#งดทานหวานเพราะน้ำตาลแพงมาก เป็นแฮทแทคฮอตสุดๆ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับปรากฏการณ์น้ำตาล-ล้านวิว เมื่อมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 น้ำตาล-ชลิตา ส่วนเสน่ห์ เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงสมชื่อในกองประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งขณะนี้กำลังเปิดโหวตและเตรียมตัดสินในวันที่ 30 มกราคมนี้
น้ำตาล-ชลิตา ส่วนเสน่ห์ ด้วยส่วนสูง 169 เซนติเมตร จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนพูลเจริญวิทยาคม จ.สมุทรปราการ และปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 คณะวิทยาศาสตร์ สาขาจุลชีววิทยา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีดีกรีเป็นลูกสาวนางงามสงกรานต์ ที่นอกจากจะถอดแบบความสวยจากคุณแม่แล้ว เธอยังได้ทั้งความตั้งใจ ความเนี้ยบ และการสู้ชีวิตที่ได้ต้นแบบมาจากคุณแม่เต็มๆ
ชีวิตไม่ได้สวยหรู เรื่องราวที่โดนใจคนทั้งโลก
น้ำตาลเป็นลูกสาวคนโตที่เติบโตมาในครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวย ต้องช่วยคุณพ่อ นายสรนันท์ ส่วนเสน่ห์ พนักงานขับรถ และคุณแม่ นางชุติกาญจน์ ส่วนเสน่ห์ พนักงานขาย บริษัท คิง เพาเวอร์ ทำงานตั้งแต่ยังเล็ก
“ตั้งแต่จำความได้เลย ตอน ป.4 คือครอบครัวตาลไม่ได้มีฐานะร่ำรวย คือจริงๆตาลเกิดที่ จ.นนทบุรี พอแม่ไปทำงานก็จะย้ายตามแม่ไปเรื่อยๆ จากนั้นก็ไปซื้อบ้านแถวสมุทรปราการ จึงไปทำงานแถวนั้น แม่ทำงานเป็นแคดดี้ในสนามกอล์ฟ เป็นคนลากกระเป๋า และทำงานบ้านของเจ้านายในคอนโด ตาลก็จะไปช่วยแม่ตลอด หยิบจับช่วยเหลืออะไรได้บ้างก็จะพยายามทำก็ทำมาเรื่อยๆ เวลาแม่ไปออกรอบ ตาลก็ไปทำความสะอาดห้องเจ้านายแทนแม่เลย จากนั้นแม่เริ่มมาทำงานในสนามบินสุวรรณภูมิ ในช่วงปิดเทอม ม.4 เลยบอกว่า แม่..ตาลอยากทำงานในสนามบิน อยากคุยกับฝรั่ง อยากได้ภาษา ฟัง พูด ได้ ให้แม่ช่วยฝากทำงานให้หน่อย เลยได้ทำที่ร้านอาหาร เป็นเด็กเสิร์ฟ ทำเวลาช่วงปิดเทอมตลอด”
จนกระทั่งในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017 ที่ฟิลิปปินส์ครั้งนี้ น้ำตาลได้นำเรื่องราวชีวิตต้องสู้ของตัวเองสั้นๆ ลงบนคลิปวิดีโอการแนะนำตัวเอง และได้เผยแพร่บนเฟซบุ๊กของกองประกวดจนโดนใจคนทั่วโลกด้วยยอดไลค์กว่าล้านภายใน 24 ชั่วโมง ด้วย
