xs
xsm
sm
md
lg

แหกกฎ ไร้สำนึก! เที่ยวเชิงล้างผลาญ มนุษย์ยุคเซลฟี่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ฤดูท่องเที่ยว (เชิงล้างผลาญ) กลับมาอีกแล้ว! ยิ่งหน้าหนาว น่าเที่ยว มนุษย์บ้ากล้องรีบแพกกระเป๋าออกลั้ลลา พาเดอะแก๊ง และน้องหมาบุกเซลฟี่ ล่าสุดแปลงวิจัยดอกเก๊กฮวย ม.แม่โจ้ เสียหายหนัก เมื่อนักท่องเที่ยวไม่แคร์ป้าย แหกกฎเข้าไปเหยียบย่ำ หรือที่ระเบียงไม้ชมวิวบนกิ่วแม่ปาน จ.เชียงใหม่ ด้วยสำนึกก็น่าจะรู้ว่าห้ามปีนขึ้นไปนั่งเพราะอาจทำให้ระเบียงไม้เสียหาย และอาจตกลงไปตายได้ แต่บางคนแถ บอกไม่เห็นมีป้ายเตือน ล่าสุดนักแสดงหนุ่มชื่อดังงานเข้าถูกวิจารณ์ยับหลังปีนขึ้นไปนั่งห้อยขาท้าความเสียว

ทุ่งดอกเก๊กฮวย เหยื่อมนุษย์เซลฟี่

เข้าสู่หน้าหนาวแบบนี้ ดอกไม้เมืองหนาวนานาชนิดทางภาคเหนือกำลังผลิดอกอวดความสวยงาม รวมทั้ง "ทุ่งดอกเก๊กฮวย" ในฟาร์มของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ แต่ล่าสุดกลับตกเป็นเหยื่อท่องเที่ยวเชิงล้างผลาญของมนุษย์ยุคเซลฟี่ที่ชวนเพื่อนพ้องน้องพี่ และคนรัก รวมไปถึงน้องหมา แหกกฎบุกเข้าไปถ่ายเซลฟี่ แถมเหยียบย่ำนั่งทับจนทำให้ผลผลิตที่เป็นรายได้ของชาวบ้านเสียหาย เกิดเป็นกระทู้ร้องเรียนในเว็บไซต์พันทิป ชวนให้ตั้งคำถามถึงจิตสำนึกที่หายไปกับการแลกมาเพื่อภาพสวยๆ ของคน (บางกลุ่ม) ในยุคบ้ากล้อง หรือยุคเซลฟี่

ทันทีที่ภาพ และข้อความดังกล่าวถูกโพสต์ขึ้น ได้มีการส่งต่อในโลกออนไลน์อย่างแพร่หลาย โดยส่วนใหญ่เข้ามาแสดงความเห็นไปในทางตำหนิผู้มาเยือนนิสัยเสีย พร้อมเรียกจิตสำนึกในการเที่ยวชม โดยเฉพาะความเป็นธรรมชาติที่มักจะถูกทำลายด้วยน้ำมือมนุษย์











"ดูจากรูปแล้ว ไม่มีผู้สูงอายุสักคน มีแต่วัยที่อยู่ในยุคการศึกษาทั่วถึงแล้ว แล้วเดาเอาเองว่า อีก 20-30 ปีข้างหน้า อนาคตประเทศไทยจะเป็นอย่างไร"

"ท่องเที่ยวแบบไทยๆ ไปเที่ยวถึงไหนความพินาศตามไปถึงนั่น"


"ป้าย และเชือกคงจะไม่พอ ต้องมีคนไปเฝ้าถึงจะสำนึกได้ว่าห้ามเข้า บวกกับสกิวเนียนตามคนอื่น เห็นป้าย แต่คนอื่นเข้าได้เลยเข้าบ้าง ไม่แปลกใจว่าบ้านเราไม่ไปไหนกับเขาสักที เพราะยังมีคนแบบนี้อยู่"


