เรียกได้ว่าทำเอา “ตำรวจไทย” หน้าชากันเลยทีเดียว เมื่องานนี้โดนแฟนเพจสายดาร์ก “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ V.4” ยื่นมือช่วยคุณแม่ท่านหนึ่งเรียกร้องหาความยุติธรรมจากการทำงานที่ไม่เป็นธรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากพบพิรุธหลายจุด เกี่ยวกับคดี แต่เมื่อคุณแม่ของผู้เสียหายเข้าร้องเรียนกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไม่ได้รับความสนใจหรือเหลียวแลแต่อย่างใด เป็นเหตุให้เพจสายดาร์กอื่นๆ ต้องยื่นมือเข้าช่วยทำหน้าที่เป็นสายตรวจสืบคดีจนคดีกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง
** เพจสายดาร์กที่พึ่งใหม่ช่วยคน
ที่ผ่านมาหลายๆ คดีที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย จากกระบวนการยุติธรรม จนผู้เสียหายมืดแปดด้านไม่รู้จะไปเรียกร้องหาความเป็นธรรมได้จากที่ไหนได้อีก จนต้องมาเพิ่งแฟนเพจสายดาร์กทางโลกโซเชียลฯ ที่เดี๋ยวนี้เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือผู้เสียหายให้ได้รับการเยียวยา บรรเทา แก้ไขคดี ให้ได้รับความเป็นธรรมอีกครั้ง หรือช่วยรื้อคดีที่เงียบหายไปจนไม่เป็นที่สนใจได้กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง
จะว่าไปแล้วเพจสายดาร์กเหล่านี้ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของทางเจ้าหน้าที่ไม่ให้นอกลู่นอกทาง หรือว่าเป็นคดีที่ถูกลืมไป โดยเพจสายดาร์กที่ขณะนี้แทบไม่ได้หลับได้นอนคอยสอดส่องหาหลักฐานหรือเข้าช่วยเหลือในหลายๆ คดีจนโด่งดังในตอนนี้มีหลากหลายเพจไม่ว่าจะเป็น อยากดังเดี๋ยวจัดให้ V.4, แหม่มโพธิ์ดำ, Social Hunter, ควาย+Social V.3, God of War V.3, ธิชาคนเดิม เพิ่มเติมเดี๋ยวบอก, โคตรห้าว v3, อีจัน หรือ DR.K v.3 เป็นต้น
โดยแต่ละเพจดาร์กเหล่านี้ต่างหยิบยกประเด็นที่ถูกหลงลืม หรือว่าไม่ได้รับสนใจ ให้กลับมาเป็นกระแสในโลกออนไลน์ได้อีกครั้งเพียงชั่วข้ามคืน ดังเช่นคดีล่าสุดที่ไม่พูดถึงเห็นทีจะไม่ได้กับกรณีเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ V.4 หรือที่เรารู้จักกันดีกับ แอดมินปรายฟ้า ที่เมื่อได้ฟังเรื่องราวจากคุณแม่ท่านหนึ่งเกี่ยวกับคดีที่ลูกของเธอที่มีอายุเพียง 14 ปี ถูกรุมโทรมจากชายนับ 10 คน แต่กลับไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่สืบสวนคดีพร้อมสรุปคดีว่าถูกรุมโทรมจริงแต่ดำเนินคดีกับชายเพียงคนเดียวเท่านั้น และไม่มีการสืบพยานหรือหาหลักฐานเพิ่มเติมแต่อย่างใด
** คดีนี้แอดมินปรายฟ้ากัดไม่ปล่อย
ทันทีแอดมินปรายฟ้า แห่งเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ V.4 ได้รับฟังเรื่องราวอันหดหู่และน่าสงสารจากปากหัวอกของคนเป็นแม่ที่เล่าถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่ลูกสาวในวัยน่ารักของเธอต้องพบเจอผ่านเพจของเธอเมื่อวันที่ 14 เม.ย. 60 ที่ผ่านมาโดยข้อความระบุว่า
“ไม่เคยนึกเลยนะว่าจะเจอคดีสะเทือนใจขนาดนี้ ยอมรับตรงๆ หลังจากที่ได้คุยกับแม่น้องสงสารมากสงสารชนิดที่อยากจะมีเรื่องกับตำรวจ สภ.นี้ทั้งหมดลามไปถึง รร. ของเด็กคนนี้ด้วย
