"แพนเค้ก" ชื่อนี้ ไม่ได้พูดถึงขนมแผ่นกลมๆ อย่างที่ใครหลายคนคุ้นเคย แต่เป็นชื่อของนางเอก นางแบบสาวเจ้าของรางวัล Model of the World 2004 จากสาธารณรัฐประชาชนจีน "แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์" ที่มีความน่ารัก ดูดีมีราศีจนใครหลายคนหลงใหล และคลั่งไคล้ โดยเฉพาะเด็กๆ ที่หากถามว่าโตขึ้นอยากเป็นเหมือนใคร ส่วนใหญ่ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า "อยากสวย และเป็นนางแบบเหมือนพี่แพนเค้ก"
วันนี้กับชีวิตในเส้นทางสายเดิม เพิ่มเติมคือย้ายสังกัด และความท้าทายใหม่ หลังหมดสัญญากับช่อง 7 และไปเป็น "นางฟ้าฟรีแลนซ์" อยู่พักหนึ่ง ปัจจุบันเซ็นสัญญา 3 ปีกับช่องทรูโฟร์ยู ว่ากันว่าฟันค่าตัวเกือบ 20 ล้าน แต่เจ้าตัวขอไม่พูดถึงตัวเลขที่แท้จริง บอกแค่เป็นความพอใจกันทั้งสองฝ่ายมากกว่า
"เรียกว่าแพนได้รับโอกาสที่ดีจากทางทรูโฟร์ยูดีกว่าค่ะ (ยิ้ม) ทำให้แพนได้ทำอะไรหลายๆ อย่างที่ท้าทายขึ้น ซึ่งให้ความสำคัญในหลายๆ ด้าน ไม่ใช่แค่บันเทิงอย่างเดียว แพนจึงคิดว่า คงเป็นโอกาสที่ดีหลังตัดสินใจก้าวเพื่อการเปลี่ยนในครั้งนี้ค่ะ ตอนนี้แพนรู้สึกว่ามันโอเคมาก (ยิ้ม)
หลักๆ ตอนนี้แพนมีละครค่ะ คือซีรีส์เจ้าเวหา มีผู้จัดคนเก่งอย่างพี่นัท มีเรีย และกำกับการแสดงโดยพี่อ๊อด-บัณฑิต ทองดี แบ่งเป็น 3 ตอน คือ ฝั่งน้ำจรดฝั่งฟ้า พิชิตแดนใจ และผู้ครองฟ้า ตอนของแพนคือ พิชิตแดนใจ ซึ่งกำลังถ่ายทำกันอยู่ค่ะ นอกจากนั้นกำลังจะมีละครเรื่องร่มฉัตรค่ะ ละครพีเรียดฟอร์มยักษ์มากๆ อยากให้ติดตามกันค่ะ (ยิ้มหวาน)
รวมไปถึงรายการของแพนเองด้วย ตอนนี้ซึ่งทางผู้บริหารกำลังดูๆ กันอยู่ว่า ถ้าเริ่มทำ ตัวรายการจะออกมาในทิศทางไหน คงเริ่มจากสิ่งที่ไม่ไกลตัวก่อน ซึ่งมันน่าสนใจมากๆ ค่ะ นับเป็นความท้าทายใหม่ที่ยังไม่เคยทำมาก่อน" นางเอกสาวในวัย 27 ปี อัปเดตชีวิต และผลงานที่รอคิวให้ทำมากมาย โดยเฉพาะซีรีส์เจ้าเวหาในตอนพิชิตแดนใจ
คุณหนูมีนา รายงานตัวค่ะ
หลังจากจรดปากกาเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัดทรูโฟร์ยู ช่อง 24 "เจ้าเวหา" คือเรื่องแรกที่เธอรับเล่นเป็น "คุณหนูมีนา" ซึ่งจะอยู่ในตอนพิชิตแดนใจ ประกบคู่กับพระเอกสุดติสต์มากฝีมือ "แอนดริว เกร็กสัน" ที่รับบท พ.ทธงรบ นายทหารกองทัพบก
