ทันทีที่เพจเฟซบุ๊ก “หนูน้อยบนยอดเขาอันหนาวเหน็บ” โพสต์ภาพเด็กชายไทย ยืนโพสต์ท่าบริเวณวัดจมน้ำ หรือวัดวังก์วิเวการามเก่า แหล่งท่องเที่ยวของ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี พร้อมใส่เสื้อผ้าแบรนด์สุดหรูหลุยส์ วิตตอง ในคอลเลกชั่นล่าสุด สปริง ซัมเมอร์ 2016 ลงนิตยสารผู้ชายชื่อดัง GQ Germany
เพียงแค่โพสต์เดียวได้เปลี่ยนชีวิตเด็กคนนี้ไปตลอดกาล....หลายคนอยากรู้อย่างแรงว่า เด็กโกอินเตอร์คนนี้คือใคร ที่สร้างความปลื้มปริ่มให้ชาวไทยยิ่งนัก สารพัดสื่อตามหาตัวกันจ้าละหวั่น กระทั่งทราบข้อมูลว่า เขาเป็นชาวกะเหรี่ยง บ้านอยู่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
ทีมงาน M-Lite จึงออกเดินทางบุกดิ่งไปสัมภาษณ์ถึงบ้านทันที พร้อมกับให้เขาพานั่งเรือไปยังพิกัดสถานที่เกิดเหตุ จุดเปลี่ยนชีวิตเขาอีกด้วย
โกอินเตอร์...ไม่รู้เนื้อรู้ตัว
เมื่อถึงที่พัก ไม่นานนักเขาก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์มารับ พร้อมท่าทีสุภาพ มาดนิ่ง เงียบ ขรึม
เครียว เด็กชายวัย 14 ปี ไร้นามสกุล เพราะเป็นเด็กไทย เชื้อสายกะเหรี่ยง เล่าถึงเหตุการณ์จุดพลิกชีวิตไปตลอดกาลในวันนั้นให้ฟังด้วยน้ำเสียงราบเรียบพูดไทยชัดถ้อยชัดคำว่า
“เหตุการณ์นี้ผ่านไป 2 เดือนแล้วครับ ตอนนั้นก็นอนอยู่ในบ้าน จู่ๆก็มีเพื่อน ชื่อ อาร์ท มาตะโกนเรียก คือปกติเวลามีงานเขาก็มักจะมาเรียกอยู่เสมอ ผมก็ไปกับอาร์ท เขาก็พาไปเจอทีมงานชาวต่างชาติ โดยมีคนไทยที่เป็นไกด์ พูดคุยกับทีมงานให้ จากนั้นเขาก็ทำการวัดส่วนสูง และน้ำหนัก ด้วยการเทียบส่วนสูงกับอาร์ท ว่าใครสูงกว่ากัน ผมสูง 168 เซนติเมตร ส่วนอาร์ทสูงประมาณ 150 กว่าๆ”
ด้วยร่างชะลูดส่วนสูง 168 เซนติเมตร นั่นจึงเป็นเป็นสาเหตุให้เขาเลือกเครียว
“แล้วเขาก็นัดผมที่รีสอร์ตพลอยไพลิน ประมาณเที่ยง พร้อมทีมงานประมาณ 8 คน จากนั้นก็พากันลงเรือ ไปที่วัดจมน้ำ (วัดวังก์วิเวการามเก่า) เมื่อถึงที่ก็พาผมไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่รู้ว่าเขาจะให้เปลี่ยนเสื้อผ้าทำไม
จากนั้นก็พาผมไปถ่ายแบบหน้าโบสถ์ บริเวณริมหน้าต่าง และด้านหน้าโบสถ์”
เครียว ยืนยันว่าไม่รู้จักแบรนด์เสื้อผ้า หลุยส์วิตตอง (Louis Vuitton) ที่ตนเองใส่ในวันนั้นมาก่อน ทว่า ใน 2 ชุดแบรนด์หรูระดับตำนานนี้เขาชอบเเจ็กเกตสีเข้มมากที่สุด
