xs
xsm
sm
md
lg

RIP “น้องเจ๊าะแจ๊ะ” ขับรถทับหมาโดยเจตนา? ผลักเรื่องขึ้นศาล สอนบทเรียนคนทารุณ!! [ชมคลิป]

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ยอมความไม่ได้!! “สมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย” ยื่นคำขาด นี่ไม่ใช่คดีแพ่ง แต่เป็นคดีอาญา เข้าข่ายทารุณสัตว์ ต้องจัดหนักส่งให้ถึงศาล ด้านเจ้าของ “น้องเจ๊าะแจ๊ะ” หมาพันธุ์ไซบีเรียน เจ้าเหยื่อสี่ขาที่ถูกรถกระบะทับตายคาที่เปิดใจ แค่อยากให้ “ลุงโชเฟอร์” สำนึกผิด แต่กลับไม่ได้รับแม้คำว่า “ขอโทษ” จึงเปลี่ยนใจ อยากผลักให้คดีนี้เป็นบทเรียนคนทารุณ!!


 

เร่งเครื่องชนตายคาที่ อุบัติเหตุหรือเจตนา!!?

["น้องเจ๊าะแจ๊ะ" เหยื่อสี่ขากับนาทีสุดท้ายของชีวิต]
“แค่อยากได้ยินคำว่า "ขอโทษ" คือถ้าชนแล้วลงมาดูหมาพลอยสักหน่อย พลอยจะไม่เสียใจเลย แต่นี่คุณไม่ลงมาดูเลย แถมยังทำหน้าตาเฉยบอกไม่รู้ ยิ่งมีคลิปตัวหลังออกมาอีก (คลิปลุงชี้หน้า ไม่ยอมรับ บอกให้ตำรวจมาเชิญตัวไปโรงพักเอง) มันยิ่งทำให้พลอยโมโหมากขึ้นไปอีก เหมือนเขาทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย”
 
พลอย-รินรดา ธนูศร แม่ค้าขายผลไม้ เจ้าของ "น้องเจ๊าะแจ๊ะ" สุนัขพันธุ์ไซบีเรียนที่ถูกรถกระบะทับตายคาที่ บริเวณหน้าเซเว่นอีเลฟเว่น ตลาดแก่งคอย เปิดใจผ่านเสียงปลายสายกับทีมข่าว ผู้จัดการ Live หลังคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวที่เผยแพร่ออกไป ถูกแชร์อย่างล้นหลามจนกลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียลฯ อยู่ขณะนี้ และบรรทัดต่อจากนี้คือความรู้สึกของเธอที่บรรยายผ่านโลกออนไลน์เอาไว้
 
“ปกติเราอยู่กับหมาเราตลอด แต่วันนั้นคลาดสายตาแป๊บเดียว เพราะเราเดินไปซื้ออาหาร ก็มีลุงคนนึง ขับรถกระบะมาอย่างเร็ว เหยียบหมาเราตายโดยเจตนาไม่เหยียบเบรก

น้องร้องเสียงดังมาก ทุกคนในตลาดแตกตื่นกันหมด ส่วนคนเหยียบขับรถหนีไปเลย ตลาดมันสว่างมาก เขามองเห็น แต่เขาตั้งใจทำ และนี่ก็ไม่ใช่หมาตัวแรกที่ชน คนแถวนั้นรู้กันดี แต่ไม่มีหลักฐาน


หลังจากนั้น เรารีบขับรถตามไปหาแก แกตอกหน้ากลับมาว่า แล้วใครใช้ให้หมามึงมาอยู่กลางถนน พร้อมระรานเรา จนบัดนี้ ยังไม่ได้ยินคำขอโทษสักคำ

เราอยากให้ทุกคนช่วยกันดูคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดอันนี้ แล้วตอบเราทีว่านี่คืออุบัติเหตุหรือเจตนาฆ่าหมา ขอบคุณค่ะ ช่วยให้ความเป็นธรรมกับหมาเราด้วย น้องตายในที่เกิดเหตุค่ะ”

เมื่อทางทีมข่าวสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์สลดดังกล่าวเพิ่มเติมอีกครั้งว่า ในฐานะเจ้าของสุนัขที่ได้เห็นคลิปแล้ว คิดว่าคุณลุงที่ขับรถคันนั้นชน เกิดจาก “อุบัติเหตุ” หรือ “เจตนา” เธอก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วตอบกลับมาว่า...

