จากกรณีเน็ตไอดอลภูธร “เซ็กซี่แพนเค้ก” ล้มป่วย ขณะนี้เธอกำลังต่อสู้กับโรคมะเร็งอวัยวะเพศชาย โดยคนสนิทเผยว่า เธอมักใช้หนังยางรัด แปะสก็อตเทปเก็บอวัยวะเพศ หรือ “แต๊บ” อยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังชอบอั้นปัสสาวะ กระทั่งอวัยวะเพศเริ่มอักเสบ ขาหนีบบวม หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า การแต๊บ มีผลทำให้เกิดมะเร็งได้จริงหรือ เพราะสาวประเภทสองส่วนใหญ่ที่ยังไม่ผ่าตัดแปลงเพศล้วนแล้วแต่เเต๊บกันทั้งนั้น
ป่วยหนัก...เนื้อร้ายก่อตัว
ย้อนไปประมาณ 2 ปี ที่ผ่านมาหลายคนคงยังจำ “เซ็กซี่แพนเค้ก” สาวประเภทสองบ้านนาได้จากเพจเฟซบุ๊ก Sexy Pancake โดย เหน่ง- นิวัฒน์ แสงหม้อ คือสาวประเภทสองจากบ้านหนองม่วง ต.ทางขวาง อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น สร้างชื่อมาจากการโพสต์ภาพตนเองในรูปแบบเซ็กซี่บ้านนา โพสต์ท่าแปลกแหวกแนวเน้นฮาไม่ซ้ำใคร ฉีกกฎของนางแบบที่ต้องสวย หุ่นดี โลเกชั่นการถ่าย เป็นท้องทุ่งไร่นา กลิ่นอายชีวิตชนบท ส่วนใหญ่เป็นสถานที่ที่บ้านหนองม่วง จ.ขอนแก่น หมู่บ้านของพวกเธอเอง
กระทั่งล่าสุด เฟซบุ๊กแฟนเพจ Sexy Pancake 2 โพสต์ข้อความและรูปภาพที่ต่างทำให้แฟนเพจ และชาวโซเชียลฯ ต่างตกใจ และเป็นห่วง เพราะขณะนี้แพนเค้กกำลังล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งบริเวณองคชาติ คาดว่า เกิดจากการใช้สก็อตเทป หนังยางรัดอวัยวะเพศ อย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะเธอต้องออกงานโชว์ตัวอยู่ตลอดเวลา ขณะนี้อาการไม่ดีขึ้น เพราะแพนเค้กเกิดความท้อแท้ใจ ไม่ยอมทานอาหาร เชื่อว่าตัวเองคงไม่รอด เพราะก่อนล้มป่วยเคยไปหาหมอดู และหมอทักว่าชะตาขาด ตกที่ไม้หนีบคอ จนต้องให้จิตแพทย์เข้ามาพูดคุยกับเธอ
"แพนเค้กป่วยเป็นมะเร็งตามที่แอดมินเคยโพสต์บอกว่าแพนป่วย บอกบ่อยๆเรื่อยมา เพราะอาการไม่แน่ชัด และคิดว่าจะดีขึ้นจึงไม่ได้โพสต์ลงเพจ แต่ถ้าใครเป็นเพื่อนในเฟซฯ จะเห็นว่าแอดมินเล่าอาการป่วยบ้างแล้ว แพนป่วยตั้งแต่ต้นเดือนก่อนสงกรานต์ค่ะ จริงๆแล้วอาการเริ่มแรกเริ่มมาตั้งแต่สองเดือน คือฉี่เป็นเลือด แต่รักษากินยา เหมือนอาการจะดีขึ้น ไปตรวจเลือดสองครั้ง ผลเลือดเป็นปกติดีค่ะ พอผลเลือดดี แพนก็คิดว่าไม่มีอะไรแล้วคงป่วยไข้ธรรมดา แต่อาการเริ่มแย่ลงจนเข้านอนโรงพยาบาลประจำอำเภอแวงน้อย อาการไม่ดีขึ้นจนส่งเข้าโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่นค่ะ แพนมีแผลอักเสบเริ่มจากอวัยวะเพศมีเลือด บวม แอดมินและคนใกล้ชิดทุกคนที่สนิทกับแพนสรุปคล้ายกันนะคะ