"แพนกับพี่แอนดริวเราใหม่กันมากค่ะ เราไม่เคยรู้จัก และร่วมงานกันมาก่อนเลย ครั้งแรกที่เจอกันคือวันแถลงข่าวเปิดตัวซีรีส์ เจอกันปุ๊บก็ควงกันเลยค่ะ (ยิ้มเขิน) จากนั้นมาเจอกันอีกครั้งในวันที่ถ่ายละคร เป็นฉากเต้นรำต้องมีบทสนทนาพูดกันด้วย เราก็..ตายละ แค่เต้นรำก็จะเกร็งอยู่แล้ว ยังต้องมาพูด แต่พี่เขาน่ารักค่ะ เขาพยายามที่จะทำความรู้จักกับแพน มีการพูดคุยเพื่อไม่ให้เราเกร็ง แต่ตัวแพนยอมรับว่า บทที่อ่านไปยังไม่เข้าหัวเลยค่ะ (หัวเราะ) พูดไปก็ลืมๆ พี่แอนดริวจำได้ก็เลยช่วยต่อบทให้
หรือบางที ซ้อมๆ ไปถึงเวลาเล่นจริง อ้าว! ไม่ได้เล่นเหมือนที่ซ้อม เอาล่ะสิ ทำไงดี (ยิ้ม) หมุนไป 2 รอบก็ยังไม่ได้พูดอะไรกันเลย พอถ่ายจบพี่เขาบอกว่า แบบนี้ก็ดีนะ ดูเป็นธรรมชาติดี ส่วนตัวรู้สึกว่าเหมือนได้ครู ได้รู้วิธีการทำงานจากนักแสดงมืออาชีพ ซึ่งทุกคนมักจะบอกว่าเขาเล่นละครได้เป็นตัวเอง และเป็นธรรมชาติ พอมาร่วมงานก็เข้าใจว่า จริงด้วย เล่นได้ลึกทั้งท่าทาง สายตา ส่วนตัวรู้สึกโชคดีที่ได้ร่วมงานกับพี่แอนดริวค่ะ ตอนนี้ก็คงค่อยๆ ทำความรู้จักกันไป (หัวเราะ) ว่าเอ๊ะ! จะเป็นยังไงต่อ เพราะเขาเป็นคนพูดน้อย
พี่แอนดริวเขาก็ถามแพนนะคะว่า พี่เล่นเป็นยังไงบ้าง พี่พูดแบบนี้โอเคมั้ย แพนก็ถามกลับว่า คือปกติไม่พูด หรือยังไงค่ะ (หัวเราะ) พี่เขาก็บอกว่า ปกติไม่ค่อยพูด เป็นคนพูดน้อย แต่ความยากก็คือ ด้วยความนิ่งของพี่เขา ทำให้แพนจับอารมณ์ไม่ถูก ไม่รู้ว่าเราจะคุยเล่นได้มั้ย หรือพี่เขาจะรับมุกได้หรือเปล่า แต่เชื่อว่าในครั้งหน้าจะดีขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ"
สำหรับซีรีส์ชุด "เจ้าเวหา" ตอนพิชิตแดนใจ เป็นเรื่องราวของพ.ท.ธงรบ ธัญพิสิษฐ์ (แอนดริว เกร้กสัน) นายทหารหนุ่ม แห่งกองทัพบก ในฐานะผู้บังคับฝูงบินเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์ก ธงรบหมายมั่นที่จะนำแมงปอเหล็กติดอาวุธครบมือ เข้าห้ำหั่นกวาดล้างผู้ที่หวังทำลายชาติไทย พ.ท.ธงรบไม่ใช่คนช่างพูด ในใจเขาคิดอย่างไหน ก็พูดอย่างนั้น
คำพูดตรงไปตรงมาของเขาทำให้หลายครั้งที่พ.ท.ธงรบต้องลำบาก แต่เขาก็ไม่สนใจ ยึดมั่นในความถูกต้องและเที่ยงธรรมจนได้มาพบผู้หญิงอย่างมีนา (แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์) ซีอีโอ บริษัทใหญ่ที่ต้องการออกหน่วยปฏิบัติการจิตวิทยากับชาวบ้านในต่างจังหวัดไกลๆ
