพราะผู้ต้องหาจนมุมหรือเพราะพ่อเป็นเสธ.กันแน่?!
สารภาพสิ้น เพราะหึงจึงฆ่า!
กลายเป็นอีกคดีสะเทือนขวัญที่ผู้คนให้ความสนใจมากที่สุดในขณะนี้ กับการหายตัวไปกว่า 3 ปีของ “น้องพลอย - พลอยนรินทร์ ผลิผล” หลังจากที่ผู้เป็นแม่เฝ้าตามหาตั้งแต่วันแรกที่ลูกถูกลักพาตัวไป โดยคาดว่าเป็นฝีมือของแฟนหนุ่มยศสิบเอก แม้จะมีหมายจับผู้ต้องหาแต่ก็ไร้วี่แววความคืบหน้า ล่าสุดจับตัวได้แล้ว พบว่ามีการศัลยกรรมอำพรางใบหน้าหนีความผิด อดีตคนรักสารภาพหมดเปลือก ฆ่าเพราะหึงหวง กลัวฝ่ายหญิงไปมีชายอื่น ปิดฉากคดีที่ยืดเยื้อมาถึง 3 ปีเต็ม
จากกรณีการหายตัวไปของ น้องพลอย สาววัย 28 ปี ที่หายตัวไปตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พัชรี ปั้นทอง ผู้เป็นแม่ไม่ได้นิ่งนอนใจแม้แต่วันเดียว เฝ้าขอความช่วยเหลือจากหลายฝ่าย ทั้งทนายความ สื่อมวลชน เพจเฟซบุ๊กชื่อดัง และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. จนคดีมีความคืบหน้ามากขึ้น
ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา และทหารจากกรมทหารราบที่ 23 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ทำการปิดล้อมพื้นที่ป่าอ้อยและไร่มันสำปะหลัง ต.หนองไม้ไผ่ อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคือ พลกฤต วิเศษ อดีตทหารยศสิบเอก หลังได้รับเบาะแสว่าเขาหนีมากบดานบริเวณนี้ แต่ก็ยังไม่พบตัว
ล่าสุด มืออุ้มน้องพลอยทนแรงกดดันไม่ไหว ติดต่อขอเข้ามอบตัว โดยรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมืออุ้มฆ่าน้องพลอยจริง ให้การรับสารภาพว่า วันที่เกิดเหตุคือ 21 พ.ค.57 ตนได้ขับรถยนต์ไปรับน้องพลอยบริเวณหน้าโรงงาน อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งขณะนั้นมีปัญหากันอยู่ เนื่องจากเกรงว่าน้องพลอยจะไปปันใจให้แก่ชายอื่นจึงไปรับตัวมาขึ้นรถพร้อมนำรถจักรยานของน้องพลอยขึ้นมาด้วย จากนั้นได้พูดคุยชักชวนให้หนีตามไปแต่น้องพลอยไม่ยอม และก่อนหน้านี้ได้เข้าไปขอน้องพลอยกับเเม่แล้ว แต่เเม่ไม่ยกลูกสาวให้จึงมาชิงตัว
ระหว่างทางเเม่โทรตามตัวน้องพลอยหลายครั้ง ทำให้ตัวเองรู้สึกโกรธจึงขว้างโทรศัพท์ทิ้ง ซึ่งขณะนั้นรถกำลังเเล่นอยู่และมีการทะเลาะกัน เขาอ้างว่าน้องพลอยเปิดประตูกระโดดลง จึงหยุดรถเเล้วเดินลงไปดูพบว่าร่างของน้องมีอาการสาหัส จึงนำตัวมาขึ้นรถก่อนจะกลับไปเอายางรถยนต์ที่บ้านและซื้อน้ำมันพร้อมเดินทางมุ่งหน้าไปที่สระบุรีทันที และเมื่อมาถึงบริเวณเขาหินซ้อน อ.เเก่งคอย จ.สระบุรี นำร่างของน้องพลอยลงจากรถแล้วใช้นั่งยางเผาทันที
