xs
xsm
sm
md
lg

“เณรคำ” โฮมคัมมิ่ง! ย้อนรอยไทม์ไลน์ “อรหันต์กำมะลอ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ย้อนรอยไทมไลน์ความฉาว! อดีตพระ “เณรคำ” จาก “พระ” สู่ “ผู้ร้าย” ข้ามแดน!! พร้อมแพ็กเก็ตคดีสะเทือนวงการสงฆ์ “พรากผู้เยาว์-กระทำอนาจาร-ฉ้อโกง-ฟอกเงิน” ล่าสุดถูกส่งตัวดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อย โลกโซเชียลฯ ซัดซ้ำตัดต่อภาพล้อเลียนแชร์กระจาย “สไปเดอร์เณรคำ..โฮมคัมมิ่ง” แล้วนะโยม!!

ย้อน 4 ปีคดีฉาว! อรหันต์ลวงโลก

“พระสามรูป สวมแว่นดำ เสียบหูฟังไอโฟน พกกระเป๋าหลุยส์ฯ หรูหรา นั่งอยู่บนเครื่องบินส่วนตัว”
นี่คือจุดเริ่มต้นเรื่องราวดรามาเขย่าวงการสงฆ์ ที่นำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักในสายตาพุทธศาสนิกชน ทว่า หากย้อนกลับไปไม่นานจะพบว่า “เณรคำ” หรือ “นายวิรพล สุขผล” มีเรื่องราวฉาวกระฉ่อนมาก่อนแล้ว จนถูกยกฉายาให้เป็น “อรหันต์ลวงโลก” ไปในที่สุด!

หากไล่เรียงเหตุการณ์ ย้อนกลับไปในเดือนพฤษภาคม ปี 2556 จุดเริ่มต้นเรื่องราวดรามาเขย่าวงการสงฆ์ ร้อนระอุมาจากโลกออนไลน์จากการแชร์คลิปฯ พระสามรูปนั่งอยู่บนเครื่องบินส่วนตัว จนกลายเป็นที่วิจารณ์และแสดงความคิดเห็นเชิงลบต่อความไม่เหมาะสมร้อนไปทั่วโลกออนไลน์

ซึ่งก่อนหน้านี้ เรื่องราวความฉาวโฉ่ของอดีตพระรูปนี้ มีให้เห็นอยู่ในภาพที่สังคมออนไลน์แชร์กันอย่างหนัก ถึงภาพหน้าคล้ายหลวงปู่เณรคำกำลังหลับนอนกับสีกา และอีกหลายๆ ภาพที่วิจารณ์กันหนาหู ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการแก้ตัวออกมาเช่นกันว่า เป็นภาพที่ถูกตัดต่อขึ้น เพื่อให้อดีตพระรายนี้เสื่อมเสียชื่อเสียงนั่นเอง


 
จากนั้นเดือนมิถุนายนในปีเดียวกัน ทนายความชื่อดัง “สงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์” ประธานเครือข่ายต่อต้านบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้มีความต้องการให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (CSI) เข้าสอบสวนเรื่องนี้เป็นกรณีพิเศษ

เนื่องจากอดีตพระ “เณรคำ” มีพฤติการณ์อวดอุตริแสดงอภินิหาร เพื่อฉ้อโกงเงินจากประชาชน อีกทั้งยังต้องอาบัติปาราชิก จากการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาว ซึ่งถือเป็นข่าวฉาวน่าอับอายไปทั่วบ้านทั่วเมืองในขณะนั้น

ภายหลังจากที่ยื่นเรื่องส่งต่อให้กรมสอบสวนคดีพิเศษได้นำเรื่องเข้าสู่กระบวนการ ในเดือนกรกฏาคมปีเดียวกันนี้ ทาง DSI ได้ประสานข้อมูลและหลักฐานในการขอศาลออกหมายจับ ในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน กระทำชำเรา พรากผู้เยาว์ อวดอุตริมนุสธรรมผ่านเว็บไซต์ และความผิดฐานฟอกเงิน”

ดูเหมือนว่าอดีตพระรายนี้จะขึ้นชื่อในเรื่อง “ความฉาว” ไม่จบไม่สิ้น แต่ที่เห็นจะถูกพูดถึงและถูกครหาจากสังคมอย่างหนัก คือ กรณีการอวดอุตริ ซึ่งมีการปรากฏหลักฐานชัดเจนว่า มีการอวดอ้างว่าตัวเองเป็นพระสงฆ์ชรารูปหนึ่งที่มรณภาพแล้ว ทว่า กลับชาติมาเกิดและสามารถระลึกชาติได้ จึงได้ใช้ชื่อว่า “หลวงปู่เณรคำ”

ลึกลงไปในภาพและคลิปฯ ต่างๆ ที่ได้มีการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ จะเห็นได้ว่ามีการใช้หลักการตลาดเพื่อโปรโมตตัวเอง ผ่านความเชื่อและความงมงายของผู้ที่นับถือ ด้วยการสร้างภาพลักษณ์ให้น่าเลื่อมใส แสดงอิทธิฤทธิ์ อภินิหาร เรี่ยรายเงินบริจาคจากประชาชนได้จำนวนมหาศาลเลยทีเดียว

สอดคล้องกับการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของเณรคำ ได้พบว่ามีบัญชีเงินฝากธนาคารต่างๆ มาถึง 41 บัญชีด้วยกัน! และยังมีทรัพย์สินอื่นๆ อีกจำนวนมาก ทั้ง บ้าน 2 หลัง รถยนต์หรูหราราคาแพงกว่า 10คัน อย่างเช่น ยี่ห้อเชฟโรเลต เฟอร์รารีฮัมเมอร์ เบนซ์ และอื่นๆ รวมไปถึงรถจักรยานยนต์ รวมมูลค่าแล้วมีมากถึง 200 ล้านบาท!