"นี่แหละเหตุผลว่าทำไมเรายังเป็นประเทศกำลังพัฒนา (ลง?) ผมมองว่าการเป็นประเทศพัฒนาแล้วเรื่องระเบียบวินัยและสามัญสำนึกโดยภาพรวมเป็นตัวชี้วัดสำคัญกว่า การเป็นประเทศผู้ผลิต หรือประเทศผู้บริโภค"


นอกจากนั้น ยังมีความเห็นที่เสียดสีคนไทยไว้อย่างเจ็บแสบ "ป้ายแบบนี้ทำไรคนไทยไม่ได้หรอก ต้องเขียนว่าเก๊กฮวยศักดิ์สิทธิ์ กราบไหว้เพื่อต่ออายุ ปลุกเสกโดยหลวงพ่อเนือง ห้าม ลบหลู่ รับรอง งามสะพรั่งทั่วทุ่ง"


สำหรับแปลงเก๊กฮวยดังกล่าวนี้ เป็นโครงการที่ส่งเสริมพัฒนาอาชีพให้กับชาวบ้านเกษตรกรภายใต้การกำกับดูแลของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยเก๊กฮวยเหลืองอร่ามบนพื้นที่กว่า 3 ไร่เป็นพันธุ์ดอกเหลือง ซึ่งขณะนี้กำลังบานเต็มที่ ส่งกลิ่นหอมละมุน และกำลังจะได้การรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์สากล USDA ของสหรัฐอเมริกาโดยจะเป็นแห่งแรกในประเทศไทย


ทว่า นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะคนไทยด้วยกันเองกำลังทำลายความสวยงามด้วยการท่องเที่ยงเชิงล้างผลาญประจานความไร้มารยาท ดังนั้น ก่อนจะสร้างความอับอายภาตใต้ความเป็นไทยแลนด์ไปมากกว่านี้ ควรให้ความร่วมมือกับทางมหาวิทยาลัยด้วยการเดินถ่ายรูปตามร่องแปลงที่กำหนดไว้ให้ อย่าเดินลัดแปลงหรือเหยียบย่ำต้นเก๊กฮวยจนทำให้ดอกเสียหาย และกระทบรายได้ของเกษตรกร


แหกกฎ เสี่ยงตายที่ "กิ่วแม่ปาน"


เป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวยอดฮิต และกำลังตกเป็นประเด็นดราม่าสนั่นโซเชียลฯ กรณีนักท่องเที่ยวหลายคนแหกกฎปีนขึ้นไปยืน และนั่งบนราวระเบียงชมวิวที่กิ่วแม่ปาน พร้อมกับถ่ายรูปออกมาอย่างสวยงาม จนถูกตำหนิถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสม เพราะบริเวณดังกล่าวมีป้ายห้ามนักท่องเที่ยวนั่งหรือปีนราวไม้ และอาจมีผู้ทำตามจนทำให้ระเบียงไม้เสียหาย และอาจเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยวได้




หนึ่งในนั้นเป็นเจ้าของกระทู้รีวิวการท่องเที่ยวในเว็บไซต์พันทิปที่ตั้งกระทู้ว่า "[SR]ปลายฝนต้นหนาว ออกไปกอดหมอก บอกรักกิ่วแม่ปาน" ซึ่งมีภาพของตัวเองขึ้นไปยืนโพสท่าสวยงามบนราวระเบียงชมวิวที่กิ่วแม่ปาน พอมีคนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ก็ตอบกลับอย่างเผ็ดร้อน โดยอ้างว่าบริเวณที่ขึ้นไปยืนนั้นไม่มีป้ายห้าม อีกทั้งได้ขออนุญาตคนนำทางแล้ว แต่เมื่อผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ออกมายืนยันผ่านสื่อว่าไม่เคยอนุญาตให้นักท่องเที่ยวปีนขึ้นไปยืนหรือนั่งถ่ายรูปบนระเบียงไม้จุดชมวิวกิ่วเเม่ป่านก็ทำเอาแถไม่ออก

