Exclusive! พาบุกพิสูจน์ความเวอร์วังอลังการ คอนโดฯ หรูใจกลางเมือง "98 WIRELESS" ที่โปรโมตตัวเองว่าดี และแพงที่สุดในเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถูกสุดก็แค่ห้องละ 70 ล้าน แพงสุดมีอยู่ห้องเดียว 650 ล้าน ตอนนี้มีเศรษฐีไทยกระเป๋าหนักครอบครองไปตั้งแต่ก่อนเปิดขายแล้ว
อะไรคือความแพง ความอลังการของคอนโดฯ ราคาหลักร้อยล้านนี้ ทีมข่าวผู้จัดการ Live จะพาไปเปิดทุกซอก ล้วงทุกมุมความหรูหราแบบเอ็กซ์คลูซีฟตั้งแต่ทางเข้าไปจนถึงตัวห้องสุดไฮคลาสที่เห็นแล้วต้องร้องว้าวอย่างแน่นอน
25 ชั้นสไตล์โบซาร์ หรูหรา ทรงพลัง
ทันทีที่ย่างเท้าเข้ามาในพื้นที่ของโครงการบนทำเลทองอย่างถนนวิทยุ สิ่งแรกที่ตั้งเด่นเป็นสง่าก็คือตัวอาคารหรูหราสไตล์ โบซาร์ (Beaux-Arts) ซึ่งมีทั้งหมด 25 ชั้น 77 ยูนิต มีตั้งแต่ขนาด 2-3 ห้องนอน ดูเพล็กซ์ เพนท์เฮาท์ และซูเปอร์เพนท์เฮ้าท์ที่มีราคาถึง 650 ล้านบาท
แม้จะรีบอยากเข้าไปชมด้านใน แต่ "เบนท์ลี่ย์" ราคา 25 ล้านจอดแสดงความหรูหราชวนให้ต้องมนต์สะกด ตามมาด้วยความเซอร์ไพร์ส เพราะไม่ใช่รถของมหาเศรษฐีท่านใด แต่เป็นบริการรถประจำโครงการที่สั่งผลิตพิเศษ และใช้สี "British Racing Green" เพื่อบ่งบอกความเป็นรถยนต์อังกฤษกับป้ายทะเบียนเก๋ๆ "วย 98" ที่สื่อถึงถนนวิทยุ (วย) ซึ่งเลข 98 กำลังจะกลายเป็นเลขบ้านที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แค่ล็อบบี้ยังโออ่า สุดอลังการ!
ปฏิเสธไม่ได้ว่า องค์ประกอบต่างๆ ในโครงการนี้มีเอกลักษณ์ ความงดงาม และสามารถรองรับไลฟ์สไตล์ของเหล่ามหาเศรษฐีระดับพันล้านได้อย่างครบถ้วน โดยเฉพาะพื้นที่ส่วนกลางที่เดินเข้ามาต้องสะดุดตากับความระยิบระยับของ "แชนเดอร์เลียร์คริสตัล" แบบแฮนด์เมด 3 ชั้น ที่ใช้เวลาผลิตกว่า 1 ปี ด้วยงานฝีมือชั้นสูง และเป็นแชนเดอร์เลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในการผลิตของ Ralph Lauren Home ซึ่งนำมาห้อยอวดความแพงอยู่บริเวณโถงบันได
ถัดมาคือ "บันไดหลัก" ที่ตั้งตระหง่าน และงดงามด้วยราวจับบันไดขนาดใหญ่ที่หล่อขึ้นเป็นชิ้นเดียว โดยได้รับการสร้างสรรค์งานจากช่างฝีมือชั้นสูง รวมถึงห้องรับรองพิเศษต่างๆ ทั้งล็อบบี้เลาจน์บริเวณชั้นกราวด์ และ Sculpture บริเวณบันไดโถงล็อบบี้ที่ได้ศิลปินชื่อดังชาวอังกฤษ แอน เคอรรี่ (Anne Curry) เป็นผู้ออกแบบมาสเตอร์พีซชิ้นนี้ให้
สำหรับการตกแต่งภายในพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดได้ดีไซเนอร์ชื่อดังของนิวยอร์ก แอนน์ คาร์สัน (Anne Carson) ผู้มีประสบการณ์การดีไซน์แฟล็กชิพ และบูติคของ Ralph Lauren มาช่วยออกแบบ คัดสรร และควบคุมการตกแต่งเพื่อทำให้โครงการนี้สมบูรณ์แบบที่สุด
