จากสวนคุณพ่อ “กุสุมา พูนแสงศิริ” ต่อยอดกลั่นเป็นน้ำมะม่วงคุณภาพ

สาวร่างเล็ก ยุ้ย-กุสุมา พูนแสงศิริ ทายาทสวนมะม่วงกำไร สวนมะม่วงชื่อดังในอำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง ผุดไอเดียแปรรูปมะม่วงเป็นน้ำมะม่วงกลิ่นหอม รสชาติอร่อย ภายใต้แบรนด์ “Mango Juice Kamrai By Kusuma” รสชาติติดใจทั้งผู้ใหญ่และเด็ก จนต้องสั่งผลิตเพิ่มถึง 4 รอบ ภายในหนึ่งเดือน

ยุ้ย-กุสุมา พูนแสงศิริ ในฐานะกรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เคพีเอส ไทยเทรดดิ้ง แอนด์ เซอร์วิส เล่าว่า “คุณพ่อกำไร เชยชม ได้บุกเบิกทำสวนมะม่วงตั้งแต่ยุ้ยยังเล็กๆ จำได้ว่าตอนนั้นรอบข้างพื้นที่กว่า 60 ไร่ของเรา เป็นทุ่งนาเขียวขจี มีแต่สวนของเราที่เป็นดินแดงๆ และเราก็ช่วยกันปลูกมะม่วง ชาวบ้านต่างมองว่าคุณพ่อแปลก บางคนบอกจะไปรอดหรือ จนในที่สุดการมองการณ์ไกลของคุณพ่อ ทำให้เราสามารถส่งออกมะม่วงคุณภาพไปยังยุโรปและเอเชีย แถมตอนนี้ยังมีเครือข่ายเกษตรที่ปลูกมะม่วงส่งออกด้วยกันอีกหลายร้อยไร่ค่ะ”

เมื่อมีวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงมาตรฐานส่งออก โดยผ่านมาตรฐาน GAP รับรองคุณภาพ ยุ้ยจึงปิ๊งไอเดียจัดการกับมะม่วงที่เหลือจากการจำหน่ายทั้งหมด มาแปรรูปเป็นน้ำมะม่วง โดยใช้เวลาแรมปีในการตีโจทย์ให้ได้น้ำมะม่วงที่มีรสชาติและเทกซ์เจอร์ที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ

“ปกติเราทานน้ำมะม่วงทั่วไป มักจะมีกากใยมะม่วงเหลืออยู่ ซึ่งส่วนตัวคิดว่าบางคนก็ไม่ได้ชอบทานกากมะม่วง แต่ชอบทานน้ำมะม่วงใสๆ รสหวานพอดีและดื่มแล้วสดชื่น จึงทำงานร่วมกับโรงงานผลิตน้ำผลไม้ จนได้สูตรทำน้ำมะม่วงที่ใสและรสชาติกลมกล่อม โดยโจทย์หลักๆ คือต้องไม่มีกาก คงสีสันและคุณค่าของมะม่วงจริงๆ ไว้ให้มากที่สุด และต้องไม่หวานมาก ความจริงยุ้ยอยากได้ความหวานธรรมชาติของมะม่วง แต่ด้วยความที่มะม่วงแต่ละลูกมีความหวานไม่เท่ากันเลย เราจึงต้องเติมน้ำตาลเพื่อให้ความหวานของแต่ละขวดมีรสชาติเดียวกัน”

เจ้าตัวการันตีว่า น้ำมะม่วงกำไร บาย กุสุมา เป็นน้ำมะม่วงจากมะม่วงพันธุ์ดี ทั้งน้ำดอกไม้สีทอง เขียวเสวย จากสวนกำไร และเพื่อให้ทรงคุณค่าของมะม่วงคุณภาพจึงใช้วิธีพาสเจอร์ไรซ์ ซึ่งใช้ความร้อนในระดับ 72 องศา ในเวลา 30 วินาทีขึ้นไป เพื่อฆ่าเชื้อโรคได้บางส่วน แต่จึงยังคงสารอาหารและวิตามินที่มีคุณค่าของมะม่วง ที่สำคัญยังบรรจุขวดที่ห่อหุ้มด้วยพลาสติก เพื่อกันแสงมาทำลายคุณภาพของน้ำมะม่วงอีกด้วย

