By...แอดตั๋ว
คนพัทยาจะรู้ดีว่ามี นากาตะ (นาเกลือใต้) เป็นแลนด์มาร์ครอบนอกของเมืองพัทยาที่พรานล่าช้างเผือกทั้งหลายต้องแวะเวียนไปทำยุทธหัตถีกันที่นั่น เพราะส่วนใหญ่ข้างในตัวเมือง หรือริมหาดนั้นล้วนแล้วแต่เป็นสาวสเปกฝรั่ง ไม่ก็กระเทยพันธุ์ถึกที่ไม่มีอะไรคล้ายผู้หญิงเลยนอกจากการแต่งกาย
ย้อนกลับไปเมื่อสัก7-8 ปีก่อน นากาตะ คือสวรรค์เล็กๆ ของนักเที่ยวชั้นโลว์คอส เป็นยุครุ่งเรืองขีดสุดของที่นี่ เด็กๆ ล่องมาจากทางเหนือ เพื่อมาชุบตัวเป็นช้างป่าที่นากาตะ ขอเล่าถึงระบบการล่องใต้ของน้องๆ หน่อยนะว่า ส่วนใหญ่จะมีจุดสตาร์ทกันที่ทางเหนือ คือเริ่มต้นการเป็นสาวบริการกันแถบโน้น แล้วเมื่อพอบอบช้ำพอสมควรและต้องการหาประสบการณ์ใหม่ๆ พวกเธอก็จะพากันล่องลงมาแถบๆ ภาคกลาง เมื่อถึงที่สุดแล้วก็จะมาหยุดที่พัทยา
นี่คือจุดสุดท้ายก่อนที่พวกเธอจะวางมือออกไปมีลูกมีสามี บางคนโชคดีหน่อยก็ได้สามีฝรั่งร่ำรวยกันไป แต่นี่ไม่ได้หมายถึงแค่สาวทางเหนือนะ ไม่ว่าสาวภาคไหนก็ล้วนมีหญิงบริการ แต่ส่วนใหญ่มักจะไปสตาร์ทกันที่ภาคเหนือ แถบๆ อีสานก็มีเยอะเลย จะใช้หลักการเดียวกันคือ บอบช้ำจากบ้านตนเองแล้วมาลุยให้คนภาคกลาง หรือกรุุงเทพฯ ได้เชยชม ก่อนที่จะพาตัวเองกับนาผืนน้อยมุ่งสู่ “พัทยา” อันเป็นที่ท้ายสุด บางคนก็อาจไปประจวบ หรือไม่ก็ลงใต้เลย อันนี้สุดแท้แต่ชะตาชีวิตและความลำบากจะพาไป
นากาตะ เป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่น ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายต่างชาติ เป็นร้านคาราโอเกะนั่งดื่มกิน ซึ่งถูกจัดเป็นโซนไว้ รู้กันดีเมื่อบอกแท็กซี่หรือวินมอร์ไซค์ว่า ไปข้างปั๊มเอสโซ่ สารถีจะจัดให้โดยไม่ต้องถามไถ่กันมากมาย
โซนนากาตะมีหลายซอย แต่ละร้านจะมีหลายๆ อย่างคล้ายๆ กัน คือเป็นร้านคาราโอเกะที่ไม่ค่อยมีใครตั้งใจไปร้องเพลงกันจริงๆ หรอก แค่เดินก้าวเท้าเข้าร้าน อวัยวะเพศชายก็ดูจะตื่นตัวแล้ว คือถ้าไม่ถือมาก น้องๆ บางคนถือว่าใช้ได้ หลายคนแค่เห็นหน้าก็มโนเพ้อถึงวันแต่งงานของสองเราแล้ว จับไปขัดสีฉวีวรรณใส่ตะกร้าล้างน้ำหน่อยก็พาเดินควงไปอวดเพื่อนได้แบบไม่อายใคร
