lvaro Cerezo คือชายหนุ่มที่อยากหยุดโลกใบนี้ไว้ที่ยุคโบราณกาล เขาไม่ปฏิเสธว่าเทคโนโลยี สิ่งอำนวยความสะดวกสามารถตอบสนองความสุขสบายในชีวิตได้ แต่ในบางที การที่เขากับครอบครัวไปเที่ยวพักผ่อน เขาต้องทนรับมือกับความรู้สึกผิดในใจที่มีต่อหลายๆ คนในครอบครัวนั่นคือ การที่พี่น้องของเขาเอาแต่นั่งจ้องมือถือ เอาแต่แชท คุยโทรศัพท์ โดยไม่สนใจธรรมชาติป่าเขา ทะเลที่อยู่ตรงหน้าเลย พวกเขาแค่ย้ายที่กินอาหาร ย้ายที่เล่นมือถือ จากที่บ้านมาเล่นกันที่ป่าเขา
ประจวบเหมาะกับที่เขาเป็นแฟนหนัง Castaway ที่นำแสดงโดย Tom Hank เรื่องราวนี้มันจุดประกายให้เขาเริ่มต้นก่อตั้งบริษัททัวร์ Docastaway ทัวร์ที่จะพาผู้คนไปลำบากตรากตรำบนที่ไหนสักที่ที่ไร้ซึ่งผู้คน ไร้ซึ่งเทคโนโลยีล้ำๆ มันเป็นทัวร์ที่ค่อนข้างจะบ้าบิ่น โดยลูกค้าของเขานั้นต้องสละซึ่งทุกอย่างเพื่อไปติดเกาะ
เขาเป็นนักสำรวจตัวพ่อที่ยึดแนวทางตาม Christopher Columbus นักสำรวจผู้ยิ่งใหญ่ของโลก งานของเขาคือการตะลุยสำรวจเกาะต่างๆ ที่ร้างไร้ผู้คน แล้วมานำเสนอลูกค้า เพื่อพาพวกเขาไปผจญความลำบาก ทั้งอินเดีย อินโดนีเซีย หรือประเทศต่างๆ ที่มีเกาะ เขาก็จะพาตัวเองไปผจญความโดดเดี่ยวนำร่องไปก่อน แล้วมานำเสนอให้คนซื้อทัวร์
จะเป็น 10 วัน 15 วัน หรือเป็นเดือน หรือจะนานกว่านั้น ก็แล้วแต่ลูกค้าจะเลือก ซึ่งบริษัท Docastaway ของเขานี้ถูกมองว่าเป็นทัวร์บ้าๆ ธุรกิจที่ไม่มีวันเติบโต แต่เขาบอกว่า ใน 1,000,000 คน ถ้ามีลูกค้าใช้บริการทัวร์ลำบากกับเขาแค่ 10 คน ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว เขาแค่ใช้เงินที่หามาได้เพื่อท่องเที่ยวสำรวจ แล้วมานำเสนอแก่เพื่อนร่วมโลกอีกที จะเอาไม่เอาอันนี้ไม่ได้บังคับ
แต่ดูเหมือนว่า ถ้าเขากล้าเปิดบริษัททัวร์บ้าๆ แบบนี้ ก็ย่อมมีคนที่บ้าจี้ตามเขา โดยยึดถือแนวทางเดียวกัน ซึ่งจะยอมจ่ายเงินหนักๆ เพื่อแลกมันกับความลำบาก ปลีกวิเวก ปลดพันธนาการตัวเองออกจากเทคโนโลยี หรือเรื่องลำบากใจต่างๆ นาๆ
ลูกค้าสาวที่อยากจะลองของก็คือ Reikko Hori สาวญี่ปุ่นวัย 22 ปี ที่มีปัญหาเรื่องการเข้าสังคม เธอเบื่อหน่ายและหวาดกลัวที่จะพบปะผู้คน และมีแนวคิดคล้ายๆ กับ Alvaro Cerezo คือ สำหรับเธอ สังคมเต็มไปด้วยความจอมปลอม การสื่อสารแบบปลอมๆผ่านโซเชี่ยล การเป็นเพื่อนกันแบบปลอมเปลือก เธอจึงต้องการซื้อทัวร์เพื่อที่จะพาตัวเองออกจากโลกบ้าๆ
ดูเหมือนเธอจะมั่นใจเอามากๆ เมื่อเธอเลือกเกาะ Amparo ในประเทศอินโดนีเซีย วิธีการคือ จะมีเจ้าหน้าที่สำรวจเกาะให้ เครื่องบิน มีเฮลิค็อปเตอร์ และเรื่อเร็วไปส่งเธอยังเกาะ พร้อมมอบวิทยุสื่อสารให้เธอ 1 เครื่องไว้ติดต่อเจ้าหน้าที่บนชายฝั่งเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งที่บอกว่าเธอมั่นใจนั้นก็คือ เธอไม่ได้เอาอะไรมาเลยสักอย่าง นอกจากเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ และกระเป๋าเป้ใบเล็กๆ ที่แทบไม่มีอะไรในนั้นเลย