“เขาให้ผมใส่ 2 ชุด ส่วนตัวผมชอบเสื้อสีเข้มๆที่มีลายทางเป็นสีฟ้า มากกว่าสีขาว ส่วนเสื้อผ้าที่ใส่ในวันนั้นก็ค่อนข้างหลวม ทีมงานเขาจึงเอาเข็มกลัดมาติดด้านหลังเพื่อให้ชุดพอดีตัวมากขึ้น”
จากเที่ยงวันจนถึง 5 โมงเย็น ทีมงานใช้เวลาถ่ายแบบในครั้งนี้ร่วม 5 ชั่วโมง แต่ก่อนช่างภาพจะลั่นชัตเตอร์ใส่เครียว เขาต้องนั่งรอนายแบบฝรั่งที่ไปถ่ายที่วัดจมน้ำด้วยกันแต่ไม่ได้ร่วมเฟรมในครั้งนั้นด้วยอีก 1 คน
“นายแบบที่เป็นฝรั่งเขาจะใส่เป็นชุดครึ่งตัว เพราะเขาต้องลงน้ำไปถ่าย ผมก็ไปนั่งรอเขาถ่ายก่อน เสร็จแล้วก็เรียกผมไปถ่าย
ในเรื่องการโพสต์ท่าทางนั้น นายแบบจำเป็นเล่าว่า ทางทีมงานบอกให้ยืนแบบนี้ แต่ในส่วนของสีหน้านั้น ใช้อินเนอร์ล้วนๆ
“เขากำกับท่าทางให้ถ่าย แต่ไม่ได้บอกให้ทำหน้าแบบไหน จากนั้นก็ถ่ายอยู่หลายรูป แต่เอามาใช้ 2 รูป”
พอทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ทีมงานก็บอกให้กลับบ้านไปก่อน เดี๋ยวพ่อแม่จะเป็นห่วงเนื่องจากตอนนั้นเย็นมากแล้ว
สำหรับค่าตอบแทนในการถ่ายแบบครั้งนี้ เขาได้รับจากทีมงานมา 1,000 บาท จนมีหลายคนบอกว่า ค่าตัวน้อยเกินไปสำหรับแบรนด์ดังสุดหรูหลุยส์วิตตอง แต่เขากลับมองว่า มีค่า และคุ้มมาก
“เงิน 1,000 บาทสำหรับผม ไม่ได้น้อยเกินไปเลยครับ แต่กลับรู้สึกดีใจมากกว่า เงิน 1,000 ที่ได้รับคุ้มค่ามากกับประสบการณ์ที่ได้รับ"
โดยเครียวได้แบ่งเงินให้อาร์ท ซึ่งเป็นเพื่อนที่ชวนมาทำงานในครั้งนี้ด้วย 400 บาท ส่วนตนเองเก็บไว้ 600 บาท โดยเงินทั้งหมดที่ได้รับนำไปให้แม่ทั้งหมด
"ส่วนที่แบ่งให้เพื่อน เพราะเวลามีงานอาร์ทก็จะมาเรียกผมให้ไปทำด้วยตลอด”
ครั้น...ผ่านไป 2 เดือน เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็บังเกิด!
ดวงแรง! โด่งดังพลุแตกชั่วข้ามคืน สื่อรุมทึ้ง!
"คนจะดัง ดวงจะดี ช่วยไม่ได้จริงๆ เด็กไทยคนนี้จู่ๆ ก็จับพลัดจับผลูมาเป็นนายแบบอินเตอร์ใส่ชุด Louis Vuitton ลงนิตยสาร GQ Germany ซะงั้น!!!! เหตุเกิดเมื่อ Kim Jones ดีไซเนอร์ไลน์เสื้อผ้าผู้ชายของ Louis Vuitton, ช่างภาพและทีมงานมืออาชีพของนิตยสาร GQ Germany ยกกองไปถ่ายแฟชั่นกันที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ในระหว่างนั้นก็เกิดถูกตาต้องใจเด็กชายคนนี้เลยทำการแคสติ้งกันเดี๋ยวนั้นแล้วให้ถ่ายแฟชั่นเซตนี้ทันที!!!...”
