"ชีวิตคนไม่ใช่ของเล่น!!" หน่วยกู้ชีพเดือด! โพสต์ด่าพลเมืองดี อ้างเป็นหมอเข้าช่วยนวด กดจุดฟื้นสัญญาณชีพฯ คุณป้าป่วยโรคหัวใจกำเริบ ขัดขวางการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ สุดท้าย ยื้อชีวิตไว้ไม่ได้ วิจารณ์หนักที่ต้องตายเพราะ พลเมืองดีที่เผือกผิดที่ผิดเวลา!!
กลายเป็นประเด็นร้อนระอุโลกโซเชียลฯ หลังจากมีกรณีที่หญิงคนหนึ่งเกิดภาวะหัวใจกำเริบ หมดสติอยู่ท่ามกลางไทยมุงจำนวนมาก ซึ่งทางผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก “การันต์ ศรีวัฒนบูรพา” หัวหน้างานประชาสัมพันธ์ที่สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) นำภาพและข้อความเผยแพร่สู่โลกออนไลน์ โดยมีการพูดถึงพลเมืองดีรายหนึ่งที่หวังดีผิดเวลา อาสาเข้าช่วยรักษาผู้ป่วยโดยอ้างตัวว่าเป็นหมอ พร้อมกับขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยกู้ชีพ จึงทำให้ไม่สามารถช่วยชีวิตหญิงรายนั้นได้ทันท่วงที
“แชร์มาให้ดูว่า ในบ้านเรายังมีอีกมาก ไอ้ประเภทที่หวังดีผิดเวลา พลเมืองดีที่พร้อมจะเสือก แต่ไม่ขอรับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น หลังจากคุยกับแฟนแล้ว มีความเห็นว่าคนที่ปล่อยให้หมอนวดมานวด ทั้งๆ ที่รู้ว่าควร CPR (Cardiopulmonary resuscitation) ก็ต้องรับความผิดนี้ไปด้วย ถ้ามั่นใจว่าต้องทำ CPR ก็ต้องทำ อย่าไปยอมให้ความรู้ผิดๆ มาทำให้คนไข้ตาย จำไว้เป็นบทเรียนอาสาทั้งหลาย เขาตายเพราะเอ็งไม่กล้าสู้กับความเชื่อผิดๆ”
นอกจากนี้ ในข้อความยังมีการพูดถึงขั้นตอนการช่วยชีวิตด้วยเครื่อง AED เพื่อใช้ในการกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ ที่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญและผ่านการอบรมอย่างถูกต้องมาแล้วเท่านั้น พร้อมทั้งตั้งคำถามกับพลเมืองดีด้วยว่า หากผู้ป่วยเสียชีวิตขึ้นมาแล้วใครจะรับผิดชอบ?
“การที่จะช่วยใครสักคนหนึ่งจะไปทำมั่วๆ ไม่ได้ ชีวิตคนไม่ใช่ของเล่น เพราะเมื่อพลาดไปแล้วไม่สามารถย้อนกลับไปใหม่ได้ อาสาแต่ละคนเขาต้องอบรมวิธีการช่วยชีวิตที่ถูกต้องกันมา การที่คุณมาห้ามไม่ให้ใช้เครื่อง AED กับคนป่วย แล้วคุณมานั่งกดจุดตามวิธีของคุณ สุดท้ายผู้ป่วยเสียชีวิต คุณจะรับผิดชอบยังไง? คุณพลเมืองดี”
หลังจากข้อความนี้ถูกเผยแพร่ออกไป มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างล้นหลาม ซึ่งคอมเมนต์มีทั้งเชิงต่อว่าถึงการช่วยเหลือผู้ป่วยที่ไม่ถูกวิธี จึงมีผลทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย รวมถึงการขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ในขณะที่บางคอมเมนต์ได้แสดงความเห็นว่าหากสิ่งที่พลเมืองดีรายนี้ทำไม่ถูกต้อง ทำไมหน่วยกู้ชีพจึงไม่รีบขัดขวางและยุติการช่วยเหลือแบบผิดๆ ให้เร็วที่สุด
“ประเด็นแรก เอาที่ตัวเจ้าของกระทู้เอง เขามองว่า จะไปโยนความผิดทั้งหมดทั้งมวลให้แก่หมอนวดก็ไม่ได้ ในเมื่อเรารู้อยู่แก่ใจว่าต้อง CPR เราก็ต้องยืนยันในการทำ CPR ของเรา ไม่ใช่ปล่อยให้เขาทำอะไรก็ไม่รู้ แล้วสุดท้ายค่อยมาบ่นว่า เขาช่วยคนไข้ผิด คนไข้ตายเพราะไม่ได้ CPR
