xs
xsm
sm
md
lg

อย่าได้แหยม! หลาน “แพท” สวยตบหนัก “นาฟ” สุดซี๊ด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นาฟ-ฉัฐนันท์ เถาศิริพันธ์
 
เป็นอีกหนึ่งเน็ตไอดอลสุดเซ็กซี่ที่กำลังโด่งดังในโลกโซเชียล สำหรับ นาฟ-ฉัฐนันท์ เถาศิริพันธ์ นางแบบสาวหน้าหวานหลานสาวสุดเลิฟ ของ แพท-ณปภา ตันตระกูล ที่ก่อนหน้านี้เคยตกเป็นข่าวใหญ่อยู่ในคลิปหลุดวัยรุ่นตบกัน โดยหนึ่งในนั้นมีนางเอกดัง “แพท-ณปภา” และ “นาฟ” ผู้เป็นหลานสาว อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ต่อมาสองฝ่ายออกมาเผยความจริงคนละด้าน หลายคนก็เข้าใจและได้ส่งกำลังใจให้น้า-หลาน คู่นี้กันอย่างท่วมท้น

เหตุการณ์โด่งดังครั้งนั้นทำให้ชื่อของ “นาฟ” เริ่มเป็นที่รู้จักของสังคม นับจากวันนั้นถึงวันนี้ แม้จะผ่านมานานถึง 2 ปี แต่เรื่องราวของเธอก็ยังคงเป็นที่สนอกสนใจของผู้คนอยู่ไม่น้อย เพราะไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไร โลกออนไลน์จะต้องกล่าวขานถึงเธออยู่ได้เรื่อย ๆ ล่าสุด “นาฟ” กลับมาโด่งดังอีกครั้งด้วยการก้าวขึ้นแท่นเป็น “นางเอกสาวคนใหม่ของวงการ” ที่มาพร้อมหุ่นฟิตอกอึ๋ม ให้หนุ่มเล็กหนุ่มใหญ่ร้องซี๊ดดด! กันอีกครั้ง และวันนี้เราจะมาพูดคุยกับเธอ แบบเจาะลึกถึงการใช้ชีวิตที่มีคุณค่า ของสาวน้อยคนนี้ในทุกแง่มุมเพื่อมาอัปเดทชีวิตของเธอตลอด 2 ปีที่ผ่านมาแบบหมดเปลือก

 
**ปฐมวัย ของสาวหน้าใส นาฟ- ฉัฐนันท์

นาฟ-ฉัฐนันท์ เถาศิริพันธ์ ปรากฏตัวให้เราเห็นพร้อมรอยยิ้มสดใส เธอบอกว่า เป็นลูกสาวคนสุดท้องของ กิตติวัชน์ และ ณพฉวี เถาว์ศิริพันธ์ ซึ่งหลังจากที่เธอลืมตาดูโลกได้เพียงไม่นาน พ่อกับแม่ก็ฝากเธอไว้กับคุณย่าสุรินทร์ เถาศิริพันธ์ ก่อนจะเดินทางไปงานเป็นเชพให้ร้านอาหารไทยในสหรัฐอเมริกา

“พ่อกับแม่อยู่อเมริกา หนูเลยต้องอยู่กับคุณย่าตั้งแต่เด็กค่ะ ครอบครัวเราเป็นครอบคัวใหญ่คุณย่า-คุณยายมีลูกหลานเยอะมากเลยไม่รู้สึกเหงา พวกเราพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง เรียกว่าครอบครัวเราอบอุ่นมาก อุ่นจนล้นค่ะ (หัวเราะ)”

