xs
xsm
sm
md
lg

10 พิกัดท่วม! ไม่อยากอ่วม โปรดอย่าผ่าน!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นั่น..ถนนหรือคลอง! ท่วมขนาดนี้ไม่ต้องเรียก Grab Taxi แล้ว เรียก Grab Boat ดีกว่า! ฝนตกได้ไม่นานน้ำท่วมกรุงอีกตามเคย แม้จะเปลี่ยนผู้ว่าฯ กทม.มากี่ยุคกี่สมัย ปัญหาฝนตกน้ำท่วมก็แก้ไม่ตกสักที หลายคนต้องทำใจ รับมือกับชะตากรรม แนะเลี่ยงเส้นทางฝนตกทีไรน้ำท่วมทุกที เปลี่ยนพิกัดด่วนเพื่อไม่ให้เปียก!

ไม่อยากท่วม เลี่ยงให้ไว!

แม่น! กรมอุตุฯ ให้ระวังฝนตกหนักช่วง 24-28 พ.ค.นี้ สุดท้ายก็ตกหนักจริงๆ ตกจนท่วมตามระเบียบ บางจุดน้ำท่วมรถแทบจะครึ่งคัน ป้ายทะเบียนรถลอยละล่องไปพร้อมกระแสน้ำ และนี่คือ 10 พิกัดนรก ที่ชาวกรุงโหวตให้ว่าเป็นเส้นทางน้ำท่วมหลังฝนตกที่ไม่ควรจะไปเหยียบ

พิกัด 1.แยกพงษ์เพชร เป็นที่ทราบกันดีว่าซึ่งโดยปกติก็รถติดอยู่แล้ว ครั้นฝนได้เทกระหน่ำลงมาอย่างหนักแถมไม่หยุด ไม่นานนักแยกพงษ์เพชรก็กลายเป็นคลองไปโดยปริยาย ลามไปจนถึงหน้าปากซอยชินเขต และเลียบคลองประปายาวไปจนถึง ถ.แจ้งวัฒนะ เมื่อมองไปข้างทางก็พบรถยนต์ที่ประสบปัญหาจากน้ำท่วมคือเครื่องดับ นิ่งสนิทจอดอยู่ บางคันกระจังหน้าหลุด รวมถึงป้ายทะเบียนรถหลุดเพราะความแรงของเครื่องยนต์และกระแสน้ำที่พัดพาออกไป

พิกัด 2.แยกแคราย รัตนาธิเบศร์ขาเข้า ท้ายแถวรถติดสะสมเลยสะพานพระนั่งเกล้าที่ นอกจากนี้ น้ำยังท่วมขังภายในซอยสามัคคี ย่านประชานิเวศน์ 3 บางจุดท่วมถึงครึ่งคันรถเก๋ง

พิกัด 3 ถนนรัชดาภิเษก บริเวณหน้าศาลอาญารัชดาภิเษก มีน้ำท่วมสูง ตั้งแต่แยกรัชโยธิน ถึงแยกรัชดา-ลาดพร้าว เป็นที่ทราบกันอย่างดีว่าทุกครั้งที่ฝนตกพิกัดนี้จะต้องอ่วมอรทัย

พิกัด 4 ถนนแจ้งวัฒนะ หน้าศูนย์ราชการกรุงเทพมหานคร น้ำท่วมเสมอขอบทางเท้า รถเล็กสัญจรอย่างยากลำบาก, เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี มีน้ำท่วมขังบริเวณโดยรอบ

พิกัด 5 ถนนพหลโยธิน ตั้งแต่ห้าแยกลาดพร้าว มุ่งหน้าแยกรัชโยธิน และบริเวณก่อนถึงแยกเกษตร มีน้ำท่วมขัง

พิกัด 6 ถนนลาดพร้าว ซอย 122 ตัดถนนประเสริฐมนูกิจ เขตวังทองหลาง

พิกัด 7 ถนนศรีนครินทร์ บริเวณแยกลำสาลี-คลองกะจะ เขตบางกะปิ

พิกัด 8 ถนนสุขุมวิทบริเวณสถานีรถไฟฟ้าแบริง ถนนศรีนครินทร์ที่บริเวณวัดศรีเอี่ยม และถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ที่แยกศรีอุดม

