แม้กระแสสังคมต่อต้านการอ่านหนังสือติวหนังสือของนักเรียนนักศึกษาในร้านฟาสต์ฟู้ดนั้นจะมีมานานแล้ว แต่ไม่ได้ลดน้อยลงเลย! ล่าสุด เกิดขึ้นที่ร้านเบอร์เกอร์ชื่อดังแห่งหนึ่งกลางเมืองเชียงใหม่ พบนิสิตนักศึกษาจับจองที่นั่งนั่งกันเต็มร้าน จนเขาไม่มีที่นั่ง และยังมีเพื่อนร่วมชะตากรรมที่ซื้ออาหารมาแล้วแต่ไม่รู้จะนั่งตรงไหนอีกเพียบ หนักกว่านั้นคือบางโต๊ะมีแค่น้ำเปล่าขวดเดียว หนำซ้ำยังไม่ใช่ยี่ห้อที่ทางร้านขายด้วย! ไม่อ่านหนังสือ เอาแต่นั่งเซลฟี่ และยังนั่งกั๊กเก้าอี้ให้เพื่อนที่ยังไม่มา วางกระเป๋าเต็มโต๊ะ
อดรนทนไม่ไหว! สมาชิกเว็บไซต์พันทิปได้มีการตั้งกระทู้ "ผมคิดว่าร้านฟาสต์ฟู้ดไม่ใช่ที่เหมาะแก่การติวหนังสือนะครับ" หลังจากที่ตัวเองได้เข้าไปในร้านฟาสต์ฟู้ดแห่งหนึ่ง แต่กลับมีนักศึกษานั่งติวหนังสืออยู่แน่นร้าน จนไม่มีที่นั่งให้ลูกค้าคนอื่น ต้องไปนั่งนอกร้านที่มืดและยุงชุม!
“ผมได้มีโอกาสไปใช้บริการร้านเบอร์เกอร์ราชาแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ร้านนี้ไปกินค่อนข้างบ่อยส่วนใหญ่สาขานี้ลูกค้าจะเป็นชาวต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการเพราะอยู่ใกล้ประตูแพ แต่ครั้งนี้บรรยากาศเปลี่ยนไป เจอแต่น้องๆ นศ. เข้ามาจับจองโต๊ะอ่านหนังสือจนเต็มทุกโต๊ะในร้าน บางโต๊ะมีแค่น้ำเปล่าขวดเดียวซึ่งไม่ใช่ยี่ห้อที่ทางร้านขาย มีชาวต่างชาติร่วมชะตากรรมเดียวกันกับผมหลายคน สั่งอาหารเสร็จมองหาโต๊ะจะนั่งทาน แต่โต๊ะไม่ว่างเลยจนชาวต่างชาติต้องสั่งแบบกลับบ้านไปทาน ซึ่งผมก็นึกไม่ออกนะว่าเค้าจะเอาไปทานที่ไหน
ส่วนน้องๆ นศ.กลุ่มนี้บางโต๊ะมีแค่เฟรนช์ฟรายส์แล้วนั่งเซลฟี่กัน บางโต๊ะก็ไม่มีอะไรเลย(สงสัยทานกันเสร็จแล้ว)พวกผมและลูกค้าท่านอื่นๆ เลยต้องออกมานั่งโต๊ะส่วนของด้านนอกซึ่งมืดมาก แล้วยุงชุมมาก
เพิ่มเติมครับ จังหวะที่ผมกำลังสั่งอาหารและได้พูดคุยกับผู้จัดการสาขาว่าไม่มีโต๊ะนั่งเลย พอดีมีลูกค้าต่างชาติกำลังลุกจากโต๊ะแต่จังหวะนั้นเอง น้องๆ นศ. ที่อยู่โต๊ะข้างๆ ก็ย้ายมานั่งกั๊กให้เพื่อนและวางกระเป๋าอยู่เต็มโต๊ะ ผมเลยจำใจต้องไปนั่งนอกร้านเพราะแฟนไม่อยากให้ผมมีปัญหา”
ทั้งนี้ เขาได้ฝากถึงน้องๆ นศ.ทุกคนที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายแบบนี้ ควรมีจิตใต้สำนึกในสังคมกันบ้าง
หลังจากที่เรื่องราวนี้ถูกแชร์กันในโลกโซเชียลฯ ผู้มีประสบการณ์ตรงต่างแชร์เรื่องราวปรับทุกข์กันมากมาย นอกจากนี้ ยังมีหลายคนเป็นห่วงน้องนิสิต นักศึกษา ที่เติบโตไปจะนำนิสัยเบียดเบียนคนอื่นไปใช้ในที่ทำงานด้วยหรือไม่ นอกจากนี้ ยังแนะนำผู้จัดการร้านมีมาตรการเคร่งครัด
“วันนั้นไปหาแมคฯกินตอนเกือบๆจะเที่ยงคืนที่สวนดอกพาร์ค มีแต่คนนั่งติวนั่งอ่านหนังสือกันเต็มไปหมด บนโต๊ะบางโต๊แทบไม่มีอาหารเหลือด้วยซ้ำ ส่วนเราไม่มีโต๊ะกินเลย ต้องหอบเอาแมคฯออกมากินนอกร้าน”
“เป็นเรื่องที่เจ้าของร้าน ต้องแก้ปัญหาครับ เพราะถ้าร้านขายของแล้วไม่มีที่นั่งให้ลูกค้า มันก็ไม่สมควรครับ ส่วนใหญ่จะเป็นร้านพวกแมคโดนัล เคเอฟซี หรือร้านกาแฟอย่างสตาร์บัคส์มากกว่า ร้านค้าแบบนี้ไม่มีเจ้าของมาคอยคุม จะมีก็ผู้จัดการร้าน ซึ่งจะไม่กล้าพูดกับลูกค้าที่นั่งนาน เมื่อทางร้านไม่แก้ปัญหา เราก็อย่าไปทานครับ ยอดขายของร้านก็จะตก ทางเจ้าของร้านหรือเจ้าของแฟรนไชส์ก็คงต้องเข้ามาหาสาเหตุ ผมว่าคนเราไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ ควรรู้ครับว่าอะไรควรหรือไม่ควร ไม่อย่างนั้นแล้ว พอโตขึ้นและมีครอบครัว แล้วจะไปสอนลูกๆได้ยังไง!