เธอบอกในคลิปว่า “หนูได้ไปช่วยคุณแม่ทำงานบ้าน เราได้เรียนรู้จากคุณแม่ ไปแทนแม่บ้าง แม่ทำงานหลายอาชีพในคนคนเดียว มีความรู้สึกนิดนึงว่า ทำไมเราไม่เหมือนคนอื่นเลย ที่ได้ไปเที่ยว อยากได้ทำอะไรก็ได้ทำ แต่ทำไมเราต้องมาทำงานตรงนี้ แต่ก็เป็นผลดี ที่เราได้เก้บเกี่ยวประสบการณ์ตั้งแต่เด็กๆ ถ้าหนูได้อยู่ตรงจุดๆ หนี่งที่ช่วยเหลือคนจนได้ หนูก็อยากช่วยเหลือคนจนค่ะ เพราะหนูรู้ว่ามีความรู้สึกว่า ความไม่มีจริงๆ มันเป็นยังไงค่ะ”
อยากสวมมง! แบบคุณแม่
การเดินทางสายนางงามนั้น น้ำตาลเล่าว่า ตั้งแต่เล็กๆ แล้ว อยากใส่มงกุฎ เห็นมงกุฎแม่ก็จะหยิบมาใส่ เพราะคุณแม่เคยเป็นนางงามสงกรานต์ และเคยประกวดนางสาวไทยมาก่อน แต่ไม่ได้เข้ารอบในรอบ 60 คน คุณแม่ประกวดหลายเวที หน้าแม่กับตาลจะเหมือนกันเป๊ะเลยค่ะ แต่แม่จะสวยกว่าน้ำตาลนะ แม่จะจมูกโด่งกว่า และยังคอยสนับสนุน ให้กำลังใจ แม่อยากให้เราทำในสิ่งที่ตัวเองฝัน เพราะเวลาเราชอบอะไร รักอะไร ท่านก็จะคอยสนับสนุน สมัยก่อนกับสมัยนี้นางงามจะไม่เหมือนกัน ก็ไม่ค่อยได้ถามแม่ว่าจะต้องทำยังไงบ้าง ดูจากทุกวันนี้มากกว่า แล้วก็นำมาปรับใช้กับตัวเอง
“ไม่เคยประกวดเวทีใหญ่ๆมาก่อนเลย เคยแค่ประกวดนางนพมาศของมหาวิทยาลัย คือน้ำตาลเป็น รองดาวของคณะ คือในช่วงวัยเด็กเรามองว่า ทำไมนางงามถึงสวยจัง ความฝันเด็กๆ ก็อยากได้มงกุฏ พอโตขึ้นหน่อยก็มีความรู้สึกว่า เราอยากไปยืนตรงจุดๆนั้นจังเลย เราอยากไปลองทำตรงนั้นจังเลย ว่าเราจะทำได้ไหม เราจะได้มงกุฏแบบนี้บ้างไหม ”
ฝันเป็นจริง เมื่อความสวยสะดุดตาพี่เลี้ยงนางงาม
จากเด็กที่มองหางานพาร์ทไทมส์ ไม่เคยผ่านเวทีนางงามหรือวงการบันเทิงมาก่อน แต่ความสวยของน้ำตาลได้สะดุดตาพี่เลี้ยงนางงามที่ตอนนี้กลายเป็นผู้จัดการส่วนตัว จึงชวนเธอมาประลองเวทีแรกจนก้าวสู่เวทีอินเตอร์ระดับโลกแห่งนี้
“น้ำตาลเล่าว่าตอนนั้นก็กลับไปปรึกษาคุณแม่ว่า จะเข้าประกวดดีไหม เพราะตอนนั้นน้ำตาลน้ำหนักเยอะถึง 60 กก. เมื่อคุณแม่เห็นด้วยก็เลยลองดูสักตั้ง จนในที่สุดก็รีดน้ำหนักลงได้ถึง 54 กก. และด้วยความมุ่งมั่นที่อยากได้มงกุฎมาใส่เล่นตั้งแต่เด็กๆ ก็เลยตั้งใจทำงานครั้งนี้ให้เต็มที่”
เข้าเรียนด้านจุลชีววิทยา จนเป็นที่มาของคำตอบเด็ด! อยากหายารักษา HIV