"เฟอร์นิเจอร์" ที่นี่ มีชิ้นเดียวในโลก
นอกจากการตกแต่งภายในที่สะท้อนความลักซ์ชัวรีได้อย่างเต็มรูปแบบแล้ว ของตกแต่งบางส่วนยังได้รับการคัดสรรจากร้านขายของสะสมหายาก Rare Collectible Items & Antiques หนึ่งในร้านที่ดีที่สุดของโลกใจกลางกรุงนิวยอร์คด้วย
เริ่มกันที่ โต๊ะกลางทรงกลม บริเวณโถงทางเข้าที่ทำจากไม้โรสวู้ดในประเทศอังกฤษ ผลิตขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1815 ด้วยลายไม้ที่งดงามเป็นเอกลักษณ์แฝงไว้ด้วยโลหะทองเหลือง ให้ความรู้สึกร่วมสมัย ซึ่งว่ากันว่ามีอายุเก่าแก่มากกว่า "กรุงเทพมหานคร" เสียอีก
ตามมาด้วย โต๊ะทรงกลม บริเวณล็อบบี้เลาจน์สำหรับนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ที่เก่าแก่ไม่แพ้ตัวแรก ผลิตขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 หรือ โต๊ะดื่มกาแฟ ที่ผลิตในประเทศฝรั่งเศส ในปีค.ศ. 1890 และ ตู้ทรงสูงสไตล์โกธิค ที่ทำจากไม้มะฮอกกะนีบริเวณชั้น 2 กระจกเงาตกแต่งที่นี่ก็เป็นของสะสมเก่าของมหาเศรษฐีในประเทศสหรัฐอเมริกา
ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ยังเลือกได้ใช้วัสดุ และการตกแต่งที่ได้บรรจงคัดสรรอย่างพิถีพิถันที่สุดจากทุกมุมโลก ทั้งภายนอกและภายใน ผนวกเข้ากับงานฝีมือในการติดตั้งวัสดุต่างๆ เห็นได้จากการปั้นหล่อคิ้วบัวบนผนังของทีมงาน ไฮด์ พาร์ค โมลด์ดิ้ง (Hyde Park Mouldings) ที่สร้างสรรค์งานปั้น ตกแต่งบริเวณส่วนกลางทั้งหมด
เอ็กซ์คลูซีฟห้องหรู ราคา 99 ล้าน
มาถึงไฮไลท์ของการมาในครั้งนี้ สำหรับการเปิดห้องพักสุดหรูราคาเฉียด 100 ล้าน ซึ่งระหว่างทางขึ้นไป ต้องสะดุดตากับลิฟต์ที่กรุด้วยทองเหลืองเต็มแผ่น โดยผนังภายในทำจากส่วนง่ามไม้มะฮอกกานีที่หายาก และมีราคาสูงมากๆ ส่วนด้านบนเป็นทองเหลืองที่ผ่านการแกะสลักให้มีลวดลายสวยงาม ซึ่งเป็นลายพิเศษสำหรับโครงการนี้โดยเฉพาะ
พอขึ้นมาถึงชั้น 10 ลิฟท์เปิดออกมาสู่โถงลิฟต์ส่วนตัวเพื่อเข้าไปสู่ตัวห้องราคา 99 ล้าน (2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ) เริ่มความแพงกันที่ลูกบิดประตูจาก Baldwin ผลิตด้วยทักษะงานฝีมือขั้นสูงจากทองเหลืองแท้ 100% ถือเป็นลูกบิดประตูที่มีดีไซน์และคุณภาพดีที่สุด ตามมาด้วย ประตูไม้ลายง่ามไม้จริง ซึ่งเป็นส่วนที่หายากที่สุดของไม้มะฮอกกานีนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา
