xs
xsm
sm
md
lg

น่ากลัวมากกว่าน่านับถือ!!? “เศียรหลวงปู่ทวดยักษ์” วัดดังเมืองแปดริ้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ดรามารูปจำลองหลวงปู่ทวดในวัดดังเมืองแปดริ้ว เสร็จแค่เศียรแต่กลับนำออกมาโชว์กลางแจ้ง สร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้มีจิตศรัทธาอย่างมาก เพราะไม่เหมาะสม แถมแสดงถึงการไม่ให้เกียรติหลวงปู่ฯ ควรสร้างให้เสร็จก่อนไหมค่อยนำมาให้สักการะ!

กลายเป็นประเด็นดรามาขึ้นมา หลังเฟซบุ๊ก “Unseen Tour Thailand” ซึ่งเป็นแฟจเพจเกี่ยวกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทย โพสต์ภาพมุมหนึ่ง ภายในวัดบ้านโพธิ์ อ.บ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ปรากฏเป็นภาพรูปจำลองของหลวงปู่ทวด(เหยียบน้ำทะเลจืด) แต่สิ่งที่ทำให้เป็นที่พูดถึงอย่างมากคือ ลักษณะของรูปจำลองที่มีแค่ส่วนเศียร!

"อุทยานหลวงปู่ทวด" วัดบ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ภาพของหลวงปู่ทวด ที่เพิ่งเริ่มต้นสร้าง รอหาทุนบริจาคเพื่อสร้างให้เสร็จ ดูสวยงามแปลกตา คาดว่าจะใช้เวลาสร้าง ประมาณ 3 ปี ซึ่งจะเป็นอุทยานหลวงปู่ทวด(เหยียบน้ำทะเลจืด)องค์ใหญ่ที่สุดแห่งภาคตะวันออก” และนี่คือข้อความที่แฟนเพจ “Unseen Tour Thailand” โพสต์ไว้พร้อมกับภาพของเศียรหลวงปู่ทวด
หลังจากที่ภาพนี้เผยแพร่ออกไป ทำให้ผู้ที่พบเห็นโดยเฉพาะบรรดาผู้ที่ศรัทธาในตัวหลวงปู่ฯ เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย ส่วนใหญ่มองว่าเป็นการไม่เหมาะสมที่นำรูปจำลองแค่ส่วนเศียร ออกมาตั้งแสดงในที่สาธารณะ เพราะเหมือนกับเป็นการไม่ให้เกียรติหลวงปู่ฯ ซึ่งควรจะมีการดำเนินการสร้างให้เสร็จเรียบร้อยก่อน ไม่อย่างนั้นก็ควรหาผ้ามาคลุมหรือเก็บไว้ในสถานที่ที่มิดชิดกว่านี้




และบรรทัดต่อจากนี้คือความคิดเห็นบนโลกโซเชียลฯ ที่มีต่อเหตุการณ์นี้
“ทราบค่ะว่ายังสร้างไม่เสร็จ แต่เห็นแบบนี้แล้วมันตกใจ ทำไมมีแต่เศียร คนที่นับถือหลวงปู่เห็นแล้วใจคอไม่ดีเลยค่ะ วิธีนี้จะทำทำไมคะ คนศรัทธา คนบริจาคมีแน่นอนค่ะ แต่ต้องเคารพและให้เกียรติท่านด้วยค่ะ ช่วยพิจารณาที สะเทือนความรู้สึก เคารพท่านมากค่ะ”
“ทำไมไม่เริ่มจากพื้นขึ้นไปอะครับ เห็นภาพแล้วสะดุ้งเลย เอิ่ม..หัวตั้งอยู่ที่พื้น บอกตรงฮะ ตกใจ”
“สร้างตัวท่านก่อนดีไหมคะ แล้วมาทำส่วนศีรษะท่านทีหลังจะดูดีกว่าไหม คือตอนนี้มีแต่คนวิพากษ์วิจารณ์กันว่าไม่เหมาะสมมาก”
“ทำไมไม่สร้างให้เต็มตัว ไม่ต้องใหญ่ขนาดนี้ก็ได้แต่ให้สร้างเต็มตัว”
“เห็นแล้วน่ากลัว ทำไมเอาเศียรปู่ทวดวางที่ต่ำละ” และความเห็นอื่นๆ ที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันว่าไม่เหมาะสม



