"มันเร่งรีบและลึกลับจนน่าสงสัย" คือความรู้สึกคาใจที่ "ฮิวโก้-จุลจักร จักรพงษ์" มีต่อเมกกะโปรเจกต์ "ทางเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา" มูลค่า 1.4 หมื่นล้านของรัฐบาล จนต้องออกโรงต้าน เพราะโครงการกำลังจะตอกเสาเข็มกันแบบไม่ฟังเสียงค้านกันเดือน ก.ย.นี้อยู่แล้ว!! ส่วน "น้อย วงพรู" เองก็ขอส่ายหน้าให้กับคำอ้าง "คืนแม่น้ำให้คนไทย-คืนความสุขให้ประชาชน" ถามกันตรงๆ อ้างทำเพื่อสังคม เคยฟังบ้างไหมว่าสังคมต้องการหรือเปล่า!!?
*** "ฮิวโก้" คาใจ "เร่งรีบและลึกลับเกินไป" ใครต้องการ!?
“ผมไม่รู้ว่าใครต้องการทางเดินอันนี้ ถ้าหากมีเสียงเรียกร้องจากประชาชนที่ไม่ได้อยู่ริมน้ำว่า ต้องการเข้าถึงแม่น้ำจริงๆ รัฐบาลจะสร้างสวนสาธารณะหรืออะไรซักอย่างริมแม่น้ำด็เป็นเรื่องที่ดี แต่มันควรจะอยู่ในแม่น้ำหรือเปล่า และนี่คือประเด็นที่ร้อนแรงของประเทศเราในตอนนี้หรือเปล่า??”
ฮิวโก้-จุลจักร์ จักรพงษ์ ดารา-นักร้องชื่อดังที่ใช้ชีวิตผูกพันกับแม่น้ำเจ้าพระยามาตั้งแต่เล็ก บอกกับผู้จัดการ Live เป็นการเริ่มต้นถึงเหตุผลที่ทำให้เขาออกมาแสดงตัวในฐานะนักอนุรักษ์นิยมที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ในงานเสวนา "สายน้ำไม่ไหลกลับ" จะหยุดยั้งทางเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างไร??
นักร้องหนุ่มมาดเข้ม บอกว่าเพื่อความหลากหลายเขาจึงขอพูดในฐานะคนที่ไม่มีการศึกษา ไม่มีความเชี่ยวชาญใดๆ แต่พูดในมุมของคนที่อยู่ริมแม่น้ำ ที่เห็นและเข้าใจชาวบ้านริมน้ำว่าคิดอย่างไร กรุงเทพฯมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อะไรที่มันดีเราควรรักษาเอาไว้นั่นเอง
สำหรับโครงการทางเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาระยะทาง 14 กม.นั้น มีมูลค่าโครงการรวม 1.4 หมื่นล้านบาท นับเป็นโครงการที่รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ริเริ่มขึ้นเมื่อปี 2557 ท่ามกลางความคลางแคลงใจของหลายฝ่าย ทำไม คสช. ต้องการผลักดันโครงการนี้อย่างเร่งด่วน โดยไม่ผ่านการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมหรืออีไอเอด้วยซ้ำ
ไม่เพียงเท่านั้น ข้อมูลจากกลุ่มสมัชชาแม่น้ำและภาคีเครือข่าย ยังเผยให้เห็นผลกระทบต่อวิถีชีวิต ภูมินิเวศ ทัศนียภาพ และอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ช่วยชะลอความเร็วของโครงการนี้ได้เลย ซึ่งเมื่อถามความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการนี้ ศิลปินหนุ่มบอกว่า
“ผมไม่รู้ว่าโครงการดีหรือไม่ดี แต่โครงการนี้ถูกขายในเชิงท่องเที่ยว เชิงความสวยความงาม ไม่ใช่ความจำเป็น เป็นโครงการที่น่าจะมีผลกระทบเยอะ แม้จะไม่รุนแรง แต่มันร้ายแรงต่อคนที่อยู่ตรงนั้น มันก็ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ แต่ทำไมถึงรีบทำนัก ในเมื่อเราไม่ได้เป็นประเทศที่ร่ำรวยและนี่ไม่ได้เป็นการป้องกันภัย หรือเป็นเรื่องที่เดือดร้อนที่ต้องแก้ไขเร่งด่วน ในเวลาที่พวกเรายังอยู่ในช่วงตั้งลำกัน โครงการที่มูลค่ามากมายและใช้งบประมาณเยอะขนาดนี้ มันน่าจะเป็นประโยชน์มากกว่านี้”
ฮิวโก้บอกว่า เขาไม่คิดจะต่อต้านรัฐบาลหรือกทม. ว่าควรจะทำอะไรบ้างกับแม่น้ำ แต่เขารู้สึกว่าสิ่งนี้เร่งรีบและเป็นความลับพอสมควร และคนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือชุมชนเหล่านั้น รัฐบาลจะเป็นแบบไหนก็ตาม ประชาชนก็ควรจะมีสิทธิ์ถูกปรึกษาหารือบ้าง “ที่ผมขัดแย้งนี้ไม่ใช่โครงการ แต่เป็นเรื่องของขั้นตอนมากกว่า เพราะโครงการที่แท้จริงผมยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร เท่าที่เห็นแผนมันมีลักษณะคล้ายทางด่วนจะมีอะไรบ้างไม่รู้ ผมไม่เถียงเรื่องนั้น แต่ผมเถียงเรื่องกระบวนการว่า เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร แล้วในอนาคตทุกอย่างเราต้องมาทำกันแบบนี้หรือ”
ก่อนจากกัน ฮิวโก้ ย้ำชัดว่า เขาไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ ทั้งยังมองไม่เห็นว่าข้อดีคืออะไร แต่ข้อเสียมันมองเห็นชัดกว่า เพราะไม่เพียงแค่ทำลายทิวทัศน์ แต่กำลังทำลายวัฒนธรรมไทย “ผมก็ไม่เชื่อว่ารัฐบาลที่มาอยู่เพื่ออนุรักษ์สิ่งเหล่านี้จะทำได้ลงจริงๆ ผมคิดว่าเขาน่าจะพิทักษ์ตรงนี้ให้ได้มากที่สุด ผมว่าโครงการนี้มันกำลังทำลายรากเหง้าของคนไทย ถามว่าผมผิดหวังกับรัฐบาลชุดนี้มั้ย ผมไม่ได้ผิดหวัง เพราะผมไม่ได้คาดหวัง"
