“จุฬาฯ มีทุนให้เยอะแยะนะครับ” “คนอื่นลำบากกว่านี้ยังไม่มาเรี่ยไร” โลกโซเชียลฯ สร้างข้อกังขา “ไทเกอร์” สู้ชีวิตจริงหรือ! หรือเป็นการสร้างเรื่อง โชว์ความน่าสงสารของแม่ เปิดบัญชีเรี่ยไรค่าเรียนลูกสูงถึงหลักล้าน!! สังคมตั้งคำถามชีวิตลำบาก หรือขายดรามา “หาเงิน” กันแน่?
“ลูก” ขยัน-เรียนดี แต่ “แม่” เล่นใหญ่ไปไหม?
ข้อกังขาของสังคมยังคงไม่จบลงง่ายๆ สำหรับเรื่องราว “น้องไทเกอร์” อดีตดาราเด็กผู้สู้ชีวิต สอบติดคณะวิศวะฯ จุฬาฯ แต่ไม่มีทุนทรัพย์ในการเรียน ต้องทำงานพิเศษหารายได้เสริมเลี้ยงตัวเองและครอบครัว โลกโซเชียลฯ พากันแฉหลักฐานเด็ดว่าเรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำบางอย่าง รวมถึงประเด็นการสร้าง “ความสงสาร” เพื่อขายดรามาของผู้เป็น “แม่”
ย้อนกลับไปเมื่อ 6 ปีก่อน กระแสดรามาขอรับบริจาคช่วยเหลือด้านการศึกษา เกิดขึ้นหลังจากที่คุณแม่และน้องไทเกอร์ได้ไปออกรายการหนึ่ง โดยได้มีการพูดถึงการขาดแคลนทุนทรัพย์ที่ใช้ในการเรียนโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ ซึ่งภายหลังการออกอากาศได้มีคนใจบุญแห่ช่วยบริจาคเงินการศึกษากันอย่างถล่มทลาย
ล่าสุด เรื่องที่ว่านี้กลับมาเป็นข้อพิพาทของสังคมอีกครั้ง ถึงการตั้งคำถามเรื่องการเปิดบัญชีขอรับบริจาคเงินทุนการศึกษา ซึ่งมีการเปิดบัญชีมายาวนาน จนชาวเน็ตตั้งข้อสงสัยว่า เพราะเหตุใดทางครอบครัวของน้องไทเกอร์จึงไม่ปิดบัญชีขอรับบริจาคเสียที ทั้งที่เงินบัญชีพุ่งทะลุสูงถึงหลักล้าน และเจตนาที่แท้จริงในการขอรับบริจาคเพื่ออะไรกันแน่?
โดยแม่ของน้องไทเกอร์ได้อธิบายข้อสงสัยของสังคม ผ่านรายการข่าวแห่งหนึ่ง โดยพูดถึงประเด็นที่ไม่ยอมปิดบัญชีรับบริจาคเงิน และยืนยันหนักแน่นว่าไม่เคยเกาะลูกกิน
“จริงๆ แล้ว ดิฉันตั้งใจจะไปปิด แต่หูเบา เพราะมีชาวบ้านใกล้เคียงยุแหย่ว่าไม่ให้ไป เดี๋ยวจะไม่พอเรียน เราก็ไม่แน่ใจ ยอมรับว่าเป็นคนโลไปเลมา แต่ใจก็จะทำอย่างที่ผู้มีพระคุณสั่ง ทีนี้ก็เลยล่าช้าไปหน่อย ตอนนี้ก็เลยปิดให้เขา เงินที่ได้รับมาเมื่อปี 2554 ช่วงเวลา 6 ปี วงเงิน 1,050,200 บาท ได้ใช้เงินอย่างคุ้มค่าและทุ่มเทกับการศึกษาของลูกมาตลอด และยืนยันว่าไม่เคยเกาะลูกกิน เพราะมีรายได้แต่ละเดือน”
ดูเหมือนว่าคำตอบที่ว่านี้จะยังไม่ทำให้สังคมหายแคลงใจไปได้ รวมถึงเรื่องการโพสต์ภาพผ่านอินสตาแกรมที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า มีเจตนาเพื่อขายความดรามามากเกินไปหรือไม่ เพราะภาพส่วนใหญ่และข้อความที่ถูกเผยแพร่ออกไปนั้น มีแต่ภาพความน่าสงสารและความเป็นนักสู้ชีวิตของน้องไทเกอร์แทบจะทั้งสิ้น
“สำหรับการโพสต์ผ่านอินสตาแกรม น้องไทเกอร์ยอมรับว่าเป็นการโพสต์ขึ้นมาเอง ส่วนภาพที่ถูกถ่ายแม่เป็นคนถ่ายภาพให้ ซึ่งไทเกอร์ต้องการถ่ายทอดหลังจากการทำงาน เพราะแต่ละครั้งก็ทำงานจนเหนื่อยล้า แม่จะถ่ายรูปให้แล้วไทเกอร์เก็บไว้ในคลังภาพของไทเกอร์ ซึ่งไทเกอร์จะเล่าให้เพื่อนในไอจีฟัง