เมื่อโพสต์ดังกล่าวถูกกระหน่ำแชร์ออกไป...ทั้งสื่อหลัก สื่อรอง ทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ สื่อออนไลน์ ต่างรุมทึ้ง เสนอข่าวเครียวจนครึกโครม
เครียวเล่าต่อว่า ในวันเดียวกันนั้นเองก็มีสื่อใหญ่มาตามหาตัวเขาถึงที่บ้าน และวันต่อมาก็ต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่ออัดรายการออกทีวีแทบจะทุกวัน ล่าสุด กำลังจะไปถ่ายแฟชั่นคู่กับ ติช่า The Face Thailand season 2 ลงนิตยสารชื่อดังอีกด้วย
ส่วนในเรื่องงานแสดง หรืองานละครนั้น เครียวบอกว่า ขอผ่าน เพราะเป็นงานไม่ถนัด ยืนหยัดจุดเดิมคือ การถ่ายแบบ เพราะไม่ต้องพูดอะไร
“ผมดังมาจากการถ่ายแบบ ผมก็ต้องไปทางถ่ายแบบอย่างเดียว เพราะไม่ถนัดพูด แค่ถ่ายรูปเฉยๆ ก็เพียงพอครับ”
ชีวิตเริ่มเปลี่ยน มีคนรู้จักและทักทายมากขึ้นอย่างกะทันหัน!
“มีคนแอดมาเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กเยอะมาก ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง ผู้ชายวัยกลางคนก็มี เขาจะขอไปหาที่บ้าน จะพาไปกินข้าว”
ฟิตหุ่น ปูทางสู่เส้นทาง “นายแบบ”
แน่นอนการการจะเดินเข้าสู่เส้นทางสาย “นายแบบ” รูปร่าง ความสูง เป็นสิ่งสำคัญ ทว่า ในวัยเพียงแค่ 14 ปี ความสูงก็ยังสามารถทะยานขึ้นไปแตะอาชีพนายแบบได้สบาย เพราะขณะนี้เครียวก็สูงที่สุดในห้องไปแล้ว
“ตอนนี้กำลังฟิตหุ่นอยู่ ออกกำลังกาย ปกติผมชอบกินนมมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว กินวันละ 4 - 5 กล่อง กินได้เรื่อยๆ เลย ตอนนี้ก็สูงสุดในห้อง ส่วนผัก ผมจะชอบกินมากเป็นพิเศษ
ส่วนเรื่องรูปร่าง และความสูงนั้น พ่อบอกว่า เหมือนทวด เพราะทวดจะมีรูปร่างสูง ใหญ่ ล่ำ”
นอกจากนี้ อดีตนักปั้นดาราอย่าง ชิ - อนุชา ลังประเสริฐ ที่ปัจจุบันนี้นั่งแท่นผู้จัดการฝ่ายบริหารศิลปิน บริษัท เวิร์คพอยท์ ยังได้ให้คำปรึกษา แนะนำเครียวในการออกสื่ออีกด้วย
“พี่ชิ ที่เวิร์คพอยท์ ก็แนะนำว่าควรต้องทำอย่างไรบ้าง ควรออกกำลังกายเยอะๆ ถ้าอยากเป็นนายแบบ ดูแลรูปร่าง และให้คำปรึกษาเวลาจะออกสื่อให้สัมภาษณ์ ถ้าไม่แน่ใจอะไรโทรหาพี่ชิได้ตลอด”
จิตอาสา จราจรโบกรถ - สายตรวจนักเรียน!