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อคำให้การของมืออุ้มผู้นี้ จึงสอบเค้นพิรุธ จนกระทั่งเจ้าตัวยอมรับสารภาพ อ้างว่าน้องพลอยได้ใช้มีดพับแทงตนที่แขน ตนจึงทำร้ายน้องพลอยกลับด้วยการบีบคอจนถึงแก่ความตาย ก่อนจะนำร่างไปเผานั่งยาง นอกจากนี้ยังพบว่า พลกฤต ได้มีการศัลยกรรมอำพรางใบหน้าพร้อมกับฟิตหุ่นเพื่อหนีการจับกุมอีกด้วย
แม้คดีนี้จะคลี่คลายด้วยการจับกุมตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ในขณะเดียวกันความคิดเห็นบนโลกโซเชียลฯ ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทำอะไรกันอยู่ หากผู้เป็นแม่ของน้องพลอยไม่เข้าร้องเรียนอีกครั้ง คดีนี้ก็คงจะก็คงเงียบหายไปตามกาลเวลา
หัวอกแม่สุดช้ำ ส่ง Line หาลูก 3 ปี ไม่มีคนตอบ
เมื่ออดีตแฟนหนุ่มของน้องพลอยสารภาพแล้วว่าเป็นผู้ลงมืออุ้ม ฆ่า เผานั่งยางน้องพลอยจริง ก็ทำเอาผู้เป็นแม่ถึงกับใจสลายทันที เพราะก่อนหน้านี้ยังมีความหวังเสมอว่า ลูกสาวอาจจะยังมีชีวิตอยู่แม้จะหายตัวไปร่วม 3 ปีก็ตาม แม้จะมีความหวังที่จะได้เจอหน้าลูกอยู่น้อยนิด แต่ก็ไม่มีวันไหนที่ไม่คิดถึง เธอเพียรส่งข้อความไปหาลูกสาวทุกวัน โดยที่ไม่รู้เลยว่า ปลายทางไม่มีคนตอบกลับแล้ว
ทีมข่าวผู้จัดการ Live ขอย้อนความเป็นมาของคดีสุดสะเทือนใจนี้ โดยจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 21 พ.ค.57 น้องพลอยในวัย 25 ปี หายตัวไปหลังจากเลิกงานจะกลับบ้านและไม่สามารถติดต่อได้ ผู้เป็นแม่จึงแจ้งความต่ิเจ้าหน้าที่สอบสวน สภ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด พบรถของ สิบเอกพลกฤต วิเศษ แฟนหนุ่มของน้องพลอยผ่านหน้าที่ทำงาน สอดคล้องกับพยานและแนวทางการสืบสวน เจ้าหน้าที่จึงอนุมัติศาลขอออกหมายจับในข้อหาพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร โดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ในเวลาต่อมานายทหารผู้นี้ถูกให้ออกจากราชการ
ถัดมาในเดือน พ.ย. ปีเดียวกัน ก็เกิดเหตุการณ์ที่หญิงวัย 53 ปี พึ่งร่างทรงช่วยตามหาสามีที่หายตัวไป 6 วัน บริเวณถนนสายแก่งคอย-แสลงพัน ต.หินซ้อน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี พบโครงกระดูกหลายชิ้นที่คาดว่าถูกเผานั่งยางมานานแล้วไม่ต่ำกว่า 3 เดือน แต่ในขณะนั้นไม่ทราบว่าเป็นโครงกระดูกของใคร
