เทศกาลดนตรีใหญ่ๆ ที่เมืองนอก ไม่ได้มีแค่ดนตรีเท่านั้น เทศกาลมันรวบรวมเอาทั้งศิลปะ อาหารการกิน และ เรื่องดีเรื่องแย่ต่างๆ ไว้มากมาย คนอเมริกันหรือคนยุโรปมักเม้าท์มอยกันสนุกปากหลังกลับจากเทศกาลดนตรี ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นประสบการณ์ด้านลบทั้งสิ้น เหตุนี้จึงเริ่มมีการสำรวจว่าจริงๆ แล้วในเทศกาลดนตรีนั้น ผู้คนนิยมไปกันทำไม ทั้งๆ ที่บางคนไปแล้วแทบไม่เห็นศิลปินบนเวที หรือได้ยินเสียงเพลงในระดับที่เบาเอามากๆ
MSN อดีตโปรแกรมแชทยอดฮิตเคยสำรวจความเห็นของชายหญิงที่นิยมชมชอบไปเทศกาลดนตรีต่างๆ เพราะเหตุใด โดยสุ่มจาก 2000 คน และให้ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ ผลสำรวจออกมาคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ดังนี้
47 % พวกเขาบอกว่าไปเทศกาลดนตรีเพื่ออยากหลุดเข้าไปใช้ชีวิตให้สุดเหวี่ยง ทำในสิ่งที่ชาตินี้ไม่เคยทำในชีวิตจริง และเมื่อเทศกาลดนตรีจบลง พวกเขาจะพยายามลืมๆ มันไปซะ
45% พวกเขาไปดูวงดนตรีที่ตนเองชื่นชอบ คลั่งไคล้ แม้ว่าจะเห็นศิลปินบนเวทีตัวเท่ามดก็ตามที บางคนแทบไม่สนใจด้วยซ้ำ ขอแค่ได้ไปเสพบรรยากาศ และรับรู้ว่านักร้องคนโปรดร้องอยู่บนเวทีก็พอแล้ว
25% ต้องการไปเทศกาลดนตรีเพราะเรื่องเซ็กส์ ยิ่งมีอะไรกับคนแปลกหน้ายิ่งทำให้รู้สึกเหมือนก้าวผ่านอะไรไปได้สักอย่าง เด็กวัยรุ่นชายหญิงหรือเกย์บางคนตั้งใจไปเปิดซิงในเทศกาลดนตรีด้วยซ้ำ
21% ต้องการไปเสพยา มั่วยากันจริงๆ จังๆ เพราะในเทศกาลดนตรีต่างๆ ยาหาซื้อง่ายพอๆ กับลูกชิ้นปิ้งงานวัด
( ถ้าหากจำแนกวัยออกจะค้นพบว่า )
10% ของคนไปเทศกาลดนตรีที่มีอายุระหว่าง 45-54 ปี ยอมรับแต่โดยดีว่าพวกเขามีเซ็กซ์กับคนแปลกหน้า และอาจมีติดต่อกันหลังจากนั้น บางคนบางคู่อาจคบกันจริงๆ จังๆ จนแต่งงานไปเลย แต่หาได้น้อยมาก บางคู่ให้สัญญากันไว้ว่าจะไม่ติดต่อกันอีกไม่ว่าจะทางใด เพราะบางคนแอบหนีเมียหนีผัวไป
9% ของคนไปเทศกาลดนตรีอายุระหว่าง 45-54 ปี ยอมรับว่ามั่วยา
** ขอบคุณข้อมูลตัวเลขบางส่วนจาก เว็บ gigwise
