เป็นไปตามคาดเหมือนข่าวลือเป๊ะ! กับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ทั้งคุณสมบัติกันน้ำ กันฝุ่น ระบบกล้องดิจิตอลคู่ หูฟังไร้สายหมดปัญหาสายพันกัน พร้อมสีใหม่ Jet Black ที่ดูหรูหราไฮโซเหนือระดับ แบตอึดขึ้น หลายคนบอกว่าไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์ไร้ความแปลกใหม่ ดีไซน์ไม่เจ๋งเหมือนไอโฟน 6 ทั้งดุ้น แค่บางกว่า การออกแบบราวกับตายเซย์กู้ดบายไปแล้วกับสตีฟ จ็อปส์ ทว่า สาวกไอโฟนหลายคนก็ยังคงเชื่อว่า รุ่นนี้ เป็นไอโฟนที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา! แถมยังมีความเชื่อที่ว่า ใครก็ตามที่ใช้ไอโฟน จะดูดีมีระดับ ดั่งวัตถุแสดงฐานะ
ไอโฟน 7 โดน(ใจ)มั้ย!?
การสั่งซื้อ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus จะเริ่มต้นตั้งแต่วันศุกร์ที่ 9 กันยายนเป็นต้นไป โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 16 กันยายน ซึ่งแน่นอนไม่มีประเทศไทย อาจจะต้องรอประมาณเดือนตุลาคม เบื้องต้น iPhone 7 เคาะราคาเริ่มต้นที่ 649 เหรียญหรือ 22,500 บาทสำหรับรุ่นความจุ 32GB (ไอโฟนรุ่นนี้ตัดความจุ 16 GB ออกแล้ว)ขณะที่ iPhone 7 Plus ราคาเริ่มต้น 769 เหรียญสูงกว่าเดิมด้วยความจุเท่ากัน บนดีไซน์ที่มองเหมือน iPhone 6S และ iPhone 6
ราคาสูงสุดของ iPhone 7 อย่างรุ่น 256GB คือ 849 เหรียญ (ราว 29,500 บาท) ขณะที่ iPhone 7 Plus หน้าจอใหญ่กว่านั้นทะลุไปถึง 969 เหรียญ (33,600 บาท)
มาพร้อมพอร์ตเดียวคือ Lightning EarPods จุดนี้ Apple ไม่เพียงแถมหูฟังที่ใช้ต่อผ่านพอร์ต Lightning แต่ยังแถมอแดปเตอร์เพื่อให้ผู้ใช้นำไปต่อกับพอร์ต Lightning สำหรับใช้กับหูฟังดั้งเดิมแบบ 3.5มม ได้เช่นเดิม โดยแอปเปิลระบุว่าราคาขายของอแดปเตอร์นี้อยู่ที่ 9 เหรียญเท่านั้น
สำหรับคำถามที่ว่า ทำไมต้องเอาช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ออก ฟิล ชิลเลอร์ (Phil Schiller) รองประธานอาวุโส หัวหน้าทีมการตลาดของแอปเปิลยอมรับว่าช่องต่อหูฟังนี้อยู่คู่ชาวโลกมานาน แต่เชื่อว่าการเริ่มต้นมิติใหม่ครั้งนี้จะเป็นเรื่องที่ดีกว่า โดยเฉพาะการนำมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายใหม่มาใช้บนชิปใหม่ W1
อย่างไรก็ดี ไอโฟนใหม่ iPhone 7 ถูกการันตีว่าสามารถกันน้ำลึก 1 เมตรได้นาน 30 นาทีด้วยมาตรฐาน IP67 ขณะเดียวกันก็มาพร้อมลำโพงสเตอริโอใหม่บริเวณส่วนบนและล่างของเครื่อง ทั้งหมดนี้รวมอยู่ในเครื่องบางเท่ากับรุ่น 6s
นอกจากนี้ ทั้ง iPhone 7 (หน้าจอ 4.7 นิ้ว) และ 7 Plus (หน้าจอ 5.5 นิ้ว) ต่างมีกล้องดิจิตอล 12 ล้านพิกเซลพร้อมระบบกันภาพสั่น ทั้งคู่มาพร้อมกล้อง f/1.8 บนเซ็นเซอร์ความเร็วสูง แฟลชเป็น quad-LED True Tone เพื่อแสงสีของภาพที่ได้
ส่วนรุ่น 7 Plus มีกล้อง 12 ล้านพิกเซลจำนวน 2 ตัว โดยตัวแรกเป็นกล้องสำหรับเก็บภาพมุมกว้าง ขณะที่อีกตัวเป็นกล้องเทเลโฟโต้ 56มม ทั้งคู่สามารถซูมได้
สำหรับใหม่ล่าสุดอย่างสีดำ Jet Black ที่ความหรูหรา ดูไฮโซขึ้น น่าจะเป็นที่ถูกอกถูกใจใครหลายๆ คน แต่ใครที่อยากได้ต้องเลือกรุ่น 128 หรือ 256GB เท่านั้น นั่นแปลว่าใครที่เล็ง iPhone 7 หรือ 7 Plus รุ่น 32GB สีดำ Jet Black หมดสิทธิ์ทันที หากอยากได้จริงๆ ก็ต้องจ่ายแพงขึ้น
ผู้ประกอบการยิ้มร่า! ความต้องการสูงถึงปีหน้า!