เพราะถ้าเพื่อนที่เขาเรียน มีแต่อิจฉาตาร้อน พอไทเกอร์เด่นดี แทนที่จะแสดงความยินดี มีแต่จะโจมตี เหยียบย่ำ มีเพื่อนที่ไหนล่ะ เพื่อนได้โอลิมปิกเอย เพื่อนสอบติดระดับสูงเอย แต่กลับมาใส่ในโพสต์โจมตีทั้งแม่ทั้งลูกมีเพื่อนที่ไหน คิดว่าเพื่อนที่โรงเรียนทั่วไปเขาคงจะดีมากไม่มีที่ไหนเลวเท่าขนาดนี้แล้ว ไม่ได้บอกว่าโรงเรียนไหนนะคะ ไม่คิดว่าจะมีเพื่อนที่ไหนเลวมาโจมตีให้เสียหายขนาดนี้”
เพื่อนคอนเฟิร์ม “ไทเกอร์จนจริง”
หลังจากที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักหน่วง ถึงกรณีเรื่องการสร้างภาพแสดงให้เห็นถึงความยากจน ความสู้ชีวิต ความขยันหาเงินเลี้ยงครอบครัวของน้องไทเกอร์ จนชาวเน็ตงัดหลักฐานมาไฟต์กันว่าไม่เป็นความจริง ล่าสุดในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ข้อความที่อ้างตัวว่า เป็นเพื่อนร่วมห้องของน้องไทเกอร์ ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจชื่อดัง “แหม่มโพธิ์ดำ”
“ผมเป็นเพื่อนในห้องของไทเกอร์นะครับ อยากมาเล่าเรื่องไทเกอร์ในมุมของผม เริ่มเรื่องไอจีก่อนละกันครับ คาดว่าแม่เป็นคนเขียนครับ จริงๆ พจน์-อานนท์เคยลงไอจีจะช่วยเหลือน้องเขาทีนึงแล้วนะครับ แต่ข่าวก็เงียบหายไป ไทเกอร์เป็นเด็กเก่งคณิตกับฟิสิกส์ครับ จริงๆ ไทเกอร์เรียนพิเศษด้วยนะครับที่ออนดีมาน เขาอยู่กับแม่ 2 คน จริงๆ ในข่าวลงว่าน้องทำงาน แต่อยากให้มองอีกมุมนึงเหมือนกันครับว่า
ไทเกอร์เป็นคนมีความพยายามสูง บางวันเดินมา รร.นะครับ เหงื่อเต็มหลังเลย รู้สึกว่าจะพักอยู่แถวราชเทวี ตอนนี้สอบติดวิศวะฯ คอมพ์ฯ จุฬาฯ ครับ แต่อยู่ในช่วงปิดเทอม 6 เดือน รอขึ้นปี 1 เขาเลยไปทำงานที่เชสเตอร์กริลล์ ไทเกอร์อายุ 16 หางานยากครับ ส่วนใหญ่รับ 18 ขึ้นไป ได้ค่าแรงวันละ 400 บาท ไม่ใช่ทำงานหาค่าเทอมจนไม่มีเวลาเรียน ไทเกอร์เพิ่งเริ่มทำช่วงเดือนมีนาคม
ตอนเรียนที่ รร.ไทเกอร์อยู่โครงการ AP เลข ขยัน สำหรับผมอยากสนับสนุนให้ช่วยตัวเขา เขาต้องการมาทำงานแลกเงิน มากกว่าเรี่ยไร แต่ก็นะ ผมว่าแม่เขาแปลกๆ ชอบขอเงิน เคยโดนลงอาญาคดีนึงด้วย ผมกูเกิ้ลมา ซึ่งไทเกอร์ได้รับทุนสนับสนุนการศึกษาจาก รร.ทุกปีครับ
รู้สึกว่าไม่ต้องจ่ายค่าเทอมเลย ค่าเทอม รร.สาธิตจุฬาฯ ไม่ถึง 80,000 ด้วยนะครับ สอบเข้า 19,200 เอง/ปี อยู่ในห้องก็มีเพื่อนชอบบ้างไม่ชอบบ้างเป็นธรรมดา ผมคิดว่ามหาลัยน่าจะมีทุนอยู่แล้ว แต่เหมือนว่ายังไม่ได้ติดต่อ+กยศ.ก็มีครับ”
แม้จะมีการพูดถึงในอีกแง่มุมหนึ่งของน้องไทเกอร์ว่ามีความเป็นอยู่ที่ค่อนข้างลำบาก ทว่า โลกโซเชียลฯ ยังคงไม่หยุดเปิดหลักฐานต่างๆ นานา ทั้งมีการพูดถึงว่าไทเกอร์ไม่ได้เรียนดีจริง รวมถึงการลงภาพในอินสตาแกรมที่มีลักษณะเหมือนการสร้างเรื่องขึ้นมามากกว่า
ฝากไว้ให้คิด! ทุนเรียนมีแยะ..ไม่เห็นต้องแบมือขอเงิน