ถึงจะอยู่ห่างไกลจากพ่อ-แม่ แต่ “นาฟ” ก็ยืนยันว่า เธอไม่เคยขาดแคลนความรัก โดยทุกปีพ่อและแม่ของเธอจะบินกลับมาเยี่ยมลูกๆ และครอบครัวตลอด ในแต่ละวันพวกเธอก็จะได้พูดคุยกับพ่อ-แม่อยู่บ่อยๆ และยิ่งเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีทันสมัยมากขึ้น เวลาที่ใครคิดถึงกันก่อนก็ใช้วิธีวีดีโอคอลถึงกัน ซึ่งสิ่งที่พ่อ-แม่คาดหวังและบอกกับลูกๆ ทุกครั้งที่คุยกัน คือ ให้ทุกคนเป็นคนดี ซึ่ง “นาฟ” เองก็พยายามตั้งใจไม่อยากให้พ่อ-แม่ต้องเป็นห่วง “อย่างเรื่องเรียนทางครอบครัวไม่เคยบังคับเลยนะ ท่านจะให้อิสระเต็มที่ อยากเรียนอะไรเรียนเลย แต่การที่เราไม่ถูกกดดัน ไม่ถูกบังคับ มันทำให้เธอเป็นคนที่อยู่ในกรอบเอง เหมือนท่านดีกับเรา เราก็อยากเป็นคนดีของท่าน และอีกอย่างคือเราต้องหาเงินเรียนเอง ทำให้รู้จักคุณค่าตรงนี้”

ปัจจุบัน “นาฟ” ศึกษาอยู่ชั้นม.6 โรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา เห็น “นาฟ” น่ารักใสๆ แอบเซ็กซี่เล็กๆ ใครจะเชื่อบางว่า ในวัย อายุ 18 ปีของเธอนั้น ต่างจากวัยรุ่นคนอื่นมากนัก เพราะต้องทำงานอย่างหนักเพื่อหาเงิน เป็นค่าเทอมโดยไม่ต้องรบกวนพ่อ-แม่

**ชีวิตไม่ง่ายอย่างที่ฝัน ทำงานเก็บเงินส่งตัวเองเรียนหนังสือ

แม้จะเกิดมาในครอบครัวของคนที่มีฐานะปานกลาง พอมีกินใช้อย่างสบายๆ ไม่จำเป็นต้องทำงานให้ยากลำบาก แต่ครอบครัวของเธอกลับสอนให้ลูกหลานทุกคนรู้จักทำงานช่วยตัวเอง ไม่ให้งอมืองอเท้า โดยคุณย่าและคุณยายย้ำเสมอว่า ให้รู้จักคุณค่าของเงินทอง อยากได้อะไรทุกคนต้องเก็บเงินซื้อเอง จะฟุ่มเฟือยไม่ได้

หลานสาวดาราดัง หยุดนิ่งไปพักใหญ่ก่อนจะเริ่มต้นอธิบายว่า พวกเธอถูกปลูกฝังเช่นนี้มาตั้งแต่เด็ก เวลาอยากได้อะไร ไปขอเงินคุณย่าคุณยายไม่ได้ง่าย เพราะจะได้รับคำตอบซ้ำ ๆเ หมือนกันทุกครั้งว่า ให้เก็บเงินค่าขนมซื้อเอง ดังนั้น เวลาอยากได้อะไร เธอและพี่-น้อง จึงต้องดิ้นรนทำงานอะไรก็ได้เพื่อให้ได้เงินมา เช่น รับจ้างที่บ้าน เดินซื้อของ หรือทำงานแลกเงิน เป็นต้น