สาวกไอโฟนตั้งหน้าตั้งตารอเตรียมกำเงินหมื่นให้พร้อม สำหรับการวางจำหน่ายในประเทศไทยนั้นคาดว่าจะเป็นในช่วงปลายเดือนตุลาคม นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอทีรายใหญ่ของประเทศไทย ในนาม BaNANA, iStudio, iBeat, uStore และ iCare By Comsevenกล่าวว่า เป็นปรากฏการณ์อีกครั้งสำหรับ Apple ที่เปิดตัวสินค้าเรือธงตัวใหม่ล่าสุด iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าในประเทศไทยเป็นอย่างมากดังเช่นทุกครั้ง ที่มีการเปิดตัวสินค้าใหม่ของ Apple ออกมา โดยคาดว่าจะวางจำหน่ายในประเทศไทยได้ในช่วงปลายตุลาคมนี้ สนับสนุนผลงานไตรมาส 4/59 ซึ่งปกติจะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจให้มีการเติบโตอย่างโดดเด่น
นอกจากนี้ ยังมั่นใจว่า จะยังคงมีความต้องการสูงต่อเนื่องไปยังปี 60 เนื่องจากสินค้าที่เข้ามามีจำกัดเมื่อเทียบกับความต้อง การซื้อที่มีอยู่มาก พร้อมเชื่อว่า ด้วยคุณสมบัติตัวเครื่อง , ดีไซน์ และจุดเด่นต่างๆ ตอบโจทย์การเป็นที่สุดแห่งสมาร์ทโฟนยอดนิยมที่ จะได้รับการตอบรับจากสาวกไอทีในประเทศไทยเป็นอย่างดี
โซเซียลฯล้อ! หูฟังหรือไดร์เป่าผม
อย่างไรก็ดี เราลองมาดูมุมของของโลกโซเชียลฯ และผู้บริโภคกันดูบ้างว่า ฟีดแบ็กหลังเปิดตัวไอโฟน 7 จะเป็นอย่างไร เริ่มจากเพจเฟซบุ๊ก Drama-addict “live เปิดตัว iphone7 กับอุปกรณ์อื่นๆ หูฟังไร้สายของแอปเปิลนี่หน้าตาไม่ว้าวเลยว่ะ แต่ฟังก์ชันน่าสน”
พร้อมกับโพสต์ภาพล้อเลียนหูฟังไร้สาย ตัวใหม่ของไอโฟน 7 จากทวิตเตอร์ 9GAG พร้อมแคปชัน “Introducing the new apple Earpods” เป็นภาพของไดร์เป่าผมสีขาวนั่นเอง ส่วนอีกภาพก็เป็นฝักบัวอาบน้ำ
“จะซื้อมาใช้บ้าง ผมจะได้แห้งเร็ว”
ส่วนเพจ อีเจี๊ยบ เลียบด่วน ซึ่งมักจะมีการโพสต์ข้อความกวนๆเจ็บๆคันๆ ยังบอกว่า
“ไม่มีอะไรตื่นเต้น ข่าวอะไรหลุดมาก็ตามนั้นหมด ไม่ได้ลึกลับห่าอะไร ไม่ได้มีเซอร์ไพรซ์อะไรเหมือนยุค ตี๊ฟจ๊อบ
แต่พวกไอโฟนเข้ากระแสเลือด แม่งก็ซื้อเหมือนเดิม แต่อาจจะไม่บูม เหมือนสมัยก่อนๆ กูก็เฉยๆ ยกเว้นจะได้ฟรี 55555555”
สำหรับหลายคนที่ชอบใช้หูฟังกับไอโฟนคงจะชินแบบการมีสายเสียบ แต่สำหรับ iPhone 7 และ 7 Plus ตัดแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ทิ้งไป มี dongle lightning เพื่อใช้ต่อกับสายหูฟังปกติได้ พร้อมการมาของหูฟังไร้สายแบบใหม่ AirPods เชื่อมต่อได้กับ iPhone 7 และ 7 Plus และ Apple Watch ได้ด้วย แน่นอนว่าก่อให้เกิดความยุ่งยากในการใช้งานแก่ผู้ใช้ที่ชินกับการต่อหูฟังแบบเดิม ทว่าสำหรับชาวโซเชียลฯ หลายคนยังดูเป็นกังวลกับหูฟังไร้สาย ซึ่งแม้จะไม่ได้ให้มาพร้อมกล่อง แต่ต้องซื้อเพิ่มประมาณ 6,900 บาท ก็หวั่นว่าจะหายอีก
“หมดปัญหาสายพันกัน ถ้าจะทำหูฟังไร้สายออกมาแบบนี้ กรุณาทำ App Find My AirPods ติดมาให้ด้วยเถอะ หายแน่นอน”
“หูฟังหน้าตาไม่ผ่าน!”