มีนาไม่ชอบทหาร เธอรู้สึกว่าทหารเชื่อใจไม่ได้ มีนาจำเป็นต้องออกไปกับหน่วยทหารเพราะความจำเป็น เธอดีใจที่ได้ออกมาช่วยเหลือชาวบ้านที่ยากจน แต่ไม่เห็นความจำเป็นว่าจะต้องอาศัยไหว้วานให้ทหารมาช่วยอำนวยความสะดวกใดๆ เพราะถูกปลูกฝังจากคุณน้าที่เคยผิดหวังเรื่องความรักจากทหาร มีนาและพ.ท.ธงรบทั้งสองมีความหลังกับเรื่องความรัก แต่สถานการณ์ก็พาทั้งสองปรับตัวเข้าหากัน ความฝันเพียงอย่างเดียวของธงรบคือ ได้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับเพื่อนรัก
สุดท้าย มีนารู้แล้วว่าความรู้สึกของน้าที่ต้องรอคอยคนรักที่ไม่รู้ว่าจะรอดชีวิตกลับมาหาเธอเป็นอย่างไร มีนาจะยอมรับชีวิตของเมียทหารได้หรือไม่ เธียรชัยจะเตรียมแผนการร้ายไว้คอยสี่นักรบอย่างไร นี่คือความสนุกในตอน "พิชิตแดนใจ" ที่นางเอกในตอนนี้อยากให้ติดตาม
"ซีรีส์ในตอนนี้ พี่แอนดริวจะเป็นทหารบกค่ะ ส่วนแพนเป็นลูกของนักธุรกิจที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับกองทัพ ขายเฮลิคอปเตอร์ ส่วนตัวยังไม่ได้เห็นบทแบบเต็มร้อย แต่หลักๆ จะเป็นการปะทะคารมกัน จิกกัดกันมากกว่า ซึ่งคงต้องหาความชัดของคาเรกเตอร์อีกนิดนึงว่าผู้กำกับอยากได้แบบไหน" นางเอกสาวบอก
เกิดมาเพื่อเล่นบทคุณหนู
เท่าที่สังเกตจากผลงานละครหลายๆ เรื่อง ส่วนใหญ่ "แพนเค้ก" จะรับเล่นในบทคุณหนูไฮโซที่ทั้งแสนดี และปากร้ายจนกลายเป็นจุดขายไปแล้ว ทำให้ใครหลายต่อหลายคนตั้งคำถามว่า ตัวตนจริงๆ ของเธอเป็นอย่างไร มีความเหมือนกับในละครหรือไม่ ไปฟังคำตอบของเธอกัน
แพนเค้กหัวเราะก่อนจะบอกว่า "แพนดูร้ายใช่มั้ยค่ะแบบนั้น เอาจริงๆ ในส่วนหนึ่งของชีวิต แพนก็มีบางตัวตนที่ใกล้เคียงกับตัวละครที่รับเล่นนะคะ เพียงแต่ว่าจะดึงมุมไหนออกมามากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง ส่วนบทลูกคุณหนู หรือบทที่ปะทะคารม ไม่ยอมคน แพนชอบเล่นนะ เพราะลึกๆ แล้วแพนเป็นผู้หญิงไม่ค่อยยอมคน (ยิ้ม) แล้วก็ไม่ชอบเสียใจร้องไห้ตลอดเวลา แต่ชีวิตจะมีด้านตลก กึ่งๆ วี๊ดว๊ายบ้างเล็กน้อย"
