เปิดไทมไลน์คดีสยอง “ฆ่าหั่นศพน้องแอ๋ม” นาทีต่อนาทีเหตุการณ์ทั้งหมด! ตั้งแต่เริ่มต้นยันถึงจุดพีค ล่าสุดรวบตัวได้ 2 ใน 5 แฉหนัก “อีเปรี้ยว” นี่แหละตัวบงการ! สังคมประณาม 3 สวยมือฆ่าหั่นโหดลอยนวล “โหดเหื้ยมเกินมนุษย์!!”
“ถ้ากูไม่ตาย มึงก็ตาย”
กลายเป็นคดีสุดสะเทือนขวัญคนทั้งประเทศ! หลังมีการพบศพหญิงสาวถูกฆ่า “หั่นศพ-ฝังดิน” สภาพศพถูกหั่นเป็น 2 ท่อน แสดงให้เห็นถึงความโหดเหี้ยมผิดมนุษย์มนา สืบพบภายหลังทราบชื่อเหยื่อผู้โชคร้าย “น้องแอ๋ม” สาวร้านคาราโอเกะ อีกทั้งยังพบเบาะแสบางอย่าง ทั้งจากภาพวงจรปิดและการหายตัวไปอย่างลึกลับ หลังสาวแอ๋มขึ้นรถ CR-V คันปริศนา และพบว่าเป็นศพอีก 3 วันต่อมา
จากการสืบสวนคดีครั้งนี้ เจ้าหน้าที่พบ 4 ผู้ต้องสงสัย ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกันในปมหักหลังเรื่องยาเสพติด คาดการณ์ว่ามาจากความไม่พอใจที่สาวแอ๋มแจ้งเบาะแสซัดทอดเรื่องยาเสพติด จนทำให้ 1 ใน 4 ผู้ต้องหาเกิดความคับแค้นใจ กลายเป็นปมบาดหมางที่รอวันเอาคืน!
หลังมีการตามล่าตัว 4 รายชื่อ เปรี้ยว-ปรียานุช, เอิร์น-กวิตา, แจ้-อภิวันทน์ และนิว-วศิน ผู้ต้องหาในเหตุการณ์อำมหิตครั้งนี้! ทางเจ้าหน้าที่ได้หลักฐานเด็ดจากปากคนใกล้ตัว 1 ใน 4 ผู้ต้องหา ซึ่งให้การสารภาพว่า “สาวเปรี้ยว” แชทส่วนตัวมาหาว่า ได้ลงมือฆ่าน้องแอ๋มจริง
“ตอนแรกตั้งใจว่าจะทำร้าย แต่แอ๋มพูดว่า ถ้ากูไม่ตาย มึงก็ตาย จึงเกิดความโมโหบันดาลโทสะ บีบคอแอ๋มตายคามือ” คำสารภาพจากปากพี่สาวของผู้ต้องหามือหั่นสุดโหด “เปรี้ยว” ยอมเปิดปาก หลังสังคมวิพากษ์คดี “ฆ่าหั่นศพน้องแอ๋ม” ยอมรับน้องตัวเองเป็นคนฆ่า!
