ถึงกับเงิบ! กันทั้งโลกโซเชียล เมื่อ เดวิส อัลเลน หนุ่มน้อยวัย 16 ปี จากสหรัฐอเมริกา เสียชีวิตเพราะคาเฟอีน หลังดื่มกาแฟ น้ำอัดลม และเครื่องดื่มชูกำลังในระยะเวลา 2 ชั่วโมง ที่สำคัญหนุ่มน้อยคนดังกล่าวยังมีสุขภาพแข็งแรงทุกอย่าง เรื่องนี้จึงถูกนำมาวิพากษ์วิจารณ์กระหน่ำกันในโลกออนไลน์ ว่าเป็นไปได้จริงหรือไม่? ผู้จัดการ Live รวบรวมข้อมูลเรื่องราวอันตรายจากคาเฟอีน มาฝากคอกาแฟทั้งหลาย
จากกรณีสำนักข่าวบีบีซี เสนอข่าวการเสียชีวิตของ เดวิส อัลเลน คริปส์ วัย 16 ปีนักเรียนมัธยมปลายโรงเรียนแห่งหนึ่งในรัฐเซาท์แคโรไลนา สหรัฐฯ จากอาการหัวใจวายเพราะคาเฟอีนที่ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งเป็นผลมาจากการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูงอย่างเร็วนั้น นพ.ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจ โรงพยาบาลรามาธิบดี บอกกับ ผู้จัดการ Live ว่า เป็นเรื่องจริงที่ต้องยอมรับ เพราะร่างกายของคนเราแต่ละคนมีความทนต่อระดับคาเฟอีนที่แตกต่างกัน และเมื่อดื่มควบคู่กับเครื่องดื่มชูกำลังที่แต่ละชนิดมีส่วนผสมที่แตกต่างกันก็อาจเป็นตัวเร่งให้เกิดปฏิกิริยากับการเต้นของหัวใจได้
“ปัจจุบันนี้คนไทยเราดื่มกาแฟเยอะมากจนเป็นแฟชั่น บางคนดื่มกาแฟแทนอาหารเช้า บางคนก็ดื่มวันละหลายๆ แก้ว เหมือนดื่มน้ำแต่ไม่รู้สึกอะไรนั่นเป็นเพราะร่างกายเเกิดความเคยชิน ซึ่งจริงๆแล้วกาแฟก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียปนกัน แม้ว่าคาเฟอีนจะไม่มีโทษมากเท่ากับยาเสพติดอย่างอื่นก็ตาม แต่การดื่มในปริมาณที่มากเกินไปในเวลาที่กระชั้นชิดเช่นนี้ก็มีความเสี่ยงต่อชีวิตได้เช่นกัน”
ด้าน ผช.ศจ. สุวรรณี มหากายนันท์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ กลุ่มวิชาการพยาบาลผู้ใหญ่ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ได้เขียนบทความในเว็บไซต์ www.healthcarethai.com ระบุว่า หากดื่มกาแฟในระดับความเข้มข้นที่พอเพียงคือประมาณ 100-200 มิลลิกรัม/วัน จะทำให้ร่างกายรู้สึกมีกำลังวังชา กระปรี้กระเปร่า และไม่ง่วงนอน สารคาเฟอีนที่ว่าไม่ใช่มีอยู่เฉพาะในกาแฟเท่านั้น แต่ยังมีอยู่ในชา นํ้าอัดลมประเภทโคล่า เครื่องดื่มชูกำลัง และช็อกโกเลต ดังนั้นผู้ที่นิยมรับประทานอาหารดังกล่าวก็ควรระมัดระวังฤทธิ์ของ คาเฟอีนด้วย เพราะถ้ารับประทานมากเกินไป ก็จะทำให้สมองถูกกระตุ้นมากเกินไปได้
แต่หลังจากดื่มกาแฟ 1 ถ้วยแล้วสมองยังไม่หายง่วงจะขอดื่มต่ออีกหลาย ๆ ถ้วยนั้น ให้ผู้ดื่มดูตัวเองว่ากำลังทำงานประเภทไหน เป็นงานที่ต้องใช้กำลังหรือต้องใช้ความคิด เพราะจากการศึกษาพบว่า คาเฟอีนสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและปริมาณของงานประเภทที่จำเจและน่าเบื่อหน่ายและงานที่ต้องใช้กำลังได้ ดังนั้นการดื่มกาแฟเพิ่มเป็น 2-3 ถ้วยจะช่วยยืดเวลาการทำงานประเภทดังกล่าวได้
หากเป็นงานที่เน้นคุณภาพและต้องใช้ความประณีต เช่น งานด้านศิลปะ การเขียนหนังสือ หรือการเย็บผ้า การดื่มกาแฟ 2 - 3 ถ้วยจะยิ่งทำให้คุณภาพของงานด้อยลง ดังนั้นการดื่มกาแฟเกินวันละ2- 3 ถ้วย จะมีแนวโน้มทำให้คุณภาพของการทำงานด้อยลง อย่างไรก็ตามข้อมูลเหล่านี้ไม่ใช่การต่อต้านการบริโภคเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือเครื่องดื่มชูกำลัง เพียงแต่ผู้ดื่มควรให้ความใส่ใจในการบริโภคคาเฟอีนของตัวเอง เช่นเดียวกับใส่ใจเรื่องการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่
สำหรับการเสียชีวิตของหนุ่มน้อย เดวิส ผู้เคราะห์ร้ายจากสารคาเฟอีนตามที่เป็นข่าวนั้น สถาบันการศึกษากุมารเวชศาสตร์แห่งอเมริกา (AAP) ได้เผยคำเตือนต่อเด็กและวัยรุ่น เรื่องการบริโภคเครื่องดื่มชูกำลัง ว่า ส่วนผสมในเครื่องดื่มชูกำลังไม่ได้ผ่านการทดสอบกับเด็ก ๆ และไม่อาจชี้ชัดว่าปลอดภัย นอกจากนี้มันยังอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงอย่างหัวใจเต้นผิดจังหวะ รวมถึงเปลี่ยนระดับความดันเลือดด้วย AAP ยังระบุว่า เครื่องดื่มชูกำลังส่วนมากจะมีปริมาณคาเฟอีนเทียบได้กับกาแฟ 3 แก้ว และมีน้ำตาลมากถึง 14 ช้อนชา โดยคาเฟอีนนั้นเป็นสารกระตุ้นที่ส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลางของร่างกายในเวลาไม่กี่นาทีหลังรับเข้าร่างกาย ช่วยเพิ่มความตื่นตัวและลดความง่วง แต่แน่นอนว่ามันยังส่งผลกระทบอื่น ๆ ต่อร่างกาย เช่น เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้กระวนกระวาย ซึ่งหลังจากดื่มเข้าไปต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการกำจัดคาเฟอีนออกจากร่างกาย
ได้ทราบข้อมูลแบบนี้แล้ว กาแฟวันละแก้วก็คงเพียงพอ!
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754