เมื่อถามว่ามองตัวเองเป็นผู้หญิงแบบไหน นางเอกสาวนิ่งคิด และบอกว่า "น่าจะเป็นคนเรียบๆ มากกว่านะคะ คือไม่ได้มีอะไรที่หวือหวามากมาย สามารถยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ เช่น ถ้าต้องรับเล่นบทแบบนี้ แพนจะพยายามทำให้ได้ตามโจทย์ ตรงกับนิสัยส่วนตัวที่จะมีความพยายามสูงมากค่ะ ไม่ชอบโดนสบประมาทว่า คนอย่างเธอทำไม่ได้หรอก หรืออย่างเธอนี่นะจะทำได้ ดังนั้นแพนจะพยายามทำมันออกมาให้ดี และเต็มที่ในทุกๆ งานค่ะ
ส่วนในความเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดทำได้แค่ในละครค่ะ ในชีวิตจริงคงไม่แต่งตัวเปรี้ยว เว้าหน้า เว้าหลังอะไรมาก เพราะรู้สึกว่ามันไม่เหมาะสมค่ะ แต่ถ้าในละคร แพนจะจัดเต็มมาก พูดง่ายๆ คือ ทุกอย่างที่อยากเป็น สามารถทำในละครได้หมดเลย (หัวเราะ) อย่างละครเรื่องปีกมงกุฎ มันเป็นอีกพาร์ตหนึ่งของชีวิตคนที่ต้องมีดาร์กไซด์ แต่ในชีวิตจริงแพนไม่สามารถทำสายตา หรือมองด้วยหางตา จิกกัดใครเหมือนตัวละครได้แน่นอน (หัวเราะ)"
ไม่ง่าย! 12 ปีบนเส้นทางบันเทิง
กว่าจะเป็น "แพนเค้ก" ที่ดูแพง และค่าตัวปังในวันนี้ ไม่ได้ใช้เวลาเพียงชั่วข้ามคืน ไม่ใช่เพราะโชคช่วย หรือการอวยจากสื่อต่างๆ แต่เพราะความสามารถ การวางตน ความมีวินัยในการทำงานที่ทำให้เธอคือนักแสดง และนางแบบหญิงแถวหน้าของประเทศไทย ที่สำคัญ เธอมี "คุณแม่หน่อย-นวลนง" อยู่เคียงข้างมาตลอด 12 ปี
"การที่แพนอยู่ในเส้นทางนี้ได้นาน เพราะแพนมีแม่ที่สตรองมากๆ ค่ะแม่เป็นคนที่ประคับประคองแพนมาโดยตลอด คอยแนะนำ และดึงแพนไม่ให้หลุดกรอบความดีงาม แน่นอนว่าการที่แพนก้าวขึ้นมาเป็นแพนที่มีชื่อเสียง มีงาน มีโอกาสต่างๆ เข้ามาให้ทำเยอะแยะมากมาย ความเผอเรอมันต้องมีบ้าง หรือการคิดว่าตัวเองเก่งแล้ว ดีแล้ว มันต้องมีบ้างในบางเวลาที่ผ่านๆ มา แต่คุณแม่จะคอยเตือนเสมอว่าอย่าสำคัญตัวไปนะว่าเจ๋งแล้ว เก่งแล้ว หรือคิดว่าเราคือเบอร์ใหญ่คับวงการ
ถ้าคิดแบบนั้น ความผิดพลาดจะเกิดขึ้นได้เสมอ แล้วเราก็จะลืมมองสิ่งต่างๆ รอบตัว อีกอย่างแม่จะไม่ใช่คนสนับสนุนทุกเรื่อง เอาเลยลูก ทำเลยลูก ไม่ใช่ค่ะ เรื่องไหนที่ทำแล้วมันจะส่งผลระยะยาวแม่ก็จะเตือน อย่างเรื่องเดิมๆ ที่แม่จะติงเสมอก็คือ การแต่งตัวไปออกงาน ไม่ใช่แพนอยากใส่อะไรใส่ แต่ต้องใส่ให้เหมาะสมกับกาลเทศะ หรือดูดีในแบบที่เป็นเราด้วย ซึ่งเป็นเรื่องจะคุยกันตลอด ติงกันตลอด ส่วนตัวแพนก็แฮปปี้ที่มีแม่คอยแนะนำ จนทำให้แพนสามารถเดินในเส้นทางสายนี้ได้อย่างเป็นตัวเราบนความเหมาะสมในแต่ละสถานการณ์