เปิดเข้ามาในห้อง สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายสไตล์ Ralph Lauren (ราล์ฟ ลอเรน) สะท้อนตัวตนของนักกีฬาขี่ม้า ซึ่งความน่าสนใจแรกอยู่ที่การต่อเรียงพื้นไม้โอ๊คลายก้างปลา หรือที่เรียกว่าลาย Herringbone ต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญในการปูพื้น
ถัดมาเป็นห้องครัว ที่ชุดครัว และผนังห้องครัว ใช้หินอ่อนสีขาวลายพิเศษ Statuario ซึ่งเป็นหินอ่อนหายาก และเป็นที่ต้องการมากที่สุดในโลก โดยทีมงานแสนสิริไปเลือกเองจากเหมืองในประเทศอิตาลีทุกชิ้น และนำมาติดตั้งต่อลาย ทำให้ห้องมีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ ส่วนหน้าบานชุดครัวใช้แบรนด์ที่ดีที่สุดในประเทศเยอรมนี
สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า และสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้อง เป็นแบรนด์ผู้ผลิตชั้นนำของโลกที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในแวดวงสังคมชั้นสูง อาทิ อ่างอาบน้ำจาก Kaldewei สุขภัณฑ์สุดหรูจากคาลลิสต้า (Kallista), ก็อกน้ำของเลอฟรอย บรูคส์ (Lefroy Brooks), เครื่องใช้ไฟฟ้าโดยเกอกานาว (Gaggenau), ตู้เย็นและตู้แช่ไวน์ จากซับซีโร่ (Sub-Zero) เป็นต้น
ที่พิเศษไปกว่านั้น ภายในห้องนั่งเล่น ยังมีจอควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ สามารถปรับแสงไฟ เปิด-ปิดไฟ และเครื่องปรับอากาศ อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ด้วย หากนอนเล่นอยู่บนโซฟา และขี้เกียจลุกมาปิดไฟ หรือกรณีที่ออกจากห้องแล้วนึกขึ้นได้ว่าลืมปิดไฟ สามารถสั่งการผ่านแอปพลิเคชั่นนี้โดยไม่ต้องเสียเวลาขับรถกลับมา
ในส่วนของห้องน้ำก็เผยให้เห็นความหรูหราไม่แพ้กัน นอกจากใช้หินอ่อนสีขาวลายพิเศษ "Statuario" รวมไปถึงอ่างอาบน้ำ และก๊อกน้ำแบรนด์ชั้นนำแล้ว ยังมีชุดโทรทัศน์กันน้ำที่สามารถเปิดชมในขณะที่กำลังนอนแช่อยู่ในอ่าง Kaldewei ไปพร้อมๆ กันได้เลย
ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งในห้องพักราคา 99 ล้าน ส่วนห้อง 160 ล้านบาท แม้จะได้เข้าชมแค่ห้องเปลือยเปล่า แต่ก็มีความพิเศษไม่ต่างกัน แค่มีพื้นที่ใช้สอยใหญ่กว่า กว้างกว่าถึง 2 ชั้นภายในห้องเดียว รวมไปถึงการปูหินอ่อนในห้องน้ำที่ให้ความรู้สึกหรูหรากว่า
ขณะที่ ห้องซูเปอร์เพนท์เฮ้าท์ที่มีราคาแพงที่สุด (650 ล้านบาท) ตอนนี้มีเศรษฐีไทยกระเป๋าหนักให้ความสนใจและซื้อไปตั้งแต่ก่อนเปิดขาย ส่วนความหรูหรา อลังการยังถูกเก็บไว้เป็นความลับ แม้แต่แปลนห้องก็รู้กันแค่เฉพาะกลุ่ม ถือเป็น “ห้องแห่งความลับ” ที่เชื่อว่าใครหลายคนอยากเห็นเป็นบุญตาสักครั้งในชีวิต