สนนราคาก็ตกอยู่ราวๆ พันกว่าบาท ทุกๆ ร้านจะมีห้องให้บริการที่ชั้นบน ถ้าอยากเป็นส่วนตัวก็ตกลงกันว่าให้ไปเจอที่โรงแรม รีสอร์ท แถวๆ นั้นที่มีเกลื่อน เอาไว้รองรับคนที่อยากมีเวลาคุณภาพดีๆ เพื่อที่ว่าถูกใจจะได้ต่อราคาเพื่อขอให้น้องอยู่ด้วยทั้งคืน หากติดใจและอยากเหมาน้องจริงๆ ราคาก็จะตกอยู่ที่สามพันกว่าๆ หมดเวลาอีกทีก็ตอนเที่ยงของเช้าอีกวัน จะกระทำชำเราอะไรน้องก็ได้แต่ต้องตั้งอยู่บนกฏที่น้องตั้งไว้ คือ ไม่ดูดปาก ไม่แตกใน เป็นต้น หากฝ่าฝืนกฏอาจโดนรุมกระทืบจากพวกรุ่นพี่ได้
ส่วนตัวแล้วชื่นชอบไปในช่วงตลาดวายแล้ว คือเป็นเวลาตีหนึ่งขึ้นไป ตัวท็อปๆ จะเริ่มทยอยกลับมานั่งทำรอบ คือตั้งแต่หัวค่ำน้องจะออกไปหนึ่งหรือสองรอบแล้ว พวกเธอจะชอบกลับมาเวลานี้แหละ และไม่วุ่นวายมากเกินไป ถ้าไปหัวค่ำจะโดนรุม โดนจี้ถามราวกับฝูงซอมบี้ ซึ่งโอเคน้องๆ น่ารักจริง แต่เยอะกับพี่มากพี่ก็รำคาญเหมือนกัน อยากเหมาไปให้หมดเลยให้ตายสิ
เมื่อเราเข้าไปในช่วงตลาดวาย จะง่ายต่อการต่อรองราคา บางคนอาจบอกให้น้องมัดรวมกันมา พี่มีสามพัน ไปกับพี่สองคนได้มั๊ย? ด้วยความที่ตลาดวายแล้วพวกหล่อนจะว่านอนสอนง่ายและกระโดดขึ้นรถเราไปอย่างไม่ยากเย็น
พูดถึงรถนั้นส่วนใหญ่มักใช้บริการพี่แท็กซี่ ไม่นิยมเอารถส่วนตัวไป เคยถามไถ่เพื่อนๆ บางคนมันบอก กลัวน้องติด เพราะเห็นเรามีรถเก๋งสวยๆ ขับ น้องจะตามราวี ตามจิก บางคนถึงขั้นตามหึงหวง เพราะว่ากันตามตรงน้องๆ อายุยังน้อย ไม่มีความเป็นมืออาชีพเท่าที่ควร มีอารมณ์เด็กๆ ตกหลุมรัก หลง ลูกค้าอย่างเราๆ ได้ ยิ่งโดยเฉพาะพวกโชว์รวยนี่บ้านแตกมานักต่อนักแล้ว เวลาไปเที่ยวอะไรแบบนี้เราจึงต้องทำตัวให้ดูจนที่สุด (ซึ่งบางคนไม่ทำตัวให้จนก็จนอยู่แล้ว อิอิ)
ส่วนตัวแล้วไม่ชอบเด็กตอแหล พวกมายืนเกาะแขนเกาะขา “พี่ขึ้นมั๊ยพี่ ขึ้นกับหนูนะพี่” อะไรแบบนี้ผมไม่ค่อยสน แต่มักจะมองหามุมร้าน หรือมุมไหนสักแห่งในร้านที่มีน้องหน้าสวยๆ มึนๆ นั่งเงียบๆ อยู่ คือชื่นชอบเด็กมีปมนั่นเองเพราะในขณะที่เพื่อนๆ ต่างเรียกแขกกันเอาเป็นเอาตาย มันจะมีสาวสวยนั่งเซ็งชีวิตนั่งสูบบุหรี่ กระดกเบียร์ นั่งเล่นมือถือ หน้าหงอยๆ ไม่สนฟ้าสนฝน แบบได้แขกก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่แคร์ พวกนี้แหละที่ผมชอบ