เวลาผ่านไป 3 ปี หลังจากที่แม่ของน้องพลอยพยายามทุกวิถีทางเพื่อตามหาตัวลูกสาว แต่คดีไม่มีความคืบหน้า จึงได้ปรึกษา รณณรงค์ แก้วเพ็ชร ทนายความ และเดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ บิ๊กตู่ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เพื่อให้เร่งรัด ติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ลักพาตัว ภายหลังหายสาบสูญไปกว่า 3 ปี โดยตำรวจละเลยที่จะติดตามตัวและจับกุมผู้ต้องหา
ไม่เพียงแค่นั้น แม่ของน้องพลอยยังได้ขอความช่วยเหลือจากเพจเฟซบุ๊ก “แหม่มโพธิ์ดำ” เพื่อเป็นอีกช่องทางในการตามหาตัวลูก โดยเธอตั้งข้อสังเกตว่า สาเหตุหลักที่ตำรวจไม่กล้าจับตัวเพราะผู้ต้องหามีพ่อเป็นเสธ. ทหารยศใหญ่หรือไม่ จึงทำให้คดีความไม่คืบหน้า
เมื่อสื่อหลายสำนักให้ความสนใจกับคดีนี้มาขึ้น ประกอบกับเจ้าหน้าที่ได้หยิบคดีนี้ขึ้นมาทำอีกครั้ง ทำให้ทราบเบาะแสของอดีตสิบเอกผู้นี้ พร้อมกับสั่งไล่ล่าเข้าที่เป้าหมาย แต่ผู้ต้องหากลับไหวตัวทัน ถอดเสื้อวิ่งออกหลังบ้าน เข้าป่าไร่มันสำปะหลังหลบหนี ตำรวจปิดล้อมกดดันทั้งคืนแต่ยังไม่พบตัว
กระทั่ง 12 ส.ค. ถึงขั้นเฮลลิคอปเตอร์บินค้นหา แต่ผ่านไป 1 วันก็ยังไม่พบตัวผู้ต้องหา และในวันเดียวกันนี้ ผู้เป็นแม่ของน้องพลอยยังมีความหวังว่าจะได้ลูกสาวกลับมาเป็นของขวัญวันแม่ เธอให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า “หลังจากเฝ้ารอคอยลูกสาวมานานกว่า 3 ปีแล้ว ยังมั่นใจว่าลูกสาวน่าจะยังมีชีวิตอยู่แม้ว่าจะไม่ทราบความเคลื่อนไหว หรือได้รับการติดต่อจากลูกสาว และแม่ก็ส่งข้อความหาลูกทุกวันแม้ว่าลูกจะไม่ตอบ”
และแล้ว ช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง เมื่ออดีตแฟนหนุ่มของน้องพลอยทนแรงกดดันไม่ไหว เดินทางเข้ามอบตัว หลังจากสอบเค้นอยู่นาน ก็รับสารภาพว่า เป็นผู้ลักพาตัวน้องพลอยไปฆ่าเผานั่งยางจริง โดยให้เหตุผลขอคืนดีแล้วไม่ยอม หึงหวงเพราะฝ่ายหญิงตีตัวออกห่าง หลังรู้ว่ามีตนเองมีภรรยาและลูกแล้ว ก่อนจะนำศพไปทิ้งในพื้นที่อำเภอแก่งคอย จ.สระบุรี ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่เดินทางไปยัง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เพื่อร่วมค้นหาศพ เบื้องต้นพบโครงกระดูกของน้องพลอยแล้ว และพบว่ามีร่องรอยของการเผา
ทันทีที่ทราบข่าวการเสียชีวิตของลูกสาว เธอก็ร่ำไห้อย่างหนักและกรีดร้องออกมาว่า “ไม่จริง” เพราะตลอด 3 ปี ที่ผ่านมายังเชื่อว่าลูกยังมีชีวิตอยู่ กลายเป็นการปิดฉากคดีสุดสะเทือนใจที่ยาวนานตลอด 3 ปีของผู้เป็นแม่ที่หวังจะได้ลูกสาวคืนกลับเป็นของขวัญวันแม่ สุดท้ายต้องหัวใจสลาย เมื่อรู้ว่าของขวัญคือน้องพลอยนั้น ได้จากแม่ไปเสียแล้ว...