เด็กคนนี้ชื่อ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) เป็นเด็กเรียนดีวันเกิดเหตุเพิ่งกลับจากการทำกิจกรรมกับทาง รร. มาแล้วต้องไปแปลอักษรต่อที่อำเภอ แต่เนื่องจากบ้านอยู่ไกลต้องให้เพื่อนมารับ เพื่อนคือ ด.ญ.บี(นามสมมุติ) มารับที่บ้านช่วงเย็นเพื่อที่จะไปส่งที่อำเภอ แต่ทว่าน้อง บี กลับไปส่ง น้องเอ ไว้ที่ร้านเกม (ใน อ.ด่านช้าง) ที่เกิดเหตุ
น้องโดนกักตัวไว้ 1 คืนครึ่ง วันโดนรุมโทรมจากชายประมาณ 10 คน (คำให้การน้องกับแม่) จนเพื่อนน้องอีกคนที่ตามหาจนเจอแล้วรีบพาแจ้งความ แต่คดีกลับไม่คืบหน้า คืนวันที่แจ้งความตำรวจตามจับที่ร้านเกมได้ครบทุกคน แต่กลับปล่อยตัวไปโดยไม่แจ้งข้อหา
ทางน้องถูกส่งตัวไปตรวจแล้วแพทย์ลงความเห็นว่าโดนรุมโทรมจริง !!! แต่ตำรวจกลับแจ้งข้อหาแค่คนเดียวคือ นายไก่ แม่น้องเดินทางไปร้องเรียนทุกที่ ที่สามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นจังหวัด ทำเนียบต่างๆ ศูนย์ต่างๆ แต่คดีกลับไม่มีอะไรคืบหน้า น้อง บี ก็ย้าย รร.หนีลงใต้ไปแล้ว!!! แม่เคยเข้าร้องเรียน มูลนิธิปวีณา ทางมูลนิธิได้เขาช่วยเหลือและประสานทาง ตำรวจให้ตามคนร้ายแล้ว แต่ก็เงียบเฉย ตอนนี้น้องเอ พักอยู่บ้านพักเด็กต้องกินยานอนหลับทุกวัน ช่วงเวลาแรกๆ แม่ไม่มีเวลามาเดินเรื่องเพราะต้องเฝ้าน้องเอใน รพ.ตลอดเวลา ตอนนี้เรื่องขึ้นศาลแล้ว แต่คงไม่ปล่อยไว้ให้จบแบบนี้แน่นอน ร้านเกมตัองมารับผิดชอบเรื่องนี้ จ่ายอะไรยังไงไม่สนใจ รวมถึงใครที่ทำกับเด็กอายุ 14 ปีแบบนี้รวมถึงทาง รร.ไม่เคยเข้ามาช่วยเหลือน้องกับแม่เลยด้วยซ้ำ (รายละเอียดมีเยอะมากกว่านี้เดี๋ยวจะให้แม่สัมภาษณ์อัดเป็นคลิปมาลง) #สภ.ด่านช้างควรมีคำตอบกับคดีนี้นะคะ
ทันทีที่เพจสายดาร์กได้โพสต์ข้อความและภาพประกอบผ่านโซเชียล ไม่กี่นาทีเรื่องราวคดีเด็กอายุ 14 ปีถูกรุมโทรมก็เกิดเป็นกระแสสังคมที่ต้องการข้อเท็จจริงจากทางฝั่งเจ้าหน้าที่ว่าคดีนี้สรุปแล้วเท็จจริงเป็นอย่างไรกันแน่
** เพจอีจันเน้นทำคลิปย่อเรื่องให้เข้าใจขึ้น
จากคดีที่ไม่มีใครสนใจกลับกลายเป็นคดีที่ถูกพูดถึงอย่างมากจนมีคนเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ดังกล่าวบ้างสงสาร บ้างซ้ำเติม ซึ่งความจริงเป็นเช่นไรยังไม่มีใครสามารถสรุปได้ แต่ที่รู้งานนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ. ด่านช้าง ที่รับผิดชอบต่อคดีดังกล่าวเป็นอันเต้นนั่งไม่ติด เพราะคดีเป็นที่สนใจและถูกมองว่าปฏิบัติหน้าที่มิชอบต่อคดีดังกล่าว
ด้าน เพจอีจัน ได้แชร์คลิปการสอบสวนคดี 10 ทรชนรุมโทรมเด็กสาววัย 14 ที่งานนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ต้องนั่งแท่นเป็นผู้สั่งการเอง เมื่อได้ฟังแล้วต้องอึ้งทุกราย
โดยในคลิปแสดงให้เห็น นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นำมารดาของ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ที่ถูกวัยรุ่นข่มขืน เหตุเกิดที่ สภ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2559 เข้าพบ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เพื่อขอความเป็นธรรม เร่งรัดคดี รวมทั้งดำเนินคดีกับบุคคลที่ร่วมก่อเหตุทุกคน
ทั้งนี้ สิ่งที่ฟังแล้วต้องอึ้ง คือ แม่ของ ด.ญ.เอ ได้พูดกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ โดยระบุว่า “แม่ขอพูดอย่างหนึ่ง วันนั้นแม่ไปหาแกเนี่ย (พร้อมชี้ไปที่ตำรวจนายหนึ่ง) แกบอกว่าเดี๋ยวไม่ได้ลูกกลับคืนนะ โทรไปหาลูกที่ใต้บอกเดี๋ยวจับแม่ติดคุกนะ โอ้โห ไม่ต้องมาจับเราหรอก เราก็จะตายอยู่แล้ว”