ปัจจุบันนี้เครียวเรียนอยู่ชั้น ม.1 โรงเรียนอุดมสิทธิศึกษา ซึ่งเป็นโรงเรียนใกล้บ้านในสังขละบุรี ทุกเช้าจะทำหน้าที่จราจรหน้าโรงเรียน นอกจากนี้ ยังเป็นสายตรวจ ดูแลโรงเรียน เป็นหูเป็นตาให้ครู อีกด้วย
“ตอนนั้นมีกิจกรรมอาสาของโรงเรียน ครูก็ให้ผมไปเป็นจราจร เพราะเวลาผมอยู่ในห้องเรียน ผมจะเป็นคนที่เรียบร้อยกว่าเพื่อนคนอื่น ครูจึงเลือก ผมจะมีเพื่อนไม่เยอะ มีแค่ 2 - 3 คน จะไม่ค่อยชอบพวกกลุ่มแก๊ง พวกเด็กเกเรเท่าไหร่”
แต่ก่อนที่จะมาเป็นอาสาจราจรหน้าโรงเรียนได้นั้น คุณครูที่โรงเรียนอุดมสิทธิศึกษา ก็ได้ฝึกอบรมเครียวในการทำหน้าที่เป็นจราจรอยู่ไม่นาน เขาก็สามารถโบกรถได้อย่างคล่องแคล่วทุกเช้าตั้งแต่จันทร์ถึงศุกร์ ทำหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ นอกจากนี้ คุณครูยังแต่งตั้งให้เป็นสายตรวจนักเรียน คอยสอดส่องสิ่งผิดปกติในโรงเรียน เช่น ตรวจหายาเสพติด และนักเรียนหนีเรียนอีกด้วย
“ทุกเช้าผมจะตื่นประมาณ 6 โมงครึ่ง อาบน้ำแต่งตัว 20 นาที เดินไปโรงเรียนเพื่อประจำการหน้าโรงเรียนทำหน้าที่จราจร ในเวลา 07.20 น. เสร็จประมาณ 08.00 น. ซึ่งก็ได้เวลาเคารพธงชาติพอดี
จากนั้นก็คอยหานักเรียนที่โดดเรียน ไม่ยอมเข้ามาเคารพธงชาติบ้าง หนีเรียนบ้าง”
ส่วนวิชาที่ชอบเรียนมากที่สุดนั้น เขาตอบชัดเลยว่า วิชาคอมพิวเตอร์ รองลงมาคือ ภาษาไทย ส่วนระดับผลการเรียนนั้น จัดว่า ปานกลางค่อนข้างดี
“เพราะวิชาคอมพิวเตอร์ จะมีข้อมูลที่เยอะ เรียนง่าย เพราะมีพื้นฐานอยู่แล้วตอนประถม ก็อยู่ชมรมคอมพิวเตอร์ โปรแกรมที่ชอบมากที่สุดก็คือ Excel จะมีสูตรคำนวณ ซึ่งผมจะชอบ
ส่วนเกม จะชอบเล่นเกมมายคราฟ(Minecraft) ซึ่งเป็นเกมสร้างสรรค์ ฝึกจินตนาการในโลกสี่เหลี่ยม ประเภทเกมไล่ฆ่า ปล้นธนาคาร ฆ่าคน จะไม่เล่นเลย ไม่ชอบ
เพื่อนบางคนก็สูบบุหรี่ ดูดกัญชา ดูดฝิ่น ส่วนตัวผมไม่เคยแม้แต่ดูดบุหรี่ ถ้าเพื่อนคนไหนชัดชวนให้ลองก็จะเดินหนี ไม่คบเลย
พ่อกับแม่จะสอนเสมอว่า อย่าไปหาเรื่องคนอื่น สอนให้เป็นคนดี และตั้งใจเรียน เลี้ยงให้พึ่งตัวเองได้”
น้ำหวาน พี่สาวเครียว เล่าให้ฟังว่า เครียวจะเป็นเด็กที่เงียบมาตั้งแต่เด็ก มีเรื่องอะไรก็เก็บไว้คนเดียว ไม่ยอมบอกใคร
“น้องไม่เคยมีเรื่องกับใคร ไม่ชอบเด็กที่เกเร จะไม่ชอบเพื่อนผู้ชายที่ชอบรังแกคนอื่น พวกตั้งแก๊ง ไปเตะ ต่อย คนอื่น จะชอบเล่นกับเพื่อนผู้หญิง และเพื่อนผู้ชายบางคนที่เรียบร้อย น้องไม่ชอบมีเรื่อง
เวลาเครียวอยู่บ้าน เขาจะทำงานบ้านก่อนให้เสร็จ จากนั้นจะเล่นคอมพิวเตอร์เพียง 1 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น ส่วนใหญ่ก็จะเล่นเฟซบุ๊ก อ่านข่าวสารบ้านเมืองเพื่อนำมาแชร์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของตัวเอง”พี่สาว เล่าเสริม
สำหรับอนาคตในการเรียนนั้น เครียวบอกว่าจะตั้งเป้าพุ่งตรงไปที่สายวิชาชีพด้านคอมพิวเตอร์ เป็นสิ่งที่เขาชอบและถนัด
ครอบครัวสู้! เงินเดือน 4 พันทำตั้งแต่เช้ายันห้าทุ่ม เลี้ยง 6 ชีวิต!