หลังคำให้การดังกล่าวทำให้การล่าตัวทีมฆาตกรในคดีความนี้เข้มข้นมากขึ้น เช่นเดียวกับที่โลกโซเชียลฯ ต่างเปิดวาร์บ-งัดหลักฐานจากเฟซบุ๊กส่วนตัวของมือฆาตกรกันกระหน่ำโลกออนไลน์ ทั้งการไลฟ์สดเริงร่าก่อนลงมือฆ่า, ภาพของเปรี้ยวที่อยู่ในรถคล้ายกำลังรอเวลาลงมือ ในเวลาไล่เลี่ยกับที่ผู้ตายใกล้จะหายตัวไป
หรือแม้แต่ภาพจับมือกันของทั้ง4 ขณะรับทานอาหาร ซึ่งหลังมีการเปิดเผยภาพดังกล่าว โลกโซเชียลฯ ต่างวิจารณ์โจมตีกลุ่มฆาตกรเลือดเย็น-ไร้สำนึกอย่างร้อนระอุไปทั่วโลกออนไลน์
“จิตใจคนหรือนี่..ต่ำยิ่งกว่าเดรัจฉาน”
“ถ้าไม่มีอาการโรคจิตก็น่าจะเสพยาก่อนลงมือทำแน่นอน คนเรามักจะมีจิตใต้สำนึกกันอยู่แล้ว ยิ่งเป็น ผญ.ยิ่งไม่ชอบอะไรที่สยดสยองหรือขยะแขยงแบบนี้อยู่แล้ว”
“4 คนนี้อาจเป็นแค่ตัวละครบังหน้าหรือเปล่า เพราะเห็นว่าเกี่ยวกับยาเสพติดด้วย อาจไปสกิดโดนผู้มีอิทธิผลด้านมืดก็เป็นได้”
ดูเหมือนว่าคดีนี้จะกลายเป็นประเด็นร้อนที่สังคมต่างจับตามองมากที่สุด ถึงคำตอบของคำถามที่ว่านี่จะเป็นเพียงฉากบังหน้าที่มีเบื้องหลังเชื่อมโยงกับผู้มีอิทธิพลเรื่องยาเสพติดหรือไม่...
“วศิน” ชี้จุดอำพราง แฉ “เปรี้ยว” นี่แหละมือหั่น!
“อยู่ในเหตุการณ์จริง แต่ไม่ได้เป็นคนฆ่า” คำสารภาพจากปาก “วศิน” 1 ใน 4 ฆาตกรเลือดเย็นที่สร้างความสลดใจคนไทยทั้งประเทศ หลังถูกควบคุมตัวในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ หลังร่วมกันก่อเหตุฆาตกรรม “น้องแอ๋ม” อย่างโหดเหี้ยม
หลังการควบคุมตัว วศิน ได้ให้การสารภาพว่า “การก่อเหตุฆาตกรรมเริ่มจาก เปรี้ยว, เอิร์น, แจ้ และตน นั่งรับประทานอาหารที่ร้านลาบลอฟท์เพื่อวางแผน จากนั้นจึงให้สาวเอิร์น โทรศัพท์ล่อผู้ตายให้มาพบว่ามีลูกค้าสนใจ ทำให้ผู้ตายหลงเชื่อ
จากนั้นได้ขับรถ CR-V ที่สาวเปรี้ยวเป็นคนเช่ามาก่อนลงมือก่อเหตุมารับผู้ตาย โดยมีวศินเป็นผู้ขับและสาวเอิร์นนั่งเบาะข้างคนขับรถคันดังกล่าว ส่วนสาวเปรี้ยวและแจ้เป็นคนนั่งประกบน้องแอ๋มไว้ ซึ่งได้เกิดปากเสียงและมีการทำร้ายร่างกายสาวแอ๋ม ด้วยการบีบคอจนขาดอากาศหายใจ
เมื่อแอ๋มนิ่งไปแล้ว ได้ขับรถวนในเมืองขอนแก่น เพื่อหาซื้ออุปกรณ์ตามร้านต่างๆ มาอำพลางศพหวังทำลายหลักฐานการฆาตกรรม ทั้งถุงพลาสติก มีด เลื่อย และของมีคม ทั้งหมดได้ขับรถมาเปิดรีสอร์ท และได้นำร่างของแอ๋มเข้าไปในห้องน้ำ
