แน่นยิ่งกว่าปลากระป๋อง ก็รถทัวร์ไทยนี่แหละ! ล่าสุด เกิดกรณีที่ผู้โดยสาร ต้องเจอเข้ากับประสบการณ์การนั่งรถทัวร์แนวใหม่ มาพร้อมกับที่นั่งสุดพิเศษ ‘บันไดทางขึ้น-ลง’ และ ‘พื้นทางเดิน’ รับประกันเลยว่า ผู้โดยสารจะได้พบกับความลำบากตลอดการเดินทาง!
รับคนเกินจนต้องนั่งบันได!
ความแออัดยัดเยียดที่เกิดขึ้นระหว่างโดยสารรถทัวร์ปรับอากาศ ถูกระบายผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่ง ที่ต้องการจะเดินทางจาก จ.ชลบุรี ไปยังบ้านที่ จ.บุรีรัมย์ จึงตัดสินใจใช้บริการรถทัวร์ของบริษัททัวร์ชื่อดัง ซึ่งตั๋วมีราคาที่นั่งละ 500 บาท
เมื่อถึงเวลาออกเดินทาง ตอน 17.15 น. เจ้าของโพสต์กลับพบว่า รถทัวร์คันนี้ได้มีการ ‘อัด’ ผู้โดยสารจนแน่นคันรถ แต่ที่เลวร้ายไปกว่านั้นก็คือ การที่มีผู้โดยสารส่วนหนึ่งต้องนั่งบริเวณบันไดและพื้นทางเดิน เพื่อที่จะได้โดยสารไปกับรถเที่ยวนี้อีกด้วย ซึ่งจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการเอาผิดบริษัททัวร์ปลากระป๋องแห่งนี้แล้ว
หลังจากที่เหตุการณ์นี้ถูกเผยแพร่ออกไปบนสังคมออนไลน์ ก็ทำให้สมาชิกโลกโซเชียลฯ เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมาก ซึ่งความคิดเห็นส่วนใหญ่เป็นไปในทิศทางเดียวกันคือ ตำหนิบริษัทเดินรถแห่งนี้ ที่ปล่อยให้ผู้โดยสารต้องเบียดเสียดกัน จนถึงขั้นต้องมานั่งกันที่บันไดแทน นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคนเข้ามาแชร์ประสบการณ์อันแสนเลวร้ายระหว่างโดยสารรถทัวร์ ในทำนองเดียวกันนี้อีกเป็นจำนวนมาก
เหตุการณ์นี้ พาให้นึกย้อนไปถึงกับอีกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นห่างกันเพียงไม่กี่วัน กับกรณีที่ครูอัตราจ้างคนหนึ่ง ซื้อตั๋วรถทัวร์แบบ VIP ในราคา 600 บาท จากบริษัทจักรพงษ์ทัวร์ เดินทางจาก จ.อุตรดิตถ์ มายัง จ.อุดรธานี หวังจะนั่งให้สบาย แต่พอขึ้นมาบนรถก็ถึงกับลมแทบจับ เพราะที่นั่งตั๋ว VIP ของเธอนั้น กลายเป็นที่นั่งบนพื้นชั้นล่าง โดยมีเพียงเสื่อให้ปูนั่ง และผ้าห่มอีก 1 ฝืนเท่านั้น
ความ VIP ของเหตุการณ์นี้ ยังได้ของแถมเป็นกลิ่นเหม็นจากห้องน้ำ โชยออกมาเป็นระยะ จนทำให้เธอและผู้โดยสารอีก 2 คนที่เป็นผู้ร่วมชะตากรรมอันโหดร้าย หลับไม่ลงไปตลอดทาง ซึ่งภายหลังจากที่เป็นข่าวใหญ่โตแล้ว บริษัทรถทัวร์แห่งนี้ก็ถูกลงดาบจาก ขนส่ง จ.อุตรดิตถ์ ทำการปรับโชเฟอร์รถทัวร์ 5,000 บาท พร้อมพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ 30 วัน และปรับบริษัทจักรพงษ์ทัวร์ อีก 20,000 บาท จนในเวลาต่อมาโชเฟอร์รถทัวร์คันต้นเหตุยอมรับเองว่า ‘ได้รับผู้โดยสารเองระหว่างทางจริงและเคยทำแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง’ ซึ่งจะรับผู้โดยสารระหว่างทางแบบไม่ได้ซื้อตั๋ว แต่กรณีนี้กระทำการผ่านนายท่าของบริษัทเอง
ปัญหาเดิมๆ ที่ยังไม่ถูกแก้ไขตั้งแต่ต้นเหตุ ทำให้ผู้โดยสารหลายคน ถึงกับเหนื่อยใจไปตามๆ กัน กับการถูกเอารัดเอาเปรียบจากบริษัททัวร์เช่นนี้ แทบจะทุกเหตุการณ์ที่เกิดปัญหา ผู้โดยสารจะทราบเรื่องหลังซื้อตั๋วแล้ว ประกอบกับความต้องการที่เดินทาง หลายคนจึงจำเป็นต้องโดยสารรถเที่ยวนั้นๆ อย่างเลี่ยงไม่ได้
ขนาดที่นั่งยังไม่มีให้นั่ง จะคาดหวังว่าให้ผู้โดยสารคาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่ คงเป็นไปได้ยาก...