พิกัด 9 ถนนประชาราษฎร์สาย 2 บริเวณแยกบางโพ-แยกประชาชื่น เขตบางซื่อ

พิกัด 10 ถนนพัฒนาการ บริเวณซ.45 หน้าโชว์รูมเบนซ์ เขตสวนหลวง

นอกจากนี้ โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว ,ร.ร.สตรีวิทยา 2 ,ร.ร.บดินทรเดชา(สิงห์ สิงหเสนี) และโรงเรียนพิบูลอุปถัมภ์ ได้ประกาศหยุดเรียนแล้ว 1 วัน เนื่องจากน้ำท่วมขังในบริเวณพื้นที่รอบโรงเรียน

สรรเสริญ เรืองฤทธิ์ หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร กล่าวผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว @sunsernr ระบุว่า กลางดึกคืนนี้จตะมีฝนฟ้าคะนองขยายตัวจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ลงมาปกคลุมทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร ฝนตกหนัก และมีปัญหาการระบายน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ โดยปริมาณฝนสะสม 6 ชั่วโมง เมื่อเวลา 23.45 น. ของวันที่ 24 พ.ค. พบว่าเขตวังทองหลาง มีปริมาณฝนมากที่สุด 130 มิลลิเมตร รองลงมาคือ แขวงเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง 125 มิลลิเมตร, เขตบางกะปิ 120 มิลลิเมตร, วัดกระทุ่มเสือปลา 99 มิลลิเมตร และแขวงหนองบอน 98 มิลลิเมตร

หวั่น!น้ำเหนือ- น้ำหนุน- ฝน มาพร้อมกัน ซวยแน่

นอกจากนี้ ผอ.สำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานคร ยังได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ “คนเคาะข่าว” ทางช่อง News1 ถึงแผนรับมือน้ำท่วมกรุงเทพฯ ว่า ปัญหาหนักใจ คือ หากน้ำฝน น้ำเหนือ น้ำหนุน มาพร้อมกัน โดยเฉพาะเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป จนถึงวันลอยกระทง เพราะช่วงนั้นน้ำเหนือมาก น้ำทะเลหนุนสูง และฝนก็ยังไม่หมด มั่นใจว่า มาตรการการระบายน้ำสามารถรับมือน้ำท่วม กทม. ได้ระดับหนึ่ง

นอกจากนี้ อีกอย่างที่น่าหนักใจ ก็คือ สิ่งกีดขวางการระบายน้ำต่างๆ แต่ละวันสูบน้ำออกจากพื้นที่ไม่ง่าย มีทั้งขยะ และไขมันอุดตัน ต่อวันไม่รู้ขยะมาจากไหน ทั้งที่นอน ฟูก โซฟา ตู้เย็น ฯลฯ มีหมด เราใช้เจ้าหน้าที่วันนึงเยอะมาก เฉพาะสำนักงานระบายน้ำ ใช้ถึง 4,000 คน ปริมาณขยะที่หน้าตะแกรง วันที่ 1 ม.ค.- พ.ค. 60 เฉลี่ยวันละ 10 ตัน นี่ยังน้อย ถ้าฝนตกหนักขยะไหลหลากมาจะยิ่งเยอะ อย่างเช่นของปีก่อน ตั้งแต่ 1 ม.ค.- 31 ธ.ค. 59 เฉลี่ย 20 ตันต่อวัน เราต้องใช้เจ้าหน้าที่ประจำการ 24 ชั่วโมง เพราะไม่รู้ว่าฝนจะตกเมื่อไหร่

ผอ.สำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานคร กล่าวขอความร่วมมือจากประชาชน ว่า ถ้าชาวบ้านเห็นขยะกีดขวางตะแกรงระบายน้ำหน้าบ้านแล้วช่วยเอาออก เราก็ไม่ต้องใช้เจ้าหน้าที่เต็มกำลัง จะช่วยระบายน้ำได้เร็วขึ้น อีกอย่างไขมันก็มีปัญหามาก เพราะมันไปจับตัวรวมกันเป็นก้อนแข็ง แล้วก็ไปขวางทางน้ำ

พร้อมฝากถึงให้พี่น้องประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารเรื่องน้ำท่วมจากทางสื่อต่างๆ ส่วนเรื่องขยะถ้าช่วยกันคนละไม้คนละมือ เห็นสิ่งกีดขวางทางน้ำก็ช่วยกันเก็บ ก็จะช่วยให้ระบายน้ำได้เร็วขึ้น

แผนรับมือน้ำท่วม กทม.น้ำแห้งภายใน 1 ชม.