วศิน ยังแฉอีกด้วยว่า เปรี้ยว เป็นคนจัดการหั่นศพน้องแอ๋มแล้วยัดใส่ถัง 2 ใบที่ห้อง โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชม. หลังจากที่บรรจุใส่ถังเรียบร้อยจึงนำขึ้นรถไปฝังดินทิ้งไว้ที่ อ.เขาสวนกวาง”
ความเคลื่อนไหวล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้พาตัว วศิน ไปขอขมาแม่ “น้องแอ๋ม” โดยได้พูดกล่าวกับ วศิน ว่า “โกรธแค้นอะไร ทำไมถึงไม่ห้าม หากมีความคิดที่จะยื่นมือไปช่วย น้องคงไม่ตาย” พร้อมยังบอกอีกด้วยว่า “อยากให้มามอบตัวหากสำนึกได้ แม้โกรธแต่จะไม่จองเวรและอโหสิกรรมให้”
เบนซ์” จนมุม! ยังยิ้มร่าไร้สำนึก
ส่วนตัวละครอีกตัวที่นำไปสู่การไขคดีให้กระจ่างชัดขึ้นก็คือ "เบนซ์" หรืออีกชื่อคือ "อ้อม" อีกหนึ่งตัวละครผู้เป็นแฟนกับวศิน แม้จะไม่ได้อยู่ร่วมเหตุการณ์ในวันฆาตกรรมน้องแอ๋ม แต่เป็นผู้นำทรัพย์สินของน้องแอ๋มไปขาย อ้ำอึ้งไม่พูดถึงเปรี้ยว
ตำรวจ สภ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ได้ทำการสอบปากคำ เบนซ์-จิดารัตน์ หนึ่งในผู้ต้องหาในคดีฆ่าน้องแอ๋ม ทว่าในระหว่างสอบปากคำนั้น สีหน้าแววตาและรอยยิ้มของเบนซ์นั้น ไม่มีท่าทีสะทกสะท้าน แต่กลับยิ้มร่าราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการฆ่าน้องแอ๋ม เพราะในวันเกิดเหตุอยู่กรุงเทพฯ แต่ยอมรับว่า วศิน และเปรี้ยว มาหาจริง
จากนั้น ตนเองขับรถพาวศินไปที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เพื่อนำโทรศัพท์มือถือของแอ๋มไปขาย โดยมีวศินเป็นผู้ขาย ได้เงินมา 3,500 บาท แล้วนำเงินให้เปรี้ยว จากนั้นแยกย้ายกันไป ย้ำไม่รู้เรื่องการฆาตกรรมน้องแอ๋ม
หลังจากให้ปากคำ ทนายความของเบนซ์จึงยื่นเรื่องขอประกันตัวโดยในชั้นพนักงานสอบสวน ได้พิจารณาอนุญาติให้ประกันตัว เนื่องจากเบนซ์ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆ่า และให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
"หนูไม่ได้ทำ วันเกิดเหตุหนูอยู่กรุงเทพฯ และไม่ขอพูดถึงเปรี้ยวอีก" เบนซ์กล่าว
ส่วนกรณีที่เบนซ์ไลน์ไปสมัครงานที่ร้านคาราโอเกะในเมียนมากับพี่เก๋ โอโซน เจ้าของร้านคาราโอะเกะนั้น เป็นเรื่องจริง แต่ตนได้งานทำเสียก่อนจึงไม่ได้ไปพร้อมกับ 3 สาว ซึ่ง คือ เปรี้ยว เอิร์น และ แจ้ ซึ่งเธอบอกว่าไม่รู้จัก
3 ผู้ร่วม “สังหาร” ยังลอยนวล!