น้ำตาลเคยให้สัมภาษณ์ออกอากาศรายการแฉ หลังจากได้รับตำแหน่งมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สว่า เหตุผลที่เลือกเรียนสาขาจุลชีววิทยา เพราะว่าชอบทำแลป อยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ อยากส่องกล้อง อยากเห็นสิ่งมีชีวิตแปลกใหม่ที่กำเนิดขึ้นบนโลก ได้เรียนเรื่องจุลินทรีย์ แบคทีเรีย ไวรัส ได้เพาะเชื้อ เลี้ยงเชื้อ พอเราเจอเชื้อใหม่ๆ เราสามารถจดลิขสิทธิ์เป็นของเราได้ว่าเราเป็นผู้ค้นพบสิ่งมีชีวิตนั้นๆ
จนเมื่อเว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ได้ชี้แนวคำถามว่า หากได้ตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส น้ำตาล จะทำอะไรให้เกิดขึ้นกับประเทศไทยและสังคมโลก น้ำตาลบอกว่า ตาลอยากทำโครงการเรื่อง HIV เพราะว่าตาลเรียนจุลชีววิทยาอยู่แล้ว สามารถเชื่อมโยงกันถึงเรื่องนี้ได้ ตอนนี้โลกยังหาอะไรมาระงับหรือรักษาโรคนี้ให้หายขาดไม่ได้ ทุกวันนี้เราทำได้แค่พยุง ตาลอยากศึกษาลงลึก หาเชื้อจุลินทรีย์ แบคทีเรีย มาทำวัคซีนฆ่าไวรัสตัวนี้ให้ได้
ฟิตหุ่นแค่ไหน เพื่อสวยสะกดสายตาบนเวทีนางงาม
หน้าสวย หุ่นต้องเป๊ะ หากย้อนกลับไปดูการฟิตหุ่นของน้ำตาล คงต้องบอกว่า เธอจริงจังมาก! น้ำตาลเคยหนักถึง 60 กก. เธอสามารถรีดน้ำหนักจนเหลือ 54 กก. ก่อนเข้าประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2016 และหลังจากนั้น เธอต้องเข้ายิมทุกวันเพื่อปั้นหุ่นให้ไม่แพ้ต่างชาติ ทั้งเข้าฟิตเนส ออกกำลังกายสะโพกที่เจ้าตัวบอกว่าใหญ่ไม่สมส่วน โดยเฉพาะช่วงขา ซิทอัพเล่นหน้าท้องนี่จัดหนักมากๆ เข้าฟิตเนสยาวเลยแต่ละวัน วันละ 3-4 ชั่วโมง เล่นสควอท ต่อยมวยรีดเหงื่อด้วย สร้างทั้งกล้ามเนื้อหน้าอก สร้างซิกแพก และกระชับต้นขา
คลิปแนะนำประเทศไทย น้ำตาลชิมแมงป่อง
สำเนียงภาษาอังกฤษของผู้มุ่งมั่นตั้งใจศึกษา ถึงขั้นขอแม่ไปทำงานเสิร์พตั้งแต่มัธยมปีที่ 4 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อจะได้เก่งภาษาอังกฤษนั้น ได้ปรากฏในคลิปแนะนำประเทศไทยของกองประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017 ซึ่งในคลิปนั้น น้ำตาลได้พาผู้ชมไปลิ้มลองอาหารสไตล์สตรีทฟู้ด บนถนนเยาวราช โดยเธอแนะนำเมนูเด็ดอย่างผัดไทยเป็นภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว แถมยังเปิบเมนูแมงป่องทอด และแมลงทอด ได้อย่างน่ารัก โดนใจผู้ชมทั่วโลก จนยอดไลค์เหยียบเจ็ดแสนในเวลาไม่ถึงวัน
อันดับ 1 ใน 5 ตัวเต็ง ที่ต้องมง!
สำหรับการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017 นั้น กระแสของน้ำตาลมาแรงมากๆ ตั้งแต่เริ่มต้นการประกวด จนในที่สุดเธอถูกเลือกให้เป็นสาวงามโปรโมทการประกวดครั้งนี้ แถมสื่อนอกและสื่อในฟิลิปปินส์เอง ยังนำภาพเธอมาขึ้นปกหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ที่สำคัญ เธอติดโผอันดับ 1 ใน 5 สาวที่มีสิทธิ์คว้ามงกุฎปีนี้ โดยอันดับหนึ่งของโพลเป็นของประเทศไทย อันดับสองนางงามจากเวเนซูเอล่า อันดับสามนางงามจากเจ้าบ้านฟิลิปปินส์ อันดับสี่นางงามจากเมกซิโก และอันดับห้านางงามจากอินโดนีเซีย
“Miss Fashion” ฉายาที่เตะตาสื่อทั่วโลก กับกระเป๋าเดินทาง 17 ใบ
นอกจากหน้าตาจะมาวินเต็งหนึ่งแล้ว น้ำตาล-ชลิตา สวนเสน่ห์ ยังได้ฉายามิส แฟชั่น ด้วยเสื้อผ้าที่หอบข้ามทะเลไปกว่า 17 ใบ บรรจุชุดหลากหลายสไตล์ที่แจ้งเกิดในอีเว้นต์ของการประกวดได้ทุกวัน ไฮไลต์สุดต้องยกให้ชุดประจำชาติอันสวยงามตระการตา Jewel of Thailand ที่รอการตัดสินรางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยมในวันเดียวกันกับการติดสินมิสยูนิเวิร์ส
อีกหนึ่งชุดไฮไลต์ ได้แก่ชุดราตรียาวผ้าไหมเนื้อเครปสีดำปักทั้งตัว จากแบรนด์ ASAVA ที่เน้นงานปักลายไทยทั้งชุด เป็นงานผสมผสานดีไซน์ชุดฉลองพระองค์กับดีไซน์ตะวันตก ที่สื่อถึงความเป็นไทยในแบบสากล และอีกหนึ่งชุดไทยดีไซน์สากลอย่าง จั๊มป์สูทของห้องเสื้อ Surface ที่ปักเลื่อมสีดำและสีทองทั้งตัว ประดับด้วยผ้าคลุมไหล่ผ้าทอยกดอกลำพูน โดดเด่นด้วยเครื่องประดับที่ได้แรงบันดาลใจจากกรองพระศอในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
ชุดราตรีสีเหลืองมัสตาร์ด ผลงานของ ฮุคส์ ประภากาศ เป็นอีกหนึ่งชุดไฮไลต์ ที่ดีไซน์ในรูปแบบชุดไทยสไบเฉียงเน้นความเรียบโก้ โดยน้ำตาลใส่ชุดนี้ในการถ่ายพอร์เทรต
แต่กระนั้น หลังจากมีการเผยภาพการประกวดแต่ละรอบ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ชุดหลายชุดถูกนำมาปรับเปลี่ยนแทนชุดที่เคยเผยให้สื่อมวลชนชมก่อนที่จะขนไปถึงฟิลิปปินส์ จนสร้างความเซอร์ไพรส์และให้คนไทยได้ตื่นตะลึงกับงานดีไซน์ในแต่ละชุดไม่น้อย
ไม่เพียงเท่านั้น น้ำตาล ยังได้คัดเลือกให้ร่วมกิจกรรมเดินแบบชุดประจำชาติฟิลิปปินส์ Terno ที่เมืองวีแกน เมืองมรดกโลกของฟิลิปปินส์ ชุดนี้เป็นชุดของ เรน เฟอร์นานเดส ดีไซเนอร์คนดังที่นั่น ลักษณะชุดเป็นชุดราตรีสีงาช้าง ปักด้วยไข่มุกทั้งหมดจำนวน 7,107 เม็ด เพื่อสื่อถึงจำนวนเกาะทั้งหมดประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งหลังจากงานครั้งนี้ น้ำตาลได้รับเสียงชื่นชมจากชาวฟิลิปปินส์ล้นหลามตลอด 2 ข้างทาง ที่น้ำตาลเดินเข้าสู่งาน และแม้แต่ดีไซเนอร์เจ้าของชุดเอง ยังได้โพสอินสตาแกรมชื่นชมอีกด้วย