“ตัวชี้วัดหนึ่งที่ กทม.นำมาใช้ในการแก้ปัญหาฝนตก น้ำท่วม รถติดแก่ประชาชน คือ หลังฝนหยุดตกจะต้องระบายน้ำบนผิวผิวการจราจรเส้นทางหลัก เช่น ถนนวิภาวดีรังสิต ถนนสุขุมวิท ถนนลาดพร้าว เป็นต้น น้ำต้องแห้งภายใน 1 ชั่วโมง ส่วนถนนสายรอง และในซอยต่างๆ อาจจะต้องใช้เวลาเพิ่มอีกสัก 15 - 30 นาที ในการระบาย” จักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงแผนรับมือฝนตก-น้ำท่วม กทม.ในปี 2560

สาเหตุที่กำหนดภายใน 1 ชั่วโมงนั้น เพราะเมื่อปี 2559 มีปัญหาน้ำท่วมขังใน กทม. ถึง 27 เขต จากทั้งหมด 50 เขต บนถนนสายหลัก 40 ถนน รวมจุดน้ำท่วมขัง 102 บริเวณ เกิดทั้งสิ้น 295 ครั้ง โดยในการระบายน้ำมีตั้งแต่ 2 ชั่วโมง จนมากถึง 12 ชั่วโมง จึงกำหนดว่าต้องเร่งระบายให้เร็วขึ้น นอกจากนี้ กทม. ยังได้ให้สำนักการระบายน้ำสำรวจวิเคราะห์ข้อมูล ว่า ปัจจุบันจุดที่น่าเป็นปัญหาของถนนสายหลักอยู่ที่ไหนบ้าง ซึ่งจากการลงพื้นที่พบว่า มีที่น่าจะเป็นปัญหาถึง 20 จุด

“การจะบอกว่าน้ำท่วมหรือไม่ท่วม มีความเสี่ยงมากน้อยขนาดไหน ลำดับแรก ดูจากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมา ตั้งแต่ฝนเริ่มตกจนหยุดตก ถ้ารวมแล้วไม่เกิน 60 มิลลิเมตร เรามั่นใจว่า สามารถบริหารจัดการน้ำไม่ให้เกิดปัญหาท่วมขังได้ แต่หากเกิน 60 มิลลิเมตรขึ้นไป หมายความว่า จะต้องมีน้ำอยู่บนพื้นถนนอยู่ส่วนหนึ่ง เพื่อให้เราทำการระบายต่อ และเมื่อไรที่เกิน 100 มิลลิเมตร โดยธรรมชาติแล้วโอกาสมีน้ำท่วมขังบนผิวจราจรมากกว่าปกติ เนื่องจากมีปริมาณน้ำมาก ซึ่งอาจเกิดจากท่อระบายน้ำบริเวณดังกล่าวมีขนาดเล็ก หรือว่าพื้นผิวจราจรมีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ แต่โดยรวมถ้าปริมาณน้ำฝนไม่เกิน 60 มิลลิเมตร จะสามารถแก้ปัญหาได้”

สำหรับการรับมือปัญหาฝนตกน้ำท่วมในปี 2560 เพื่อให้น้ำระบายออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า กทม. มีระบบระบายน้ำและเครื่องมือทั้งหมด 8 อย่าง ประกอบด้วย 1. ท่อระบายน้ำ มีความยาวถึง 6,368 กิโลเมตร แต่เมื่อน้ำฝนตกลงที่ผิวจราจร ผ่านตะแกรงรับน้ำ ผ่านไปที่ท่อระบายน้ำ ซึ่งหน้าที่ของท่อระบายน้ำนี้จะเชื่อมไปที่คลอง แล้วจากคลองก็ไปสู่แม่น้ำเจ้าพระยา จากแม่น้ำเจ้าพระยาก็จะออกไปตามอ่าวไทย 2. คูคลองระบายน้ำ โดยมีคูคลองทั้งสิ้น 1,682 คลอง มีความยาวรวม 2,604 กิโลเมตร”