แพนจะรัดอวัยวะเพศไว้ตลอดเวลา เริ่มจากที่ถ่ายรูป รับงาน บางครั้งนอนต่างที่ก็รัดไว้ ที่เรียกกันว่าแต๊บ แต่แพนแต๊บไว้ตลอด และบางครั้งใช้สก็อตเทปบ้าง เอาอันนั้นอันนี้มารัดแบบรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อั้นฉี่เป็นเวลานานๆ จนอักเสบ ก็เล่าอาการให้ คุณหมอฟัง แต่อาการตอนที่เราไปถึงหมอ อวัยวะเพศอักเสบหนักมากแล้ว หมอผ่าตัดออก หลังจากผ่าตัด อัณฑะบวมมาก เหมือนเชื้อยังไม่หมด เอาอวัยวะเพศที่ตัดไปตรวจ ปรากฎว่าเป็น "มะเร็งที่อวัยวะเพศ" ค่ะ ตอนนี้อาการไม่ดีขึ้นค่ะ ด้วยตัวแพนเองให้ความร่วมมือกับหมอไม่ค่อยดีมากนัก ไม่ฝืนทานข้าว ทานไม่ลงค่ะ น้ำหนักลด อ่อนแรงมาก ร้องไห้ คราง ท้อแท้ ทุกคนพยายามพูดกล่อมให้แพนทานข้าวทานยา ให้กำลังใจ สารพัดวิธี ตอนนี้แอดมินไม่ได้คุยกับหมอโดยตรง แต่อ่านจากกูเกิลแล้วแพนน่าจะอยู่ระยะที่สาม ที่ขาหนีบบวมมาก อัณฑะบวมมาก”
นอกจากนี้ ยังมีข่าวสะพัดออกมาอีกว่า แพนเค้กติกเชื้อเอชไอวีร่วมด้วย ทางแอดมินเพจ Sexy Pancake 2 ยืนยันว่า "ตรวจไม่พบเชื้อ HIVนะคะ และตรวจเลือดสองครั้งผลเลือดเป็นปกติ"
งานโชว์ตัวเพียบ กระทั่งหลับยัง “แต๊บ”!
ความดังของแพนเค้กนั้นไม่ธรรมดา เพราะเธอกลายเป็นบุคคลที่ผับในภาคอีสานต้องการตัวมากที่สุด หากเธอไปโชว์ที่ไหน รับประกันว่าคนแน่นทะลัก เจ้าของผับถึงกับบอกว่า จ้างวงดนตรีชื่อดังมาเล่นยังไม่ฮอตเท่ากับน้องแพนเค้กไปดิ้นแค่ 1-2 เพลง เพราะทุกคนต่างมารอดูเธอกันจนล้นร้าน
“วันไหนที่ผมตรง ก็โดนแฟนคลับคอมเมนต์ว่าผมตรง วันนั้นแต่งหน้ามาก สวยขึ้นก็ยังโดน เพราะเขาอยากให้เอาบ้านๆ ธรรมชาติ ไม่ให้แต่งหน้า ไม่ให้ทำผมตรง
เวลาหนูไปโชว์ตัว แฟนคลับเยอะมาก ลงเวทีมาแทบไม่ได้กลับบ้าน แล้วถ้าไปที่ไหนหนูจะบอกก่อน อย่างไปที่โคราช เขาก็ไปรอเลย จำได้ว่าที่นี่เกือบแตก ไม่มีที่จะยืน พอโชว์เสร็จจะกลับขึ้นรถก็ไม่ได้ ต้องถ่ายรูปให้ครบทุกคน ดีที่พี่เขาลากขึ้นรถก่อน ไม่อย่างนั้นคงไม่มีเวลาพักผ่อน” แพนเค้ก เคยให้สัมภาษณ์ถึงฟีดแบ็กความดังของตัวเอง
จึงเป็นที่มาให้เธอจำเป็นต้อง “แต๊บ” อวัยวะเพศ เพื่อสวมใส่ชุดผู้หญิงที่รัดรูปเผยให้เห็นสัดส่วนนั่นเอง ดังนั้นเราลองมาดูวิธีการแต๊บของสาวประเภทสองกันดีกว่า ว่าจะอันตราย หรือปลอดภัยแค่ไหน
เทคนิคอำพราง...ลากเทปเก็บองคชาติ
ข้อมูลการ “การแต๊บ” จาก wikihow.com บอกไว้ว่า การแต๊บ คือเทคนิคการอำพรางอวัยวะเพศของกลุ่มชายแต่งหญิง กะเทยหรือนางโชว์ที่ยังไม่แปลงเพศ เพื่อให้จุดซ่อนเร้นดูเนียนเรียบแบนละม้ายคล้ายอวัยวะเพศหญิง ดังนั้นก่อนจะแต๊บควรจะโกนขนให้เกลี้ยงเกลาเสียก่อน