แน่นอนว่า เมื่อชื่อเสียงพัดผ่านเข้ามา หลายคนมักจะเหลิง และลืมตัว "น่ากลัวค่ะ" แพนเอ่ยขึ้น "แพนก็เคยมีนะ อย่างตอนที่คนให้ความสนใจแพนมากๆ ตอนนั้นได้รับแต่สิ่งที่ดีๆ เลยมีความเหลิงอยู่บ้าง แต่แม่จะคอยดึงแพนตลอด จนทำให้แพนกลับมามีความสุขในความเรียบง่าย มีมากก็มีความสุขในแบบนั้น หรือถ้ามีน้อยก็ต้องอยู่ให้ได้ในแบบนี้ แพนก็เลยใช้ชีวิตบนเส้นทางนี้ได้อย่างสบายๆ มากกว่า ไม่ต้องเหนื่อยเกินไป ไม่ต้องพยายามจนเกินไป"
ดังนั้น คุณแม่จึงเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลต่อชีวิตของเธอมาก "แม่ตัดสินใจออกจากงานของแม่เพื่อมาดูแลเราในช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลง นั่นหมายความว่า เราตัดสินใจร่วมกันแล้วนะว่าจะเลือกเส้นทางนี้ ซึ่งแม่จะถามย้ำว่า ลูกตัดสินใจแล้วนะว่าจะเดินเส้นทางนี้ แพนก็บอกว่า โอเคค่ะแม่ แม้จะโดนกระแสข่าวมากมาย แม่ก็อดทนค่ะ โดยเฉพาะเวลามีข่าวไม่ดีๆ เข้ามาทางลูก แม่ก็จะโดนก่อนเลย
พอเห็นแบบนี้ แพนก็เป็นห่วงแม่นะ แต่ใจหนึ่งก็รู้ว่าแม่เข้มแข็ง หรือเรื่องที่พลาดจริงๆ มันก็มี แต่เราจะบอกกันว่า โอเคไม่ว่ากัน เดินหน้าต่อ จะไม่มาบอกว่า พูดแล้ว เตือนแล้วไม่ฟังเอง การกล่าวโทษกันแบบนี้ไม่มีค่ะ คือต้องขอบคุณแม่มากๆ บางทีข่าวทั้งดี และไม่ดีที่เข้ามา ส่วนมากจะไม่ค่อยถึงตัวแพนหรอกค่ะ แม่จะรับก่อนคนแรก ไหนจะข่าวที่ฟังจากคนนั้น คนนี้อีก ซึ่งเขาก็ต้องแข็งแรง เพื่อให้เราแข็งแรง"
"เวลา" ไม่เคยรอใคร
"เรามีเวลาจำกัด" ถ้าคิด และตั้งใจจะทำอะไรต้อง "ททท" หรือ "ทำทันที" นี่คือสิ่งที่พระอาจารย์ว.วชิรเมธีให้หลักคิดเอาไว้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ "แพนเค้ก" นำไปจัดสรรเวลาในชีวิตให้เกิดความคุ้มค่าที่สุด เธอบอกว่า "อย่ามัวรอ เพราะเราไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้กลับไปทำหรือเปล่า"
ถึงวันนี้ แม้จะมีภาระหน้าที่มากมาย แต่เธอก็สามารถจัดสรรเวลาได้อย่างลงตัว ทั้งเวลานอน เวลาออกกำลังกาย รวมไปถึงการดูแลธุรกิจต่างๆ