“หลังจากตกตะกอนความคิดและวางแผนแล้ว พอไปบอกกับครอบครัวและคนรอบข้างว่า จะทำน้ำมะม่วงจำหน่าย ก็มีแต่คนคัดค้านและไม่เห็นด้วย แต่เราคิดแล้วว่าต้องทำได้ ก็เดินหน้าลุยโดยมีสามี พ.ต.อ.ประสิทธิ์ พูนแสงศิริ ผู้กำกับฝ่ายแต่งตั้ง กองทะเบียนพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาเป็นเพื่อนคู่คิดและให้กำลังใจ พร้อมกับลูกน้อยทั้งสามคน น้องพลอย น้องพร้อมและน้องพีม พอได้น้ำมะม่วงบรรจุขวดแล้ว ก็ลองไปให้ผู้ใหญ่หลายๆ ท่านชิม ทั้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ลูกๆ นำไปฝากเพื่อนๆ ก็ได้ผลตอบรับดีมาก หลายคนสั่งเพิ่ม หลายคนขอเป็นตัวแทนจำหน่าย เราผลิตเสร็จเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2559 จนตอนนี้ต้องผลิตล็อตที่ 4 และยังไม่ทันได้ส่งออกไปต่างประเทศอย่างที่ตั้งใจค่ะ” ยุ้ยเล่าด้วยความภูมิใจ

เมื่อสินค้าพร้อม งานด้านการตลาดก็เริ่มต้น ยุ้ยได้ใช้ประสบการณ์จากการทำงานด้านการตลาดที่สั่งสมมา วางแผนให้น้ำมะม่วง บาย กุสุมา มียอดสั่งซื้อจากตัวแทนได้ไม่ยาก แถมยังสามารถขึ้นวางจำหน่ายบนชั้นของท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และจำหน่ายในโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ ในระยะเวลาอันรวดเร็ว

ยุ้ยเล่าต่อว่า “ด้วยความที่เราเป็นคนจริงใจและซื่อตรง การทำงานด้านการตลาดที่อยู่เบื้องหลังให้กับแบรนด์ดังๆ หลายๆ แบรนด์ ทำให้เรามีคอนเนกชันที่ต่อยอดถึงธุรกิจเราได้ไม่ยาก และการที่รู้จักกับผู้ใหญ่จากหลายๆ องค์กร ทั้งภาคเอกชนและแวดวงตำรวจ ทุกคนจึงเอ็นดูและให้ความช่วยเหลือ จนน้ำมะม่วงกำไร บาย กุสุมา มียอดสั่งซื้อและจำหน่ายได้ไม่ยาก ตอนนี้เพียงแค่รอขั้นตอนด้านเอกสาร ก็สามารถจำหน่ายบนห้างสรรพสินค้าได้ ส่วนตัวแทนจำหน่ายนั้น เราก็มีคำแนะนำทั้งด้านการขนส่งและจัดจำหน่าย ด้วยความที่บรรจุภัณฑ์มีน้ำหนักมากพอสมควร การขนส่งจึงต้องรัดกุมมากที่สุด”

หลายคนได้ชิมต่างชมว่า เป็นน้ำมะม่วงที่มีรสชาติโดดเด่น แม้แต่เด็กๆ เพื่อนลูกๆ ที่โรงเรียนต่างก็ชื่นชอบ ยุ้ยจึงมั่นใจว่า การตัดสินใจนำมะม่วงที่เหลือจากสวนของคุณพ่อมาแปรรูปนั้น เป็นเส้นทางทำเงินที่ดีของเธอ และหลังจากจำหน่ายน้ำมะม่วงทั้งในและต่างประเทศแล้ว ยุ้ยยังตั้งใจจะเปิดคาเฟ่จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากมะม่วงเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นไอติมมะม่วง น้ำมะม่วงปั่น พร้อมจะรับผลิตภัณฑ์มะม่วงแปรรูปจากชาวบ้านมาจำหน่าย และเตรียมปูทางขายแฟรนไชส์ไปทั่วประเทศ ด้วยเหตุผลเดียวที่ว่า เธอเป็นลูกสาวเกษตรกรปลูกมะม่วงคุณภาพตัวจริง!