xs
xsm
sm
md
lg

เพลิงพระนาง ระอุ... ราชวงศ์ไม่พอใจ แต่คนพม่าในไทยปลื้มม๊ากกก...

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ดราม่าเกี่ยวกับละครเพลิงพระนาง ที่มีมาตั้งแต่ก่อนละครจะลงจอฉาย จนถึงวันนี้ก็เริ่มทวีความรุนแรงจนกลายเป็นประเด็นร้อนฉ่าในโลกโซเชียล และดูจะลุกลามไปใหญ่โต เมื่อทายาทของพระเจ้าธีบอ หรือ พระเจ้าสีป่อ กษัตริย์องค์สุดท้ายของเมียนมา ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เขาและคนในครอบครัวรู้สึกโกรธ และไม่พอใจละครเพลิงพระนาง ที่มีเนื้อหาที่สอดคล้องกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ในช่วงสุดท้ายของราชวงศ์คองบอง หรือ ราชวงศ์อลองพญาของพม่าในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 เป็นอย่างมาก ถึงขนาดขอให้เลิกฉาย และหากไทยไม่ทำตามจะร้องเรียนไปยังราชวงศ์ไทยเพื่อให้ดำเนินการให้

ความขัดแย้ง เล็กๆ น้อยๆ ที่ค่อยๆ หยั่งรากกลายเป็นปัญหาระดับชาติ ข้อเรียกร้องเหล่านี้ เยอะไปหรือไม่!! รศ.ดร.สุเนตร ชุตินธรานนท์ คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย และผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์พม่า วิเคราะห์เจาะลึกให้ฟัง
รศ.ดร.สุเนตร ชุตินธรานนท์ คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย และผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์พม่า
*** “เพลิงพระนาง” ไม่จำเป็นต้องหยุดฉาย

การออกมาเรียกร้องของ “โซ วิน” โดยการขอให้ทางการไทยสั่งห้ามฉายละครเรื่องดังกล่าว เพื่อเป็นการปกป้องวงศ์ตระกูลของเขานั้น รศ.ดร.สุเนตร ชุตินธรานนท์ บอกว่า ทางคณะผู้จัดละครเรื่อง “เพลิงพระนาง” ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องหยุดฉายตามคำเรียกร้อง เพียงแค่ไปทำความชี้แจงอย่างมีวิจารณญาณก็น่าจะเพียงพอแล้ว

ทั้งนี้ ละครดังกล่าวเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมา ตัวละครและสถานที่ในเรื่องล้วนเป็นเรื่องสมมติ ตั้งแต่ชื่อเมือง หรือตัวละครอย่างเจ้าเมืองคุ้ม เจ้านางอนัญทิพย์ และ เจ้านางปิ่นมณี ขณะที่เครื่องแต่งกายก็เป็นแนวแฟนตาซี

“แม้ว่าละครเรื่องนี้จะนำเค้าโครงมาจากเรื่อง “พม่าเสียเมือง” ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช และ “เที่ยวเมืองพม่า” พระนิพนธ์ในสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ซึ่งวาดภาพความอ่อนแอของพระราชสำนักพม่าในครั้งนั้น เห็นความอ่อนแอของพระเจ้าธีบอ ตลอดความดุร้ายของพระนางศุภยาลัต พระมเหสีของพระเจ้าธีบอ ซึ่งประเด็นต่างๆ เหล่านี้ก็ล้วนแต่เป็นเรื่องที่รับรู้กันในทางสากลทั้งนั้น ขณะที่ชาวพม่าเองก็ไม่ได้ผูกพัน หรือยกย่องกษัตริย์ของเค้าเลย นับตั้งแต่เปลี่ยนระบบการปกครอง” รศ.ดร.สุเนตร กล่าว

*** คนพม่า..ไม่ให้ความสำคัญสถาบันกษัตริย์มานานแล้ว

การที่ทายาทพระเจ้าสีป่อออกมาแสดงความไม่พอใจลุกลามไปถึงการเรียกร้องให้แบนละครเพลิงพระนาง โดยให้สัมภาษณ์สำนักข่าวต่างประเทศ ในเชิงพาดพิงราชวงศ์ไทย ว่า “เรารู้ว่าราชวงศ์ไทยได้รับการปกป้องคุ้มครองภายใต้รัฐธรรมนูญไทย ราชวงศ์พม่าก็ได้รับการปกป้องภายใต้รัฐธรรมนูญเมียนมาเช่นเดียวกัน” นั้น