“ตอนแรกที่ไปแจ้งความ ทางตำรวจเขาก็บอกว่า มันดูค่อนข้างยากว่าทางคนขับรถ เจตนาหรือไม่เจตนาที่จะชน เพราะมันอยู่ที่ใจเขา แต่พอมีคลิปที่ 2 ออกมา พลอยค่อนข้างมั่นใจว่ามันค่อนข้างไปในทางเจตนามากกว่า
เพราะเขาไม่แตะเบรกเลยจริงๆ ค่ะ ไปดูคลิปจะรู้ว่าไฟเบรกไม่ขึ้นเลย และเขาก็ไม่ได้หยุดรถหรือลงมาดูอะไรด้วย จนทางเราต้องไปถามเขาเอง แต่เขาก็บอกแค่ว่าไม่รู้ไม่เห็น

แถมคนอื่นเขาก็พูดกันมาว่า คุณลุงเขาเป็นคนชอบเหยียบหมา เห็นหมาไม่ได้จะชอบเหยียบอะไรแบบนี้ แต่ไม่เคยมีใครเอาผิด ไม่รู้จะเอาผิดยังไง เพราะเจ้าของหมาก็คนที่รู้จักกัน เป็นคนในตลาดเหมือนกัน

ก็ไม่ใช่ว่าพลอยไม่โทษตัวเองนะคะ พลอยก็โทษตัวเองที่ปล่อยหมา อันนี้พลอยก็ยอมรับผิด แต่อยากให้ดูว่าถ้าคุณมีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน คุณน่าจะเบรกไหม แต่เขาก็อ้างว่าไม่เห็น พลอยก็ไม่รู้จะพูดยังไง

ในเหตุการณ์จริง พลอยไม่อยู่ตรงนั้น แต่มีน้องที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่าตรงนั้นเป็นสี่แยกไฟแดง การที่เขาจะออกตัวแรงมันก็คงจะไม่ใช่ เพราะเพิ่งพ้นไฟเขียวมา และเขาก็เพิ่งมาเร่งเครื่อง น้องที่อยู่ตรงนั้นก็นึกว่ารถเขาจะเบรก แต่พอเห็นเหยียบก็ตกใจ


[พลอย-รินรดา ธนูศร แม่ค้าขายผลไม้ เจ้าของ "น้องเจ๊าะแจ๊ะ"]
ล่าสุด พลอยได้โทร.ไปเคลียร์กับทางครอบครัวผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็น “ฆาตกรเลือดเย็น” ฆ่าสัตว์โดยจงใจมาแล้ว แต่เป็นการพูดคุยผ่าน “ลูกชาย” ของคุณลุงคนดังกล่าว โดยพลอยยืนยันอีกฝ่ายพยายามไกล่เกลี่ยและกล่าวขอโทษแทนคนเป็นพ่อ แต่มันไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ เพราะที่เธอต้องการคือคำว่า “ขอโทษ” จากปากของคุณลุงคนนั้นเอง

“ตอนนี้เขาก็ยังไม่ยอมมาเจอพลอย นี่พลอยก็ต้องเป็นคนโทร.ไปหาลูกชายเขาเองด้วยนะคะ แต่ลูกชายเขาก็บอกว่าอาป๊าเขาให้ไปคุยที่ร้านเขา แต่ถ้าพลอยไป พลอยก็เสียเปรียบ ก็สงสัยว่าทำไมไม่มาคุยกันตรงนี้ ทั้งๆ ที่มีตำรวจเป็นกลางอยู่ตรงนี้