จากนั้นแต๊บอัณฑะให้เข้าที่ ขั้นตอนนี้คือการเหน็บลูกอัณฑะซ่อนเข้าไปในโพรงช่องขาหนีบ ซึ่งตามธรรมชาติแล้วลูกอัณฑะจะหดตัวเข้าไปซ่อนอยู่ในโพรงช่องขาหนีบเมื่อคุณหนาวมาก หรือในขณะที่มีเพศสัมพันธ์อย่างเต็มกำหนัด ให้นอนหงายและใช้มือข้างเดียวดันเก็บลูกอัณฑะเข้าไปเก็บไว้ในโพรงบริเวณขาหนีบทั้งสองข้าง อีกวิธีที่ง่าย คือให้ลองดันเก็บซ่อนอัณฑะในขณะที่นั่งชักโครก เพราะเมื่อเรานั่งหนีบขาทั้งสองข้าง ลูกอัณฑะและองคชาติจะผลุบเข้าไปใต้หว่างขาโดยอัตโนมัติ เหลือเพียงเนินสามเหลี่ยมเรียบเแบนละม้ายคล้ายอวัยวะเพศหญิง
จากนั้น ค่อยๆยืนขึ้นโดยยังคงหนีบลูกอัณฑะและองคชาติไว้ใต้หว่างขา จัดระเบียบส่วนเกินของจุดซ่อนเร้นให้เข้าที่โดยใช้ต้นขาหรือขาอ่อนหนีบลูกอัณฑะและองคชาติไว้ คุณอาจจะรู้สึกปวดหรือจุกบ้างเล็กน้อย แต่เมื่อคุณรู้เทคนิคแล้ว ก็จะรู้สึกโล่งสบายหายปวดทันทีถ้าคุณแต๊บได้ถูกวิธี คุณจะไม่รู้สึกอึดอัดหรือจุกมาก แต่ถ้าคุณเริ่มรู้สึกหน้ามืด วิงเวียน หรือปวดมาก ให้หยุดทำทันที เนื่องจากอาจจะมีการผิดพลาดทางเทคนิคบางประการ ให้ปล่อยอวัยวะเพศของคุณลงมาผ่อนคลายสักครู่และค่อยลองทำ
ขั้นตอนต่อไป คือ แปะเทปกาวเพื่อความกระชับมั่นใจ เริ่มจากใช้เทปแปะเก็บอวัยวะเพศที่โกนมาเกลี้ยงเกลาแล้ว โดยลากเทปผ่านลงมาจากบริเวณหัวหน่าวพาดผ่านอวัยวะเพศลอดใต้หว่างขาไปยังร่องก้น ใช้เทปกาวแผ่นใหญ่กว้าง 1 นิ้วหรือ หรือเทปแผ่นเล็กสองชิ้นแปะเก็บลูกอัณฑะทีละข้าง แล้วจึงลากเทปเก็บองคชาติให้พาดตรงกลางลอดหว่างขาไปยังร่องก้น แปะเทปซ้ำหลายๆรอบเพื่อความกระชับและเก็บความเรียบร้อย
เทปกาวที่เหมาะกับการแต๊บมี 2 ประเภทที่นิยมใช้คือ เทปกาวปิดแผลหรือเทปแล็กซีนที่ใช้แปะกล่องพัสดุ ข้อดีของเทปกาวปิดแผลคือจะทำให้ไม่รู้สึกเจ็บมากเวลาแกะลอกเทปออก แต่ข้อเสียคือเทปปิดแผลจะหลุดออกง่ายถ้าเปียกหรือมีเหงื่อ ดังนั้นบรรดาสาวประเภทสองจึงนิยมใช้เทปแล็กซีนมากกกว่า เพราะมีความเหนียวและยึดเกาะผิวหนังได้ดี จึงแต๊บอยู่ มั่นใจ ไม่หลุด ถึงแม้ว่าเทปแล็คซีนจะแกะออกยากแต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะแค่แช่น้ำอุ่นก็สามารถแกะเทปออกได้อย่างง่ายดาย แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงการใช้เทปแล็กซีนในการแต๊บหากเพิ่งโกนขนมาใหม่ เพราะอาจจะทำให้ผิวหนังระคายเคือง แพ้และเกิดผื่นคันได้ง่าย สุดท้าย เพื่อความกระชับยิ่งขึ้น ควรสวมกางกางชั้นในแบบสเตย์หรือสวมถุงน่องยกกระชับต้นขาทับกางกางชั้นในอีกชั้น
