xs
xsm
sm
md
lg

40 ปี แฮมเมอร์ ต่อสู้ เรียนรู้ สอนรุ่นลูกว่า “อย่าหลงลืมตัว” (มีคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แฮมเมอร์ กลุ่มศิลปินที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี จากการร่วมต่อสู่กับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาโดยตลอด บทเพลงที่ขับขานบนเวที บทเพลงที่แสดงถึงอุดมการณ์ความรักชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ ชัดเจนด้วยช่วงทำนองที่มีเอกลักษณ์ โลดแล่นมากว่า 4 ทศวรรษ หรือกว่า 40 ปี

เมื่อเอ่ยถึง “วงแฮมเมอร์” ทุกคนย่อรู้จักเพลงของวงนี้อย่างดี ดังเช่นเพลงบินหลา ปักษ์ใต้บ้านเรา หรือที่คุ้นเคยบนเวทีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กับบทเพลง “เรารักพระเจ้าอยู่หัวฯ” ซึ่งวงแฮมเมอร์ได้แต่งขึ้นมาพิเศษ เพื่อถวานแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวโรกาสทรงครองราชย์ครบ60 ปี ในปี พ.ศ. 2549

วันนี้ตำนานผู้ขับขานเสียงเพลงอันไพเราะนี้ กำลังจะมีคอนเสิร์ตใหญ่ ในวันอาทิตย์ที่ 30 เมษายน 2560 กับการพบปะกันอีกหนึ่งของพี่น้องพันธมิตร ณ บ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ กทม.

ก่อนที่จะได้พบกันในวันที่ 30 นี้ รายการ พระอาทิตย์ LIVE พา อารี-อนุชา-เรวัตร และ นฤชา ประธาน มาทำความรู้จักกับ “วงแฮมเมอร์” กันก่อนว่าแฮมเมอร์เป็นใคร? มาจากไหนกันแน่ เพราะบางท่านเกิดทัน บางท่านอาจจะเกิดไม่ทัน

เพราะรักในเสียงดนตรีมาตั้งแต่เด็ก อนุชาและอารี ประธาน ร่วมด้วยกลุ่มญาติพี่น้องได้ตั้งวงดนตรีขึ้นมา ทว่าเมื่อบ้านเมืองเกิดเหตุรัฐประหาร 6 ตุลาคม พ.ศ.2519 ทุกคนต่างหลบหนีเข้าป่า และกลับมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อเล่นดนตรีและทำตามความฝัน แต่ครั้งนี้พวกเขามีความมุ่งมั่นที่อยากจะปรับเปลี่ยนแนวเพลงเพื่อให้เข้าได้กับยุคดนตรีในขณะนั้น จึงเริ่มต้นด้วยการเข้าประกวด เพื่อหากได้รางวัลจะได้เป็นตัวการันตีแก่วงพวกเขาได้

อารี เล่าว่า ตอนนั้นประมาณปี 2520 ที่พวกเราลองเข้าประกวดเวทีชิงแชมป์แห่งประเทศไทย และใช้ชื่อวงว่า แฮมเบอร์ เพียงเพราะต้องการให้ชื่อวงเป็นภาษาฝรั่งเท่านั้น และคว้ารางวัลชนะเลิศการประกวดด้วยเพลงบินหลา จากแนวเพลงที่ไม่เหมือนใคร ทั้งดนตรี และลีลาการสีไวโอลีน

กระทั่งในปี 2538 ถือเป็นการกลับมาที่สำคัญของแฮมเมอร์อีกครั้งกับอัลบั้ม “ค้อนทอง” ที่ได้รับการต้อนรับจากสื่อมวลชนค่อนข้างเยอะ เพราะว่าแฮมเมอร์หายไปเลยกว่า 10 ปี