เธอบอกว่าเมื่อเสียเงินซื้อทัวร์มาปลีกวิเวกแล้ว ต้องเอาที่ยากที่สุด และเธอเลือกระยะเวลากว่า 19 วัน เพื่อดำรงชีวิตอยู่ลำพังท่ามกลางเกาะใหญ่ ไร้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ และเมื่อถึงเวลา ทีมงานจะมารับเธอไป หรือหากว่าเธอจะขอกลับขึ้นฝั่งก่อนก็ย่อมได้เสมอ
ดูเหมือนว่าเธอจะมั่นใจเกินเหตุไปหน่อย เพราะตลอดระยะเวลา 19 วันนั้น เธอใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมาก เธอต้องประดิษฐ์ฉมวกเอาไว้แทงปลาเอง ปีนต้นมะพร้าวเพื่อนำน้ำมาดื่ม ก่อไฟด้วยการใช้แว่นขยาย ฯลฯ แต่ต้องยอมรับว่าเธออดทนทรหดจริงๆ เพราะถึงแม้ว่าจะอยู่อย่างลำบาก แต่เธอไม่ขอยอมแพ้ อยู่ต่อจนครบ 19 วัน
ทันทีที่เธอกลับถึงฝั่งด้วยร่างกายสะบักสะบอม อ่อนล้า เธอบอกว่า
" ฉันดีใจที่ได้กลับสู่สังคมอีกครั้ง ฉันไม่เคยอยากพบปะผู้คนมากเท่านี้มาก่อน ฉันชื่นชอบความโดดเดี่ยว และไม่เคยคิดว่าตัวเองเหงาเลย จนกระทั่ง 19 วันนี้ ฉันเพิ่งรู้สึกว่าฉันเหงา บางวันที่อยู่บนเกาะ ฉันมักคิดว่าน่าจะมีใครสักคนมานั่งคุยเป็นเพื่อน "
สิ่งที่เธอได้กลับคืนมาคือการอยากมีสังคมอีกครั้ง มันบรรลุเป้าหมายแบบที่เธอเองก็คาดไม่ถึง จากคนที่อยากหนีไปไกลๆ กลับกลายเป็นเธอกลับคืนสู่สังคนได้อย่างดีเยี่ยม ปัจจุบันเธอชื่นชอบการมีเพื่อนมากขึ้นเยอะเลย
ปัจจุบัน Alvaro Cerezo ยังคงเดินทางสำรวจเกาะร้างผู้คนเพื่อมานำเสนอแก่ลูกค้าของเขา มีลูกค้าหลายรายเข้ามาใช้บริการทัวร์ตรากตรำของเขา และกลับสู่สังคมได้อย่างดีเยี่ยมอีกครั้ง เขาบอกว่า
" ในบรรดาลูกทัวร์ ไม่มีใครบ้าบิ่นเท่าลูกทัวร์คนแรกของผมอย่าง Reikko Hori อีกแล้ว เธอแข็งแกร่งมาก หัวดื้อ และไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ เธอเข้ามาหาเราแค่แบกเป้ใบจิ๋วมา แล้วบอกว่า ฉันพร้อมแล้ว แล้วผมก็พาเธอไปปล่อยเกาะ โดยที่เฝ้าระวังให้เธออยู่บนฝั่ง เธอทำได้ดีมากๆ "
ซึ่งหลังจากที่ Reikko Hori ได้ผ่านวันเวลาอันเปลี่ยวเหงามาได้ ทาง Docastaway ก็มีกฏบังคับออกมาหลายอย่างเพื่อให้ลูกทัวร์ไม่ลำบากเกินไป นั่นคือการที่มอบอุปกรณ์อำนวยความสะดวกนิดๆ หน่อยๆ ไว้ให้พวกเขาใช้สอย ซึ่ง Alvaro Cerezo เองก็ยอมรับว่าบางทีการปฏิเสธเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกมากเกินไปมันก็เป็นอะไรที่แย่เหมือนกัน เพียงแค่ทุกคนควรใช้มันให้น้อย เพราะในอนาคตคุณไม่อาจล่วงรู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันคือการเอาตัวรอดที่ทุกๆคนต้องเรียนรู้ และนั่นเองมันจึงทำให้ทัวร์ของเขาประสบความสำเร็จอย่างที่ตัวเขาเองก็ประหลาดใจ
คลิปของReikko Hori
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754