รศ.ดร.สุเนตร บอกกับผู้จัดการ LIVE ว่า จริงๆ แล้ว สถาบันกษัตริย์ของพม่าก็ไม่ได้มีการพูดถึงมานานแล้ว โดยนับตั้งแต่พม่าเสียเมืองให้อังกฤษ สถาบันพระมหากษัตริย์ของพม่าก็ล่มสลายนับตั้งแต่นั้นมา ประกอบกับพระเจ้าธีบอ และพระนางศุภยาลัต เอง ก็ไม่ได้มีวีรกรรมอะไรให้คิดถึง ดังนั้น ทางพม่าเองไม่ได้ยึดเป็นสาระหรือให้การยกย่องอะไร

อนึ่ง พระเจ้าธีบอทรงสิ้นสุดการครองราชย์ในปี พ.ศ. 2428 หลังจากทรงจำนนต่อกองกำลังอาณานิคมของอังกฤษ ซึ่งเวลาต่อมา ได้นำกษัตริย์พม่าพร้อมพระมเหสี เสด็จไปทรงพำนักอยู่ในรัตนคีรี จนเสด็จสวรรคต ชื่อของพระเจ้าธีบอก็ไม่ค่อยได้ถูกเอ่ยถึงมากนักในหมู่คนพม่า จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2491 ประธานาธิบดี เต็งเส่ง ก็ถือเป็นผู้นำพม่าคนแรกที่ไปสักการะสุสานกษัตริย์ธีบอ
โซ วิน คนซ้าย เหลนพระเจ้าธีบอ
 
***ปัญหาจากกระแสสังคมหรือปัญหาส่วนบุคคล

รศ.ดร.สุเนตร ยังบอกอีกว่า การออกมาเรียกร้องครั้งนี้ ควรดูให้ดีว่าเป็นกระแสสังคม หรือข้อเรียกร้องส่วนบุคคล หากเป็นกระแสสังคมก็เป็นเรื่องไทยจะต้องนำมาพิจารณาหาทางป้องกัน อย่างไรก็ตาม ตนมองว่า ละครเรื่อง “เพลิงพระนาง” ซึ่งถือเป็นละครเก่าเคยถูกสร้างเป็นละครฉายทางทีวีมาแล้วครั้งหนึ่งในปี พ.ศ. 2539 และถูกนำมาสร้างใหม่เพื่อความบันเทิงจึงไม่น่าจะมีอะไรที่ผิดปกติ

“หากย้อนกลับไปสมัยที่เพลิงพระนาง ถูกนำมาฉายครั้งแรกๆ จะเห็นว่าไม่มีการประท้วงอะไรแบบนี้ อาจเป็นเพราะสมัยก่อนประชาชนชาวพม่ายังไม่มีอำนาจ และไม่มีสิทธิเสรีภาพพอที่จะออกมาเคลื่อนไหว หรือแสดงตัวตน หรือความไม่พอใจอะไรได้ นอกจากรัฐบาลจะเป็นผู้กระทำเท่านั้น ผิดกับปัจจุบันที่พม่ามีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ก็ถือเป็นสิทธิของเขาที่จะออกมาแสดงตัวตนได้ ซึ่งกรณีนี้คนไทยต้องพิจารณาให้ดีว่าเป็นกระแสสังคม หรือส่วนบุคคล ต้องแยกให้ออก”
ภาพพระเจ้าสีป่อนั่งร่วมพระแท่นกับชายา พระนางศุภยาลัตผู้เป็นน้อพ่อเดียวกัน โดยมีพระนางศุภยาจิ น้ององค์เล็กนั่งร่วมด้วย
 
*** บานปลาย ไปกันใหญ่!! เตรียมขอสถาบันกษัตริย์ไทยช่วยเคลียร์

ในการสัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพี ของ “โซ วิน” ที่ระบุว่า ถ้าละครยังฉายอยู่เขาจะขอความช่วยเหลือจากราชวงศ์ไทยนั้น รศ.ดร.สุเนตร กล่าวว่า ไม่ควรที่จะนำเรื่องนี้มาเกี่ยวกับราชวงศ์ไทย