ที่มีแค่ส่วนเศียรนั้น ส่วนหนึ่งวิเคราะห์ไว้ว่า เป็นเพราะยังสร้างไม่เสร็จ และอยู่ในช่วงกำลังก่อสร้างเป็นอุทยานหลวงปู่ทวด วัดบ้านโพธิ์ แต่เนื่องจากวัดมีพื้นที่ไม่มากจึงจำเป็นต้องตั้งส่วนเศียรที่เสร็จก่อนไว้ที่ลานวัด ซึ่งหากแล้วเสร็จทั้งหมด จัดสถานที่ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำหลังวัดแทน ไม่ได้มีแค่ส่วนเศียรอย่างที่บางคนเข้าใจ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนดำเนินการสร้างและขอกำลังผู้มีจิตศรัทธาร่วมสมทบทุน เพื่อที่จะได้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ให้ผู้มีจิตศรัทธาในหลวงปู่ทวด ได้มาสักการะกัน

ถึงอย่างนั้น การเคารพรูปบูชา ไม่ว่าจะเป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือเกจิอาจารย์ชื่อดัง มีจุดประสงค์เพื่อเป็นการระลึกถึงคุณงามความดี ระลึกถึงคำสอนต่างๆ ที่ท่านทั้งหลายได้ทิ้งไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชนรุ่นหลัง แต่บางครั้งก็อดสงสัยไม่ได้ว่า เหตุใดวัดหลายแห่งในสมัยนี้ ถึงต้องมีการสร้างพระพุทธรูปหรือรูปจำลองพระชื่อดัง ให้มีขนาดใหญ่ แปลก และสะดุดตา จนลืมถึงไปถึงเรื่องความเหมาะสม คล้ายจะมีจุดประสงค์เพียงเพื่อให้คนไปถ่ายรูปลงโซเชียลฯ มากกว่าเผยแพร่คำสอนของพระพุทธเจ้า จนต้องกลับมาตั้งคำถามว่าที่ทำแบบนั้นเป็นธุรกิจหาเงินเข้าวัดหรือไม่?



"คนไทยหลงทางหรือไร" คำตอบจากหนังสือเล่มนี้ อาจช่วยชี้คำตอบในเรื่อง "สิ่งก่อสร้างใหญ่โต" ตามสมัยนิยมในวัดทุกวันนี้เอาไว้ได้เหมาะสมที่สุดแล้ว และนี่คือคำสอนที่ "พระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)" ขอฝากทิ้งท้ายให้ชาวพุทธได้พิจารณากันด้วยสติ
"มาถึงคติการก่อสร้างสิ่งใหญ่โต ให้สังเกตว่า เมื่อมีการสร้างสิ่งใหญ่โตมากๆ ไม่ช้าศาสนามักจะค่อยๆ เสื่อม บางทีพระอาจจะมัววุ่นวายหรือเพลินกับงานพวกนี้จนลืมทำหน้าที่หลักของตัวเอง ก็เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณารายละเอียดว่า เป็นเพราะอะไร

แต่อย่างน้อยข้อพิจารณาสำคัญ คือ จะต้องแยกว่าเป็นการก่อสร้างเพื่อใช้งานที่ยิ่งใหญ่ หรือเป็นการสร้างเพียงเพื่อแสดงความยิ่งใหญ่ แต่จะอย่างไรก็ตามในการสร้างสิ่งใหญ่โตจะต้องคำนึงถึงเสมอว่า จะต้องมีคนไว้ใช้สิ่งก่อสร้างนั้น เอาไว้รักษาบ้าง เอาไว้ใช้ให้เป็นประโยชน์บ้าง
เพราะสร้างขึ้นมาทำไม ถ้าไม่ใช้ให้เป็นประโยชน์ ทีนี้ คนที่จะใช้ก็ต้องเป็นคนที่มีธรรม เป็นผู้ปฏิบัติตามธรรม เพราะฉะนั้น เมื่อสร้างสิ่งก่อสร้างใหญ่โต ก็ต้องสร้างคนไปด้วย สร้างคนดีที่จะมาใช้มารักษาสิ่งที่สร้างนั้น การลืมสร้างคนนี้ อาจเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้พุทธศาสนาเสื่อมโทรมลงไป เพราะฉะนั้น สิ่งก่อสร้างที่ใหญ่โตนั้น เมื่อเหลือหลงมา ก็กลายเป็นเหยื่อของผู้อื่นต่อไป
หนึ่ง ก็กลายเป็นสิ่งที่มีค่าที่เขาอยากครอบครอง สอง เขาก็เอาไปใช้ในศาสนาของเขา ถ้าไม่ใช้ เขาก็เอามาลบหลู่ ให้เป็นที่กระทบกระเทือนใจแก่พวกเรา อย่างที่ได้เห็นกันหลายๆ แห่ง"

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ : เฟซบุ๊ก “Unseen Tour Thailand”,“Kaweelux Srithairax”,“ทักษนัย โตอินทร์” และ pantip.com/topic/31992370




มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น