“หนูเริ่มขายของหาเงินใช้เองตั้งแต่อยู่ม.3 ถึงจะเป็นน้องเล็กสุดของครอบครัวก็ต้องทำค่ะ เพราะหนูไม่อยากเป็นภาระให้ใคร แต่ละคนมีหน้าที่ต้องทำงานลำบากกันทั้งนั้น ยกตัวอย่างพี่แพท ที่ทำงานหาเงินเก่ง ถ้านาฟขอเค้าตรงๆ เค้าก็ให้นะคะ แต่นาฟไม่ขอ เพราะพี่แพทต้องทำงานเหนื่อย และเค้าเองก็มีภาระต้องรับผิดชอบทั้งส่วนตัวและของยาย ซึ่งแต่ละเดือนต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 2-3 แสนแล้ว นาฟไม่อยากเป็นภาระให้เค้าอีก ใคร ก็เลยทำงานขายของเล็กๆ น้อยๆ ผ่านเฟสบุ๊คค่ะ มันก็ขายได้นะคะ ขายดีด้วย พอได้เงินมาก็รู้สึกภูมิใจ แทบไม่กล้าใช้อะไรที่หมดไปกับสิ่งไม่จำเป็น จะใช้ก็ต่อเมื่ออยากได้สิ่งนั้นจริงๆ”

นาฟเล่าว่า เธอเริ่มต้นขายของกิ๊ฟช็อปเล็กๆน้อยๆ โดยไปซื้อจากสำเพ็งมาขายเพื่อนๆ จากนั้นเมื่อการซื้อขายออนไลน์เริ่มนิยมมากขึ้น เธอจึงหันมาขายผ่านเฟสบุ๊คและอินสตาร์แกรม “สินค้าที่ขายมีหลายอย่าง ส่วนใหญ่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าคริสตี้ ตอนนี้ขยายฐานมาขายครีมทาผิว-รักษาใบหน้าที่พี่แพทเป็นพรีเซ็นเตอร์ ยอดขายแต่ละเดือนดีนะคะ เพราะเราเน้นขายสินค้าที่ ไม่เอารัดเอาเปรียบลูกค้า”

 
**อย่าแหยม!! ฉายา..สวยตบหนัก

ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อน กับข่าวคลิปวัยรุ่นตบกันที่ถูกนำมาเผยแพร่ในโลกออนไลน์นั้น ทำให้ชื่อ “นาฟ” เริ่มกลายเป็นที่รู้จักและจับตาอย่างหนัก ในฐานะหลานสาวดาราดังอย่างแพท-ณปภา ซึ่ง “นาฟ” ก็ยอมรับว่าตอนนั้นอาจเป็นเพราะเธอยังเด็ก และที่ทำไปทั้งหมดก็เพราะความรักกันของคนในครอบครัว ดังนั้นการออกมาปกป้องพี่สาวที่เธอรักและเคารพจึงเป็นสิ่งที่เธอต้องทำ!!

“จริงๆไม่อยากพูดถึงแล้ว แต่เหตุการณ์ครั้งนั้น ก็ถือเป็นบทเรียนสำคัญเลยนะคะ ทำให้หนูรู้สึกเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ได้รู้ว่าสติเป็นเรื่องสำคัญ ตอนนั้นคุณย่าก็ได้แต่ยิ้ม ไม่ว่าอะไร แต่ก็สอนให้ เก็บสิ่งไม่ดีไว้เป็นบทเรียน และอย่าทำอีก แล้วหนูก็ไปอธิบายให้คุณพ่อคุณแม่ฟัง เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร เหมือนให้เราคิดเอง ทำให้หนูรู้สึกเกรงใจมาก ก็ขอโทษพ่อกับแม่ไป และสัญญากับเค้าว่าต่อไปจะไม่ดื้อ จะตั้งใจทำงาน ตั้งใจเรียน เอาเกรดดีๆ มาฝากท่านค่ะ” นาฟพูดจบก็ส่งยิ้มหวานให้เราอย่างสดใส

ดวงตากลมโตที่มองมาทางเรา ทำให้แทบลืมว่านี่คือเด็กสาววัย 18 ปีที่ผ่านเรื่องราวมามากมาย แม้หลายคนมองว่าเธอเป็นเด็กแรงที่ดูก้าวร้าว ซึ่งตรงนี้ “นาฟ” บอกว่า อาจเป็นเพราะลักษณะที่ดูแก่น กระโดกกระเดกเหมือนเด็กผู้ชาย รวมถึงน้ำเสียงใหญ่ ๆ ของเธอ จึงทำให้หลายคนมองเช่นนั้น “ตรงนี้ก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละคนที่จะมองนะคะ นาฟว่าเราทำอะไรเรารู้ตัวเราเองดีที่สุดแล้ว ที่ผ่านมาหนูไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อน แต่หลังจากนี้หนูก็คงต้องพยายามใจเย็นมากขึ้น”