ชาวกรุง เป็นคนตลก ทำใจ ยอมรับชะตากรรม

ฝนตกน้ำท่วมรถติดกลายเป็นเรื่องปกติของคนกรุงไปโดยปริยาย สำหรับโลกโซเชียลฯ ก็มีการแชร์ภาพป้ายรถเมล์แห่งหนึ่งในภาพมีประชาชน 2 คนกำลังรอรถเมล์ต้องนั่งยกขาขึ้นให้พ้นน้ำ พร้อมข้อความ “ป้ายรถเมล์หรือคลองแสนแสบ” รวมทั้งภาพในช่วงเช้าการจราจรติดขัดแน่นิ่ง “กลับตัวก็ไม่ได้ จะขับต่อไปก็ไปไม่ถึง”

อีกทั้งหลายคนยังพร้อมใจใช้เฟซบุ๊ก Live รายงานบรรยากาศน้ำท่วมขังรอการระบายในหลายๆจุด เช่น หมู่บ้านในซอยสามัคคี ที่น้ำท่วมรถครึ่งคัน และยังท่วมเข้าไปในบ้าน ห้องครัว ห้องรับแขก ส่วนใหญ่ทำใจยอมรับสภาพถึงผลพวงของการฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องว่าคืนนี้ที่ฝนตกจะต้องกลับบ้านดึก และตื่นเช้ามาจะต้องไปทำงาน หรือไปเรียนสาย แน่นอน

เพจเฟซบุ๊ก JS100 Radio ได้เผยแพร่รูปภาพ พระสงฆ์ใช้เรือเป็นยานพาหนะ ในการเดินทางภายในวัด โดยคาดว่าเป็นน้ำที่เอ่อล้นมาจากคลองลาดพร้าว ไหลเข้าท่วมบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง และวัดลาดพร้าว แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว โดยบรรยายภาพไว้ว่า ระดับน้ำท่วมในคลองลาดพร้าวล้นเข้าวัดลาดพร้าวจนทำให้ต้องใช้เรือ

นอกจากนี้ ยังมีบรรยากาศในมหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นภาพของเรือสุพรรณหงส์จำลอง กลางสระน้ำภายใน ม.รามฯ กำลังจมน้ำ และภาพของแก๊งสุนัขย่านรามคำแหงกำลังเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน




เช่นเดียวกับดารานักแสดงคนในวงการบันเทิงก็เจอพิษน้ำท่วมกรุงเช่นเดียวกับมนุษย์ออฟฟิศ เช่น บีม ศรัญยู โพสต์ในอินสตาแกรมส่วนตัวว่า “ได้ซ้อมเรือแต่เช้าเลย เก๋ๆ” และนักร้องสาว เต้น -นรารักษ์ ศิลปินเดี่ยวจากค่ายแกรมมี่ ที่ติดฝนในรถตั้งแต่เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา หลังจากเสร็จงานร้องเพลงในร้านอาหาร แต่เมื่อจะขับรถกลับบ้านไม่สามารถไปต่อได้ เพราะน้ำท่วมสูงจนต้องตัดสินใจจอดรถนอนในปั๊มน้ำมันย่านลาดพร้าว 112 รอจนเช้าหลังน้ำลด จึงสามารถขับรถผ่านไปได้ “

ทว่า หากจะมองในมิติของดวงเมืองในช่วงเดือนพฤษภาคม อาจารย์คฑา ชินบัญชร หมอดูชื่อดัง เคยทำนายดวงเมืองช่วงนี้ไว้กับทีมผู้จัดการ Live ไว้ว่า ช่วงนี้เสี่ยงเกิดภัยธรรมชาติ หากน้ำจะมาก็มามาก

ล่าสุด ประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา เตือนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนาม และอ่าวตังเกี๋ย และในช่วงวันที่ 26-28 พฤษภาคม 2560 หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่างจะมีกำลังแรงขึ้น และมีแนวโน้มว่าจะเคลื่อนขึ้นไปบริเวณอ่าวเบงกอลตอนบนและประเทศเมียนมา ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้นในระยะนี้

แม้ก่อนหน้านี้หลายคนอาจจะไม่เชื่อในคำประกาศของกรมอุตุฯ เท่าไหร่นัก เพราะบางทีบอกว่าวันนี้ฝนจะตกหนัก แต่เมื่อเงยหน้ามองฟ้าแดดเปรี๊ยงสุดๆ แถมไม่มีทีท่าว่าจะตก ทว่า ครั้งนี้ชัดเจน! แม่นเป๊ะ ออกจากบ้านก็อย่าลืม ร่ม รองเท้าแตะ และเตรียมเวลาไว้ล่วงหน้าสำหรับการนัดหมายไว้ด้วย




มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น