“เป็นเรื่องเหลวไหลไร้สาระมาก ผมมองว่าเป็นความพยายามที่จะลากเรื่องนี้ให้เข้ามาเกี่ยวข้อง และสร้างความกระทบกระเทือนราชวงศ์ไทย การกระทำกับเราเช่นนี้ ถือเป็นเรื่องที่น่าละอายมาก อย่างที่บอกไปแล้วว่าปัจจุบันราชวงศ์พม่าไม่มีความหมาย ไม่มีที่ยืนในสังคมของเค้าแล้ว และถ้าหากเขาจะทำเช่นนี้กับไทย ผมคิดว่าเขาควรจะไปเรียกร้องรัฐบาลพม่าให้ยอมรับราชวงศ์ของเขาเองเสียก่อนจะดีกว่า”

 
*** โซเซียลชี้ชัดเรื่องไม่เป็นเรื่อง

แม้ว่าละคร “เพลิงพระนาง” จะสร้างความไม่พอใจกับชาวพม่า และบรรดาผู้ที่ยกตัวว่าเป็นราชวงศ์พม่าไปแล้วนั้น หากแต่ก็ยังมีชาวพม่าส่วนหนึ่งที่กลับไม่รู้สึกอะไร ทั้งยังชื่นชมละครเรื่องนี้อีกด้วย โดยกระทู้หนึ่งในเว็บไซต์พันทิป อ้างอิงคนพม่า ว่า “เพิ่งได้คุยกับเพื่อนที่เป็นชาวพม่า ถึงละครเรื่อง เพลิงพระนาง ที่กำลังเป็นกระแสดังอยู่ตอนนี้ รู้สึกว่าคนพม่าในไทย และในพม่าเองไม่ได้ พูดถึงละครในแง่ของเนื้อหาละครเลย เหมือนเค้าไม่ได้สนใจประเด็นนี่ และหลายคนไม่รู้เลยว่าเนื้อเรื่องอิงมาจากประวัติศาสตร์ของประเทศเค้า แต่ที่เค้าสนใจกันมากกว่าคือ

1. ชุดที่ใช้แสดงในละคร เค้ากลับดูออกว่ามันคือชุดประจำชาติของพม่า แต่ความเห็นตรงกันข้ามกับคนไทยเลย เค้ามองว่าชุดสวยมาก บางคนว่าสวยกว่าที่มีจริงอีก เค้ารู้สึกชื่นชอบที่คนไทยเอาชุดประจำชาติเค้ามาช่วยโปรโมตให้อีกด้วยซ้ำ

2. ทำให้รู้ว่า อั้ม พัชราภา ไม่ได้ดังแค่ในไทยเท่านั้น แต่คนพม่าก็รู้จักและเป็นที่ชื่นชอบมาก (โดยเฉพาะผู้ชาย) หลายคนชมว่าสวยและหน้าเด็กมาก บางคนชมว่าหุ่นดีมาก ดาราคนอื่นในเรื่องเค้าไม่ค่อยรู้จัก แต่พี่อั้มหลายคนรู้จักเลยว่าเป็นซูเปอร์สตาร์ที่ไทย

3. เค้ามองต่างมุมตรงที่ ดีใจที่คนไทยให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมของเพื่อนบ้าน เหมือนเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ช่วยโปรโมตให้พม่ารู้จัก และน่าจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศในทางอ้อมอีกด้วย

นี่อาจจะเป็นแค่ความเห็นจากเพื่อนบ้านเรากลุ่มหนึ่งที่สะท้อนออกมา ซึ่งอาจจะมีความคิดเห็นอื่นที่แตกต่างกันไป แต่เท่าที่เราได้ยินมาไม่เห็นจะเป็นไปในแบบที่หลายคนกำลังพยายามนำเสนอเท่าไหร่ บางทีคนไทยกันเองนี่แหละที่ panic จนเกินไป มองอะไรมุมเดียวและชอบดราม่ากันเสียเอง  

ดังนั้น  หน้าที่ของคนไทยคือควรจะช่วยกันอธิบายถ้าเค้าไม่เค้าใจในการนำเสนอและช่วยกันกระชับความสัมพันธ์ ไม่ใช่พยายามจุดประเด็นดราม่าและสร้างความขัดแย้ง....”




มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น