ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดชุดล่าพร้อมตั้งรางวัลนำจับ 3 หมื่นบาท กลุ่ม 'อุลตร้าไทยแลนด์' กองเชียร์ฮาร์ดคอร์ ช้างศึก หลังจุดพลุแฟลร์ ระหว่างศึกฟาดแข้งไทย-อินโดฯ ชิงแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 ผู้จัดการ LIVE ได้รวบรวมความหมายของการเชียร์สไตล์กลุ่มอุลตร้า
เจาะลึกเชียร์สไตล์ “อุลตร้า”
กลุ่ม ‘อุลตร้า’ ไม่ใช่ของใหม่ หากแต่เป็นวัฒนธรรมการเชียร์ฟุตบอลที่มีมานานแล้ว คำว่า "อุลตร้า" ในวงการฟุตบอลเป็นชื่อที่ใช้เรียกกลุ่มกองเชียร์หัวรุนแรง ที่มีสไตล์การเชียร์แนวดุดันกว่ากลุ่มกองเชียร์กลุ่มอื่นๆ เช่น การเชียร์และปลุกเร้านักเตะของทีมตนเองตลอดเวลาของเกมการแข่งขัน ต้องยืนเชียร์ตลอดเกมตามเชียร์ให้มากที่สุด มีการร้องเพลงเชียร์ ใช้พลุไฟ, ธง, ป้ายผ้า เพื่อกดดันฝ่ายตรงข้าม
ว่ากันว่ากองเชียร์กลุ่มดังกล่าวมีจุดเริ่มต้นเมื่อราวปื 1960 ในประเทศอิตาลี มีการจัดตั้งกองเชียร์ของสโมสรโตริโน ในเมืองตูริน เป็นสโมสรแรก ใช้ชื่อ Fedelissimi Granata of Torino จากนั้นอีกหลายสโมสรก็ทำตาม จนถึงปี 1969 ชื่อ ‘อัลตร้า’ ก็ถูกใช้เป็นครั้งแรก โดย 2 กลุ่มกองเชียร์แรกคือกองเชียร์ ‘บลูเชอร์คิอาตี’ ซามพ์โดเรีย ในชื่อ Ultras Tito Cuchiaroni และอีกกลุ่มคือ Ultras Granata ของทีมโตริโนเจ้าเก่า
จุดยืนที่ชัดเจนของ “อุลตร้า” คือสนับสนุนทีมที่ตัวเองรักอย่างถึงที่สุด จากความรักสู่การเชียร์ที่เข้มข้นและเริ่มมีความรุนแรงเข้ามาในปี 1974 โดยเกิดกลุ่มกองเชียร์ Lazio Ultras ของทีมลาซิโอ สโมสรดังในกรุงโรม และกองเชียร์ทีมเฮลลาส เวโรนา ที่สนับสนุนลัทธิฟาสซิสต์ ซึ่งความรุนแรงดังกล่าวถูกแสดงออกแบบสร้างความดุดัน และเกรี้ยวกราด ผ่านบทเพลงเชียร์ และสัญลักษณ์ต่างๆ เพื่อข่มขวัญคู่ต่อสู้ สุดท้ายคือการวิวาทระหว่างแฟนบอลด้วยกันเอง
อย่างไรก็ดีวัฒนธรรมการเชียร์รูปแบบนี้ถูกเลียนแบบและทำตามอย่างต่อเนื่อง จากอิตาลี เข้าสู่เยอรมนี, เบลเยียม และเนเธอร์แลนด์ ฯลฯ ขณะที่อังกฤษ มีกลุ่ม “ฮูลิแกน” ซึ่งเป็นกองเชียร์หัวรุนแรง จุดประสงค์หลักของฮูลิแกน คือ คอยหาเรื่องและยกพวกชกต่อยกับแฟนบอลคู่อริ ที่สำคัญแฟนบอลฮูลิแกนจะไม่นิยมเปิดเผยตัวเองนัก เวลาไปเชียร์มักจะใส่เสื้อลำลองป้องกันไม่ให้ตำรวจรู้หรือจำหน้าได้ ต่างกับแฟนบอลกลุ่มอัลตร้าที่มักใส่เสื้อทีมที่ตัวเองรักให้เจ้าหน้าที่รู้ตัวตน
ไม่เพียงแต่ยุโรปเท่านั้นที่ฮิตและมีอุลตร้า กองเชียร์หัวรุนแรงสายโหดนี้ยังแพร่หลายมายังเอเชียอีกด้วย ที่โด่งดังก็เช่นของกลุ่มกองเชียร์เกาหลีใต้ ในชื่อ Be the Red , Ultra' Nippon ของญี่ปุ่น, Ultras Malaya ของประเทศมาเลเซีย และ "อุลตร้าไทยแลนด์" ที่กำลังโด่งดังในขณะนี้
กำเนิดอุลตร้า ไทยแลนด์
"อุลตร้า ไทยแลนด์" กับคำขวัญที่ว่า Unity and Passion (ด้วยรักและสามัคคี) จะรักและตามเชียร์ทีมชาติไทย ทั้งในและนอกประเทศนั้น เริ่มก่อตั้งอย่างเป็นทางการขึ้นในปี 2012 โดยได้รับแรงบันดาลใจจากกองเชียร์ทีมชาติมาเลเซีย หรือ "อุลตร้า มาลายา" ซึ่งสมาชิกกลุ่ม “อุลตร้าไทยแลนด์” ส่วนใหญ่เป็นแฟนบอลหัวรุนแรงทั่วประเทศไทยที่ส่วนใหญ่เป็นแฟนบอลสโมสรต่างๆ เมื่อถึงการแข่งแมทซ์ระดับชาติก็จะมารวมกลุ่มเชียร์ทีมชาติไทยกัน และการรวมตัวแต่ละครั้งจะมีสมาชิกประมาณ 1,300-1,500 คน