เครียวเกิดที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จากนั้นประมาณ 4 ขวบ ครอบครัวได้ไปย้ายใช้ชีวิตอยู่ที่หัวหินเป็นเวลา 10 ปี
และครอบครัวได้ย้ายกลับมาที่สังขละบุรีบ้านเกิดอีกครั้ง เขามีพี่น้องทั้งหมด 4 คน พี่สาวคนโต เอชึ หรือน้ำหวาน ส่วนเครียวเป็นคนที่สอง น้องชาย อภิชาติ ส่วนน้องสาวเพิ่งคลอดได้ไม่นาน อายุ 6 เดือน ชื่อจิตสุภาพ ส่วนพ่อแม่ เป็นคนกะเหรี่ยงที่มาอยู่เมืองไทยนานแล้ว
ทีมงาน M-Lite ต้องเดินลงเนินดินขรุขระที่ทอดยาวลงไปค่อนข้างลำบาก สภาพบ้านของเครียว เป็นบ้านก่อด้วยอิฐบล็อกชั้นเดียว
ด้วยความครอบครัวของเครียวเป็นกะเหรี่ยง พ่อแม่มีอาชีพรับจ้างทั่วไป หนำซ้ำช่วงนี้พ่อ และพี่สาว ต้องหารายได้เข้าบ้านจุนเจือครอบครัวเพียง 2 คน เพราะแม่ไม่สามารถออกไปทำงานได้ เพราะต้องเลี้ยงดูลูกคนที่ 4 ที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่นาน
ด้วยค่าแรงของพ่อที่รับจ้างทั่วไป ได้วันละ 300 บาท ส่วนพี่สาวได้ค่าแรงเดือนละ 4,000 กว่าบาท ทำงาน 9 โมงยัน 5 ทุ่ม เพราะเป็นคนต่างด้าว ทั้งที่เกิดในเมืองไทย ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เครียวไม่อยากจะเรียนต่อ เพราะสงสารพ่อแม่ และพี่สาว ต้องออกจากโรงเรียน เพราะเงินไม่พอในการใช้จ่ายในครอบครัว จึงต้องออกจากโรงเรียนเพื่อมาทำงานเลี้ยงน้อง
ฝ่ายเครียว ก็อยากจะออกจากโรงเรียนมาช่วยทำงานเช่นกัน เพราะสงสารพ่อแม่ แต่ครอบครัวไม่อนุญาต ไม่ให้ออกเด็ดขาด เพราะอยากให้เครียวได้เรียนสูงๆ มีอาชีพการงานที่ดี เป็นความฝันของครอบครัว
“เวลาวันหยุด ไม่ได้ไปเรียน เช่น เสาร์ อาทิตย์ ผมก็จะไปช่วยพ่อทำงานก่อสร้าง ได้ค่าแรงวันละ 250 บาท เงินที่ได้ทั้งหมดก็จะยกให้แม่”
เพรียกหา..สัญชาติไทย เพื่ออนาคตในการทำงาน
เป็นที่ทราบกันดีว่า อ.สังขละบุรี เป็นอำเภอที่ติดต่อกับชายแดนพม่า และมีวัฒนธรรมของ 3 เชื้อชาติ ไทย มอญ กระเหรี่ยง โรงเรียนที่เครียวเรียนส่วนใหญ่จะเป็นเด็กต่างด้าว มีเด็กไทยแค่ประมาณ 20% เท่านั้น จึงไม่มีปัญหาเรื่องเชื้อชาติเช่นพี่สาว
“ห้องผมมีเด็กไทยแค่ 5 คน”
