สยอง!! อุทาหรณ์คนสักแล้วลบ พึ่งคลินิกใช้น้ำยาลอกลาย สุดท้ายไม่ได้หลุดมาแค่สี แต่มีเนื้อและน้ำหนองปนออกมาด้วย นักศึกษาสาว “เหยื่อรอยเข็ม” จึงตัดสินใจโพสต์ภาพ “แผลแห่งความทุกข์ทรมาน” เตือนใจผู้หลงรัก “ศิลปะบนร่างกาย” เพราะไม่อยากให้ต้องตกที่นั่งอนาถเหมือนๆ กัน
“38 ภาพ” คือจำนวนรูปที่ “เรียว” นักศึกษาสาวเจ้าของลายสักรูปดอกไม้เหนือหน้าอกขนาดกว้างเท่าตัวรายนี้ ตัดสินใจโพสต์เอาไว้บนโลกออนไลน์เพื่อให้เป็นอุทาหรณ์แก่เพื่อนมนุษย์ว่าอย่าเลือก “ลบรอยสัก” ด้วยวิธีผิดๆ เหมือนตัวเอง โดยโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Pasuda Reaw” ตั้งชื่ออัลบั้มเอาไว้ว่า “ความเจ็บปวดที่งดงาม5555” พร้อมบรรยายเจตนาในการโพสต์เอาไว้ตามนี้
"โพสต์เพื่อเตือนตัวเองว่าอย่าโง่อีก และเป็นตัวอย่าง(ที่ไม่ดี) สำหรับคนที่อยากลบรอยสักนะคะ... คลิกเข้าไปดูทีละรูปเลยเน่อ บรรยายไว้หมดแล้วว่าวันไหนบ้าง ขอบคุณทุกๆ คนที่เป็นห่วงนะคะ ไม่ได้มารีวิวลบรอยสักนะคะ ไม่ได้แนะนำให้ไปลบ 5555”
[เปิดหมดเปลือก ไว้เป็นอุทาหรณ์ "คนสัก"]
ย้อนกลับไปช่วงก่อนหน้า ก่อนที่จะมีแผลชวนสยองแบบนี้ เรียวเลือกสักเพื่อต้องการให้แฟนหนุ่มที่ชื่อ “นัท” ประทับใจ แต่อีกฝ่ายกลับไม่ชอบอย่างคาด จึงตัดสินใจหาวิธีลบออก โดยได้เลือกใช้บริการของคลินิกแห่งหนึ่งซึ่งเป็นร้านที่คุณแม่รู้จัก ใช้น้ำยาลบรอยสักให้หายไป โดยไม่รู้ชะตากรรมด้วยซ้ำว่า ลวดลายสวยๆ กำลังจะกลายเป็นแผลเป็นน่ากลัวๆ ในอีก 2 เดือนถัดมา
[ลายสัก เมื่อครั้งยังไม่ได้ลบ]
“สาเหตุที่สัก เพราะเรียวชอบ ชอบมาตั้งนานแล้วแต่เพิ่งสัก ส่วนสาเหตุที่ลบ เพราะนัทไม่ชอบ เลิกกันรอบนึงแล้ว นัทบอกให้ไปลบแล้วจะกลับมาคบ พอเรียวลบเสร็จ (ยังไม่เสร็จหรอก แผลยังเจ็บอยู่) นัทมาบอกเลิกเรียวอีกรอบ บล็อกเบอร์ ไม่ติดต่อเรียวมา ทิ้งเรียว
คำถามคือควรทำยังไง นี่โง่มาก ยอมให้เขา แต่เขาไม่เห็นค่า ด่าได้ขอแรงๆ ตอนนี้แผลยังเจ็บอยู่ นอนได้ท่าตรงท่าเดียว
เรียวโง่ เรียวรู้ตัวค่ะ ก่อนจะทำก็รู้ตัว คิดมาสักพักนึงแล้ว แต่อยากลองเสี่ยง ผลจะออกมาเป็นยังไง อย่างน้อยเรียวก็ได้ทำเต็มที่แล้ว”
[หลังเข้าคลินิก ใช้น้ำยาลบรอยสักไปแล้วอาทิตย์กว่าๆ]
ปรากฏว่าหลังจากตัดสินใจลบรอยสักไปเมื่อวันที่ 4 ก.พ. เธอรู้สึกแสบแผลมาก แต่ก็อดทนรอผลจนถึงวันที่ 14 ก.พ.รอยสักรูปดอกไม้ที่เคยมีสีสันสวยงาม ก็เริ่มหลุดลอกออกมาจากผิวหนังของเธอ พร้อมๆ กับน้ำหนองที่ไหลออกมาด้วย จนทำให้ “เหยื่อฝีเข็ม” อย่างเรียวต้องพรางตัวด้วยการสวมเสื้อนักศึกษา ปิดกระดุมถึงคอ ป้องกันไม่ให้น้ำหนองไหลออกมาเปื้อนนอกเสื้อ
ระหว่างนั้น เธอก็ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่กับการลอกของแผลนี้อยู่นานมาก จึงตัดสินใจถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่เตือนใจเพื่อให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง กระทั่งถึงวันที่ “รอยสักหนองเยิ้ม” กลายเป็น “แผลเป็นเนื้อชมพู” โดยเธอได้บรรยายถึงความเจ็บปวดในทุกระยะเอาไว้อย่างละเอียด ไล่ตามไทม์ไลน์ดังนี้