ร้อนไปถึงหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ต้องเรียกประชุมหารือในเรื่องดังกล่าวโดยเบื้องต้นยืนยันว่าทางมัคคุเทศก์ท้องถิ่น ได้มีการเตือนเรื่องของข้อปฏิบัติที่ชัดเจนกับการท่องเที่ยว และบางทีนักท่องเที่ยวไม่มีการขอกับทางมัคคุเทศก์ท้องถิ่นในการปีนขึ้นไปถ่ายภาพ และที่สำคัญยืนยันว่าตรงจุดนั้นมีป้ายคำเตือนชัดเจน "อันตราย ห้ามปีนหรือยืนบนราวไม้" นอกจากนั้นยังมีการเน้นย้ำ และการคาดโทษมัคคุเทศก์ท้องถิ่นเองด้วยหากมีการปล่อยปละละเลยให้นักท่องเที่ยวประพฤติตนไม่เหมาะสม หรือผิดกฏระเบียบของทางอุทยานฯ


นอกจากกรณีดังกล่าวนี้แล้ว ยังมีการเตือนไม่ควรเอาอย่างนักแสดงชายชื่อดังรายหนึ่งจากเรื่อง "พิษสวาท" ที่ปีนขึ้นไปนั่งห้อยขาท้าลมหนาวบนราวระเบียงชมวิวที่กิ่วแม่ปานด้วย โดยส่วนใหญ่เข้าไปเตือนด้วยความเป็นห่วงถึงอันตราย และเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ซึ่งเจ้าตัวได้เข้าไปตอบกลับคอมเมนต์ว่า "มีเจ้าหน้าที่ดูแลตลอด ใจเย็นๆ ก่อนจะว่าใครเนอะ" แต่ต่อมาก็ได้มีการลบภาพดังกล่าวออกไปจากอินสตาแกรม






อย่างไรก็ดี แม้จะมีข่าวเตือนด้วยความเป็นห่วง ทว่า มีผู้ใช้สื่อโซเชียลฯ รายหนึ่งกลับปีนขึ้นไปยืนโพสท่าท้าความเสียวแบบไม่กลัวตกลงไปตายทั้งๆ ที่ทราบดีว่ามันอันตราย โดยเธอบอกว่า เพื่อสาธิตให้ดูว่านี่คือตัวอย่างที่ไม่ดี นำไปสู่เสียงวิพากษ์วิจารณ์สนั่นโซเชียลฯ ว่าทำไปเพื่ออะไร อยากดังหรือเปล่า ถ้าตกลงไปตายนอกจากเป็นข่าวดังสมใจแล้ว ยังทำลายภาพลักษณ์สถานที่ดังกล่าวไปพร้อมๆ กันด้วย

ก่อนจะมีผู้ใช้สื่อโซเชียลฯ รายหนึ่งเสนอว่า ในเมื่อป้ายเตือนดีๆ อ่านกันไม่เข้าใจ "ปีนป่ายกันตามสบาย ตกลงมาตายไม่รับเก็บศพ" น่าจะเตือนสติได้มากกว่า




กี่ครั้งแล้ว...ทำไมไม่สำนึก

ทั้งสองกรณีที่เกิดขึ้น ชวนให้นึกถึง "ทุ่งหญ้าหิมะ" ย่านเกษตรฯ-นวมินทร์ ที่ครั้งหนึ่งเคยสวยงาม และอยู่อย่างสงบ แต่พอมีคนโพสต์ภาพ และปักหมุดให้มาเที่ยวชม ไม่ช้าก็มีผู้มาเยือนอย่างมนุษย์กล้อง มนุษย์เซลฟี่เดินทางมาเก็บภาพสวยๆ กลับบ้าน ทว่าบางคนลืมพกมารยาทติดตัวมาด้วย โดยหวังเอาแต่ได้ด้วยการเก็บภาพสวยๆ กลับไป แต่ดันลืมเก็บขยะของตัวเองออกไปด้วย


นอกจากนั้นยังสะท้อนนิสัยการท่องเที่ยวเชิงล้างผลาญด้วยการด้วยการเหยียบย่ำจน "ทุ่งหญ้าคา" หรือ "ทุ่งหญ้าหิมะ" กลายเป็น "ทุ่งยับเยิน" นำไปสู่การตั้งคำถามถึงจิตสำนึกที่หายไปกับการแลกมาเพื่อภาพสวยๆ ของคน (บางกลุ่ม) ในยุคบ้ากล้อง หรือยุคเซลฟี่