ส่วนน้ำหวาน พี่สาวเครียว นั้นเจอศึกหนัก เพราะไม่ได้เรียนที่สังขละบุรี จึงรู้สึกกดดัน จากเพื่อนคนไทยในห้องเรียนที่มักจะดูถูก และล้อเลียนในความเป็นกะเหรี่ยงอยู่ตลอดเวลา
“พูดไทยได้ไหมเนี้ย?” พร้อมใช้สายตาดูถูก หนักไปกว่านั้น คือไม่มีใครอยากให้เข้ากลุ่มด้วย
เธอเครียดจนเข้าโรงพยาบาล
แม้จะเกิดในเมืองไทยแต่ปัจจุบันนี้ยังไม่ได้รับสัญชาติไทยแต่อย่างใด ประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือ เครียวยังมีสัญชาติกะเหรี่ยง ยังไม่ได้ผ่านการพิจารณาให้ได้รับสัญชาติไทย พี่สาวเล่าว่า เวลาจะออกไปไหนมาไหน หรือไปทำงานนอกพื้นที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จะต้องทำเรื่องขออนุญาตกับเจ้าหน้าที่ก่อน อย่างน้อยล่วงหน้า 1 วัน รวมถึงค่าแรงก็ยังได้น้อยมาก หากได้รับสัญชาติไทย จะส่งผลดีในการทำงานของน้องชายต่อไปในอนาคต
พาชมพิกัด! สถานที่เปลี่ยนชีวิต
ส่วนข่าวที่ว่อนในโลกโซเชียลที่บอกว่า เครียวเป็นไกด์นำเที่ยวนั้น เขาย้ำชัดว่า
“ไม่ได้เป็นครับ”
ทว่า แม้จะไม่ได้เป็นไกด์ แต่เขาก็รู้จักแหล่งท่องเที่ยวไฮไลต์ใน อ.สังขละบุรี สามารถพาทีม M-Lite เที่ยวได้เช่นกัน
“ที่เที่ยวในสังขละบุรีมีตั้งแต่ สะพานมอญ นั่งเรือชมวัดจมน้ำ ไหว้หลวงพ่ออุตตมะที่วัดวังก์วิเวการาม จะมีคนมากราบไหว้กันมาก และเจดีย์พุทธคยา ด่านเจดีย์สามองค์ เที่ยวถนนคนเดิน” เครียว แนะนำสถานที่เที่ยว
ปิดท้ายโดยเครียวอาสาพาเราไปเดินสะพานมอญ สะพานไม้สุดคลาสสิกที่มีความยาว 850 เมตร ยาวที่สุดในประเทศไทย ชมวิถีชีวิตและมนต์เสน่ห์ชาวมอญ และไฮไลต์เด็ด! นั่งเรือไปวัดจมน้ำ หรือ วัดวังก์วิเวการาม(เดิม)โดยเครียวได้ชี้เป้ามุมที่ถ่ายแบบจนโด่งดังเปรี้ยงไปทั่วโลก!
ประวัติ
ชื่อจริง เครียว (ไม่มีนามสกุล)
ชื่อเล่น เคน
วันเกิด 17 มิถุนายน 2544
ส่วนสูง 168 เซนติเมตร
น้ำหนัก 48 กิโลกรัม
กำลังศึกษา โรงเรียนอุดมสิทธิศึกษา ชั้นมัธยม 1/3
สัมภาษณ์โดยผู้จัดการ Lite
เรื่อง : สวิชญา ชมพูพัชร
ภาพ : ดิษพงษ์ สัมปัตตะวนิช
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754