“วันที่ 4 ก.พ.60 คืนแรกที่ลบ มันแสบมากๆ ค่ะ ร้องโอดโอยทั้งคืน น้ำตาไหลด้วย อ่อนแอมาก”
“วันที่ 8 ก.พ.60 ตรงหนังเริ่มตึงๆ นอนตะแคงไม่ได้เลย”
“วันที่ 14 ก.พ.60 วันวาเลนไทน์ เริ่มตึงหนักกว่าเดิม ทรมานกับการนอนท่าเดียวจนปวดหลัง แต่ก็เลือกไม่ได้ ทนต่อไป ความรู้สึกตอนนั้นเจ็บมาก สังเกตตรงขอบๆ ดอกกุหลาบ ตอนนั้นดีใจมากจะลอกแล้ว แต่ความจริง มันแค่เริ่มต้นเอง 55555”
“วันที่ 22 ก.พ.60 ตอนนั้นเริ่มโสด เพื่อนเริ่มกลับมา เพื่อนเริ่มชวนออกไปข้างนอก ไม่อยากให้เราเครียด”
“วันที่ 23 ก.พ.60 เปิดให้ดูกันชัดๆ หนองน่ากลัวมาก เหมือนหนังจะหลุด แต่ก็แค่เหมือน 555 สู้ต่อไป... นี่คือก่อนจะนอนทุกๆ ครั้ง ทำความสะอาดแผลแบบนี้ทุกครั้ง หนองมันเยอะมาก และแผลเหม็นมาก”
[ลอกคราบผิวหนังออกมาเป็นแผ่นๆ]
“วันที่ 2 มี.ค.60 เจ็บมาก แสบมาก ไม่ไหว ตัดสินใจดึงหนังออก เจ็บที่สุด ทั้งกรี๊ดทั้งดึง”
“วันที่ 18 มี.ค.60 ใกล้แห้งหมดแล้ว”
“วันที่ 18 เม.ย.60 วันที่เลย สดๆ ซูมได้ จะเห็นเส้นเลือด งือออ กลัวตัวเอง”
[กลายเป็นแผลเป็นแบบนี้]
“วันที่ 7 พ.ค.60 จริงๆ จะรออัปเดตวันที่ไปฉีดยากับหมอ แต่หลายๆ คนถามหาแผลปัจจุบัน เลยลงให้ดูนะคะ ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าแผลจะเป็นแบบไหน แต่ก็รักษาไปเรื่อยๆ อยู่ค่ะ... ไว้จะมาอัปเดตอีกทีวันที่ไปฉีดยาแล้วนะคะ”
ล่าสุด เธอโพสต์เอาไว้ว่า "ไปเรียนแบบไม่ต้องปิดแผลแล้ว แต่คนก็มองอยู่ดี 555" เมื่อภาพเตือนใจชุดนี้ของเธอถูกเผยแพร่ออกไปในวงกว้าง แม้แต่ในสื่อออนไลน์ของคนต่างสัญชาติ หลังผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อ “Juls Wardell” เอาภาพไปอัปโหลด จนมีคนแชร์ออกไปกว่า 50,000 ครั้ง
นอกจากนี้ ยังมีการฝากอุทาหรณ์กันเอาไว้ด้วยว่า ต่อไปถ้าใครอยาก “ลบรอยสัก” ไม่ควรเลือกใช้น้ำยา แต่ควรเลือกการลบด้วย “เลเซอร์” น่าจะดีที่สุด และบรรทัดต่อจากนี้คือข้อแนะนำการลบรอยสักที่เผยแพร่เอาไว้บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของโรงพยาบาลยันฮี
“การลบรอยสัก เป็นวิธีการรักษาหนึ่งที่จะช่วยแก้ไขปัญหาของผู้ที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขรอยสักเดิม และสามารถลบรอยสักได้จริง แต่การที่จะได้ผล 100% หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสีที่คุณไปสัก ความลึกของการสัก และปฏิกิริยาตอบสนองของผู้ไปสักเอง
วิธีลบรอยสักมีด้วยกันหลายวิธี ตั้งแต่การกรอผิวบางส่วนที่เป็นรอยสักออก, การตัดบริเวณที่สักออก หรือการสักทับ แต่การใช้เลเซอร์ เป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับและนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน และปลอดภัยไม่ติดเชื้อใดๆ”
ข่าวโดย ผู้จัดการ Live
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754