เหนื่อยใจรถทัวร์ไทย อาทิตย์เดียว ปัญหาเพียบ!
ดูท่าทางปีนี้คงจะเป็นปีทองด้านความฉาวของรถทัวร์ไทยจริงๆ เพราะนอกจากเหตุการณ์ที่รถทัวร์ให้ผู้โดยสารไปนั่งตามบันได รวมทั้งเหตุการณ์ที่ให้ผู้โดยสาร VIP นั่งบริเวณทางเดินโดยใช้เสื่อปูนั่งที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ภายในรอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องราวความดรามาเกี่ยวกับผู้ใช้บริการรถทัวร์ ยังคงมีมาให้เห็นอย่างไม่ขาดสาย
ช่วงเวลา 05.00 น. ของวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์รถทัวร์ปรับอากาศบุษราคัมทัวร์ จอดเสียนานกว่า 4 ชั่วโมง บริเวณถนนพหลโยธินขาออก หน้าห้างแม็คโคร รังสิต แถมยังทิ้งผู้โดยสารนอนรออยู่บนรถไม่มีอากาศหายใจ จนต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยเปิดประตูให้
ที่เกิดเหตุพบผู้โดยสารกว่า 54 ชีวิตลงมานั่งกับพื้นริมถนน ใกล้กันนั้นมีรถปรับอากาศร่วมบริการบริษัทบุษราคัมทัวร์จอดอยู่ ผู้โดยสารคนหนึ่งในเหตุการณ์นี้เล่าว่า ตนเองพร้อมผู้โดยสารทั้งหมดนั่งรถคันดังกล่าวออกมาจากหมอชิต ประมาณ 24.00 น. โดยก่อนที่รถคันนี้จะออก ได้มีควันขึ้นอยู่ที่ท้ายรถ หลังจากนั้น 1 ชั่วโมง รถก็ได้วิ่งมาถึงที่ซื้อตั๋วโดยสารของบริษัท คนขับรถกับเด็กรถก็ได้นำรถจอดอยู่ข้างทางและสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้และให้ผู้โดยสารนอนรออยู่บนรถ ส่วนคนขับกับเด็กรถลงไปนอนท่ารถ
เวลาผ่านไปกว่า 4 ชั่วโมง คนบนรถเริ่มหายใจไม่ออก แถมประตูรถก็เปิดออกไปข้างนอกไม่ได้ เขาจึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้มาช่วยเหลือ เมื่อออกมาจากรถได้ จึงเดินไปถามคนขับว่าเกิดอะไรขึ้น แต่คนขับไม่ยอมคุยด้วย ต่อมาคนขับบอกกับผู้สื่อข่าวว่า รถเสีย และที่สำคัญผู้สื่อข่าวไปสังเกตเห็นว่า ใบภาษีของรถทัวร์คันนี้ หมดอายุตั้งแต่ปี 2559 แล้ว ทำให้ตั้งข้อสังเกตว่าทำไมยังวิ่งรับส่งผู้โดยสารอยู่
เรื่องเก่ายังเคลียร์ไม่ทันจะข้ามวัน ก็เกิดอีก 1 เรื่องราวสุดสยองขวัญ แต่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนรถทัวร์ชื่อดังอีกบริษัท คือเหตุการณ์ที่ผู้โดยสารซื้อตั๋ว VIP แต่กลับต้องเจอเข้ากับกองทัพแมลงสาบอย่างใกล้ชิดใกล้กับเบาะนั่ง อวสานอาหารทุกมื้อกันเลยทีเดียว!