“จะตื่นตูมอะไรขนาดนั้น ไอ้ที่แถมมากับกล่องน่ะมีสาย แต่ต่อตูด Lightning (ใครใช้หูฟัง3.5 เค้าก็มีAdapterให้) ส่วนไอ้ไร้สายที่โวยๆกันว่าจะทำหายเนี่ย เค้าขายเพิ่ม อันละ 159$ เห็นลือกันเข้าไทยประมาณ 6,900บาท ไอ้คนบ่นๆเนี่ย ไม่น่าจะซื้อมาใช้เพิ่มหรอก”
ถือไอโฟน...แล้วดูรวย!?
แน่นอนยังมีอีกหลายมีความเชื่อที่ว่า ใครก็ตามได้ใช้ไอโฟน จะทำให้หน้าตาดีขึ้นมาอีกหลายเท่า ดูรวยรสนิยมดีขึ้นมาทันที โดยไม่ได้คำนึงถึงสเปกของเครื่องเลย ว่าสูงเกินความต้องการของเราหรือไม่ บางคนแค่ขอได้ถือ อวด โชว์ ก็ปลื้มแล้ว เล่นแอปพลิเคชันในไอโฟนยังไม่เป็นเลยด้วยซ้ำ เด็กวัยรุ่นมัธยมบางคนถึงกับยอมพลีกายขายตัวเพื่อแลกไอโฟนก็มี รวมถึงพนักงานออฟฟิศหลายๆคนยังต้องรูดบัตรเครดิตยอมเป็นหนี้รายเดือนเพื่อผ่อนไอโฟน ทั้งที่เงินเดือนก็น้อยนิด เพื่อเชิดหน้าชูตาตัวเอง
“เดี๋ยวนี้ก็บ้าไลน์ เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ และก็เล่นเกม คนไทยก็เห่อกันอยู่พักๆ ถามว่าโทรศัพท์รุ่นถูกๆ ใช้ได้ไหม.. ได้ครับ ถ้าใช้งานแค่นี้ก็ไม่เห็นต่างกันตรงไหนเลย” ดร. ภิเษก ชัยนิรันดร์ อาจารย์ประจำสายวิชาบริหารธุรกิจและการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย อธิบายถึงการใช้โทรศัพท์มือถือของคนยุคนี้
คนที่เป็นสาวกของแอปเปิลก็ศรัทธาในตัวของสตีฟ จ๊อบส์ คนที่ใช้แอปเปิ้ลจะมีลักษณะที่แตกต่างจากคนอื่น อย่างเช่น คอมพิวเตอร์สมัยก่อนยี่ห้ออื่นๆ จะไม่สามารถมาใช้โปรแกรมร่วมกับแอปเปิ้ลได้ แอปเปิ้ลจะเป็นclose system(ระบบปิด) หมายถึงว่าใช้กับเครื่องแอปเปิลเท่านั้น มันก็จะสร้างความเฉพาะ ถ้าใครถือคอมพิวเตอร์แอปเปิ้ลก็จะดูเท่ เก๋ ไอเดียเหล่านี้ก็พัฒนามาเป็นไอโฟน
ใช้นโยบายเดียวกันไม่ยอมให้คนอื่นมาแชร์ใช้ ios ขณะที่คนอื่นใช้ไม่ได้ก็เลยผลิตandroidขึ้นมา ยี่ห้อไหนก็ใช้ androidได้หมด แต่คนที่ใช้ ios ได้ก็มียี่ห้อเดียวคือแอปเปิล นี่คือลักษณะเอกลักษณ์เฉพาะของแอปเปิลที่คนอื่นทำไม่ได้
อีกอย่างหนึ่งคือ เรื่องของแบรนด์ ยี่ห้ออื่นอาจจะดูไม่เท่ แต่ถ้าถือไอโฟนแล้วโอเคเลย มันในเชิงจิตวิทยามากกว่า”
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754