ถามว่าจะเอายังไงต่อไป เท่าที่ซาวเสียงในเพจ “Watchdog Thailand” และเพจ “แหม่มโพธิ์ดำ” ที่ช่วยกระจายเรื่องนี้ช่วยพลอย พลอยก็คิดว่าให้เสียงข้างมากในโซเชียลฯ เป็นคนตัดสินดีกว่าค่ะว่าอยากได้แบบไหน แต่เท่าที่ดู ส่วนใหญ่เขาก็อยากให้ดำเนินการให้ถึงที่สุด อยากให้เป็นกรณีตัวอย่างเกี่ยวกับการทารุณสัตว์






 

คนไทยรู้ไว้! “คดีทารุณสัตว์” ไม่มีสิทธิยอมความ

[รถกระบะของผู้ถูกกล่าวหา]
ผมเป็นลูกชายของชายที่ขับรถชนสุนัขที่แก่งคอยเอง ผมต้องขอแสดงความเสียใจและขออภัยกับเจ้าของสุนัขด้วย ก่อนหน้านี้ที่บ้านผมก็เคยเลี้ยงสุนัข และสุนัขเคยเสียชีวิตแบบนี้มาก่อนเหมือนกัน ผมทราบดีว่าเจ้าของสุนัขรู้สึกยังไง โดยปกติพ่อผมไม่เคยทำร้ายก่อกวนใคร ที่มีการกล่าวหาในคอมเมนต์เรื่องจะชนคนชนเด็ก มันเกินไปและทำร้ายจิตใจผมมาก

แต่กับนิสัยการขับรถของพ่อผม หากเห็นสุนัขบนถนน หากเบรกทันจะเบรก หากไม่ทันจะไม่ยอมหักหลบ แต่บางครั้งจะไม่เบรกเลย ซึ่งจุดนี้ผมทราบดี ด้วยยิ่งอายุที่มากขึ้น ยิ่งทำให้ประสิทธิภาพการขับขี่ลดลง ในเรื่องนี้ผมจะไปคุยกับพ่อเป็นการส่วนตัวในครอบครัวเอง

ผมไม่ทราบเจ้าของคลิปเป็นใคร หากเจ้าของสุนัขต้องการให้รับผิดชอบ ให้ติดต่อกลับผมโดยตรงได้เลยครับ ในส่วนคลิปที่แชร์อยู่ตอนนี้ ขอความกรุณาเห็นใจครอบครัวผมด้วยครับ แต่จะลบหรือไม่ แล้วแต่จะพิจารณา"

เนื้อความทั้งหมดนี้ คือตัวอักษรที่ "ลูกชาย" ของคุณลุง ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนขับรถกระบะชน “น้องเจ๊าะแจ๊ะ” ตายคาที่ ส่งให้แฟนเพจ “แหม่มโพธิ์ดำ” ทางหลังไมค์ เพราะเกรงว่าหากใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวโพสต์ถึงเพจดังแบบสาธารณะ จะมีผลต่อการทำงานของตัวเองและครอบครัว จึงฝากทาง “ควีน” หรือ “แหม่มโพธิ์ดำ” ช่วยประสานงานให้

เมื่อทางทีมข่าว ผู้จัดการ Live ทราบจากการค้นข้อมูลว่า เพจดังดังกล่าวมีข้อมูลในส่วนนี้เก็บเอาไว้ จึงติดต่อขอรายละเอียด จนได้รับเนื้อหาดังกล่าวออกมาเผยแพร่ เพื่อหวังให้เกิดความเข้าใจอันดีต่อทุกฝ่าย และเพื่อให้การนำเสนอข่าวในประเด็นนี้รอบด้านมากที่สุด

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางทีมข่าวได้ติดต่อขอความรู้ไปยัง โรเจอร์ โลหนันทน์ เลขาธิการสมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย และประธานอนุกรรมการติดตามการบังคับใช้กฎหมายป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ ให้ช่วยวิเคราะห์ประเด็นร้อนประเด็นนี้ จึงได้คำตอบว่าเจ้าตัวกำลังติดต่อประสานงานกับทางตำรวจ เพื่อเร่งตรวจสอบกรณีนี้อยู่เช่นกัน