"ทำไมพวกเอ็งไม่ติวใต้หอพัก ติวหอนอกเพื่อน ติวสโมสร นศ.ที่สาธารณะเยอะแยะที่เปิดไฟช่วงกลางคืนแต่อยู่ในมหาลัย อย่าอ้างว่าหอแยกเข้าไม่ได้ มีที่เยอะแยะเลยติวได้สมัยเรียน ก็จบมาได้ไม่เคยไปติวร้านอาหารหรอก หรือถ้าพวกเอ็งจะติวจริงๆต้องดูด้วยว่าเวลานั้นเค้ามีลูกค้าแน่นรึเปล่า อย่าดูแค่ว่าร้านเค้าอนุญาต เพราะบางทีเค้าอาจจะอนุญาตตามมารยาท.."
"มันแก้ยากจริงๆเรื่องนี้ เพราะมีคนหนุนหลังทั้ง 2 ทาง อย่างพวกนั่งนานๆก็มีฝ่ายนึง พวกไม่อยากให้นั่งนานก็มีฝ่ายนึง เดี๋ยวพอทางร้านตั้งกฎห้ามนั่งเกิน 1 ชม ขึ้นมาลูกค้าก็เอามาเป็นประเด็นอะไรกันอีก ประเทศนี้ยังไงๆทุกอย่างก็เกิดดรามาได้หมดครับ อะไรนักหนากันก็ไม่รู้ แต่ส่วนตัวไม่ชอบเหมือนกันคนแน่นร้านแต่กำลังกินจริงๆไม่เท่าไร ที่เหลือบางส่วนติว อ่านหนังสือ วางโน้ตบุ๊กทำงาน"
อย่างไรก็ดี ความคิดเห็นแตกออกเป็น 2 ฝ่าย เมื่อมีฝ่ายลูกค้าทั่วไปของฟาสต์ฟู้ด ก็ต้องมีฝ่ายของนักเรียน นักศึกษา ที่มานั่งติวหนังสือ มุมมองส่วนใหญ่ของพวกเขากลับโบ้ยว่า ผู้ใหญ่เห็นแก่ตัว เพราะไม่ได้ละเมิดสิทธิ์ใคร ที่สำคัญ ไม่ได้มานั่งฟรีๆ ก็สั่งของกินเหมือนกัน ไม่เห็นจะผิดตรงไหน มาติวหนังสือที่นี่จะได้มาเจอเพื่อนอธิบายเนื้อหาในบทเรียนให้เข้าใจกัน
“นี่คือทัศนคติของผู้ใหญ่เหรอครับ การมองเห็นแต่ปัญหาของตนเอง แล้วชี้นิ้วว่าให้คนอื่น ผมก็มองว่าคนพวกนี้เป็น “คนเห็นแก่ตัว” เหมือนกันครับ ทำไมไม่มองถึงสาเหตุว่าปัญหาคืออะไร ต้องแก้ยังไง ผมก็ไม่เห็นว่าพี่ๆเพื่อนๆน้องๆของผม ละเมิดสิทธิ์ในตรงไหน มีป้ายตรงไหนบอกไหมว่า โต๊ะสำหรับรับประทานอาหาร สามัญสำนึกคือสิ่งที่ “พึงกระทำ” ไม่ใช่สิ่งที่ “ต้องกระทำ” เรียกตัวเองว่าผู้ใหญ่ได้ไงวะ”
ทว่า การอ่านหนังสือให้ได้ผลดี นอกจากความเงียบ แล้วยังมีเรื่องของ สภาพแวดล้อม อากาศ แสง และสิ่งเร้า เช่น ทีวี คอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจจะทำให้ดึงความสนใจไปจากหนังสือได้ ทว่าหากตั้งใจมาอ่านหนังสือจริงๆ ก็ควรจะมีกาลเทศะ และจิตสำนึกในการอยู่ร่วมกันของสังคมด้วยมั้ย!?
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754