นาฟยังบอกถึงคำสอนของย่าและยายที่เธอจำติดใจและยึดใช้ในชีวิตประจำวันเรื่อยมาคือ ไม่เอารัดเอาเปรียบคน รวมถึงการการช่วยเหลือคนด้อยโอกาส “ย่าสอนเสอมว่าไม่ให้เอาเปรียบใคร และให้ตั้งใจเรียน ซึ่งนาฟก็พยายามที่รักษาสิ่งดีๆตรงนี้ ส่วนเรื่องช่วยคน ถ้าใครไม่เคยอดไม่เคยเจ็บไม่เคยจนไม่มีทางรู้เลยว่าเจ็บปวดอย่างไร ดังนั้น ถ้ามีโอกาสหนูก็ไม่ละเลย จะช่วยตามกำลังที่พอจะช่วยได้ หนูเชื่อเรื่องการทำดี ได้ดีนะคะ”

**รางวัล “เยาวชนต้นแบบ” การันตีความดี

ใครจะรู้ว่าจากการขายของด้วยความตั้งใจเก็บเงินไว้ใช้กินใช้ส่วนตัว รวมทั้งใช้เป็นค่าศึกษาเล่าเรียนของตัวเอง และมอบให้พ่อ-แม่นั้น ส่งผลให้เธอกลายเป็นแบบอย่างให้เด็กหลายๆคน แรงสะท้อนความดียังทำให้เธอได้รับการคัดเลือกเชิดชูเกียรติเป็นบุคคลต้นแบบ “ลูกตัวอย่างดีเด่น” ประจำปี 2559 ภายใต้โครงการเฉลิมพระเกียรติองค์ราชัน เทิดทูนเกียรติแม่ของแผ่นดิน

“มีคนติดต่อเข้ามาว่าหนูได้รับรางวัลนี้ ตอนนั้นก็ไม่รู้เหตุผลว่า ได้เพราะอะไร ถามคณะกรรมการก็ได้รู้ว่า เพราะหนูเป็นเด็ก ที่ทำงานด้วยเรียนหนังสือด้วย ซึ่งเด็กวัยเดียวกันจะมีแบบนี้น้อยมาก จึงเข้าเกณฑ์และผ่านการคัดเลือก รางวัลที่ได้เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงานต่อไป หนูดีใจนะคะเพราะทำให้พ่อกับแม่และย่ายิ้มได้มีความสุข ขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ที่เลือกให้หนูรับรางวัลลูกตัวอย่างดีเด่น เป็นตัวแทนให้น้องๆ ได้เห็นและทำตาม เป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนค่ะ”

 
**ศัลยกรรมอัพไซส์ แซ่บยิ่งใหญ่เหลือเกินนนน

จากเด็กสาวผู้แก่นเชี๊ยว เปรี้ยวจี๊ด และมีรสนิยมทางด้านแฟชั่นมาตั้งแต่เด็กทำให้ นาฟ ผู้ที่สนุกกับการพาตัวเองให้แวดล้อมกับสิ่งสวย ๆ งาม ๆ และมักจะอยู่ติดกับ “แพท” ผู้เป็นน้า ทั้งยังมีความฝันว่า สักวันหนึ่งเธออาจจะได้ทำในสิ่งที่เธอรัก แต่กว่าเส้นทางความฝันของเธอจะถูกชุบชีวิตขึ้นมา เธอต้องใช้เวลารอคอยจนมาพบสิ่งที่คาดหวัง