“ช่วงที่หายไปนั้นเป็นช่วงที่แสวงหามาก เพราะเป็นช่วงที่วงการเพลงเปลี่ยนแปลง นายทุนจะบังคับศิลปิน อย่างเช่น ถ้ากระแสเพลงแด๊นส์มาก็จะให้เราเปลี่ยนแนวเพลงเป็นเพลงแด๊นส์บ้าง ร็อคบ้าง เราจึงบอกเรารับไม่ได้ เราทำเพลงตามที่คุณต้องการแบบนั้นไม่ได้ ช่วงนั้นเองวงแฮมเมอร์เลยหายไปแต่ใช่ว่าจะหยุดทำเพลง เพราะก็ยังคงทำเพลงอยู่ แต่ต้องทะเลาะกับนายทุนทุกที่” อนุชากล่าว


อารี เล่าย้อนอีกว่า ถือได้ว่าการกลับมาในครึ้งนี้เราเรียนรู้หลายๆ อย่าง ทั้งจาก 10 ปีที่มีชื่อเสียงไปแล้ว และการมีชื่อเสียงหลัง 10 ปีไปแล้วเป็นอย่างไร ซึ่งหลัง 10 ปีหลังนั้นจะเป็นสัจธรรมอย่างแท้จริง เพราะจะถูกทิ้งจากนายทุน ถูกแฟนเพลงหลายกลุ่มตีตัวออกห่างเรา มีแนวเพลงใหม่ๆ แฮมเมอร์ทำเพลงจนหมดตัว

“ช่วงที่ลำบากสุดๆ ของแฮมเมอร์ คือ ไม่มีเงินไปหาหมอเพื่อรักษาโรคที่ตัวเองเป็น ต้องเลือกการรักษาในลักษณะหมอชาวบ้านแทน แล้วแต่ละคนในวงก็ต้องกระจัดกระจายไปหางานทำ แต่ก็ยังคงได้ไปเล่นดนตรีบ้างโดยที่มีพี่ๆ ที่เคยเคารพกันอยู่จ้างให้ไปเล่น” อารีกล่าว

“เรายังคิดอยู่เสมอว่าจังหวะและโอกาสมันยังเข้ามาได้ตลอดเวลา อยู่ที่ว่าเราคิดแล้วมันพอดีหรือไม่เท่านั้นเอง จึงกลับมาเป็นแนวอะคูสติกก่อน พอประสบความสำเร็จจากตรงนั้นแล้วจะทำอะไรก็เริ่มง่ายไปหมดแล้ว ครั้งนี้เราไม่เปลี่ยนความเป็นแฮมเมอร์ของเรามาก เราอย่างอื่นมาผสมแต่ยังคงความเป็นแฮมเมอร์ไว้ ซึ่งต่างจากที่แรกที่เราไปคิดว่าเราจะปรับเปลี่ยนให้เป็นแนวเพลงใหม่เลย แต่ตั้งแต่ปี 2538 จนถึงปัจจุบันเราไม่ต้องคิดมากเลย ผมคิดเพลงแบบกีต้าร์โปร่งธรรมดา แล้วเดี๋ยวมีลูกๆ หลานๆ เข้ามาช่วยเสริมความเป็นสมัยใหม่เข้าไป”

แต่กระนั้น การทำเพลงในแบบที่แฮมเมอร์ทำนั้นก็ยังคงมีปัญหาที่อยากฝากถึงรุ่นลูกๆ ที่ทำเพลงเหมือนกันว่า ในยุคหนึ่งเราปล่อยตัวเรามาก ด้วยการแหลกเหลวพอสมควรกับสังคมทั้งในเรื่องการใช้ชีวิตที่ฟุ่มเฟือยจนเกินไป ท้ายที่สุดผลลัพธ์ก็คือเราเจ็บป่วยหนัก เมื่อเริ่มจะหายเราเริ่มนึกถึงสิ่งที่ควรนึก นั่นคือเรื่องของสัจธรรม คำสอนเกี่ยวกับศาสนา จึงเริ่มคืบคลานเข้ามาเพื่อคอยเตือนตัวเราไม่ให้ “หลงลืมตัว” ไปอีก