“ฝากถึงน้องๆ อีกหลายคนที่อาจเจอปัญหาคล้ายๆ กัน คือสอบติดแต่ไม่มีเงินเรียนมหาลัย ในหลายๆ มหา’ลัย โดยเฉพาะมหา’ลัยรัฐ จะมีกองทุนช่วยเหลือเด็ก ที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ อย่างจุฬาฯ นี่ ได้ข้อมูลมาว่า กองทุนเยอะมาก ยิ่งถ้าเป็นเด็กที่เรียนดีมากๆ สอบคะแนนสูงมากๆ หรือมีความสามารถพิเศษ
แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ อันนี้โค-รชิลล์ อาจารย์แทบจะเอาทุนมาประเคนให้เลย แถมยังเป็นทุนให้เปล่าซะส่วนมากด้วย ดังนั้นถ้าเจอปัญหาแบบนี้ ปรึกษาฝ่ายกิจการนักศึกษา หรืออาจารย์ในมหา’ลัยนั้นๆ ท่านๆ จะช่วยแก้ปัญหาให้น้องได้อย่างแน่นอน
หรือในกรณีที่ไม่ได้ทุน ก็ยังสามารถกู้ กยศ. เรียนได้ อย่างจ่านี้กู้ กยศ. เรียนจนจบมหาลัย สี่แสน จบมารีบใช้หนี้จ่าย กยศ. จนหมด ให้รุ่นน้องๆ รุ่นถัดไปได้กู้ไปเรียนกัน มีทางเลือกช่วยเหลือนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์เยอะนะครับประเทศนี้ ไม่ต้องเป็นห่วง ถ้าน้องๆ สอบเข้ามหา’ลัยได้ ได้เรียนแน่ครับ”
เพจดัง “Drama-Addict” โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจถึงประเด็นดังกล่าวที่ยังคงเป็นเรื่อง ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ในขณะนี้ ซึ่งหลังจากที่มีการเผยแพร่ข้อความและเรื่องราวของน้องไทเกอร์ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา โลกโซเชียลฯ ต่างออกมายืนยันเรื่องสิทธิ์ในการขอทุนในมหาวิทยาลัยกันอย่างหนาแน่น
“ที่วิศวะฯ จุฬาฯ มีทุนมากกว่าจำนวนนิสิตอีก แต่ไม่มีคนขอ เป็นทุนให้เปล่า ไม่ต้องเรียนเก่ง ไม่ต้องมีความสามารถ ขอแค่ติดวิศวะฯ จุฬาฯ เดินเข้าห้องกิจการนิสิตแล้วขอได้เลย ผมขอมาแล้ว เรียนจบมาด้วยทุนนี้แหละครับ”
“ไม่เคยมีนิสิตที่มีปัญหาเรื่องเงินแล้วไม่ได้เรียนนะครับ ทุนจุฬาฯ เยอะกว่านิสิตอีกครับ แค่น้องขอเขาก็พร้อมให้ ขอมายืนยันเรื่องทุนการศึกษาครับ ทุนให้เปล่าเยอะมาก ไม่ว่าจะในนามของจุฬาฯ หรือของผู้อุปการะต่างๆ”
นอกจากนี้ยังมีการตั้งประเด็นขึ้นมาอีกด้วยว่า การพยายามนำเสนอความดรามาที่ว่านี้ เป็นการขายความดรามาให้สังคมไทยเกิดความสงสารหรือเปล่า ซึ่งมีการแจกแจงประเด็นออกมา 3 ข้อหลักๆ ด้วยกัน
1. ไม่ว่าจะคณะไหนจุฬาฯ ก็มีทุนให้ คือ เท่าที่เคยได้ยินมาไม่มีใครเรียนไม่จบเพราะขาดแคลนทุนในการเรียน
2. การเรียนไปทำงานไป ไม่ได้หมายความว่าจะโดนรีไทร์ระหว่างเรียน เพราะก็มีหลายคนที่เรียนไปทำงานไป เขาก็ยังสามารถจบออกมาได้ ขอเพียงมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ และพยายาม
3. สิ่งที่ไทเกอร์แสดงในคลิปดูค่อนข้างเกินความเป็นจริง เพราะเท่าที่เห็นคือไทเกอร์ลำบากจริงแต่ก็ไม่หนักถึงขนาดนั้น
บทสรุปมหากาพย์ความดรามาของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร และจะใช่อย่างที่สังคมกำลังครหากันอยู่หรือไม่ คงต้องให้ “เวลา” เป็นเครื่องพิสูจน์คำตอบของเรื่องนี้ . .
ข่าวโดย ทีมข่าวผู้จัดการ Live
ขอบคุณภาพ : IG @Marteenpry
: รายการเป็นเรื่องเป็นข่าว
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754