[เหยียบมิดแบบไม่มีเบรก]
คดีนี้เท่าที่ผมดูคลิป ก็เห็นชัดครับว่าเกิดจากการเจตนาชน รวมถึงตำรวจผู้ใหญ่หลายๆ ท่านก็มองตรงกัน ถ้าดูจากความเร็วของรถ ทั้งช่วงเวลา มันก็เปรียบได้เหมือนกับเด็กยืนอยู่กลางถนน คุณจะมาอ้างว่าเป็นอุบัติเหตุมันไม่ได้เลย เพราะคนขับมีเวลาเพียงพอที่จะทันเห็นว่ามีหมานั่งอยู่ตรงนั้น มันไม่น่าจะเข้าข่ายประมาทไปได้

คือเขามีเวลาอีกเยอะที่จะหลบหรือเบรก แต่ลักษณะที่ปรากฏในคลิป พฤติกรรมการขับรถทับแบบนั้น มันไปในทางเจตนามากกว่า ถ้าจะให้วัดกันตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ พ.ศ.2557 จะเข้าข่ายมีความผิดฐานทารุณสัตว์แน่นอน คือมีโทษจำคุกสูงสุด 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วนการจะอ้างว่าแก่แล้ว สายตาไม่ดี มีผลทำให้ปฏิกิริยาเชื่องช้า หรือจะอ้างเหมือนคดีข่มขืนหมา อ้างว่าสติไม่ดี คือสามารถอ้างเพื่อขอลดหย่อนโทษได้ แต่จะอ้างเพื่อให้ละเว้นไม่ดำเนินคดีนั้น ทำไม่ได้ เพราะตัว พ.ร.บ.นี้ จะต้องตัดสินกันที่ศาลเท่านั้น

และด้วยข้อกำหนดที่ต้องไปตกลงกันที่ศาลแบบนี้ จึงอาจทำให้เป็นปัญหาในการดำเนินคดี เพราะเจ้าหน้าที่บางหน่วยงานอาจมองว่าเป็นภาระในการต้องเขียนสำนวน จึงอาจจะมีการแนะนำไปให้ฟ้องแพ่งหรือยอมความ ซึ่งถือเป็นทางเลือกที่ผิดกฎหมาย ถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่


ที่สำคัญ จะเอาคดีเรื่องการจราจร มาปิดความผิดคดีเรื่องทารุณสัตว์ไม่ได้ เพราะตอนนี้บางคนพยายามจะเบี่ยงประเด็นไปว่า เป็นเรื่องของการขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์ คือส่วนใหญ่มองว่าไม่สามารถใช้กฎหมายทารุณสัตว์ได้ จะโยนไปเรื่องแพ่งหมด ซึ่งไม่ใช่เลย เพราะเท่าที่ดูคลิปแล้ว เห็นได้ชัดว่าคือการทารุณสัตว์

เพราะฉะนั้น มันสำคัญมากที่เจ้าหน้าที่จะต้องแยกแยะให้ได้อย่างถูกต้อง อย่าใช้ดุลยพินิจที่ขาดประสบการณ์หรือขาดความชัดเจนมาตัดสิน ถ้าหลังจากนี้ ทางตำรวจไม่ดำเนินคดีให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ผมก็มีหน้าที่ที่จะตรวจสอบ ให้ทางตำรวจชี้แจงว่าทำไมไม่ดำเนินคดี ทำไมถึงมองว่าไม่ทารุณ คือถ้าผลมันออกมาพลิกล็อก ผมก็มีหน้าที่ที่จะเข้าไปตรวจสอบและเชิญผู้เกี่ยวข้องกับคดีเข้ามาชี้แจง

[ความน่ารักของ "น้องเจ๊าะแจ๊ะ" เมื่อตอนยังมีชีวิตอยู่]





ข่าวโดย ผู้จัดการ Live
ขอบคุณภาพและข้อมูลบางส่วน: แฟนเพจ “แหม่มโพธิ์ดำ”, “WATCHDOG THAILAND”




มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น