ชุดที่กินใจชาวไทยอีกหนึ่งชุด คงเป็นชุดสีขาวสไตล์เรียบหรู ที่น้ำตาลสวมใส่เข้าพบประธานาธิบดี โรดริโกล ดูเตร์เต แห่งฟิลิปปินส์ ซึ่งนอกจากจะสวยสง่างามแล้ว น้ำตาลยังติดเข็มกลัดที่มีพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 9 กลัดบนหน้าอกซ้ายเปรียบสภิตอยู่ในดวงใจ จนทำเอาแฟนคลับไทยเป็นปลื้มและชมว่าทำการบ้านมาดีมากๆ แถมเธอยังโพสลงในแฟนเพจของเธอพร้อมกับรูปเข็มกลัดพระบรมฉายาลักษณ์นี้ด้วยว่า “ขอพระบารมีแห่งพระองค์ท่าน อำนวยพรให้หนูได้นำชื่อเสียงกลับสู่ประเทศไทย อันเป็นที่รักของทุกคนด้วยค่ะ” ข้อความนี้ยิ่งกระพือให้คนกดเลิฟอีกเพียบ
ประเด็นกระเป๋า 17 ใบ ของน้ำตาลครั้งนี้ ฮือฮาขนาดที่ว่าสื่อต่างประเทศหลายแห่ง ทั้งในประเทศฟิลิปปินส์เอง ยุโรป อเมริกา และละตินอะเมริกาเกาะติดกระแสนี้
ลบทุกดราม่า... สวยสยบเสียงค้านเป็นมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2016
หากย้อนกลับไปเมื่อครั้งจบเวที มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส เมื่อเดือนกรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา น้ำตาลเจอศึกดราม่ากับกุ้ง-กุสุมา ชาวดอน นางแบบไทยที่สร้างชื่อเสียงไว้ในนิวยอร์ก ทั้งส่วนสูงถึง 178 ซม. และรูปหน้าเฉี่ยวคม จนดีกรีเหนือกว่าน้ำตาลทุกขุม แต่สุดท้ายกุ้งไม่ได้เข้ารอบแม้แต่ 5 คนสุดท้าย ยิ่งเจอกระแสแฟนคลับกุ้งกระหน่ำ วิจารณ์น้ำตาลต่างๆ นาๆ อาทิ “ทำไมกุ้งไม่ติด Top5?? กลัวร่วมเฟรมแล้วกุ้งจะเด่นกว่าเหรอ? หมดสัทธาเวทีนี้ ไม่เชียร์ ไม่ติดตามอีกต่อไป #กรรมการป่วย” หรือ “น้ำตาลสมมงแล้วนะเราว่า แต่นี่ก็ยังแอบเสียดายกุ้งมากอ่ะ แต่น้ำตาลก็ปังมาก ยังไงก็ไทยแลนด์” หรือคอมเม้นต์ที่ว่า “เสียดายเวทีปีนี้อินเตอร์ คอนเซปแพง แต่กรรมการตาไม่ถึง ยังอยู่ยุคหิน บาย”
ข้อความเหล่านี้ ล้วนเป็นแรงผลักดันให้น้ำตาลฝึกตัวเองอย่างหนัก นำทุกความคิดเห็นมาเป็นแรงพลังให้ตัวเองสวยสง่าดั่งนางพญา แล้วกำจัดข้อด้อยทุกข้อที่เธอถูกปรามาส จนในที่สุด-ภาพของน้ำตาลที่เพจ missuniversethailand หรือ เพจของน้ำตาลเอง ก็มีข้อความให้กำลังใจ และคนไทยก็เทใจร่วมโหวตให้เธอมาเป็นอันดับหนึ่งในการประกวดครั้งนี้
มงฯ นี้เพื่อเธอ น้ำตาล-ชลิตา
แม้สุดท้าย มิสยูนิเวิร์ส 2017 จะตกเป็นของสาวงามประเทศไหน!? แต่ น้ำตาล-ชลิตา ส่วนเสน่ห์ ก็ได้ใจคนทั้งโลก เพราะที่ผ่านมาวัดจากฟีดแบคความนิยมและยอดติดตามของเธอในโลกออนไลน์ ที่มียอดเข้าชมถล่มทลายเบียดนางงามสายแข็งเจ้าประจำหลายๆ ประเทศ
ทั้งแรงใจจากคนใกล้ชิด เพื่อนใกล้ตัว และเพื่อนในรั้วมหาวิทยาลัยมหาสารคาม นิสิตภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ ที่อัดคลิปส่งแรงเชียร์ โดยระบุว่า “MABUHAY Phillippines!! แรงเชียร์แรงใจจากนิสิตภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ของจริงไม่จำเป็นต้องพูดเยอะ เย๊!!” โดยคลิปนี้มาจาก Win Buddharaksaนอกจากนี้เพื่อนๆ ก๊วนนางงามก็ส่งกำลังใจให้อย่างล้นหลามไม่แพ้กัน...
เพราะหลังจากได้ฟังเรื่องราวชีวิตของน้ำตาล ฟังคำสัมภาษณ์ที่จริงใจ น่ารัก ตรงๆ ไม่เสแสร้ง แถมยังสตรองได้ขนาดนี้ สมแล้วที่เธอจะคว้าตำแหน่งตัวแทนสาวไทยหนึ่งเดียวไปครอง!
ขอบคุณภาพจาก FB: @missuniversethailand
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754