นี่จึงเป็นที่มาของการสั่งฟ้อง “เณรคำ” ในช่วงเวลาของการหลบหนีไปนอกประเทศยาวนานถึง 4 ปี ซึ่งไม่น่าเชื่อเลยว่าผู้ที่เรียกตนว่า “หลวงปู่” จะกระทำความผิดและทำให้พุทธศาสนิกชนเสื่อมศรัทธาได้มากถึงเพียงนี้!!

โซเชียลฯ แซะแหลก “เณรคำ..โฮมคัมมิ่ง”

เสียงวิจารณ์ยังคงคุกรุ่นโลกออนไลน์ หลังจากสิ้นสุดการรอคอยนำตัว “เณรคำ” มาดำเนินคดี โดยการส่งตัวจากสหรัฐอเมริกา ในฐานะ “ผู้ร้ายข้ามแดน” ซึ่งถือเป็นประเด็นร้อนที่สังคมต่างจับจ้องมากที่สุดอีกประเด็นหนึ่งในขณะนี้
หลังจากที่เดินทางมาถึงประเทศไทยในกลางดึกของคืนวันที่ 19 กรกฎาคม2560 DSI ได้นำตัว “เณรคำ” มาสอบปากคำ และได้นำตัวผู้ต้องหาส่งให้อัยการยื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญาในวันถัดไป

ซึ่งความคืบหน้าล่าสุด ศาลอาญาได้รับฟ้อง “อดีตพระเณรคำ” ใน 2 สำนวน 5 ข้อหา ได้แก่ ข้อหาพรากผู้เยาว์, กระทำชำเราเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี, กระทำอนาจารเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี, ฉ้อโกงประชาชน และฟอกเงิน ขณะที่ศาลแพ่งสั่งยึดที่ดินสิ่งปลูกสร้าง-รถหรูรวม 27 รายการ มูลค่ากว่า 43 ล้านบาท! รวมถึงค้านประกันตัวอีกด้วย

แน่นอนว่า หลังการปรากฏตัวของ “เณรคำ” ได้เป็นที่สนใจของโลกโซเชียลฯ อย่างมาก ถึงขั้นมีการทำภาพล้อเลียนเณรคำในท่าทางตลกขบขัน โดยเพจดัง “เฮ้ย นี่มันตัดต่อชัดๆ V2” ซึ่งเป็นภาพคล้ายโปสเตอร์หนังดังที่กำลังเข้าฉายในโรงภาพยนตร์อยู่ขณะนี้ อย่างเรื่อง “Spider-Man Homecoming” และ “Dunkirk” โดยมีแคปชั่นแซะกันขำๆ ระบุไว้ว่า





“การกลับมาของมหึมาฮีโร่แห่งค่ายมาเวร(กรรม) หลังผจญภัย ณ สุดขอบฟ้า แล้วกลับมาสู่ชายคาDSI ไต่ระห่ำ ลุ้นระทึก สึกแล้วเรียบร้อย #สมีคำโฮมคัมมิ่ง”

“เกริกเกียรติภาพยนตร์แห่งทศวรรษ ฝีมือการกำกับของเสด็จพ่อ ชโยเฟอร์ โนแวร์ ที่สุดแห่งความยิ่งใหญ่จนโลกต้องจารึก สุดยอดภาพยนตร์อรหันต์ชั้นฟ้า เลิศหล้านภาลัย ขวัญใจนักวิจารณ์ทั่วปฐพี ขยี้อารมณ์ ถล่มความรู้สึก ฉายแล้วตั้งแต่เมื่อวานที่โรงพักใกล้สนามบิน #ดันคำ”

หลังมีการเผยแพร่ภาพล้อเลียนอดีตพระเณรคำไปทั่วโลกออนไลน์ จากประเด็นที่ได้มีการจะจับตัวอดีตพระเซเลปได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ยังไม่วายมีกระแสวิจารณ์ขม ถึงความล่าช้าในการนำตัวมาดำเนินคดี บ้างก็แสดงความคิดเห็นเชื่อมโยงกรณี “ธัมมี่” ที่ยังคงหายตัวไปอย่างล่องหน จนเกิดวลีฮิตแซวกันขำๆ ในโลกออนไลน์อีกด้วยว่า . .

“ในที่สุดก็เจอพระหายากแล้ว แต่ยังขาดอีกองค์หนึ่ง”


ข่าวโดย ทีมข่าวผู้จัดการ Live
ภาพประกอบ FB เฮ้ย นี่มันตัดต่อชัดๆ V2
กำลังโหลดความคิดเห็น