แชร์กันสนั่นโลกออนไลน์ กับภาพแมลงสาบจำนวนมาก ที่พากันไต่อยู่บริเวณเบาะนั่งและกล่องอาหาร บนรถทัวร์ของบริษัทชื่อดัง ซึ่งทางแฟนเพจ “แหม่มโพธิ์ดำ”
นำมาเผยแพร่ ประกอบข้อความ “#รถทัวร์สยองขวัญ #ตั๋วVIP #ฟรีแมลงสาบ #วอนขนส่งและสาธารณสุขตรวจสอบด้วยค่ะ วิถีชาวไทย 4.0 กับระบบคมนาคมแสนอบอุ่น ทัวร์วีไอพีแถมฟรี อากงเหล่าม่าปีเตอร์ ขนลุกสั- แอร๊ยยย” ซึ่งหลังจากที่โพสต์นี้เผยแพร่ออกไป ก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องความสกปรกของรถทัวร์กันเป็นจำนวนมาก รวมทั้งแชร์กันต่อไปมากกว่า 1,000 ครั้งแล้ว
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ปัญหาทั้งหมดเกิดขึ้นในระยะเวลาแค่ 1 สัปดาห์ แต่ทว่าการแก้ไขไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร ก็ได้แต่ภาวนาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาจัดการปัญหาให้ตรงจุดอย่างรวดเร็ว เพราะอีกเพียงไม่กี่วันก็จะเป็นช่วงที่ประชาชนเดินทางกลับต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์แล้ว
“รถตู้” น่าปวดหัวไม่แพ้รถทัวร์
นอกจากรถทัวร์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ในการใช้สัญจรช่วงเทศกาลต่างๆ แล้ว รถตู้โดยสารสาธารณะก็เป็นอีก 1 ทางเลือกที่ได้รับความนิยมสูงเช่นกัน โดยเฉพาะการเดินทางข้ามจังหวัดในระยะทางที่ไม่ไกลมาก และใช้เวลาไม่นาน ซึ่งตรงนี้เองอาจจะเป็นจุดที่ทำให้ผู้ประกอบการรถตู้เจ้าเล่ห์บางคน ใช้เป็นข้ออ้างในการบรรทุกผู้โดยสารให้ได้มากที่สุดในการวิ่งรถในแต่ละรอบ
ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ปัญหารถตู้บรรทุกคนเกินจำนวน ยังคงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำๆ และไม่มีทีท่าว่าจะถูกแก้ไขให้ดีขึ้นได้ ซึ่งก่อนที่จะมีการประกาศใช้มาตรา 44 ที่จำกัดให้เหลือ 13 ที่นั่งนั้น แต่เดิมรถตู้โดยสารจะมีที่นั่งจำนวนอยู่ที่ 15 ที่นั่ง และหากรถตู้คันใดมีการบรรทุกเกินขึ้นมานั้น เก้าอี้พลาสติกก็จะถูกเสริมเข้าในระหว่างช่องว่างทางเดิน เพื่อจุผู้โดยสารให้ได้มากที่สุด ส่วนกรณีที่โชคร้ายมากๆ ก็จะมีการรับผู้โดยสารระหว่างทางขึ้นมา ‘ยืน’ บนรถตู้ก็มี แถมยังเกิดขึ้นบ่อยเสียด้วย
บ่อยครั้งเหลือเกินกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับรถโดยสารสาธารณะ คนส่วนมากมักไม่กล้าร้องเรียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง หรืออาจจะคิดว่าร้องเรียนไปก็ไม่ได้ผล ผู้ประสบเหตุหลายคนจึงเลือกใช้สื่อโซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊ก ในการเป็นกระบอกเสียงของตัวเอง หลายครั้งที่ปัญหาก็ได้รับการแก้ไข แต่ก็มีไม่น้อยที่ไม่มีอะไรตามมา
ปัญหาทั้งหมดของระบบขนส่งสาธารณะที่กล่าวมานั้น ไม่ว่าจะเป็นการบรรทุกเกิน,ตั๋วผี,ที่นั่ง VIP แต่บริการสุด Low Class ฯลฯ ยังมีกรณีปัญหาของคนขับรถตีนผี ขับด้วยความคึกคะนอง และช่วงเทศกาลที่บางคนต้องการทำรอบวิ่งรับคนให้ได้มากๆ ทำให้พักผ่อนไม่พอ จนเกิดอาการหลับในและส่งผลเกิดอุบัติเหตุตามมา ก็มีมาให้เห็นทุกช่วงเทศกาล ทั้งๆ ที่มีการรณรงค์เกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง แต่จำนวนของผู้เสียชีวิตจะอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลของแต่ละปีก็ไม่มีทีท่าว่าจะลดลง
ก็ได้แต่หวังว่าหลังจากที่มีการบังคับใช้มาตรา 44 กับการจราจรทางบก จะช่วยให้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ รวมถึงสถานการณ์การขับขี่ของรถโดยสารสาธารณะของไทย เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ไม่มากก็น้อย...
ขอบคุณภาพประกอบ : เฟซบุ๊ก “แหม่มโพธิ์ดำ”
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754