“จริงๆแล้วที่ทำเพราะทำฟรี!! ค่ะ เค้าให้หนูเป็นพรีเซ็นเตอร์ก็เลยได้ทำ ซึ่งก็ไม่ได้เพิ่มเยอะอะไรเลย ทำนิดเดียวแค่ 375CC ค่ะ แต่ทำแล้วก็รู้สึกดีนะคะ ส่วนตัวนาฟว่าทำให้ดูเซ็กซี่ขึ้น มีความกลมกลืนดูได้สัดส่วน ใส่เสื้อผ้าสวยกว่าเดิมเยอะเลย นาฟว่าเรื่องศัลยกรรมเดี๋ยวนี้เป็นเรื่องปกตินะคะ ทุกคนทำเพื่อเสริมความมั่นใจให้ตัวเอง ของนาฟเองที่ผ่านมาทำ “ตา” กับ “จมูก” ไม่ได้ทำอะไรมากเลยค่ะ พอทำมาแล้วรู้สึกไปเองรึเปล่าไม่รู้ว่า มั่นใจขึ้น หนูว่าจะช่วยให้ทำงานได้ดีขึ้น เพราะงานถ่ายแบบ หรืองานแสดงละครเรื่องรูปร่างหน้าตาเป็นเรื่องจำเป็นค่ะ”

สาวนาฟ ยังบอกอีกว่า โชคดีที่ พ่อ-แม่ ตลอดจนคุณย่า ไม่เคยห้าม “คุณย่าและก็คุณพ่อคุณแม่ไม่ห้าม อาจเป็นเพราะเค้าเห็นเราโตแล้ว ทำงานหาเงินเอง ดังนั้นเวลามีเรื่องอะไรส่วนใหญ่หนูจะตัดสินใจเองคนเดียว แต่ถ้าเป็นเรื่องใหญ่สำคัญๆ ก็จะบอกพ่อแม่ให้แนะแนวทางให้ค่ะ”

** นางเอกหน้าใหม่ของวงการ

อีกสิ่งที่น่าสนใจอีกสิ่งเกี่ยวกับ นาฟ ในวันนี้ไม่ใช่เพียงแค่ตำแหน่งหลานสาวของ “แพท” ที่มีใบหน้าแสนสวยและไซส์ใหม่หลังอัพใหญ่ขึ้นของเธอเท่านั้น แต่คือการที่เธอก้าวตามรอย “แพท” เป็นนางเอกละครเต็มตัว

แม้จะยังไม่ใช่ละครฟอร์มใหญ่ แต่เธอก็ถือว่าสาวนาฟทำได้ดีไม่แพ้น้าสาว “ตอนเค้าติดต่อมาก็ดีใจนะ พอรู้ว่าได้เป็นนางเอกก็ดีใจใหญ่เลย (หัวเราะ) เพราะที่ผ่านมาส่วนใหญ่คนมาจ้างก็ได้เป็นแค่ตัวประกอบอะไรอย่างงี้ค่ะ แต่ละครเรื่องนี้เป็นละครเกี่ยวกับวัยรุ่น ชื่อเรื่องยังไม่บอกนะคะ รอดูเลยดีกว่า ออกอากาศวันแรก 15 กุมภาพันธ์นี้ ทางช่อง ฟิฟตี้ทีนพลัสชาแนล ออนแอร์ผ่านทางยูทูป”

นาฟ ยังบอกว่า การเข้าวงการของเธอนั้นไม้ได้ใช้เส้นสายจากกความเป็นหลานสาวของ แพท-ณปภา เลย “อย่างที่บอกว่าการทำงานของพวกเราทุกคนในครอบครัวเริ่มต้นที่ความยากลำบาก ทุกอย่างต้องช่วยตัวเอง ตรงนี้ก็เช่นกัน พี่แพทไม่ได้ฝากงานให้ พี่แพทจะแนะนำและบอกใครๆว่านี่คือหลาน ส่วนใครจะชอบที่ติดต่อเข้ามาส่วนใหญ่ก็เพราะเขาเห็นว่าเราเหมาะสมกับงานของเขาจริงๆ ตรงนี้พี่แพทก็จะช่วยลุ้น และให้กำลังใจ ไม่เคยใช้เส้นสายอะไร เรื่องค่าตัวก็ไม่มาก ตอนนี้ได้ขยับขึ้นนิดนึงค่ะ แต่ก็ไม่ได้มากนักถ้าเทียบกับการขายของผ่านเฟสบุ๊ค”