ส่วนอีกประเด็นคือ เราต้องรู้ว่าในแพทย์ทางเลือกอื่นๆ ทั้งที่กำลังเรียนหรือจบไปแล้ว CPR ไม่ได้อยู่ในหลักสูตร แต่ละศาสตร์ มีการตรวจ วินิจฉัย และการรักษาไม่เหมือนกัน เขาอาจจะเรียนของเขามาแบบนี้ เขาเลยยืนยันที่จะช่วยชีวิตคนไข้ในแบบที่เขาเรียนมาว่า "ถูกต้องที่สุด" (อันนี้ถ้าเขาเป็นหมอทางเลือกจริงๆ)
โอกาสนี้ ต้องยื่นมือไปเผยแพร่เรื่อง CPR ให้เขา เหมือนที่เราเอาไปสอนประชาชนกลุ่มอื่นๆ อีกประเด็นที่อย่าลืมมอง คือ ถ้านอกจากคนนี้เขานวดแล้ว ประชาชนไทยมุงนับสิบ ที่เห็นด้วยกับการนวดมากกว่าการทำ CPR หรือ AED มันก็บ่งบอกเรื่องการเรียนการสอน CPR ในบ้านเราเหมือนกันนะ”
ย้อนกลับไปเมื่อปีก่อนทางบริการวิชาการแพทย์ฉุกเฉินเคยเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับ “การปฏิบัติการฉุกเฉินของเจ้าหน้าที่กู้ชีพในที่เกิดเหตุ” ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ “Academic Emergency Medical Service of Thailand” ไว้ว่าเมื่อมีผู้แสดงตัวเป็นแพทย์ยื่นมือเข้ามาช่วยดูแลผู้ป่วยฉุกเฉิน เราควรปฏิบัติการตามคำสั่งของแพทย์อำนวยการปฏิบัติการ หรือแพทย์ในที่เกิดเหตุ โดยข้อความระบุว่า
“สมาคมแพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉินประเทศสหัฐอเมริการะบุว่า การปฏิบัติการฉุกเฉิน หรือทำการดูแลรักษา และนำส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน เป็นขอบเขต อำนาจหน้าที่ ความรับผิดชอบของผู้ปฏิบัติการและเจ้าที่กู้ชีพ ซึ่งจะต้องผ่านการศึกษา ฝึกอบรม ผ่านการฝึกฝนพิเศษในสถานการณ์ฉุกเฉิน มีความรู้ที่เหมาะสมในการดูแลผู้ป่วยนอกโรงพยาบาล”
อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติการฉุกเฉินต่อผู้ป่วยฉุกเฉินจะต้องกระทำตามเงื่อนไขประการแรก คือไม่ดูแลรักษาเกินอำนาจขอบเขตหน้าที่ของตน อย่างที่สองคือให้การดูแลรักษาต่อผู้ป่วยฉุกเฉินตามคำสั่งของแพทย์อำนวยการปฏิบัติการ ถ้าผู้แสดงตัวเป็นแพทย์และยื่นมือเข้ามาช่วยทำการดูแลรักษาผู้ป่วย ณ จุดเกิดเหตุ ให้คำแนะนำหรือชี้แนะการรักษาต่อผู้ป่วยฉุกเฉินไม่ได้ตามมาตรฐานการปฏิบัติการ เพื่อผู้ป่วยฉุกเฉินจะได้รับการดูแลที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง ให้ปฏิบัติการฉุกเฉินตามอำนวยการตรง หรืออำนวยการทั่วไป
ทว่า ในบางกรณีหากมีคนที่แสดงตัวว่าเป็นแพทย์เข้ามาช่วยดูแลผู้ป่วยฉุกเฉิน ในจุดเกิดเหตุ ชุดปฏิบัติการฉุกเฉินสามารถปฏิบัติการฉุกเฉินต่อผู้ป่วยฉุกเฉินได้โดยบุคคลที่อ้างตนเป็นแพทย์ “ต้องรับผิดชอบต่อคำสั่งการแพทย์ทั้งหมด”
เหตุการณ์นี้คงเป็นบทเรียนให้กับใครหลายคนได้ว่า ไม่ควรเข้าช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินโดยขาดความรู้ ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแพทย์ฉุกเฉินเฉพาะทางน่าจะดีเสียกว่า การพยายามช่วยเหลือผู้ป่วยอย่างผิดวิธี เพราะถึงแม้จะประสงค์ดีขนาดไหน แต่เรื่องความเป็นความตายและลมหายใจเฮือกสุดท้าย คงไม่มีใครอยากฝากชีวิตไว้กับผู้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญในการรักษาชีวิตแต่อย่างใด
ขอบคุณข้อมูล facebook.com/karundinho
ข่าวโดย ผู้จัดการ Live
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754