ว่ากันว่ากีฬาที่ Michael Jordan ปรารถนาอยากที่จะเล่นอาชีพหลังจากเลิกเล่นบาสเก็ตบอล คือ กอล์ฟ นั่นเพราะว่า James Jordan พ่อของเขาชื่นชอบในตัว Charlie Sifford ตำนานนักกอล์ฟผิวสีที่เคยฝ่าฟันจนได้แชมป์ท่ามกลางสังคมที่เต็มไปด้วยการเหยียดสีผิว
พ่อของ ไมเคิล จอร์แดน ได้จากไปในปี 1993 จากเหตุปล้นรถหรูที่ไมเคิลซื้อให้พ่อ เหตุการณ์นี้ทำให้เขาเศร้าเสียใจจนเลิกเล่นบาสเก็ตบอลไปเลย แล้วหันไปสานฝันของคุณพ่อให้เป็นจริง เขาเลือกที่จะเล่นเบสบอลอาชีพ แทนที่จะเป็นกอล์ฟ
" พ่อของผมอยากให้ผมเป็นนักเบสบอลมานานแล้ว แต่เมื่อผมเลือกบาสเก็ตบอล ท่านก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร ท่านเคารพการตัดสินใจของผม ท่านบอกว่ากีฬาเบสบอลมันเป็นกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาอเมริกันเกมส์ทั้งหลาย มันไม่ได้รุนแรงป่าเถื่อนเหมือนฟุตบอล มันค่อนข้างเป็นกีฬาสุภาพบุรุษ "
ไมเคิล เคยมีตัวเลือกในวัยเด็กว่าจะเลือกเล่นกีฬาประเภทไหนดี เขามีพรสวรรค์กับกีฬาหลายอย่าง โดยเฉพาะ เบสบอล เขาเกือบได้เข้าร่วมในทีมใหญ่ๆ หลายทีม แต่อย่างที่เห็นๆ กันคือ ไมเคิล รักในกีฬาบาสเก็ตบอลมากกว่า และเขาทำให้ทั้งพ่อของเขาและโลกได้รับรู้ว่าเขาไม่ได้เลือกผิด
และเมื่อคุณพ่อจากไปด้วยเหตุการณ์ร้าย เขาเฝ้าโทษตัวเอง และสิ่งเดียวที่จะพอทำได้ก็คือการที่เขาเลือกเดินตามความฝันของคุณพ่อโดยการหันไปเป็นนักเบสบอลอาชีพกับทีม Chicago White Sox ท่ามกลางเสียงลือหนาหูว่าเขาเซ็นต์สัญญาเพราะเหตุผลทางการตลาด จนทำให้เขาออกมาเปิดเผยเรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังว่านี่เป็นการสานต่อความฝันของคุณพ่อ นักข่าวจึงพากันหุบปาก
" เชื่อผมมั๊ยว่าผมตีกอล์ฟได้ดีกว่าเบสบอล และถ้าผมหันไปตีกอล์ฟ ผมคงรวยกว่าการมาเป็นนักเบสบอลแน่นอน แต่ผมเลือกที่จะเล่นเบสบอลเพราะผมรักพ่อ พ่ออยากให้ผมเล่นเบสบอลอาชีพมาตลอด และวันนี้ผมก็เริ่มทำมัน "
มันก็จริงที่ว่าเขาตีกอล์ฟได้ดีมากๆ และถ้าเขาเลือกทางนั้นเขาคงจะได้เป็นโปรกอล์ฟผิวสีอีกคนไปแล้ว ซึ่งก็เดินตามรอย Charlie Sifford คนที่พ่อของเขานับถือ แต่เบสบอลคือสิ่งที่พ่อเขาฝันมานานมาก เขาเริ่มต้นไม่ค่อยสวยนักกับ ChicagoWhite Sox แต่มันไม่สำคัญเท่ากับการที่เขาเติมเต็มความฝันให้พ่อ
ไมเคิล ถูกส่งตัวให้ทีม Birmingham Barons ซึ่งเป็นทีมลูกหม้อของ Chicago White Sox อีกที นี่เองที่ช่วยลบคำครหาเรื่องที่เขามาเล่นให้ทีมด้วยเหตุผลทางการตลาด เพราะถ้าหากเขามาเพื่อเป็นตัวดึงคนให้เข้ามาซื้อตั๋วจริง ทำไมเขาจึงถูกส่งตัวให้ทีมที่เล็กกว่า
ราวๆ 1 ปี ที่เขาพยายามทำตามความฝันให้พ่อที่อยู่บนสวรรค์ เขาก็ประกาศแขวนไม้ แล้วหวนกลับคืนสู่ NBA ในปี 1995 อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง แล้วจบอาชีพการเป็นนักบาสเก็ตบอลอาชีพลง แต่ในฐานะไอค่อนของวงการกีฬา เขาถือว่ายังคงเป็นอมตะพรีเซ็นเตอร์ และเจ้าของธุรกิจผลิตภัณฑ์ทางกีฬาที่มูลค่าของเขาไม่ลดลงเลยแม้จะเลิกเล่นบาสมานาน
ปัจจุบันเขายังคงคาบซิก้าร์ ตีกอล์ฟ อย่างเอาจริงเอาจังเพื่อสานฝันให้คุณพ่ออีกครั้ง เพราะอย่างที่บอกคือ คุณพ่อชื่นชอบและนับถือ Charlie Sifford นักกอล์ฟผิวสีในอดีตมากๆ และภาพจำที่ผู้คนมักเห็นก็คือ Charlie Sifford คาบซิก้าร์เวลาตีกอล์ฟ ซึ่ง ไมเคิล เองก็คาบซิก้าร์บ่อยๆ เวลาตีกอล์ฟ ก็เพื่อที่ว่าคุณพ่อเจมส์อันเป็นที่รักจะได้มองลงมาจากบนสวรรค์แล้วเห็นลูกชายทำตัวเหมือน Charlie Sifford ยังไงล่ะ
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754