มาที่ นฤชา และ เรวัตร ลูกชายใต้ต้นทั้ง 2 คนของ อารี ที่ตอนนี้มีวงดนตรีของตัวเองชื่อว่า ดิออกัส เป็นเพลงแนวร็อคเพื่อชีวิต

ทว่างานที่ประทับใจและสร้างความภาคภูมิใจแก่ลูกทั้ง2 ของอารี เห็นทีจะเป็นงาน 5 ธันวา มหาราชที่ท้องสนามหลวง โดยเขาเล่าว่า วันนั้นมีเทียรี่ เมฆวัฒนา ซึ่งวันนั้นมือกลองที่มาเล่นชั่วคราวให้วงแฮมเมอร์ ไม่มีความสามารถจะตีกลองให้ได้ และขาดมือเบส วันนั้นเราไม่รู้จะทำอย่างไร จะเล่นอะคูสติกก็ไม่ได้เพราะคนมางานต้องการมันส์ๆ นาทีนั้นลูกชายผม 2 คนอาสาเล่นให้ ซึ่งผมเป็นพ่อยังไม่มั่นใจเลยว่าจะทำได้ ทว่าลูกทั้ง 2 บอกว่า เขาทำได้!

“ด้วยความที่เราเป็นศิลปิน เราถามลูกตรงๆ เลยว่ามั่นใจมั้ย แน่ใจหรือเปล่า เพราะงานนี้เป็นคอนเสิร์ตใหญ่ และผมไม่เคยเห็นลูกๆ ของผมซ้อมเพลงแฮมเมอร์ แต่จู่ๆ มาบอกว่าจะเล่นช่วยพ่อในงานคอนเสิร์ตแฮมเมอร์ซึ่งเป็นงานเวทีใหญ่งานในหลวง และไม่ได้เล่นแค่เพลง 2 เพลง แต่เล่นทั้งคอนเสิร์ต มีคนดูเป็นแสน”

ท้ายที่สุดลูกเรา 2 คน อายุแค่ 10 กว่าปีจะมาช่วยกู้หน้ากู้ตาของพ่อมันกับแฮมเมอร์ได้

วันนั้นน้ำตามันอยู่ข้างในด้วยความดีใจว่า สายเลือดของเราเขาจะผูกพันธ์กับเราและเอาเราเป็นแฮมเมอร์ในใจแล้วเอาเราไปสู่มวลชนอีกนาน จากเหตุการณ์ในวันนั้นผมลงทุนให้ลูกทั้ง 2 ของผมเป็นวง ดิออกัส ตั้งแต่วันนั้นเลย

ขณะที่ลูกชายคนโต พร้อมที่จะสานต่อดนตรีของผู้เป็นพ่ออย่างแน่นอนว่า ผมสายต่อดนตรีของพ่ออย่างแน่นอน เพราะชีวิตผมคลานเล่นตอนที่พ่อซ้อมเล่นดนตรีมาตั้งแต่ผมยังเป็นเด็ก พ่อไม่เคยสอนดนตรีผม แต่จะจ้างอาจารย์มาสอนแทน ปลูกฝังผม หล่อหลอมผมมาโดยตลอด

ท้ายที่สุดก่อนจะจบรายการ อารี ยังได้ฝากถึงรุ่นลูกรุ่นหลานว่า สิ่งหนึ่งที่อยากให้เหมือนพ่อ เหมือนอา ของเขา คือ มีความศรัทธาให้กับมวลชนแบบนี้ ผมเชื่อว่าเมื่อวันหนึ่งที่วงแฮมเมอร์ ถึงเวลาที่ต้องพัก ผมเชื่อว่ารุ่นลูกรุ่นหลานจะสามารถทำต่อได้....






มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น