โดยรองผบ.ตร.ได้จี้ถามนายตำรวจคนดังกล่าวอย่างดุเดือด พร้อมจี้ถามยังตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคนที่นั่งอยู่ในที่ประชุม วันเวลาผ่านไปเพียงวันเดียวร้อยเวรที่ทำสำนวนคดีถูกเด้งด่วน และโอนย้ายคดีมาให้ทางกองปราบฯ เป็นผู้ดูแลสอบสวนหาความจริงต่อไป
** จากคดีรุมโทรมสู่การค้าประเวณี
ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ ที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม. พร้อมด้วย พ.ต.อ.มานะ กลีบสัตบุศย์ รอง ผบก.ปคม. ร่วมแถลงผลการจับกุม น.ส.ปวีณ์สุดา ขันสาทะ หรือ แก้ม อายุ 20 ปี และ นายธนพัตร แสนคำ หรือเจ๊บีม อายุ 31 ปี สองผู้ต้องหาคดีเด็กหญิง อายุ 14 ปี ถูกวัยรุ่นรุมโทรม เหตุเกิดที่ สภ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เมื่อเดือน พ.ย.59 ในข้อหาสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยร่วมกันแสวงหาประโยชน์มิชอบจากการเป็นธุระจัดหาเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี เพื่อการค้าประเวณี
จากการสอบสวน ด.ญ.เอ ทราบว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 59 เวลาประมาณ 17.00 น. เจ้าตัวได้ออกจากบ้านมาหาเพื่อนที่โรงเรียน จากนั้นก็ไปนั่งคุยกันบริเวณหลังร้านเกมอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ ย่านตลาดด่านช้าง โดยมี นายธนวัฒน์ กำแหงคุมพล มาร่วมดื่มกับกลุ่มเด็กหญิงเอ จนเกิดอาการมึนเมา ต่อมา นายธนวัฒน์ กับพวกอีก 2 คน ได้พาผู้เสียหายไปรุมข่มขืนในป่าละเมาะห่างจากร้านเกมส์ ประมาณ 5-10 กม. จนสำเร็จความใคร่ ก่อนพา เด็กหญิงเอ ไปส่งที่ร้านเกมที่เดิมอีกครั้ง
“ทั้งนี้ภายในร้านเกมพบว่ามี นายธีรพัฒน์ ศรีสงกา และ นายสุนัย บุญแป้น จึงร่วมกันรุมโทรม ด.ญ.เอ จนสำเร็จความใคร่ทุกคน ขณะนั้นเป็นช่วงเวลาเช้าของวันที่ 13 พ.ย.59 นายสุนัย ได้อาสาขับรถไปส่ง ด.ญ.เอ ที่บ้านพักของ นายประมวล ขันซาทะ ซึ่งมี น.ส.ปวีร์สุดา อยู่ในบ้านหลังดังกล่าวด้วย กระทั่งเวลา 16.00 น. นายประมวล กระทำชำเรา เด็กหญิงเอ จนสำเร็จ หลังจากนั้น น.ส.ปวีร์สุดา ได้ติดต่อไปหา นายธนพัตร แม่เล้าที่รู้จักกันให้นัดหมายลูกค้ามาซื้อบริการเด็ก ราคา 1,500 บาท และให้ น.ส.ปวีร์สุดา พา เด็กหญิงเอ ขี่รถจยย.ไปที่โรงแรมเอพีวิลล่า เพื่อค้าประเวณีกับลูกค้า ก่อนรอรับกลับไปส่งที่บ้าน นายประมวล อีกครั้ง” พล.ต.ต.กรไชย กล่าว
ท้ายที่สุดแล้วจากการยื่นมือเข้าช่วยจากเพจสายดาร์กต่างๆ ที่ต้องการช่วยเหลือสังคมให้ดีขึ้น และคอยสอดส่องการทำงานจากทางเจ้าหน้าที่ตามหน่วยงานต่างๆ ส่งผลให้คดีที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมกลับกลายเป็นคดีพลิกอย่างไม่น่าเชื่อ ดังเช่นคดีล่าสุดที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคดีเล็กๆ นำไปสู่กระบวนการใหญ่ๆ ที่ตามมา ของ ด.ญ. 14 ปีที่ถูกรุมโทรมถูกขยายผลการสอบสวนไปสู่การค้าประเวณีที่กำลังเป็นที่วิจารณ์ในโลกโซเชียลในขณะนี้...
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754