หมอยัน “แต๊บ” ไม่ใช่สาเหตุก่อมะเร็ง ชี้เกิดจากการหมักหมม
อย่างไรก็ตาม นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ รองคณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้เชี่ยวชาญระบบทางเดินปัสสาวะ ได้ออกมาอธิบายถึงโรคมะเร็งที่อวัยวะเพศชาย โดยให้ข้อมูลว่า ที่ผ่านมายังไม่เคยได้รับรายงานว่าพบการป่วยโรคมะเร็งอวัยวะเพศชายจากการแต๊บ เว้นแต่เกิดแผลเรื้อรังและมีการหมักหมม ซึ่งหากเป็นแผลจริงจะปวดมาก ดังนั้นส่วนตัวคิดว่าการแต๊บ ไม่น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคได้ เว้นว่าจะเกิดการหมักหมมนาน
ทั้งนี้ มะเร็งที่อวัยวะเพศชายเกือบ 100% เกิดจากความสกปรก โดยเฉพาะผู้ที่หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศไม่เปิด ไม่ได้ขลิบหนังหุ้มฯ ทำความสะอาดยาก จะเกิดการหมักหมม ซึ่งการหมักหมมจะมีเชื้อไวรัสเอชพีวีเข้ามาแทรก หากพบว่าอวัยวะเพศมีกลิ่นเหม็น หนังหุ้มปลายฯ ไม่เปิด มีเลือด หรือมีหนองไหลออกมาจากปลายอวัยวะเพศ ควรรีบมาพบแพทย์ ซึ่งการรักษาในระยะเริ่มต้นอาจต้องผ่าตัดส่วนที่เป็นมะเร็งออก หรือตัดอัณฑะทิ้ง รวมถึงการให้ยาเคมีบำบัดเพิ่มเติม
สอดคล้องกับ นพ.ธีรวุฒิ คูหะเปรมะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวัฒโนสถ และที่ปรึกษาสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ยืนยันอีกเสียงว่า การแต๊บไม่ใช่สาเหตุของการเกิดมะเร็ง เพราะมะเร็งมีหลายปัจจัย ส่วนใหญ่ของชายรักชายจะมีปัญหามะเร็งทวารหนัก ส่วนมะเร็งองคชาต หรืออวัยวะเพศชาย จะมาจากการหมักหมมของเชื้อโรค โดยเฉพาะโอกาสเกิดจากเชื้อเอชพีวี ซึ่งเป็นเชื้อชนิดเดียวกับมะเร็งปากมดลูก (Human papilloma virus infection) สรุปคือ การเกิดมะเร็งมีหลายปัจจัย ไม่ใช่แค่ “การแต๊บ” หรือเทคนิคการอำพรางอวัยวะเพศเท่านั้น ยกเว้นถ้าไม่รักษาความสะอาดเกิดการหมักหมมก็อาจทำให้ติดเชื้อและแปรสภาพเป็นเนื้อร้าย
เช่นเดียวกับ นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวเสริมว่า ต้องเช็กก่อนว่ามะเร็งที่เกิดขึ้นมาจากสาเหตุอะไร และการที่ระบุว่า เป็นเพราะการแต๊บ ก็ต้องย้อนถามกลับว่ามีแพทย์ยืนยันสาเหตุหรือไม่ เนื่องจากข้อมูลทางการแพทย์ไม่มีหลักฐานว่าการแต๊บจะทำให้เป็นมะเร็ง อีกทั้งแม้จะมีการหมักหมมจนก่อให้เกิดเชื้อโรคอักเสบ ก่อนจะลุกลามเป็นมะเร็งก็ต้องมีภาวะเนื้อเสีย เนื้อตาย ไม่ใช่อยู่ ๆ จะกลายเป็นมะเร็ง และต้องมีหลายสาเหตุด้วย
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754