ความสามารถหลากหลายผสมกับความตั้งใจที่ศึกษาในสิ่งที่สนใจอย่างจริงจัง จึงไม่แปลกใจที่ นาฟ จะประสบความสำเร็จกับสิ่งที่รักได้อย่างง่ายดาย

 
**รู้หน้าที่ แบ่งเวลาให้งาน

สาวน้อยใบหน้าสวยใส ยังแยกแยะให้ฟังถึงชีวิตประจำวันของเธอว่า ทุกวันนี้แม้จะมีงานละครเข้ามาเพิ่มเติม แต่เธอก็ยังคงขายของอย่างต่อเนื่อง แต่ละวันหลังเลิกเรียนจะมาเช็คสต็อกออร์เดอร์สั่งซื้อของลูกค้า จากนั้นก็โทรสั่งของ วันรุ่งขึ้นก็ไปซื้อแล้วนำกลับมาแพ็คบรรจุหีบห่อแล้วส่งไปรษณีย์ “เหนื่อยตอนไปหาซื้อของแล้วไปหิ้วกลับมาห่อนี่แหละค่ะ ทั้งหนัก ทั้งเหนื่อย ทั้งร้อน แต่ตรงนี้ก็ดีที่สอนให้เรารู้จักความยากลำบาก ว่ากว่าจะได้เงินแต่ละบาทมันลำเค็ญมากแค่ไหน (ลากเสียงยาวพร้อมหัวเราะ)”

เมื่อเสร็จสิ้นจากภารกิจห่อของแล้ว เวลาว่างก็เล่นอินเทอร์เน็ต อัพเดทสินค้าใหม่ ๆ ให้ลูกค้าดู ในวันว่างจริงๆ ก็จะช้อปปิ้ง กินข้าวกับคุณย่า และครอบครัว “หนูไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไกลมากนัก อาจเป็นเพราะเรามีงานต้องทำตลอดทุกวันนี้แค่อยู่กับครอบครัว ได้ทานอาหารอร่อยๆ ฝีมือคุณย่า ขายของได้เงินมา หนูก็มีความสุขที่สุดแล้วค่ะ หนูเชื่อว่าการได้อยู่กับครอบครัวที่เข้าใจในความเป็นเรา ทำให้ไม่ต้องคิดอะไรมาก ไม่ต้องระมัดระวังตัว เพียงเท่านี้ก็มีความสุขและอบอุ่นที่สุดแล้วค่ะ”

 
**ไล่ล่าความฝัน อยากเปิดร้านอาหารให้พ่อ

นาฟ ยังบอกเล่าถึงชีวิตในวันนี้ว่า มีความสุขและพอใจแล้ว หากแต่ก็ยังมีความฝันเล็กๆ ที่เก็บไว้ในใจอยู่หนึ่งอย่างคืออยากเป็น เก็บเงินให้ได้อีกซัก 1 ก้อนใหญ่ เพื่อนำไปใช้ในการเปิดคาร์แคร์ของตัวเอง และเปิดร้านอาหารให้พ่อของเธอ

