ดราม่ากันมาหลายปีระหว่างความขัดแย้งเรื่องครูต้องจบป.บัณฑิตหรือครุศาสตร์เท่านั้น เพราะในที่สุดรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ก็ตัดสินใจลงดาบการศึกษาไทย เปิดโอกาสให้ผู้ที่จบสายวิชาชีพอื่นมาสอบเป็นครูผู้ช่วยได้ เพื่อพัฒนาการศึกษาไทยให้ดีขึ้น ได้ยินข่าวแบบนี้ ดราม่าเก่าๆ ก็ระอุขึ้นอีกครั้ง แบบนี้ทางฝั่งครูที่มุมานะสอบบรรจุกันมาแทบตายจึงรีบคัดค้าน
ประกาศจากบิ๊กตู่ เพื่อหาครูที่เหมาะสม
กระแสความขัดแย้งในวงการการศึกษาเริ่มต้นอีกครั้ง หลังจาก นายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 3/2560 เมื่อวันจันทร์ที่ 20 มีนาคม 2560 ว่า
ค.ศ.มีมติปรับหลักเกณฑ์การสรรหาบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ปี 2560กรณีทั่วไป ซึ่งจะมีการสมัครสอบครูผู้ช่วย ในวันที่ 21 -29 มี.ค.นี้ โดยอนุมัติให้ปรับปรุงมาตรฐานตำแหน่งครูผู้ช่วย จากเดิมกำหนดว่า มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู หรือ หลักฐานที่ใช้แสดงในการประกอบวิชาชีพครูตามที่คุรุสภาออกให้ เพื่อปฎิบัติหน้าที่สอน เปลี่ยนเป็น กำหนดให้มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู หรือ หลักฐานที่แสดงในการประกอบวิชาชีพครูตามที่คุรุสภาออกให้ เพื่อปฎิบัติหน้าที่สอนก่อนการบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
โดยผู้นั้นยังไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูหรือหลักฐานที่ใช้แสดงในการประกอบวิชาชีพครูตามที่คุรุสภาออกให้ เพื่อปฏิบัติหน้าที่สอน สามารถสมัครสอบแข่งขันหรือสมัครเข้ารับการคัดเลือก เพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วยได้
หลังจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ออกมายืนยันชัดเจนหลังจากมีกรณีการคัดค้านการสอบบรรจุครูจากหลายวิชาชีพว่า ทุกคนก็ทราบดีอยู่แล้วว่า เรามีการปรับปรุงพัฒนา และปฏิรูประบบการศึกษา ซึ่งจะต้องเริ่มดูตั้งแต่ครู ว่ามีเพียงพอหรือยัง มีคุณภาพหรือไม่ และสาขาที่เป็นความต้องการของประเทศมีเพียงพอไหม
การแก้ปัญหาครูขาดแคลนบางสาขาวิชา ที่ดำเนินการด้วยวิธีให้วิชาชีพสายอื่นเข้ามาสมัครสอบครูผู้ช่วย เพื่อให้บุคลากรเข้ามาทำงานไปก่อน โดยจะมีการประเมินทุก 6 เดือน และภายใน 2 ปี ต้องสอบบรรจุให้ได้ หากไม่ได้ก็ต้องถอดออกไป ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ดูถูกครูที่จบคุรุศาสตร์ พร้อมขอความเห็นใจให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการด้วย
กว่าจะได้เป็น “ครู” ..ไม่ง่าย
จากเดิม ใครที่อยากเป็นครู ต้องเรียนจบคุรุศาสตร์ 5 ปี หรือหากจบด้านอื่นมา ก็ต้องมาเรียน ประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครูอีก 1 ปี เพื่อจะได้มีโอกาสสอบบรรจุเป็นข้าราชการครู ดังนั้นการเป็นครู จึงไม่ง่ายเลย
