'ถ้าเที่ยวไทยไม่ครบ อย่าเพิ่งไปเมืองนอก' ประโยคเด็ดจาก 'กุ๊กไก่ - ภาวดี คุ้มโชคไพศาล ที่วัยรุ่นหลายคนอาจคุ้นหน้าคุ้นตาจากซีรี่ส์แจ้งเกิดของนักแสดงวัยทีนหลายคน 'Hormones The Series' ซึ่งเธอรับบทเป็นเป็น 'เยลลี่' หรือบท 'มนุษย์ต่างดาว' ในเพื่อนเฮี้ยนโรงเรียนหลอน ตอนนี้เธอกำลังถ่ายทำ love song love series ตอนเพื่อนสนิท รับบทเป็นนางเอกเต็มตัว ซึ่งตีมเรื่องจะนำเพลงเพื่อนสนิทของดาเอ็นโดรฟินมาเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์แบบเพื่อนที่พัฒนาเป็นความชอบแบบคนรัก และรอเปิดกล้อง 'มาลี เพื่อนรักพลังจิต' ซึ่งเป็นซีซันที่ 2 แล้ว
เห็นเป็นสาวหน้าใสตัวเล็กแบบนี้ เชื่อไหมว่าสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่ที่เธอไปล้วนต้องบุกป่าลุยโคลน ไม่ได้สะดวกสบายเหมือนวัยรุ่นทั่วไป เนื่องจากครอบครัวของเธอล้วนเป็นขาลุย โดยเฉพาะคุณพ่อที่เป็นเจ้าของประโยคเด็ดในตอนต้น ถือคติค่ำไหนนอนนั่น เน้นเดินตามวิถีชีวิตของคนในแต่ละพื้นที่ ซึ่งทำให้เธอได้กอบโกยความน่ารัก ความสดชื่นจากวิถีชีวิตพื้นบ้าน สัมผัสธรรมชาติที่โอบล้อมแบบใกล้ตัวและหล่อหลอมให้เธอกลายเป็นหญิงสาวที่ใครได้สัมผัสตัวตนก็จะรู้เลยว่าเธอมหัศจรรย์แค่ไหน
เที่ยวที่ใช่สไตล์ที่ชอบ - Adventure
“ตั้งแต่จำความได้ กุ๊กก็เที่ยวเมืองไทยแล้ว ด้วยความที่คุณพ่อเชื่อว่า ถ้าเราเที่ยวประเทศไทยยังไม่ครบก็อย่าเพิ่งไปเมืองนอก เลยได้มีโอกาสเที่ยวตั้งแต่เหนือ ใต้ ออก ตก ขึ้นเขาลงดอย คุ้นชินกับทะเล ภูเขา”
กุ๊กไก่เผยเศษเสี้ยงหนึ่งของความทรงจำในวัยเด็ก เธอเคยผ่านสถานที่ท่องเที่ยวที่คนฮิตและเพิ่งรู้จักในปัจจุบันทั้ง อมก๋อย ภูชีฟ้า ภูทับเบิก ซึ่งภาพความสวยงามในครั้งนั้นยังคงตราตรึงให้เธอหวนรำลึกถึงวันคืนเก่าๆ อยู่เสมอ
“ครอบครัวกุ๊กจะชอบเที่ยวแบบ Adventure ไปลุยวิถีชีวิตของชาวบ้าน โดยคุณพ่อจะขับกระบะไป ค่ำไหนนอนนั้น เน้นที่พักถูกแต่ต้องได้สัมผัสธรรมชาติ โดยเฉพาะป่าจะเข้าบ่อยมาก ไปทีหนึ่งประมาณสองอาทิตย์ คลุกคลีใช้ชีวิตอยู่กับชาวบ้าน”
เนื่องจากความสงบ ร่มรื่น ประกอบกับอากาศดี และเดินทางไม่ลำบากมากนัก ภาคเหนือจึงเป็นอีกภาคหนึ่งที่ครอบครัวของเธอแวะเวียนไปเช็กอินเป็นประจำ เธอค้นพบว่าสไตล์การเที่ยวที่โปรดปรานเห็นจะเป็นการเที่ยวแบบผจญภัยลุยๆ ซึ่งขัดกับลุคสาวหน้าใส
“กุ๊กมองว่าการไปเที่ยวในสถานที่ที่ยากลำบาก ทำให้สัมผัสธรรมชาติอย่างแท้จริง ได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สวยมาก ไม่ได้สวยเพราะภาพที่ออกมา แต่สวยที่ความมหัศจรรย์และความประหลาดใจซึ่งหากอยู่ในกรุงเทพฯ อย่างเดียวไม่สามารถพบเจอได้ เช่น ดาวเต็มท้องฟ้า อากาศลมหนาว ทะเลหมอก มีครั้งหนึ่งกุ๊กเคยเข้าไปในป่า อยากให้ลองนึกภาพตามดูว่า เราฟันฝ่าเข้าไปในป่าลึก เหน็ดเหนื่อยและเราได้เห็นต้นกล้วยธรรมดา 2 ต้นที่มีน้ำสะอาดพุ่งออกมา นั่นก็คือดาน้ำ เป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำ ซึ่งในกรุงเทพฯ ไม่มี”