"การทำงานเป็นความสุขของแพนค่ะ แม้ตอนนี้จะไม่ได้ฟรีแลนซ์แล้ว แต่ยังทำทุกอย่างได้เหมือนเดิม ซึ่งแพนมีความสุขกับการได้ทำอะไรในแต่ละวัน ถามว่ามีเวลาพักมั้ย มีค่ะ (ยิ้ม) นอนประมาณเที่ยงคืน ตื่น 7 โมง เป็นปกติค่ะ ถ้าวันไหนเลือกงานได้ เช่น ขอครึ่งบ่ายเป็นต้นไป ครึ่งเช้าแพนก็ยังตื่นขึ้นมาออกกำลังกาย หรือทำอะไรต่อมิอะไรตามสไตล์ของแพน อย่างตอนนี้มีร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดรสเด็ดที่สุขาภิบาล 3 (ซอยมีสทีน) มีร้านเสื้อผ้า มีร้านตุ๊กตาหมี และอื่นๆ อีกเยอะแยะเต็มไปหมด ถึงเหนื่อยแต่ก็มีความสุขที่ได้ทำ" นางเอกสาวเผย
ถามว่าไปเอาพลังมาจากไหน "เสียบปลั๊กเอาค่ะ" เธอแซวด้วยสีหน้าสนุกสนาน ก่อนจะบอกว่า "อยู่ที่การปลุกพลังบวกในตัวเองค่ะ ตอนคุณแม่ป่วย พระอาจารย์ว.วชิรเมธียังบอกเลยว่า เราไม่ได้มีเวลามากพอสำหรับการเจ็บป่วยนะ เพราะฉะนั้น เราต้องดูแลตัวเอง และลุกขึ้นมาเพื่อเดินหน้าทำสิ่งที่อยากทำต่อไป อยากให้ทุกคนคิดในแง่บวกค่ะ บางเรื่องถ้ามันไม่ดี บั่นบอนจิตใจของเรา เราก็ปล่อยผ่านมันไปได้ ไม่ต้องไปเสียเวลากับมัน นอกจากนั้น ยังให้ความสำคัญกับการทำงานเพื่อสังคม ด้วยการ "เปลี่ยนความดังมาสร้างความดี" ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหลักคิดที่ได้มาจากพระอาจารย์ว.วชิรเมธี
"ตอนแรกที่ฟัง แพนก็อึ้งเลยค่ะ ท่านกำลังจะบอกอะไร สุดท้ายก็เข้าใจว่า เราทุกคนล้วนมีความดังอยู่แล้วในการทำงานของแต่ละคน ถ้าเราเปลี่ยนความดังมาทำความดีให้สังคม หรือเพื่อนมนุษย์มันก็น่าจะเป็นประโยชน์ที่เพิ่มเติมขึ้นไป นอกจากนั้นยังต้องมีความน่าเชื่อถือเพื่อสร้างคอนเนกชั่นในการช่วยกันสานต่อความดี สิ่งเหล่านี้คือหลักคิดที่ได้จากพระอาจารย์ว.วชิรเมธีที่สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้
แม้จะถูกมองว่าทำงานสร้างภาพ แต่แพนบอกทุกคนไม่ได้ว่า เราทำอะไร หรือทำไมเราต้องทำ เพราะทุกคนคิดไม่เหมือนกัน ดังนั้น แพนทำแล้วแพนมีความสุข แพนก็ทำ อีกอย่าง พระอาจารย์ว.วชิรเมธีบอกว่า เดี๋ยวนี้ทำความดีแล้วต้องบอกนะ ทุกคนจะได้เห็น คนที่เขารับได้ก็โอเค รับไม่ได้ก็ไม่ว่ากัน เป้าหมายคือเดินหน้าทำความดีต่อไปค่ะ และถ้ามีโอกาสก็อยากปฏิธรรมเต็มรูปแบบเหมือนกันค่ะ"
อย่างไรก็ดี ครอบครัวยังคงเป็นอันดับหนึ่งที่เธอให้ความสำคัญมาตลอด ส่วนรองลงจะเป็นงานหรือความรัก เธอมีคำตอบ