ใส่ใจแม้กระทั่ง "แสงไฟ"
นอกจากทีมงานมืออาชีพหลากหลายสาขาที่ดูแลส่วนต่างๆ ของอาคาร และการตกแต่งภายในแล้ว ยังได้ Inverse Lighting ผู้เชี่ยวชาญ ด้านการออกแบบแสง มาเพิ่มความชัดในการมองเห็นตัวคอนโดฯ ทั้งเวลากลางวันและกลางคืน
สำหรับแสงไฟในช่วงกลางคืนนั้น ออกแบบมาให้ก่อให้เกิดมลภาวะทางแสงน้อยที่สุด ร่วมด้วยดีไซเนอร์ชั้นนำอีกมากมาย อาทิ Meinhardt / Palmer Acoustics เพื่อควบคุมเสียงเข้าสู่ภายในโครงการ และที่ขาดไม่ได้ นั่นคือ ที่ปรึกษาด้าน LEEDS เพื่อแนะนำแนวทางการออกแบบ เพื่อให้ได้ใบรับรอง Green Building จากอเมริกา ซึ่งเป็นใบรับรองที่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคจากทั่วทุกมุมโลกว่าสามารถช่วยประหยัดพลังงานอย่างยั่งยืน
นอกจากนั้น ยังมีส่วนต่างๆ ที่น่าสนใจ เช่น ห้องฟิตเนสที่เพียบพร้อมไปด้วยเครื่องออกกำลังกายสุดไฮเทค, ห้องทีรูม หรือห้องนั่งเล่นที่ตกแต่งสไตล์ยุโรป, ห้องบิสซิเนส เลาจน์ที่กรุไม้มะฮอกกานีสีน้ำตาล สอดแทรกด้วยการฝังโลหะทองเหลืองที่เพิ่มความรู้สึกร่วมสมัย เสริมการตกแต่งผ้าม่าน ด้วยลายสีเทาและสีน้ำเงิน
ส่วนที่จอดรถ เป็นแบบ Valet Parking และที่จอดรถใต้ดินที่สามารถรองรับได้ถึง 240% รวมถึงที่จอดพิเศษสำหรับรถซูเปอร์คาร์ที่ได้รับการออกแบบพื้นที่โดยรวมทั้งระดับองศาทางลาดเอียง มุมการเลี้ยว และแสงไฟในแต่ละช่องจอด จากทีมงานที่เชี่ยวชาญระดับมืออาชีพ รวมทั้งบริการลิฟต์ส่วนตัวพร้อมโถงลิฟต์สำหรับทุกยูนิต อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกของประเทศไทยกับบริการผู้ช่วยส่วนตัวจาก Quintessentially (ควินเทสเซ็นเทียลลี่) ที่มีชื่อเสียงระดับโลกในจัดงานสำคัญให้แก่ราชวงศ์อังกฤษมากมายมาประจำที่โครงการฯ นี้ด้วย
อย่างไรก็ดี แม้จะมีราคาแพงเวอร์ในสายตาใครหลายคน แต่ปัจจุบันโครงการนี้มียอดจองห้องชุดก่อนเปิดตัวแล้วกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่เป็นมหาเศรษฐีนักลงทุนชาวไทยที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 580,000 บาท/ตารางเมตร หากใครมีเงินเหลือใช้ ซื้อเก็บไว้ก็คงไม่มีใครว่าอะไร ค่าส่วนกลางก็ไม่เท่าไร ถูกสุดก็แค่สองแสนกว่าๆ ต่อปี
ข่าวโดย ผู้จัดการ Live
เรื่อง : นับดาว รัตนสูรย์, ปิยะนันท์ ขุนทอง
ภาพ : พิมพรรณ มีชัยศรี และ 98 Wireless
คลิปและตัดต่อ : อิสสริยา อาชวานันทกุล
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754