อีกหนึ่งกรณีที่ภาพลักษณ์ไทยแลนด์ถูกทำลาย และสร้างความอับอายไปทั่วโลก คงหนีไม่พ้น 'ต้นไม้แห่งปรัชญา" หนึ่งในไฮไลต์ยอดฮิตกลางท้องทุ่งในเมืองบิเอ จังหวัดฮอกไกโดของประเทศญี่ปุ่นที่ถูกตัดทิ้งไปแล้ว โดยในครั้งนั้นสื่อญี่ปุ่นระบุชัดเจนว่า ปัญหาเกิดจากนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งเป็นคนไต้หวัน และคนไทยที่ไม่รักษามารยาท เข้าไปถ่ายภาพแล้วเข้าไปบุกรุกแปลงผักโดยไม่ได้รับอนุญาต ซ้ำร้ายยังเหยียบแปลงผักรอบๆ บริเวณดังกล่าว แม้ที่ผ่านมาเจ้าของพื้นที่จะมีการติดป้ายเตือนหลายภาษาแล้วก็ตามแต่ไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร

"...นั่งจุกอยู่หน้าทีวีทีเดียว เพราะเขาพูดว่า "คนไทย" ออกทีวีอย่างชัดเจน ปัญหาทำนองนี้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไม่รักษามารยาท ถูกบ่นมากขึ้นในญี่ปุ่น แต่คนญี่ปุ่นนั้นทำอะไรมากไม่ได้ เพราะมองว่านักท่องเที่ยวอย่างเราๆนั้นเป็น "แขกของประเทศ" เพื่อนๆ จะมาเที่ยวก็ขอให้ช่วยกันรักษามารยาท ตามธรรมเนียมท้องถิ่นของเขา (ไม่ใช่ของเราๆ) ให้สมกับเป็นแขกของประเทศเขาหน่อยน่ะครับ"


เป็นข้อความตอนหนึ่งจากคุณ sasrp เจ้าของกระทู้ "Tree of philosophy ที่ฮอกไกโด ถูกตัดทิ้งแล้ว เพราะปัญหาจากนักท่องเที่ยว" ในเว็บไซต์พันทิปที่เคยอ้างอิงมาจากข่าวของเพื่อนในญี่ปุ่น สะท้อนให้เห็นจุดจบของแหล่งท่องเที่ยวสวยๆ ที่เหลือแต่ความทรงจำ เนื่องจากความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ของนักท่องเที่ยวนิสัยเสีย


ก่อนจะสะกิดต่อมสำนึกของนักท่องเที่ยว (บางคน) ซึ่งพอจะนำมาสรุปทิ้งท้ายในประเด็นนี้ได้เป็นอย่างดีว่า "...อย่าเอาแต่ตัวเองเป็นที่ตั้ง ฉันอยากได้รูปสวยๆ เรื่องของฉัน ใครจะทำไม เหลือสิ่งดีๆ สวยๆ งามๆ ไว้ให้คนอื่นบ้างครับ อย่าท่องเที่ยวเชิงทำลายกันเลย"


ดังนั้น "คนไทยเป็นนักท่องเที่ยวเชิงล้างผลาญ นิสัยเสีย ไร้มารยาท" คงไม่มีใครอยากให้ประเทศอื่นมาว่าเราแบบนี้ ทางที่ดีไปเที่ยวด้วยใจอนุรักษ์ และสำนึกที่ดีกันเถอะ อย่างน้อยๆ ก็ช่วยกันแสดงให้ชาวโลกได้เห็นว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่เจริญแล้วจริงๆ โดยเฉพาะจิตสำนึกของคนในชาติ

ขอบคุณภาพบางส่วนจาก เพจเฟซบุ๊ก Raks Mae Ping, สมาชิกพันทิปหมายเลข 3475157, Somewhere Someone, เหนื่อยนักก็พักก่อน




มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น