นอกจากความสงบร่มรื่นซึ่งเป็นสิ่งดึงดูดแล้ว ผู้คนตามสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้กุ๊กไก่อยากที่จะไปเยี่ยมเยียนตลอด
“จริงๆ นอกจากภาคเหนือ ภาคอื่นๆ คนก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน คนพื้นบ้านจะรู้จักกันหมด มีความสัมพันธ์ที่แนบสนิท ใจเย็น อารมณ์ดี เวลาขอความช่วยเหลือ ขอสถานที่ ขอถ่ายรูป ทุกคนก็จะเต็มใจช่วย มันจะมีสิ่งน่ารักที่สังคมกรุงเทพฯไม่มี คือ ความเอื้อเฟื้อและความใจดี ”
เธอเผยว่าทุกครั้งที่ไปเที่ยวในแบบฉบับของเธอ เธอจะมีความรู้สึกว่าเหมือนอยู่ในโลกความฝัน ที่สามารถทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลังได้ ไม่มีความอยากอัปโหลดรูปภาพลงโซเชียล อยากวางโทรศัพท์และใช้ชีวิตอยู่แค่กับตัวเองในสถานที่แห่งนั้น
ตากน่ายล...เมืองไม้ป่างาม
ขึ้นเหนือล่องใต้มาก็เยอะ แต่เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดตากสิ่งแรกที่กุ๊กไก่นึกถึงก็คือ 'เมืองชายแดน' เนื่องจากจังหวัดตากอยู่ติดกับชายแดนของพม่า โดยเฉพาะอำเภอท่าสองยาง หนึ่งในอำเภอของจังหวัดตากที่ติดแม่น้ำเมย
“กุ๊กมองว่าจังหวัดตาก ถ้าไปเที่ยวต้องเที่ยวชายแดนถึงจะสนุก เพราะมีของพื้นบ้าน ทองเหลือง เครื่องชามที่น่าสนใจและเป็นสิ่งที่กุ๊กชอบไม่ว่าจะชายแดนที่ไหน”
จังหวัดตากถือเป็นสถานที่ที่มีความงดงามน่าหลงใหล มีทั้งวัดพระบรมธาตุให้กราบสักการะ อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ,น้ำตกทีลอซู น้ำตกที่สวยที่สุดในโลกซึ่งเป็นความฝันของนักเดินทางหลายคน, เขื่อนภูมิพล เขื่อนอเนกประสงค์แห่งแรกของประเทศไทย ที่เป็นแหล่งเพาะพันธ์ุสัตว์น้ำจืดและสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติหรือแม้กระทั่ง ดอยหัวหมด ที่จะได้เห็นหมอกปกคลุมสวยงามในช่วงฤดูหนาว ซึ่งสวยไม่แพ้ภูทับเบิก
ถึงแม้ว่ากุ๊กไก่จะยังไม่เคยได้ไปสัมผัสกับความสวยงามในจังหวัดที่มีมนต์สเน่ห์อย่าง จังหวัดตาก เนื่องจากติดภารกิจงานที่รัดตัวในปัจจุบัน แต่เธอก็เผยว่าหากมีโอกาสก็อยากไปสัมผัสที่แห่งนี้
“เท่าที่รู้จักจังหวัดนี้กุ๊กว่าค่อนข้างมีสถานที่เที่ยวครบ ทั้งภูเขา แม่น้ำ ลำธารและวัดให้ศักการะกราบไหว้ ก็ยังพูดคุยกับคุณพ่ออยู่ว่าหมู่บ้านท้องถิ่นในอำเภอท่าสองยาง ก็น่าสนใจ น่าลองเข้าไปใช้ชีวิตร่วมกับชาวบ้าน กุ๊กคิดว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่เขาแนะนำกันพอเราเที่ยวไปเรื่อยๆ วันหนึ่งมันก็หมดไป การเดินขึ้นเขา ปีนเขา ก็เป็นอีกสไตล์หนึ่ง หรือบุกเข้าไปในหมู่บ้านก็จะทำให้ได้ค้นพบสิ่งแปลกใหม่ อีกอย่างหมู่บ้านมันไม่ได้มีแค่คน แต่มีวิถีชีวิตชาวบ้านให้ได้เรียนรู้ จะดีมากถ้าครั้งหนึ่งได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัส”