เพราะนอกจากจะบรรเลงเพลงกามแล้ว ผมชอบแลกเปลี่ยนเรื่องราวกับสาวๆ พวกเธอเหมือนมีสิ่งเก็บงำไว้มากมาย และไม่รู้จะระบายกับใคร ผมมักชอบรับฟังพวกเธอระบาย บางคนถึงขนาดเคยร้องห่มร้องไห้จนชั่วโมงผมหมด แล้วผมยอมควักจ่ายต่อชั่วโมงเพื่อที่จะได้ฟังเรื่องราวของเธอต่อ แต่ความเห็นอกเห็นใจมันคนละอันกับความต้องการครับ
แม้ว่าผมจะเป็นผู้รับฟังที่ดีผมก็ต้องการมีเซ็กส์กับเธอด้วย ผมใช้เวลามีเซ็กส์ไม่เกินยี่สิบนาทีหรอก บางครั้งมีเซ็กศ์ก่อนค่อยคุย ไม่ก็คุยก่อนค่อยมีเซ็กส์กัน แต่รวมๆแล้วผมชื่นชอบการนั่งกินเบียร์ พูดคุยกับพวกน้องๆ มากกว่าการมีเซ็กส์เสียอีก ดังนั้น การมีเซ็กส์มันจึงเป็นของแถมสำหรับผม เพราะพวกเธอแต่ละคนมีชีวิตที่น่าสนใจ
ว่ากันว่า ให้เกียรติใคร ย่อมได้รับเกียรติคืนกลับมา นั่นแหละคือสิ่งที่ผมได้รับมันจากคนที่มีอาชีพ “โสเภณี” เรื่องราวของพวกเธอมันค่อนข้างโลดโผน น่าเห็นใจ และมันมีส่วนทำให้ผมมีอารมณ์ร่วมกับเซ็กส์ระหว่างผมกับเธอเพิ่มขึ้นเยอะเลย อย่างน้อยบางครั้งหากผมได้รับรู้เรื่องเศร้าที่ทำให้เธอต้องมาขายตัวก่อน ผมก็จะปฏิบัติกับเธออย่างนุ่มนวล
บางครั้งเจอเด็กที่บอกว่ามาขายตัวเพราะความร่านล้วนๆ อันนี้ดี เพราะผมจะได้เล่นท่าต่างๆ โดยไม่ปราณี แต่หลายๆ ครั้งที่เจอคนที่ใช่ และพยายามถามไถ่เรื่องราว ก็โดนเธอปฏิเสธ ไม่ขอเล่าก็มี แต่ผมก็เข้าใจได้ บางคนอาจเจอมาหนักจริงๆ เลยไม่อยากเล่า
อย่างเช่นเคยมีน้องคนหนึ่ง เธอไม่บอกไม่เล่าอะไรเลย รู้แค่ว่าโดนน้องชายแท้ๆ ตัวเองข่มขืน แล้วแม่กับพ่อก็บอกให้เธอหุบปากไปซะ เรื่องแดงขึ้นจนอายชาวบ้านเขา เธอบอกแค่นี้ แต่ในใจผมสงสารเธอจับใจ และผมได้แปลงความสงสารของผมเป็นกระบวนท่าหลากหลายเพื่อส่งสาส์นความเห็นใจนั้นไปยังเธอ
นี่คือการเกริ่นนำที่ค่อนข้างยาวหน่อย แต่ตอนต่อไปผมจะมาเล่าย้อนความหลังครั้งที่ผมไปใช้ชีวิตที่พัทยา 4 ปี ให้อ่านกัน ส่วนใหญ่ก็วนเวียนอยู่กับเรื่องทางเพศ เรื่องเมาๆ เนี่ยแหละ โดยเฉพาะสาวๆ ที่นาเกลือใต้แห่งนี้ มีทั้งสุข เศร้า มันส์ ครบเครื่อง
เอาเข้าจริงๆ ผมยอมรับแต่โดยดีเลยว่าเป็นคนชอบตีหม้อมากๆ และพัทยานี่แหละคือสวรรค์ของนักตีหม้อของจริง โปรดติดตามในตอนถัดไป
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754