“ร้านคาร์แคร์ที่อยากเปิดเป็นสิ่งที่คิดไว้ เพราะหนูว่าการขายของผ่านเน็ตแม้จะรายได้ดี แต่ก็ยังไม่มั่นคงนัก หากเรามีร้านเป็นของตัวเองก็คงดีกว่า เพราะจะได้มีอะไรที่เป็นหลักเป็นฐาน ส่วนร้านอาหารอันนี้เป็นความฝันที่หนูตั้งใจจะทำให้ได้ เพราะอยากให้เป็นของขวัญของครอบครัว พ่อกับแม่จะได้กลับมาอยู่ใกล้ ๆ กัน ไม้ต้องเหนื่อยไปทำงานไกล ๆ พ่อเป็นเชฟที่ทำอาหารเก่ง ทำอาหารได้ทุกประเภท เวลาพ่อกลับมาเมืองไทยก็ชอบเข้าครัว ถ้าหนูว่างก็จะตามไปช่วยพ่อทำกับข้าว พ่อก็ยังสอนให้ทำอาหารหลายอย่าง ที่ทำประจำก็เป็นน้ำพริก-ผักต้ม”

**ความรักเป็นสิ่งสวยงาม

หน้าตาน่ารัก บวกกับบุคลลิกที่แคล่วคล่องว่องไว พูดจาฉะฉาน ก็เป็นที่แน่นอนว่าต้องมีหนุ่มๆ มาจีบมากมาย ซึ่งนาฟตอบด้วยรอยยิ้มสดใสว่า “ไม่ค่อยมีคนจีบนะคะ ผู้ชายที่รู้จักส่วนใหญ่เป็นเพื่อนกันหมดเลย อาจจะเป็นเพราะเราเป็นคนสนุก เฮฮา แต่ไม่ค่อยมีเวลา เพราะต้องทำงานและเรียนเลยไม่สามารถคบใครได้จริงจัง แต่ถ้าถามถึงความรัก นาฟว่าเป็นสิ่งที่สวยงามนะคะ”

แม้จะมองว่ารักเป็นสิ่งสวยงามอย่างไร แต่สำหรับเธอ เธอให้ความสำคัญครอบครัวเป็นหลัก และก่อนจะจากกัน “นาฟ” ยังฝากถึงวัยรุ่นไทยทั่วไปอีกว่า หากยังอยู่ในวัยเรียน อย่าเพิ่งให้ความสำคัญเรื่องความรักมากนัก เพราะควรมุ่งมั่นตั้งใจเรียนหนังสือจะดีกว่า “นาฟทำงานเองจะรู้เลยว่าเงินทุกบาททุกสตางค์นั้นหายากมาก และเงินที่คุณพ่อคุณแม่ส่งเสียให้แต่ละคนเรียนนั้น ก็เป็นหยาดเหงื่อแรงงานของพ่อแม่ทุกคน ดังนั้นจึงควรทำให้ท่านภูมิใจกับสิ่งที่ท่านเสียสละเพื่อเรา”

ใครๆ หลายคนอาจมองเธอเป็นเด็กแรงจัดจนดูเหมือนจะก้าวร้าว แต่หากคุณได้สัมผัสกับเธอแล้ว เธอคือเด็กสาวคนหนึ่งที่เล็งเห็นถึงคุณค่าแห่งชีวิต และความสำคัญของคนรอบข้างเป็นที่สุด ในแต่ละวันของเด็กในวัยเดียวกันกับนาฟ หลายคนอาจหมดไปกับการเที่ยวไปในโลกกว้าง หากแต่ นาฟ-ฉัฐนันท์ เถาศิริพันธ์ เธอกลับใช้ทุกวัน เวลา-นาทีอย่างมีคุณค่า ใครได้อ่านเรื่องราวของเธอมาจนถึงบรรทัดนี้ เชื่อว่าจะหลงรักเธอเหมือนเช่นเรา ....

สัมภาษณ์โดย ผู้จัดการ Live
เรื่อง: วรกัญญา สมพลวัฒนา
ภาพโดย: ปัญญพัฒน์ เข็มราช
ขอบคุณภาพประกอบ : Absolute Beauty Clinic และ Instagram- naffynaffie




มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น