ดังที่รู้กันจังหวัดตากมีคำขวัญว่า 'ธรรมชาติน่ายล ภูมิพลเขื่อนใหญ่ พระเจ้าตากเกรียงไกร เมืองไม้และป่างาม' แน่นอนว่าต้องเป็นสถานที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติและมีความหนาแน่นของพื้นที่ป่าไม้สีเขียว แต่ในปัจจุบันนี้กลับพบว่าเนื้อที่ป่าถูกทำลายลงเรื่อยๆ ไม่ต่างกับจังหวัดอื่น ซึ่งเรื่องป่าไม้ก็เป็นสิ่งที่กุ๊กไก่ให้ความสนใจ
“ตอนนี้ประเทศไทยเหลือป่าน้อยมาก เพราะคนตัดไม้ทำลายป่า จนไม่แปลกใจเลยว่าทำไมอุณหภูมิถึงสูงขึ้นเรื่อยๆ ถ้าลองสังเกตดูไม่จำเป็นต้องขึ้นไปถึงบนยอดเขา แค่ต้นไม้ข้างทางถนนก่อนจะขึ้นดอยก็ลดลงจากสมัยก่อนเยอะมาก นักท่องเที่ยวก็มีหลายแบบ ทั้งคนที่รู้จักการใช้ชีวิตให้กลมกลืนกับธรรมชาติและคนที่ติดชีวิตในเมือง ธรรมชาติก็จะหายไปเรื่อยๆ มันน่าเสียดายมากในหลายๆ ที่”
นอกจากนี้เธอเผยว่าหลังจากเรียนจบ ถ้ามีเวลามากขึ้น ด้วยสายงานในวงการบันเทิงที่ทำอยู่ในปัจจุบัน ถ้าหากสามารถช่วยเหลือและรณรงค์ฟื้นฟูป่าไม้กลับคืนสู่ธรรมชาติให้สวยงามได้ ก็อยากจะมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ
แต่ละครั้งต่างเก็บเกี่ยวประสบการณ์
ทุกครั้งของการเดินทางโดยเฉพาะการเดินทางในสไตล์ลุยๆ แบบกุ๊กไก่ ผ่านความลำบากมาทุกรูปแบบ แม้กระทั่งนอนในรถก็เคยมาแล้ว ทำให้เธอได้เรียนรู้อะไรมากมายและสามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันได้
“กุ๊กว่ามันช่วยได้เยอะนะ ทำให้อยู่เป็นมากขึ้น สามารถปรับตัวได้ง่าย เรียนรู้ว่าควรจะอยู่อย่างไรในสถานที่นั้นๆ เช่น ในเรื่องของการทำงานที่ทำในตอนนี้ก็ไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องลำบาก เพราะเคยผ่านสถานที่ที่มันลำบากและอยู่ยาก ไม่มีแม้แต่ไฟฟ้า ต้องอาบห้องน้ำรวม บางครั้งไม่มีแม้แต่ขัน เด็กๆ อ่านหนังสือกันทีก็ต้องรอคนไปบริจาคหนังสือให้ ซึ่งพอกุ๊กได้ไปสัมผัส แล้วย้อนมองกลับมาที่ตัวเองก็รู้สึกว่าชีวิตดีกว่าคนเหล่านั้นเยอะ มีกำลังใจในการใช้ชีวิตมากขึ้น ”
นอกจากการท่องเที่ยวจะหล่อหลอมให้เธอเป็นคนอยู่ง่ายกินง่าย เธอยังได้กระชับความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวและสัมผัสคำว่ารักของพ่อแม่ผ่านประสบการณ์เฉียดตาย
“ครั้งหนึ่งเคยข้ามเขาระยะทาง 5 กิโลเมตร พอขากลับช่ต้องรีบเดินให้ทันก่อนพระอาทิตย์ตก ต้องรีบเดินมากๆ ระหว่างที่เดินอยู่ก็ได้กลิ่นสาปสัตว์ลอยมา ถ้าเดินไม่ทันพระอาทิตย์ตกอาจมีโอกาสเจอได้ ในตอนนั้นกุ๊กยังไม่รู้ตัวว่ามีโรคประจำตัว ซึ่งมาจากอากงของกุ๊กที่เป็นโรคหัวใจ เลยทำให้ประมาท”