***"น้อย" สงสัย "คืนแม่น้ำให้คนไทย" นโยบายหรือข้ออ้าง!?
“อยู่ดีๆ ก็มีโครงการนี้ขึ้นมาโดยอ้างถึงความสุขที่คนไทยจะได้รับ เป็นการคืนแม่น้ำให้คนไทย ส่วนตัวผมก็ยังไม่เข้าใจร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะทุกวันนี้พวกเราก็ยังสัมผัสแม่น้ำได้ผ่านเรือ และเราก็ยังได้เห็นวัฒนธรรมไทยด้วย" น้อย วงพรู ดารา-ศิลปิน เจ้าของ "โรงแรมเดอะสยาม" ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บอกกับ ผู้จัดการ Live ก่อนจะขึ้นโชว์เพลงบนเวทีเสวนา "สายน้ำไม่ไหลกลับ" จะหยุดยั้งทางเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างไร??
น้อย ถือเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่เข้าร่วมเป็นจุดยืนหยุดทางเลียบก่อนที่กรุงเทพมหานครจะหมดมนต์ขลัง
ซึ่ง แม้จะมีธุรกิจส่วนตัวอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ก็ไม่ได้มองในจุดที่จะเสียผลประโยชน์หรือไม่ เพราะสำหรับเขานั้น ถือว่า ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิถีความเป็นอยู่ดั้งเดิมคือเสน่ห์ที่ไม่อยากให้หายไป
"ผมไม่อยากให้คนเข้าใจผิดว่า การลุกขึ้นมาสู้ตรงนี้เพราะกลัวจะเสียผลประโยชน์ทางธุรกิจด้านโรงแรม แม้จริงๆ มันจะกระทบจนเจ็บอยู่แล้ว แต่ผมก็ไม่ได้แคร์ว่าเราจะลำบากยังไง สิ่งที่ผมแคร์มากกว่าก็คือ วัฒนธรรม และวิถีชุมชนดั้งเดิมที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้า ซึ่งยังมีคนอื่นลำบากมากกว่าผมเยอะ แม้คุณจะสามารถย้ายเขาไปอยู่ในตึก หรือพื้นที่แห่งใหม่ แต่สำหรับพวกเขา ผมเชื่อว่าคงไม่อยากย้ายไปไหนหรอก นอกจากนั้นยังไม่นับรวมถึงผลกระทบเกี่ยวกับผลกระทบต่อระบบนิเวศน์และสิ่งแวดล้อมบริเวณนั้น ไม่ว่าจะเป็นปลาหรือการคมนาคม”
“ผมไม่เห็นด้วยกับโครงการสร้างทางเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา ผมว่าในบ้านเรายังมีปัญหาอีกเยอะที่สามารถนำเงินก้อนนี้ไปใช้แก้ปัญหา หรือนำไปใช้ในจุดใหญ่ๆ ที่คนไทยในประเทศต้องการได้ โดยเฉพาะคนในต่างจังหวัด ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าคนที่อยู่ใจกลางเมืองจะเอาจักรยานมาปั่นทุกวันหรือเปล่า ผมว่าเงินมันก้อนใหญ่มโหฬารเหลือเกิน ควรนำไปใช้ตรงอื่นที่มันจำเป็นและได้ประโยชน์ดีกว่า"
"ตอนนี้เรากำลังสู้กับเวลาด้วย ทำอย่างไรให้คนเข้าใจกับเรา มีหลายคนพูดว่า ไทยเราจะกลายเป็นสิงคโปร์ ซึ่งผมไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น ผมอยากเก็บความเป็นไทยของเราเอาไว้ ซึ่งผมรู้ว่าทางรัฐบาล กทม.หวังดี อยากสร้างแลนด์มาร์กใหม่ขึ้นมา แต่สำหรับผมการที่จะมีโครงการนี้ ผมรู้สึกว่าเขากำลังเอาประวัติศาสตร์ ความเป็นวัฒนธรรม และวิถีความเป็นอยู่ของเราไป ซึ่งถ้าเราพูดถึงการท่องเที่ยว ผมค่อนข้างเชื่อมั่นว่านักท่องเที่ยวต่างชาติเขาอยากมาดูตรงนี้ ไม่ได้อยากมาเห็นทางเลียบแม่น้ำที่แม้ดูจะสวยงามในความคิดของใครหลายคน"
การลุกขึ้นมาทักท้วงของ 2 ศิลปินก็เพียงเพื่อปกป้องแม่น้ำที่เขารัก หากปล่อยให้เกิดขึ้นแล้ว เรื่องราวริมฝั่งแม่น้ำเจ้าหระยาก็จะกลายเป็นความทรงจำ ที่คนรุ่นเราจะมีไว้บอกเล่าให้ลูกฟังผ่านหูเท่านั้นเอง
ขอบคุณภาพจาก ธัชกร กิจไชยภณ, เพจเฟซบุ๊ก Friends of the River, คุณ Patra Kongsirimongkolchai
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754