สำหรับผู้ต้องหาตัวฉกาจ เปรี้ยว เอิร์น และแจ้ ที่ยังหลบหนีข้ามไปอยู่ในฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ทั้ง 3 ได้หนีไปตั้งแต่วันเกิดเหตุโดยถือบัตรผ่านแดนชั่วคราวหรือบอเดอร์พาสข้ามฝั่งไปท่าขี้เหล็ก ไม่มีผู้ใดเห็นว่าผู้ต้องหาตามหมายจับทั้ง 3 คนอยู่ร่วมกันหรือไม่
เพราะช่วงที่ออกจากชายแดนแม่สายได้นั่งอยู่รถกระบะสีขาวที่ปิดกระจกไว้อย่างมิดชิด และมีผู้นำเอกสารออกมายื่นให้เจ้าหน้าที่ที่ด่านพรมแดนแทน หลายคนสงสัยว่าทำไม ตม.ปล่อยให้ผ่านไปได้ เพราะช่วงที่ทั้งหมดทำบอเดอร์พาสออกไปยังไม่มีการออกหมายจับ ทำให้ระบบไม่แจ้งเตือนต่อบุคคลดังกล่าว
หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า ใครกันเป็นคนขับกระบะฟอร์ดสีขาว ซึ่งคนขับรถเป็นชายเพียงคนเดียวที่ลงมาจากรถ เฟซบุ๊กเพจ อีจัน ได้สอบถามไปยัง เก๋ โอโซน เจ้าของรถฟอร์ดคันดังกล่าว ทราบว่า รู้จักผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย เนื่องจากได้สมัครงานมาทางตน จึงได้ให้ผู้จัดการร้านไปรับ ตนไม่ได้ไปรับเพราะไปทำธุระต่างจังหวัด
ซึ่งการสมัครนั้นผู้ต้องหาสมัครมาทางตน พอเขามาถึงก็ติดต่อไปทางผู้จัดการร้าน ทางผู้จัดการร้านจึงไปรับ เขานั่งแท็กซี่มาลงที่ อ.แม่สาย ก็ได้พาไปทำบัตรข้ามแดน เจ้าของรถฟอร์ด กล่าวว่า ตนยังไม่รู้ว่าเขามาสมัครงานตำแหน่งอะไร เพราะยังไม่ได้มีการสัมภาษณ์ แต่มาทำในส่วนของร้านอาหาร โดยร้านของตนต้องข้ามไปฝั่งเมียนมา เพราะอยู่ที่ อ.ท่าขี้เหล็ก โดยส่วนตัวตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์
แต่ผู้จัดการเล่าให้ฟังว่า มากัน 3 คน ซึ่งได้ไปออกหนังสือผ่านแดนที่ อ.แม่สาย แล้วก็พามาที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตม. ก็สแตมป์ให้ตามปกติ ไม่มีอะไรผิดปกติเลย ผ่านง่าย ๆ ถูกต้องตามกฎหมาย มีหลักฐานที่ ตม.สามารถไปดูได้เลย
ถ้าหาก 3 สาวเป็นผู้ต้องหา ทำไมวันนั้น ตม. ไม่ล็อกตัวไว้ จะปล่อยออกมาทำไม หลังจากนั้นก็พาไปพักที่ห้องพักรายวัน แห่งหนึ่งตั้งอยู่ติดร้านสตาร์แทรค คาราโอเกะ ซึ่งเป็นแหล่งบันเทิงที่มีทั้งคาราโอเกะ อาบอบนวด ร้านอาหาร ห่างจากชายแดนไทยประมาณ 6 กิโลเมตร
ครั้น ตำรวจเมืองท่าขี้เหล็กรู้แหล่งกบดานจึงได้รีบเข้าจับกุม แต่ฉิวเฉียดไม่พบ 3 ผู้ต้องหาสาว โดยแก๊งสาวโหดได้เดินทางออกไปจากหอพักเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่ตำรวจจะเข้าไปตรวจสอบ พบชายไทยขับรถไปรับโดยไม่ทราบจุดหมาย ทำให้ขณะนี้เจ้าหน้าที่เมียนมาและไทยต่างออกติดตามค้นหาตัวผู้ต้องหารายนี้ทั้ง 2 ฝั่งประเทศอย่างหนัก
คดีสุดเขย่าขวัญเลือดเย็น โดยแก๊งค์ฆาตกรสาวสวยประหาร หลายคนเกาะติดข่าวแน่นหนึบว่า อยากรู้จุดจบของคดีนี้จะจบลงแบบใด คงต้องติดตามกันด้วยใจระทึก!
ข่าวโดย ทีมข่าวผู้จัดการ Live
ขอบคุณภาพ FB Fanpage อีจัน
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754