"รองลงมาก็คือ พี่หมีค่ะ เอ๊ะ หรืองานก่อนดี (หัวเราะ) เอาเป็นว่าเฉลี่ยๆ เท่าๆ กันค่ะ ให้เวลากับงานด้วย ความรักด้วย (ยิ้มเขินๆ) ส่วนความรักความผูกพันในครอบครัว แม้ต่างคนจะต่างมีภาระหน้าที่ของตัวเอง ไม่ค่อยได้กินข้าวเย็นด้วยกันสักเท่าไร แต่เมื่อถึงวันสำคัญของใครคนใดคนหนึ่ง เช่น วันเกิดน้อง ก็จะโทร.นัดกันค่ะ ถ้าพ่อยังไม่กลับบ้านก็จะโทร.ตาม เที่ยงคืนแล้วนะ กลับหรือยัง จะเซอร์ไพรส์แล้วนะ (หัวเราะ) ซึ่งก็เป็นความสุขเล็กในแบบของเราค่ะ"
เรื่องรักๆ ฉบับ "แพนเค้ก"
ไม่ถามไม่ได้ถึงความหวานจนมดอิจฉากับหวานใจ "สารวัตรหมี" หรือ พ.ต.ต.ศักดิ์สุนทร เปรมานนท์ แพนเค้กอัปเดตความสัมพันธ์ให้ฟังว่า "ตอนนี้พยายามหากิจกรรมอะไรที่ทำร่วมกันได้ เช่น ชวนกันไปวิ่ง ชวนกันไปทำบุญ" เธอบอก และเผยถึงความประทับใจในตัวฝ่ายชายในบรรทัดต่อมา
"พี่หมีเป็นคนทำกับข้าวอร่อยค่ะ แต่แพนทำไม่เป็นเลย รอกินอย่างเดียว (หัวเราะ) หรือไม่ก็เป็นลูกมือ ช่วยล้างจาน สำหรับเมนูโปรดก็คือ สปาเกตตี้เส้นดำไข่กุ้ง อร่อยมากๆ แต่ช่วงนี้จะหนักไปทางออกกำลังกายมากกว่า ชวนกันไปวิ่ง ไปปั่นจักรยาน หรือเข้าฟิตเนส บางทีพี่หมีก็เป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวให้แพน ส่วนบางวันก็จะออกไปเล่นกับปู ไปรยาบ้าง"
ส่วนอีกหนึ่งความประทับใจก็คือ การเป็นคนที่เสมอต้นเสมอปลาย อีกทั้งยังเป็นคนรักครอบครัว ทั้งครอบครัวของเขา และครอบครัวของเธอ
"พี่หมีไม่ใช่แค่ดูแล และใส่ใจแพนคนเดียว แต่รวมไปถึงคนในครอบครัวแพนทั้งหมด จำได้หมดทุกอย่างว่าใครชอบทำอะไร อยากทำอะไร บางทีก็ห่วงเรามากเกินไปจนต้องบอกว่า พี่หมี แพนไม่เป็นไรนะ เป็นความน่ารักของเขาค่ะ แต่ก็มีหลายๆ อย่างที่ต้องปรับเข้าหากันเยอะพอสมควร โดยเฉพาะวิถีชีวิตการทำงานแบบแพนและการทำของเขาที่เป็นข้าราชการ ซึ่งมันแตกต่างกัน ต้องค่อยๆ ปรับกันไปค่ะ"
ถามถึงอนาคตเรื่องการแต่งงาน "ยังไม่ได้คิดไปถึงขั้นแต่งงานค่ะ ตอนนี้ก็สบายๆ เรื่อยๆ ค่ะ พี่หมีก็บอกว่าพี่ก็..อยู่มาขนาดนี้แล้ว พี่ชิลละ (หัวเราะ) ตอนนี้นอกจากต่างคนต่างทำงาน เราก็มีเรื่องเรียนปริญญาเอก คณะทรัพยากรมนุษย์ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงด้วยกันค่ะ เหมาะกับการทำงานของเราที่ต้องเจอคนเยอะ ซึ่งน่าจะได้เอามาปรับใช้ให้เป็นประโยชน์"