ครูแป๋ม-นางสาวศิวะลี เศรษฐทอง ครูผู้ช่วยโรงเรียนบ้านหนองท่มท่ากระดัน จังหวัดสกลนคร เล่าถึงเส้นทางกว่าจะได้บรรจุเป็นครูนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย จากเมื่อก่อนใครที่จะเป็นครูต้องพัฒนาตัวเองมากๆ ต้องดิ้นรนด้วยตัวเอง โดยเฉพาะตัวเธอเองที่ไม่ได้จบด้านคุรุศาสตร์มาโดยตรง ก็ต้องไปเข้าเรียนวิชาชีพครูเพิ่มอีก 1 ปี เพื่อให้ได้ใบประกอบวิชาชีพ
แต่เมื่อปี 2555 ทางรัฐบาลได้ยกเลิกการสอบประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครูทั่วประเทศ เนื่องจากมีคนสมัครเรียนไว้มากแต่ไม่ได้ไปเรียน จนกระทั่งปี 2558 กระทรวงศึกษาฯ จึงได้จัดให้มีการเปิดสอนวิชาชีพครูอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เปิดรับสมัครเฉพาะครูอัตราจ้างที่มีโอกาสได้เรียนเพื่อสอบบรรจุ ซึ่งที่ผ่านมา ใครจะเป็นครูได้ยากมาก เพราะต้องไปหาโรงเรียนเพื่อเป็นครูอัตราจ้าง ถึงจะได้เข้าเรียนวิชาชีพครู และกว่าจะเรียนจบ สอบบรรจุได้ จนถึงการรอขึ้นบัญชีกว่าจะถูกเรียกตัวให้ไปสอนนั้น ก็ใช้เวลา 2-3 ปี
ครูแป๋มได้แสดงความคิดเห็นต่อการเปลี่ยนกฎในการรับสมัครการสอบบรรจุครูว่า
“จริงๆ หลักการนี้ก็มองว่าดีครึ่ง ไม่ดีครึ่ง สำหรับข้อดี ก็คือได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่ไม่ได้จบครู แต่มีความสามารถเฉพาะทางมาสอน โดยเฉพาะวิชาภาษาต่างๆ เช่น เกาหลี จีน เขมร ซึ่งถือว่าบุคลากรขาดแคลนจริงๆ ยกเว้นหลักสูตรภาษาอังกฤษที่มีผู้รอขึ้นบัญชีเยอะอยู่แล้ว และที่ไม่เห็นด้วยนั้น ก็เพราะว่าความจริงแล้ว ในวิชาหลักๆ มีครูขึ้นบัญชีไว้เยอะมาก โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์นั้น ไม่ได้ขาดแคลนครูอย่างที่เป็นข่าว จึงค่อนข้างงงว่า เขาตรวจสอบข้อมูลดีแล้วหรือยัง เมื่อกระทรวงศึกษาเปลี่ยนแปลงการให้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ใครจบอะไรมาก็มีสิทธิ์สอบเป็นครูได้แบบนี้ ก็จะทำให้คนเป็นครูง่ายขึ้น แต่ก็ต้องไปพัฒนาตัวเองในภายหลัง เพราะการเป็นครูนั้นต้องพัฒนาความรู้ไม่สิ้นสุดค่ะ”
เม้นต์สนั่นโลกโซเชียล... เห็นด้วย VS ไม่เห็นด้วย
หลังจาก รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาประกาศเปลี่ยนเงื่อนไขการรับสมัครครูปุ๊บ โลกออนไลน์ก็แชร์กันสนั่นปั๊บ แถมยังขอคอมเม้นต์กันต่างๆ นาๆ ว่า เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไร
ในเว็บพันทิปนั้น ถึงกับมีคนตั้งหัวข้อ ถามความเห็น : ประเด็นดราม่า ไม่มีตั๋วครู / จบอะไรมา ก็สอบบรรจุเพื่อรับราชการครูได้ ก็มีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
สำหรับความคิดเห็นที่เห็นด้วยนั้น ส่วนใหญ่มองถึงปัญหาของการศึกษาไทย อยากให้ผู้ที่มีความรู้ลึกๆ ของวิชานั้นๆ มาให้ความรู้แก่เด็กๆ