"อุลตร้า ไทยแลนด์" เปิดตัวครั้งแรกในศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 ระหว่าง ไทย ที่พบ มาเลเซีย ที่สนามศุภชลาสัย
เอกลักษณ์ของกลุ่ม อุลตร้า ไทยแลนด์ คือ การสวมชุดดำ และปิดหน้าปิดตาโดยตลอด นอกจากนั้นเวลาที่ทีมชาติไทยจะลงสนามที่ไหน กลุ่มดังกล่าวก็จะไปก่อนกลุ่มอื่นๆ และเชียร์ด้วยความดุดัน รวมถึงจะเชียร์อยู่ที่สแตนฝั่งโซนเอสเสมอ
อื้อฉาว..ทุกครั้งที่ทีมชาติไทยลงแข่ง
การเชียร์ของกลุ่ม อุลตร้า ไทยแลนด์ ที่ผ่านๆมานั้น เรียกได้ว่ารุนแรงและสร้างความรำคาญให้แฟนบอลทั่วไปอย่างมาก ในกระทู้เว็บชั้นนำในโซชียลมีเดีย แฟนบอลทีมชาติไทยที่ได้ไปพบกองเชียร์กลุ่มนี้ยังได้มาโพสต์ระบายความรู้สึกว่า
“พฤติกรรมยอดแย่ มีการรวมกลุ่มใหญ่เดินรองเพลงกันเข้ามาตั้งแต่หน้าสนาม เดินไปก็ จุดไฟ จุดประทัดเสียงดังให้ผู้คนรอบข้างตกใจ รถที่จอดอยู่แถวนั้นสัญญาณกันขโมยร้องกันสนั่นหวั่นไหว ตลอดทางที่คุณเดินมา มีผู้คนที่เขายื่นทานอาหาร ยืนรอเพื่อน ยืนคุยกันอยู่เยอะแยะ คุณก็จุดประทัดตรงนั้นกันดื้อๆ นี่แหล่ะ แม้ว่าผมและผู้คนแถวนั้นจะไม่ถือโทษการกระทำที่คึกคะนองของพวกคุณก็เถอะ แต่เขาไม่สนุกกับพวกคุณด้วยหรอก รำคาญด้วยออกแนวดูแล้วก็เซ็งๆ ด้วยซ้ำ ยิ่งสิ่งที่คุณทำในสนามนั้นเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจมาก ป้ายเตือนก็มี เจ้าหน้าที่ก็บอกแล้วบอกอีก แต่พวกคุณก็ยังทำ คุณได้ยินเสียงโห่ไล่พวกคุณไหมล่ะ? ผมขอร้องล่ะ ผมรู้สึกดีนะที่พวกคุณเชียร์ในสนาม แต่พฤติกรรมอย่างอื่นนั้น มันเกินจะรับไหวว่ะครับ”
ขณะที่บางรายก็โพสต์ระบายความรู้สึกรำคาญถึงกับต้องย้ายที่นั่งหนี เพราะไม่มีความสุขกับกองเชียร์อัลตร้า ว่า “ยืนขวางทางเดิน บังคนนั่ง เอาผ้าปิดตรงราว เวลาดูผมเลยต้องยืนดูทำให้บังคนหลังอีก ยืนขวางบันไดตลอดแนว ยืนออทางเดินข้างล่างตลอดแนว ที่นั่ง ไม่ยอมไปนั่ง เข้าทีหลังมาบังคนอื่น”
สำหรับการเชียร์ที่ก่อให้เกิดปัญหาและถือเป็นครั้งรุนแรงที่สุดก็คือ ในเกม "เอเอฟเอฟ ยู 19 แชมเปียนชิพ 2015" ระหว่างทีมชาติไทย กับทีมชาติเวียดนามที่สนามกีฬาแห่งชาติลาวนั่นเอง “อุลตร้า ไทยแลนด์” ก่อเหตุชุลมุนจนสร้างความไม่พอใจให้กับแฟนบอลท้องถิ่น และแฟนบอลเวียดนาม จนเกิดเรื่องทะเลาะกัน และส่งผลให้ถูกเจ้าหน้าที่ ตม.สปป.ลาวจับกุมเป็นจำนวน 25 คน ก่อนที่ทางการไทยจะช่วยประสาน จนทางการลาวยอมปล่อยตัวแฟนบอลกลุ่มดังกล่าว
ล่าสุดเรียกได้ว่าส่งท้ายปี 2559 Ultras Thailand กับพลุไฟในสนามครั้งนี้น่าจะเป็น ‘บทเรียน’ ครั้งสำคัญ ที่ควรต้องกลับไปทบทวนและกำหนดบทบาทตัวเองใหม่ให้ชัดเจนว่าควรจะเปลี่ยนพลังเชียร์ให้สร้างสรรค์หรือจะดื้อดึงให้เป็นปัญหาเรื้อรังต่อไป
ขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก Pantip
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754