นอกจากนั้น ยังเป็นผู้ชายตามใจ แต่มักจะถูกแม่ของเธอดุอยู่เสมอ เพราะตามใจมากจนเกินไป "พี่หมีตามใจแพนมากเลยค่ะ ซึ่งพี่เขาจะโดนแม่แพนดุบ่อยมากค่ะ (หัวเราะ) พี่หมีจะไม่ค่อยขัดค่ะ แพนว่าไงก็ว่าตามนั้น" นางเอกสาวเสริม ก่อนจะเผยถึงมุมมองความรักในแบบของเธอ
"ตอนนี้คงต้องมองอะไรด้วยความเข้าใจค่ะ แต่ก่อนเรามองแค่ความรักคือสิ่งสวยงาม ซึ่งมันก็จริงอย่างนั้น แต่ถึงตอนนี้มันมีมากกว่านั้นค่ะ ไม่ใช่แค่ฉาบฉวย หรือดูหวือหวาในระยะแรกๆ แต่ถ้าอยากสานพันธ์กันไปยาวๆ ความเข้าใจคือสิ่งสำคัญมาก ถ้าเราไม่เข้าใจกันก็คงไปด้วยกันได้ยาก ดังนั้น ความเข้าใจคือองค์ประกอบสำคัญของความรัก ต้องยอมรับ ปรับตัว และเข้าใจในสิ่งที่เขาเป็น"
ส่วนอนาคตในเส้นทางสายบันเทิง เธอไม่ได้กะเกณฑ์ว่าจะทำไปถึงเมื่อไร แค่มีแรง และมีความสุขที่จะทำต่อไปก็เพียงพอแล้ว
"แพนยังรู้สึกสนุกอยู่ค่ะ ถ้ายังมีแรงทำ แพนก็เดินหน้าต่อไป อยู่ในวงการบันเทิงด้วย ทำธุรกิจควบคู่ไปด้วย ที่อยากทำแต่ยังไม่ได้ทำ เห็นจะเป็นละครบู๊นะคะ แพนยังไม่เคยเล่นเลย ซึ่งเป็นแนวละครที่ชอบดูมาก ถ้ามีโอกาสก็อยากจะลองดู แม้จะดูน่ากลัว แต่ถ้าได้ทำก็ต้องทำอย่างเต็มที่ค่ะ ส่วนงานหนังก็จะมีมหาราช 2 แผ่นดิน เป็นหนังที่ทำร่วมกันระหว่างไทยกับจีน อาจจะเริ่มถ่ายทำสิ้นปีนี้ ถ้าได้เริ่มถ่ายก็ถือเป็นอีกหนึ่งชิ้นงานที่ท้าทายมากๆ เหมือนกัน"
สุดท้ายนี้ ในฐานะนักแสดงรุ่นพี่ นี่คือสิ่งที่เธออยากบอกไปถึงน้องๆ ที่อยากเข้ามาทำงานบนเส้นทางสายนี้ "เส้นทางในวงการบันเทิงมันโหดนะคะ ถ้าคิดจะเข้ามา ต้องอดทน และมีสัมมาคาระ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก (ลากเสียงยาว) รวมไปถึงความรับผิดชอบในการทำงานด้วย เวลาทำอะไรก็ต้องตั้งใจทำ อย่าทำแบบฉาบฉวยไปวันๆ หรือคิดว่าใครๆ ก็ทำได้ จริงอยู่ที่บางคนถ่ายรูปสองสามทีแล้วได้แจ้งเกิด แต่การจะรักษาช่วงเวลาของเราให้อยู่ได้อย่างยาวนานนั้น มันยากกว่า ดังนั้นจึงต้องพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา"
เรื่อง : ปิยะนันท์ ขุนทอง
ภาพ : วรวิทย์ พานิชนันท์ และขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม @khemanito
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754