xxx... คนจบครุ ผมว่ายังไงความรู้ลึกๆ ด้านคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ยังไงก็สู้เรียนสายตรงมาไม่ได้ ถ้าเอาแค่ประถม-มัธยมต้น จะกีดกันก็ไม่ว่า แต่มัธยมปลายอยากให้เน้นตรงสาย ความรู้แน่นๆมากกว่า หมอ พยาบาล วิศวะ อันนั้นต้องรับผิดชอบชีวิตคน ทำไม่ถูกต้อง คนตาย
xxx... ครูที่ไม่จำเป็นต้องรู้เฉพาะทาง เราว่าแค่ระดับประถมเท่านั้น ถ้าระดับมัธยมหรือสูงกว่านั้น เราว่ายังไงก็ต้องมีความรู้ดีในเรื่องที่สอน ส่วนใบประกอบวิชาชีพครู... 5 ปี อาจจะเหมาะกับระดับประถม เพราะต้องมีความรู้ด้านจิตวิทยาความเป็นครูที่สูง ด้วยสิ่งที่สำคัญสุดในการสอนไม่ใช่ความรู้ หากเป็นค่านิยมและทัศนคติอันเหมาะสมของเด็ก ทว่าเมื่อขึ้นมัธยมแล้ว เด็กย่อมมีทัศนคติและค่านิยมที่เหมาะสมกับการอยู่ในสังคมระดับหนึ่งแล้ว สิ่งที่ต้องการสุดคือความรู้ที่ลึกและเฉพาะเจาะจงในแต่ละสาย ดังนั้นจึงสมควรจะให้ผู้รู้จริงมาสอน ทว่าเรื่องจิตวิทยาความเป็นครูก็สมควรจะมี ดังนั้นใบประกอบวิชาชีพครูในส่วนนี้... 1 ปี ก็น่าจะสมควร
ส่วนความคิดเห็นส่วนใหญ่ที่ไม่เห็นด้วย จะเจาะจงไปถึงเรื่องจิตวิทยาในการสอนเด็กๆ เพราะแต่ละวันต้องรับมือกับเด็กจำนวนมาก หากไม่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ก็อาจทำร้ายเด็กได้ และบางคนยังสงสารผู้ที่จบวิชาชีพครู เพราะไปทำสายงานอื่นยาก ในขณะที่วิชาชีพอื่นสามารถมาเป็นครูได้
XXX … สำหรับเราที่กำลังฝึกสอนอยู่และ อ่านหนังสือรอเพื่อสอบบรรจุหลังจบมาพอสมควร พูดได้เลยว่าความรู้ที่สอบส่วนใหญ่ คุณไปติวเอา อ่านเอา หาเอาทีหลังก็ได้ ไม่ได้จบครูมาคุณเก่งขยันก็น่าจะสอบได้ แต่ คุณไม่ได้เรียนจิตวิทยาเด็กมา คุณไม่ได้มาฝึกประสบการณ์วิชาชีพ เราไม่ได้กลัวคนที่มาสอบแข่งกับเราหรอก เรายังภูมิใจในวิชาชีพที่เราเรียนมา ฝ่าฟันกับคนอื่นเพื่อมาเรียนในคณะนี้ เรียนครูมันไม่ได้เปรียบเรื่องความรู้หรอก มันได้เปรียบเรื่องประสบการณ์ ซึ่งประสบการณ์ไม่ได้เอาไปออกข้อสอบ ที่เราไม่เห็นด้วยเพราะเราคิดว่า ครูเป็นวิชาชีพ มันขลัง ตอนที่เรายืนหน้าห้อง สรรหาเทคนิคต่างๆ มาสอน นั่งเขียนแผนข้ามวัน มันทำให้เรารู้สึกว่า ภูมิใจที่ได้เรียนมา แต่ลืมไปว่ามันก็แค่อาชีพหนึ่งของคนทั่วไป เห็นคนดูถูกครู ดูถูกอาชีพนี้เยอะดี
xxx... ปัญหาคือ วุฒิของครู(คศ.บ./กศ.บ.)ในสมัยนี้ใช้สมัครงานอะไรที่ไม่ใช่ครูได้ยากมาก ตรงข้าม วุฒิอื่นๆสามารถมาเรียนเพิ่มเพื่อเป็นครูได้ รู้สึกเหมือนคนเรียนครูจะเสียเปรียบอย่างมาก
เมื่อนายกตู่ประกาศพัฒนาการศึกษาแบบเต็มที่แบบนี้ ดราม่าความคิดต่างเรื่องการสอบบรรจุครูที่มีมายาวนานคงจบเสียที จากนี้ก็รอดูแค่ว่าการศึกษาไทยจะไต่เต้าขึ้นมาจากการอยู่อันดับท้ายๆ ในอาเซียนได้หรือไม่..