“ตอนนั้นเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ พอถึงที่พักรู้สึกเหนื่อยมาก ตัวใจเต้นแรงแบบที่ไม่ต้องเอาหูแนบก็ได้ยิน ตั้งแต่ 6 โมงเย็นจนถึงเที่ยงคืนของวันที่ 31 ธันวาคม ในขณะที่ทุกคนกำลังเคานต์ดาวน์ 3 2 1 กุ๊กกลับต้องนอนพัก พอถึงเลข 1 โลกทั้งใบก็มืดไปเลย”
เธอยังจำภาพวันนั้นได้ดี หลังจากที่ฟื้นขึ้นมาแม่ร้องไห้หนักมาก ตาแดงแบบที่เธอไม่เคยเห็นใครเป็นมาก่อนในชีวิต และเพิ่งเข้าใจคำว่า 'ร้องไห้น้ำตาเป็นสายเลือด'
“ถือเป็นประสบการณ์ชีวิตที่เฉียดตายและทำให้เรารู้ว่าคนเราสามารถตายได้ทุกวัน แต่ก็ทำให้เข้าใจความรักของพ่อแม่ เป็นอะไรที่สุดยอดมาก หลังจากวันนั้นกุ๊กไม่เคยทำตัวมีปัญหาเหมือนวัยรุ่นคนอื่นเลย ไม่มีช่วงวัยนั้นเลย เพราะเราจะนึกถึงภาพวันนั้นตลอดและสำนึกว่าว่าแม่รักเราขนาดไหน ทำให้กุ๊กรักชีวิตมากขึ้นและรักครอบครัวมากขึ้น”
แม้เหตุการณ์วันนั้นจะผ่านมาสักพักแล้วแต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกเข็ดกับการเที่ยวแบบผจญภัย เธอบอกว่าก็สามารถเที่ยวขึ้นเหนือล่องใต้ได้เหมือนเดิม เพียงแต่รู้จักระมัดระวังมากขึ้นและไม่ฝืนตัวเองจนเกินไป
สำหรับการท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นอะไรที่กุ๊กไก่หลงเสน่ห์และผ่านมาพอสมควร เธอจึงอยากชักชวนให้คนไทยหันมาเที่ยวในประเทศไทยก่อนที่จะไปเที่ยวต่างประเทศ โดยเปรียบกับการเรียนรู้ว่า ก่อนที่จะไปเรียนรู้คนอื่น ก็ต้องเรียนรู้ตนเองก่อน เรียนรู้ที่ที่ตัวเองอยู่ สิ่งที่ตัวเองเป็นว่าเป็นอย่างไร ถ้าเกิดไปหาความสุขจากข้างนอกมันก็ได้แค่ประเดี๋ยวประด๋าว แต่สถานที่ในไทยสามารถอยู่ได้ตลอด
“เชื่อเถอะว่าที่เห็นรีวิวกัน นั่นเป็นเพียงภาพ เพียงตัวอักษร ถ้าไม่ได้ไปจริงๆ ความรู้สึกพวกนั้นจะไม่ได้รู้จัก เพราะความรู้สึกไม่สามารถสัมผัสได้ผ่านภาพ ผ่านตัวอักษร อากาศ บรรยากาศ คนที่นั่น ประสบการณ์ระหว่างทางทั้งก่อนที่จะเดินทางไปถึงและเมื่อไปถึงแล้ว ได้พบเจออะไรบ้าง ความเป็นพื้นบ้าน ความน่ารักของชาวบ้านเป็นอย่างไร วิถีชีวิตอย่างไร เป็นสิ่งที่ต้องค้นหากันเอง”
กุ๊กไก่ปิดท้ายด้วยข้อดีของการเที่ยวไทย ว่าเราสามารถสื่อสารกับคนในนั้น ซึ่งเป็นที่ๆ เราไม่ได้น่ากลัวสำหรับทุกคน ถ้าอย่างไปต่างประเทศ ก็ต้องดูแลตัวเองเพราะไม่สามารถสื่อสารกับเขาได้และไม่รู้วัฒนธรรมเขา แต่ถ้าเมืองไทยอย่างน้อยก็รู้ว่าที่นี่เป็นอย่างไร มีวัฒนธรรมอย่างไร จึงอยากให้ลองเรียนรู้ดู
สัมภาษณ์โดย ผู้จัดการ Lite
เรื่อง: วัลย์ลดา หาญยุทธ
ขอบคุณภาพ: อินสตาแกรม @cookcucu,
ปิ่น บุตรี, เอ ฅนสร้างภาพ
และเฟซบุ๊ค "เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ทีลอซู"
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754
